จะตัดใจจากการชอบผู้ชายด้วยกันยังไง

เกริ่นก่อนว่าผมเป็นไบ อันที่จริงก็รู้ตัวเองมาตั้งนานแล้วแหละครับ คือชอบทั้งผู้หญิงและผู้ชาย  แต่เพื่อตัดปัญหาทางบ้านที่เป็นพวกเคร่ง ญาติผู้ใหญ่ อาเจ็ก อาโกเวลาเจอหน้า ต้องถามเว่าเมื่อไหร่จะแต่งานตลอดๆ เราก็ได้แต่ยิ้มพยักหน้า แต่พอลับหลังก็มาพูดกับแม่เราว่า ลูกลื้อมันชอบผู้หญิงหรือผู้ชายวะ ทำไมไม่มีเมียสักที อันนี้พี่สาวเล่าให้ฟัง แม่ก็ออกหน้าให้ตลอดว่าทำงานยุ่ง อะไรพวกนี้ ผมจึงตัดปัญหาเลิกคิดว่าตัวเองเป็นไบ และคิดหรือสะกดจิตตัวเองมาตลอดว่า ตัวเองเป็นผู้ชาย สักวันต้องแต่งงานกับผู้หญิง ต้องมีลูกให้แม่อุ้ม ต้องมีครอบครัว  ในที่สุดไอ้ความคิดแบบนี้ก็ลากผมไปพัวพันกับหญิงที่ดูดูใจกันอยู่แล้วแต่ตกลงกันว่าจะเว้นระยะห่างเอาไว้ ยังไม่เป็นแฟนซึ่งเราก็รักษาความสัมพันธ์แบบนี้มาโดยตลอดนานมากๆ 3 - 4 ปี  ในขะเดียวกันเมื่อสามปีก่อน ผมได้สมัครเป็นสมาชิกฟิตเนสแห่งหนึ่ง ในตอนแรกนั้นผมก็ไปเล่นตามปกติไม่ได้คิดอะไร ไปเพื่อไปออกกำลังกาย  แต่อยู่ๆพอมาวันหนึ่งผมก็เจอกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งตอนแรกไม่ได้สนใจอะไรเลย แต่พอจะดูออกว่าเขาเป็นเกย์ แต่เขาก็แมนมากๆ ดูสะอาด ดูเนี๊ยบ หน้าตาดีมี เราแอบบเห็นว่ามีเกย์คนอื่นๆมาจีบเขาบ่อยๆ อย่างในห้องล๊อคเกอร์ มีเกย์สาวบ้างไม่สาวบ้าง มาขอเบอร์บ้างหละ มาถามว่าตัวใหญ่ขึ้นกินเวย์ยี่ห้ออะไรมั่งหละ มีแต่คนอยากรู่จักเขา  แม้กระทั่งเทรนเนอร์ที่มีลูกมีเมียแล้วยังมาแซวบ่อยๆ ซึ่งเรารู้สึกรำคาญมากๆ   หรือไม่ก็หงุดหงิดเวลาที่เขามาเล่นเครื่องเล่นใกล้ๆ หรือมาแย่งเล่นในบางครั้ง  ด้วยความที่ผมเป็นคนที่ติดการออกกำลัง อยากตัวใหญ่อยากล่ำๆ จึงไปฟิตเนสทุกวันหรือถี่มากๆ และโหมเล่นอย่างหนัก ในแต่ละสัปดาห์และผู้ชายคนนั้นก็ไปถี่เหมือนกัน เป็นแบบนี้ผ่านไปหนึงปี เราเริ่มสังเกตุว่าคนนี้ มักจะมาเวลาเดียวกับเรา และมองเรา ผมก็มองคืนแต่ตอนนั้นมองคืนแบบไม่ได้คิดอะไร มองแค่ว่าคุณมองอะไร เป็นแบบนี้มาตลอด แต่เขาไม่เคยแสดงออกแบบตุ๊ดแบบสาวเลย เขาแมนมาก เป็นแบบนี้มาตลอดผ่านไปอีก 1 ปี จนเมื่อกลางปีที่แล้วผมรู้สึกตัวเองว่าอยากไปฟิตเนส ไม่ได้เพื่อไปโฟกัสการออกกำลังกายอีกต่อไป อยากไปเพราะอยากจะเจอใคร ตอนนั้นก็ตอบความรู้สึกตัวเองไม่ได้ แต่พยายามข่มใจว่าอย่าไร้สาระ ไปฟิตเนสต้องไปออกกำลังกาย อย่าคิดอะไรบ้าๆบอๆ แต่พอไปถึงที่ฟิตเนส กลับผิดกับที่คิด สิ่งแรกที่ผมจะทำเลยคือ มองหาคนคนั้น!!  มองหาว่าวันนี้เค้ามาไหม ความรู้สึกไม่รู้เกิดขึ้นตอนไหน วันไหนไม่เห็นเขาก็จะรู้สึกขาดๆอะไรไปบางอย่าง แต่ความรู้สึกในช่วงแรกนั้น ผมยังไม่ถลำลึกมาก ไม่ว่าจะเจอเขาหรือไม่เจอเขา ผมยังสามารถโฟกัสที่การออกกำลังกายได้อยู่

พอเวลาก็ผ่านไปหลายเดือน ความรู้สึกที่ว่าไปฟิตเนสเพื่อที่จะได้เจอใคร กลายเป็นว่า ไปแล้วจะ"ต้องเจอ" เกิดการคาดหวังขึ้น คาดหวังว่าจะได้เจอหน้าเขา ต้องเจอหน้าเขาก่อนค่อยออกกำลังกายได้ ดูเหมือนว่าเหตุผลการไปเจอใครที่ฟิตเนสมันจะแซงไปเพื่อออกกำลังมาแล้วนิดหนึ่ง ตอนนี้เองผมเริ่มมาคิดทบทวนตัวเองว่าทำไมปล่อยให้ตัวเองมีความคิดเลยเถอดมาถึงขั้นนี้ได้? เราก็มีคนที่คบกันมาแบบดูใจกันอยู่แล้วหนิ เราชอบผู้หญิงหนิ ทำไมเราถึงต้องมีความรู้สึกแบบนี้กับผู้ชาย? หรือเรากำลังหลอกตัวเองอยู่?  ความรู้สึกแบบนี้ตอนที่เกิดขึ้นแรกนั้น ผมทบทวนอยู่หลายครั้งและเมื่อทบทวนผมก็หาคำตอบ(ชั่วคราว)ได้ และสามารถหันสมาธิกลับมาออกกำลังหายได่ปกติ

พอมาถึงปลายปีที่แล้ว
ต้องย้อนให้ฟังก่อนว่าเจอกันมาสองปีจะสามปีเราไม่เคยคุยกันเลยแม้แต่คำเดียว ไม่เคยจริงๆ นอกจากจะมีจังหวะเปิดลิฟต์ในฟิตเนสที่เขากดค้างให้เราออกก่อน ผมก็จะขอบคุณเขา เท่านั้นเอง   เมื่อปลายปี2014 ผมรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไป เขาพยายามมาเล่นใกล้ๆผมและมองผมหนักขึ้น มองหน้าผมเหมือนว่ามีอะไรจะพูดอะไร ผมก็ตื่นเต้น อยากให้เขาพูด แต่เขาก็ไม่พูด แล้วก็ไปนั่งเล่นมือถือตรงที่พัก สีหน้าท่าทางดูซึมๆ ผมอยากเข้าไปถามมากเป็นอะไร มีอะไรหรือเปล่า แต่ก็ไม่รู้จักกันหนิ รู้แค่ชื่อเล่น
จะไป ถาม ไปสู่รู้เขาในฐานะอะไร แล้วจะไปทำไม เมื่อคิดได้ก็ดึงสติกลับมาแล้วก้พยายามเล่นเทรนร่างกายส่วนต่างๆให้มันจบๆไป (แบบไม่มีสมาธิเท่าไหร่)

หลังจากนั้นไม่กี่วันต่อมา
เขาก็มาที่ฟิตเนสพร้อมกับใครไม่รู้เป็นผู้ชาย แต่ออกสาวนิดหนึ่งๆ ทันทีที่ผมมองเห็นที่เขามากับคนอื่น ผมบอกไม่ถูกหนะว่ามันรู้ยังไง ใจหนึ่งก็บอกว่าเรื่องของเขาสิ อีกใจก็ใส่ใจ่ อยากรู้ว่าใคร มาด้วยกันได้ไง  แอบไม่ชอบใจลึกๆ อีกใจก็ปลงคิดเราแค่แอบชอบเขา?  แอบชอบหนิ แอบชอบไม่มีสิทธิ์ไปคิดอะไร หึงได้ไง?  อีกใจก็คิดว่าเพื่อนแหละมั้ง เขาคงเป็นเพื่อนกัน บางทีก็คิดว่า เห้ยนี่คิดเพ้อเจ้ออะไรเราเป็นผู้ชายหนิ นั่นก็ผู้ชายนะ คนที่มากับเขาก็ผู้ชายนะ เห้ยนี่เราหึงผู้ชายได้ไง ไม่ได้ เรามีคนที่ดูๆใจกันแล้วเป็นผู้หญิง เราต้องทำตามธรรมเนียม
ยอมรับว่าวันนั้นไม่มีสมาธิเล่นอะไร คิดวนไปวนมาอยู่แบบนั้นแล้วก็กลับบ้านไปโดยที่ไม่ได้ออกกำลังอะไรจริงๆจังๆสักอย่าง

ด้วยความที่มันไม่สามารถตัดใจได้จริงๆ ผมจึงต้องยอมปล่อยให้ความคิดบางอย่างเป็นไปตามความรู้สึก ผมเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของเขาสองคนนั้นมานาน บางวันเขามาด้วยกัน บางวันเขาก็เล่นคนเดียว วันไหนที่คนนั้นเขามาเล่นคนเดียวเขาก็มองๆ สังเกตเราแบบทุกครั้ง วันไหนที่เขามาด้วยกัน เขาไม่มองผมเลย !!

ไม่รู้ว่าผมเลยเถอดมาถึงขั้นไหน ผมคิดของผมไปคนเดียวว่า เอาหละถึงเวลาต้องทำอะไรสักอย่าง (เพื่อให้เขากลับมาสนใจผมอีกครั้ง เกิดอาการเหมือนอยากได้ของคืน) ผมลงทุนเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น จากที่ไม่เคยเซ็ทผม ผมก็เซท จากที่ไม่เคยทาครีมอะไรดีดี ผมก็ลงทุนซื้อ ลงทุนไปหามอให้หน้าใส ลงทุนซื้อเสื้อผ้าใหม่ แต่งตัวให้ดูเนี๊ยบเหมือนเขา เพื่อที่เขาจะได้หันมาสนใจเรา มาถึงขั้นนี้แล้ว ผมแน่ใจเลย ว่าผมชอบเขาแล้ว แล้วก็เป็นการแอบชอบแบบเงียบๆ แต่แฝงไว้ด้วยความรุนแรงมาก จากการที่เราเปลี่ยนตัวเองเหมือนเขาก็จะสังเกตเราเหมือนกัน มองเราแบบสงสัย ผมก็ได้แต่คิดในใจนี่แหละ ที่เราเปลี่ยนแปลงเพราะอยากให้นายมาสนใจเราจริงๆ

เหตุการณ์มันก็เป็นแบบนี้มาตลอดแบบเงียบๆทั้งคู่ เหมือนว่าเป็นคนที่เราคุ้นเคยในชีวิตมากๆ อยากทำอะไรให้เขาพอใจ อยากเจอเขาทุกวัน ทั้งๆที่เราไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ  
อารมมณ์ เหมือนว่าเราเรียนชั้นเดียวกัน เจอกันทุกวัน แต่ไม่เคยได้พูดกัน มันอึดอัด มันทรมานหนะ

และตอนนี้ผมบอกเลยว่าผมไปที่นั้นเพราะอยากเจอเขา เหมือนกับว่าชอบเขาเข้าเต็มๆ หากไม่เจอเหมือนอะไรขาดไปเลยทีเดียว แต่ก็เหมือนฟ้าแกล้ง ในวันนี้วันที่ผมชอบเขาแล้ว เขากลับหายไปไหนก็ไม่รู้จะสองอาทิตย์แล้ว ไม่เจอเขามาที่ฟิตเนสเลย ผมไม่มีสมาธิเล่นเลย รู้สึกอยากรู่มากว่าเขาไปไหน เกิดอะไรขึ้นกับเขา เพื่อนเขาคนนั้นก็ไม่มา หายไปทั้งคู่ อยากถามพนักงานที่ฟิตเนสก็คงไม่มีใครรู้ อยากรู้ว่าหมดเมมเบอร์กับที่นี่หรือยัง แล้วไปเล่นที่ไหน (อยากจะตามไป) อยากถามก็ไม่รู้ถามยังไง เขาจะมองเรายังไง หรือเกิดอะไรขึ้นกับเขา

ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องไร้สาระนะครับ แต่สำหรับผมไม่ไร้สาระเลย เป็นส่วนที่ทำให้ชีวิตดำดิ่งทุกข์ทรมานมาก

จะตัดใจยังไงดีครับ ทุกวันนี้ทุกครั้งที่นึกถึงเขามันอยากจะร้องไห้มากๆเลย ได้แต่เอาธรรมะข่มไว้ว่า เขาคือเจ้ากรรมนายเวร กิเลสคือเหตุแห่งทุกข์ ซึ่งมันก็สงบลงได้ชั่วคราว พอสักพักมันกลับเข้ามาในหัวใหม่  เป็นแบบนี้ทุกวันและเกือบทั้งวัน  



ส่วนว่าถามเรื่องรสนิยมผมผมก็ยังชอบผู้หญิงเหมือนเดิม ออกแนวม่อด้วยซ้ำ อารมณ์ความรู้สึกต่อเพศตรงข้ามก็เหมือนผู้ชายทั่วไป ผิดกันตรงที่อารมณ์แบบนั้นมันก็มีกับเพศเดียวกันด้วย
สับสนครับ...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่