ขอระบายนิดหนึ่งคะ เมื่อประมาณเดือนกันยายนของปีที่แล้ว 2557 ดิฉันได้พาคุณแม่ป่วยเป็นมะเร็งที่ไตไปผ่าตัดไตที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งก่อนหน้าจะเกิดการผ่าตัด ผลเอกซเรย์จากรพ.ออกมา คุณหมอระบุว่า แม่ของดิฉันมีเนื้องอกที่มีโอกาสเป็นเนื้อร้ายเกินกว่า 80% ติดอยู่ที่ไตข้างซ้าย ส่วนไตข้างขวาหมอวิเคราะห์ว่าเป็นนิ่ว 1 ก้อนซึ่งการรักษาหมอเล็งเห็นว่า ควรผ่าตัดเอาไตที่มีเนื้อร้ายออกก่อน ส่วนข้างขวาที่เป็นนิ่ว 1 ก้อนสามารถรักษาให้หายง่ายกว่าข้างซ้ายที่เป็นเนื้อร้าย ดังนั้นครอบครัวเราจึงตัดสินใจให้คุณหมอผ่าตัดไตคุณแม่ข้างซ้ายทิ้งไปเลย 1 ข้างเพื่อป้องกันไม่ให้มะเร็งลุกลามไปในอวัยวะส่วนอื่นเพราะคุณแม่เป็นในระยะที่1-2 เหตุเกิดที่ห้องไอซียูหลังผ่าตัดเสร็จแล้ว ขอบอกก่อนว่า คุณแม่เพิ่งเล่าเหตุการณ์นี้ให้ฟังเพราะที่ผ่านมาหลายเดือน แกไม่กล้าเล่าเพราะแกยังต้องพักรักษาตัวที่รพ.อยู่จึงไม่อยากให้เกิดปัญหา กลัวคนเลวเหล่านี้กลั่นแกล้ง ย้อนกลับมาในวันที่ท่านนอนอยู่ห้องไอซียู หลังออกจากห้องผ่าตัดมาได้ 2-3 ชั่วโมง แม่เริ่มรู้สึกตัวจากยาสลบ จึงได้ยินการสนทนาของเจ้าหน้าที่ไอซียูของรพ.นี้ ชัดเจนเริ่มตั้งแต่
1.คนจากห้องผ่าตัดที่แม่ได้เข้าผ่าตัดมาคุยกับเจ้าหน้าที่ที่ห้องไอซียูว่า หมอผ่าตัดไตให้แม่ผิดข้าง ซึ่งภายหลังเราได้ตรวจสอบและคุยกับคุณหมอแล้วว่า หมอผ่าตัดไตข้างซ้ายถูกต้องแล้ว สิ่งที่เจ้าหน้าที่เหล่านี้สนทนากันนั้นเกิดจากการที่ไม่รู้ข้อมูลที่ชัดเจน จึงพูดออกมาโดยไม่คิดว่า ผู้ป่วยจะแอบได้ยิน โชคดีที่คุณแม่เป็นคนเข้มแข็งและเชื่อมั่น ท่านจึงคิดว่าเป็นไปไม่ได้และแผลผ่าตัดที่เกิดขึ้นก็เป็นข้างซ้ายจริงตามที่คุยกับหมอจริง ถ้าเป็นผู้ป่วยคนอื่นที่มีจิตใจไม่เข้มแข็งคงเสียใจและบางรายอาจช๊อคได้ จากการพูดโดยไม่คิดของเจ้าหน้าที่เหล่านี้
2.ในวันที่คุณแม่จะออกจากห้องไอซียูไปพักฟื้นที่ห้องพักผู้ป่วยของรพ. ทางครอบครัวได้จองห้องดีลักษ์เตียงเดี่ยวคืนละ 3,000 กว่าบาทเพื่อให้คุณแม่ได้พักฟื้น อันที่จริงครอบครัวของเราประสงค์จะจองเตียงคู่เนื่องจากครอบครัวเราไม่ใช่ครอบครัวที่ร่ำรวย กำลังเงินของเราสามารถจองห้องคู่ให้แม่ได้ไม่ใช่ห้องเดี่ยวเพราะไม่รู้ว่าแม่ต้องพักรักษาตัวกี่วัน อาจถึง 2 อาทิตย์ เรากลัวกำลังเงินของเราไม่พอ แต่ ณ วันที่เราจอง เจ้าหน้าที่คนที่รับจองห้องของรพ.ได้บอกให้เราจองเตียงเดี่ยวไปก่อน ส่วนวันที่ต้องย้ายผู้ป่วยจากห้องไอซียูค่อยมาเปลี่ยนเป็นห้องเตียงคู่จะจองไว้เลยไม่ได้เพราะห้องเตียงคู่คนจะเต็มบ่อย จึงให้เราไว้ค่อยมาเปลี่ยนเป็นห้องเตียงคู่โดยให้เราโทรแจ้งห้องไอซียูได้เลยในวันที่ย้ายว่า ประสงค์ห้องเตียงคู่ ในวันที่ย้ายคุณแม่จากห้องไอซียูเราก็แจ้งเจ้าหน้าที่ห้องไอซียูตามที่พนักงานที่รับจองแจ้งเรา แต่ทางพนักงานห้องไอซียูตอบเรากลับมาว่า ห้องคู่มันเต็มไปอยู่ไม่ได้ ต้องอยู่ห้องเดี่ยว ครอบครัวเราจึงตัดสินใจกัดฟันให้พาแม่ไปอยู่ห้องเดี่ยวเพราะเราอยากให้แม่ได้นอนสบายดีกว่านอนห้องรวม อันที่จริงเรื่องราวน่าจะจบแค่นั่น แต่ไม่ใช่!!!พนักงานห้องไอซียูได้แอบนินทาถึงเราและแม่เรา ซึ่งแม่เราได้ยินทุกคำ เพื่อนพิจารณาดูว่า มันสมควรหรือไม่ที่เจ้าหน้าที่เหล่านี้จะพูดออกมา เนื้อหามีดังนี้
"ดูมันทำกับแม่มันสิ จะให้แม่มันไปอยู่ห้องรวม แทนที่จะอยู่ห้องเดี่ยว"
"แม่มันได้ยินที่พวกเราพูดกันหรือเปล่า ให้ฉีดยาสลบไปเลย"
"ดูมันลากแม่มันมาจากเชียงรายเพื่อมารักษาตัวแต่ให้แม่มันอยู่ห้องเตียงคู่" (เราเป็นคนเชียงรายแต่เนื่องจากดิฉันทำงานอยู่กรุงเทพจึงอยากให้แม่มารักษาใกล้ๆจะได้มีคนดูแล)
"หมอผ่าตัดไตผิดข้าง มันจะรู้ไหม"
"มันสะพายกระเป๋าแบรนด์เนมปลอมมาหาแม่มัน"
ดิฉันขอยืนยันว่า คุณแม่ได้ยินแบบนี้ทุกคำที่พนักงานเหล่านี้พูด
เพื่อนๆคิดว่า คำพูดเหล่านี้ควรจะออกมาจากปากพนักงานห้องไอซียูที่พูดถึงคนไข้แบบนี้หรือไม่ จิตใจต่ำทรามมาก ขอบคุณที่อ่านนะคะเพราะอยากระบายจริงๆ
เจ้าหน้าที่ห้องไอซียูโรงพยาบาลตำรวจมารยาททรามแอบนินทาผู้ป่วยในห้องไอซียู
1.คนจากห้องผ่าตัดที่แม่ได้เข้าผ่าตัดมาคุยกับเจ้าหน้าที่ที่ห้องไอซียูว่า หมอผ่าตัดไตให้แม่ผิดข้าง ซึ่งภายหลังเราได้ตรวจสอบและคุยกับคุณหมอแล้วว่า หมอผ่าตัดไตข้างซ้ายถูกต้องแล้ว สิ่งที่เจ้าหน้าที่เหล่านี้สนทนากันนั้นเกิดจากการที่ไม่รู้ข้อมูลที่ชัดเจน จึงพูดออกมาโดยไม่คิดว่า ผู้ป่วยจะแอบได้ยิน โชคดีที่คุณแม่เป็นคนเข้มแข็งและเชื่อมั่น ท่านจึงคิดว่าเป็นไปไม่ได้และแผลผ่าตัดที่เกิดขึ้นก็เป็นข้างซ้ายจริงตามที่คุยกับหมอจริง ถ้าเป็นผู้ป่วยคนอื่นที่มีจิตใจไม่เข้มแข็งคงเสียใจและบางรายอาจช๊อคได้ จากการพูดโดยไม่คิดของเจ้าหน้าที่เหล่านี้
2.ในวันที่คุณแม่จะออกจากห้องไอซียูไปพักฟื้นที่ห้องพักผู้ป่วยของรพ. ทางครอบครัวได้จองห้องดีลักษ์เตียงเดี่ยวคืนละ 3,000 กว่าบาทเพื่อให้คุณแม่ได้พักฟื้น อันที่จริงครอบครัวของเราประสงค์จะจองเตียงคู่เนื่องจากครอบครัวเราไม่ใช่ครอบครัวที่ร่ำรวย กำลังเงินของเราสามารถจองห้องคู่ให้แม่ได้ไม่ใช่ห้องเดี่ยวเพราะไม่รู้ว่าแม่ต้องพักรักษาตัวกี่วัน อาจถึง 2 อาทิตย์ เรากลัวกำลังเงินของเราไม่พอ แต่ ณ วันที่เราจอง เจ้าหน้าที่คนที่รับจองห้องของรพ.ได้บอกให้เราจองเตียงเดี่ยวไปก่อน ส่วนวันที่ต้องย้ายผู้ป่วยจากห้องไอซียูค่อยมาเปลี่ยนเป็นห้องเตียงคู่จะจองไว้เลยไม่ได้เพราะห้องเตียงคู่คนจะเต็มบ่อย จึงให้เราไว้ค่อยมาเปลี่ยนเป็นห้องเตียงคู่โดยให้เราโทรแจ้งห้องไอซียูได้เลยในวันที่ย้ายว่า ประสงค์ห้องเตียงคู่ ในวันที่ย้ายคุณแม่จากห้องไอซียูเราก็แจ้งเจ้าหน้าที่ห้องไอซียูตามที่พนักงานที่รับจองแจ้งเรา แต่ทางพนักงานห้องไอซียูตอบเรากลับมาว่า ห้องคู่มันเต็มไปอยู่ไม่ได้ ต้องอยู่ห้องเดี่ยว ครอบครัวเราจึงตัดสินใจกัดฟันให้พาแม่ไปอยู่ห้องเดี่ยวเพราะเราอยากให้แม่ได้นอนสบายดีกว่านอนห้องรวม อันที่จริงเรื่องราวน่าจะจบแค่นั่น แต่ไม่ใช่!!!พนักงานห้องไอซียูได้แอบนินทาถึงเราและแม่เรา ซึ่งแม่เราได้ยินทุกคำ เพื่อนพิจารณาดูว่า มันสมควรหรือไม่ที่เจ้าหน้าที่เหล่านี้จะพูดออกมา เนื้อหามีดังนี้
"ดูมันทำกับแม่มันสิ จะให้แม่มันไปอยู่ห้องรวม แทนที่จะอยู่ห้องเดี่ยว"
"แม่มันได้ยินที่พวกเราพูดกันหรือเปล่า ให้ฉีดยาสลบไปเลย"
"ดูมันลากแม่มันมาจากเชียงรายเพื่อมารักษาตัวแต่ให้แม่มันอยู่ห้องเตียงคู่" (เราเป็นคนเชียงรายแต่เนื่องจากดิฉันทำงานอยู่กรุงเทพจึงอยากให้แม่มารักษาใกล้ๆจะได้มีคนดูแล)
"หมอผ่าตัดไตผิดข้าง มันจะรู้ไหม"
"มันสะพายกระเป๋าแบรนด์เนมปลอมมาหาแม่มัน"
ดิฉันขอยืนยันว่า คุณแม่ได้ยินแบบนี้ทุกคำที่พนักงานเหล่านี้พูด
เพื่อนๆคิดว่า คำพูดเหล่านี้ควรจะออกมาจากปากพนักงานห้องไอซียูที่พูดถึงคนไข้แบบนี้หรือไม่ จิตใจต่ำทรามมาก ขอบคุณที่อ่านนะคะเพราะอยากระบายจริงๆ