องค์กรพุทธสาธุ-ยุบ กก.ไพบูลย์ ยุติเคลื่อนไหว ชวนชาวพุทธทั่ว ปท. แจ้งความ′พุทธะ′

กระทู้ข่าว



องค์กรพุทธสาธุ-ยุบกก.ไพบูลย์ ยุติเคลื่อนไหว ชวนชาวพุทธทั่ว ปท.แจ้งความ′พุทธะ′

วันที่ 08 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 10:23:18 น.

องค์กรพุทธสาธุ-ยุบกก.ไพบูลย์ ยุติเคลื่อนไหว "เครือข่ายพุทธ"เรียกร้อง ยุบกก.ไพบูลย์ ยุติ12มี.ค. 40บ.รอแจงรับเช็คศุภชัย

http://www.matichon.co.th/online/2015/03/14257850281425785036l.jpg

พลังสงฆ์ - พระภิกษุกว่า 1,000 รูป ร่วมพลังถือป้ายแสดงเจตนารมณ์พิทักษ์ปกป้องพระพุทธศาสนา พร้อมเคลื่อนไหวหากโดนคุกคาม ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) วิทยาเขตขอนแก่น จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 7 มีนาคม

เครือข่ายสงฆ์เลื่อนชุมนุมใหญ่ 12 มี.ค. พอใจ′ไพบูลย์′ยุบคณะกรรมการปฏิรูปศาสนา ขู่เคลื่อนไหวอีกรอบหากพบกระทบสงฆ์ ชวนชาวพุทธทั่ว ปท.แจ้งความ′พุทธะ′

จากกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้ประกาศปิดจ๊อบยุบคณะกรรมการปฏิรูปฯ หลังบรรลุเป้าหมายและได้ส่งผลการศึกษาให้นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.ไปแล้ว ในขณะที่คดีการยักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ที่พบมีการบริจาคเงินให้กับวัดพระธรรมกาย ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ออกหมายเรียกพระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย มาให้ปากคำในวันที่ 10 มีนาคมนั้น

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม นายเมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ เลขาธิการสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 มีนาคม เวลา 12.00 น. ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ กรุงเทพฯ สนพ.จะแถลงข่าวเพื่อชี้แจงใน 3 ประเด็นหลัก คือ 1.แนวทางการทำงานของ สนพ.และเครือข่ายองค์กรชาวพุทธ ที่ยังมีการดำเนินการต่อ แต่ในวันที่ 12 มีนาคม คณะสงฆ์และองค์กรเครือข่ายชาวพุทธจะยังไม่มีการเคลื่อนไหวหรือออกมาสวดมนต์ใดๆ หลังจากนี้จะเฝ้าจับตาดูการทำงานของอดีตคณะกรรมการปฏิรูปฯอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีการกระทำที่กระทบต่อคณะสงฆ์ ทาง สนพ.และองค์กรเครือข่ายชาวพุทธจะออกมาเคลื่อนไหวทันที 2.จะเรียกร้องให้ สปช.ผลักดันให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านร่าง พ.ร.บ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา เพื่อแก้ไขปัญหาในการละเมิดพระธรรมวินัย เช่น ละเมิดต่อพระพุทธรูปที่เป็นเสมือนตัวแทนของพระพุทธเจ้า ละเมิดโดยการบิดเบือนคำสอน เป็นต้น และ 3.จะเร่งให้มีการจัดตั้งธนาคารเพื่อพระพุทธศาสนา ช่วยแก้ไขปัญหาการตรวจสอบทรัพย์สินของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา

นายเมธาพันธ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สนพ.จะออกมาเรียกร้องให้เครือข่ายชาวพุทธทั่วประเทศ แจ้งความดำเนินคดีพระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ในข้อหาข่มขู่คุกคาม สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และใส่ร้ายคณะสงฆ์ ตามมาตรา 44 ทวิ และมาตรา 44 ตรี แห่ง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535 ว่าด้วยการกล่าวก้าวล่วงประมุขสงฆ์

พระครูสุวิธานพัฒนบัณฑิต รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) วิทยาเขตขอนแก่น รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า กรณีที่คณะกรรมการปฏิรูปฯ ขอยุติบทบาทในการทำงานนับเป็นเรื่องที่ดี

ถือว่าเป็นการทบทวนบทบาทหน้าที่ที่ถูกต้อง โดยเฉพาะบทบาทของความเป็นพุทธบริษัทที่จะทำหน้าที่ในการศึกษาพระพุทธศาสนาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ และทำหน้าที่ปกป้องพระพุทธศาสนา ให้สอดคล้องกับหลักพระธรรมวินัย ตามวิธีทางสัมมาทิฏฐิ การที่จะช่วยปรับปรุงพัฒนาคณะสงฆ์ด้วยจิตที่เป็นกุศล ต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วน โดยมีมหาเถรสมาคม (มส.) ที่เป็นองค์กรสูงสุดในการให้คำปรึกษาแนวทางการพัฒนาพระพุทธศาสนาโดยส่วนรวม ไม่ว่าจะเป็นด้านการปกครอง การศึกษาและการเผยแผ่ที่จะทำให้พระพุทธศาสนามีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของประชาชนในชาติ แต่ถ้าคณะกรรมการชุดดังกล่าวหรือกลุ่มบุคคลใดก็ตามที่จะเข้ามาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อสถาบันพระพุทธศาสนา บนพื้นฐานแนวคิดที่ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่แนวคิดแห่งธรรมาธิปไตย คณะสงฆ์พร้อมที่จะออกมาชี้นำสังคมไทย และพร้อมปกป้องพระพุทธศาสนาทุกวิถีทาง

ด้านพระอุดมปัญญาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดยโสธร รักษาการรองผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ มจร. กล่าวว่า แม้นายไพบูลย์จะได้ออกมาประกาศยุติบทบาทคณะกรรมการปฏิรูปฯแล้ว ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องจับตามองความเคลื่อนไหวเพื่อปกป้ององค์กรปกครองของคณะสงฆ์ไทย อันมี มส.เป็นองค์กรปกครองสูงสุด ในฐานะที่ได้สนองงานคณะสงฆ์มานานและได้เข้ามาเกี่ยวข้องในส่วนงานของ มจร. ซึ่งทั้งสองส่วนทำให้เข้าใจกระบวนการของการดำเนินงานของคณะสงฆ์ ฉะนั้นการที่บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับทั้งสององค์กรจะเข้ามาปฏิรูปกิจการของคณะสงฆ์และองค์กรในพระพุทธศาสนา อาจจะทำให้การปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาเกิดความไม่ถูกต้องและคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงกับกิจการคณะสงฆ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

พระมหาศิริศักดิ์ สิริวุฑฺฒิปญฺญาเมธี โฆษกประจำสำนักงานสภานิสิต มจร. วิทยาเขตขอนแก่น กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ประกาศยุบคณะกรรมการปฏิรูปฯ การที่คณะกรรมการสภานิสิต มจร.วิทยาเขตขอนแก่นออกมายื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องให้มีการยุบคณะกรรมการชุดนี้ก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ว่าทำเพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ทำเพื่อพระพุทธศาสนา เมื่อศาสนามีภัย อาตมาในฐานะที่เป็นพระสงฆ์ต้องออกมาปกป้อง

ด้าน พล.ต.ท.จิตต์เจริญ เวลาดีวงณ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า มีข้อสั่งการถึงผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลให้ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่ม สนพ. ซึ่งจะนิมนต์พระสงฆ์และเชิญชวนฆราวาสมาชุมนุมสวดมนต์ในวันที่ 12 มีนาคมอย่างใกล้ชิด

วันเดียวกัน พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผู้บัญชาการ (ผบ.) สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 ดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าคดียักยอกทรัพย์และฉ้อโกงประชาชนที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์เครดิตฯว่า ในประเด็นที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตฯ ผู้ต้องหาคดีดังกล่าวระบุว่าเป็นผู้กู้เงินจากสหกรณ์ฯไปบริจาคให้วัดพระธรรมกายไม่เกี่ยวข้องกับพระธัมมชโยนั้น เป็นเรื่องของนายศุภชัยที่พูดออกไป แต่สุดท้ายแล้วพนักงานสอบสวนต้องเรียกนายศุภชัยมาให้การ เบื้องต้นจากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่านายศุภชัยไม่ได้ทำเรื่องกู้จากสหกรณ์ฯแล้วนำไปบริจาคให้วัดพระธรรมกาย เพราะเป็นการสั่งจ่ายเช็ค 15 ฉบับ โดยนายศุภชัย จากสหกรณ์ฯไปที่บัญชีวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโย แล้วอย่างนี้จะเรียกว่านาย

ศุภชัยกู้เงินมาบริจาคได้อย่างไร แต่เป็นการเอาเงินสมาชิกไปบริจาคมากกว่า ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าไปกู้เงินสถาบันการเงิน แล้วเวลาได้รับอนุมัติเงินกู้ เงินต้องเข้าบัญชีผู้กู้ก่อนจะถูกโอน ถอน หรือเอาไปใช้อีกทอด แต่สิ่งที่นายศุภชัยกระทำเป็นการโอนจากต้นทางไปปลายทางทันทีไม่ผ่านบัญชีคนกู้

พ.ต.ท.สมบูรณ์กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่บอกว่าผู้ตรวจสอบบัญชีไม่พบความผิดปกติ ในช่วงปี 2552-2553 พนักงานสอบสวนพบว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งพักงานนายประทีป นำจิตรไทย

ผู้ตรวจสอบบัญชีเอกชน เป็นเวลา 3 ปี เนื่องจากนายประทีปเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ฯ แต่ต่อมากรมตรวจฯพบความผิดปกติทางบัญชี และได้รายงานข้อมูลให้กรมส่งเสริมสหกรณ์รับทราบ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้สอบถามเจ้าหน้าที่กรมตรวจสอบฯว่าทำไมสหกรณ์ขนาดใหญ่ใช้ผู้ตรวจสอบบัญชีเอกชน เบื้องต้นได้ข้อมูลว่าเป็นระบบปกติ ถ้าสหกรณ์ขนาดเล็ก กรมตรวจฯจะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจ ถ้าสหกรณ์ใหญ่ต้องให้เอกชนดำเนินการเพราะมีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก

พ.ต.ท.สมบูรณ์กล่าวอีกว่า สัปดาห์หน้าจะเรียกผู้เกี่ยวข้องที่ปรากฏชื่อรับเช็คที่สั่งจากนายศุภชัย ล็อตแรกที่เป็นบุคคลรวมถึงพระธัมมชโย พระครูปลัดวิจารณ์ พระมนตรีเข้าให้ปากคำ จากนั้นในสัปดาห์ต่อไปจะมีบริษัทนิติบุคคลกว่า 40 แห่ง ทยอยเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนด้วย ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบย้อนหลังเรื่องการแก้ไขระเบียบของสหกรณ์ฯช่วงปี 2542-2543 เพื่อหาพยานหลักฐานที่บ่งชี้ได้ว่านายศุภชัยมีเจตนาที่จะยักยอกทรัพย์สินจากสหกรณ์ฯ

"มีการพบข้อมูลว่ามีการแก้ไขระเบียบการกู้เงินสหกรณ์ในช่วงปี 2549 ที่ระบุไม่ให้นิติบุคคลเข้ามากู้เงินจากสหกรณ์ฯได้ แต่หลังจากนั้นมีการแก้ไขระเบียบให้นิติบุคคลยื่นกู้เงินได้ ทำให้มีการตั้งบริษัทนิติบุคคลเข้ามากู้เงินจากสหกรณ์ฯเป็นเงินจำนวนมาก พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบยอดเงินที่กู้ทั้งหมด โดยพบว่าบางแห่งมีนายศุภชัยเป็นผู้ถือหุ้นและเป็นกรรมการด้วย พนักงานสอบสวนให้ความสนใจเรื่องการขอลดหย่อนและการชำระภาษีย้อนหลังของนายศุภชัย เนื่องจากการบริจาคเงินให้กับวัดจะได้รับใบอนุโมทนาบัตรเพื่อนำไปขอลดหย่อนภาษีได้อีกส่วน" ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า ในสัปดาห์หน้าพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่ ปปง.จะเข้าตรวจสถานที่ และปฏิบัติการยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายที่เกี่ยวข้องในการรับโอนเงินจากสหกรณ์ฯอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบัญชีตามหมายเรียกสอบพยานบุคคลและนิติบุคคลที่มีชื่อรับเช็คจากนายศุภชัย ที่ดีเอสไอเรียกมาให้ปากคำ แยกเป็น กลุ่มที่ 1 พระครูปลัดวิจารณ์ ธีรังกุ วันที่ 9 มีนาคม พระธัมมชโย วันที่ 10 มีนาคม พระมนตรี สุดาภาโส วันที่ 11 มีนาคม และนายสถาพร วัฒนาศิรินุกูล วันที่ 13 มีนาคม กลุ่มที่ 2 เป็นนิติบุคคล 32 แห่ง กำหนดสอบปากคำวันที่ 9-19 มีนาคม ประกอบด้วย บริษัทโกลบอล อินทริเกรทเจ็ด โซลูชั่น จำกัด (จก.) บริษัทคอนคัท จก. บริษัทจีไอเอสเอ็นจิเนียริ่ง จก. บริษัทซันสเปซ มัลติซิสเทมส์ จก. บริษัทซีบีเคกรุ๊ป จก. บริษัทไซ-แมกซ์เทคโนโลยี จก. บริษัททศยุทธ จก. บริษัททีไอพีสตีล จก. บริษัททีไอพีเมทรูฟ จก. บริษัทธาริกัน จก. บริษัทนิติกุลเอ็นจิเนียริ่ง จก. บริษัทปิติพงษ์เอ็นจิเนียริ่ง จก. บริษัทเพมโก้อินเตอร์ไลท์ จก. บริษัทเพอร์เฟ็คท์ออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์ จก. บริษัทมหาจักรดีเวลลอปเมนท์ จก. บริษัทยู.เอส.ซี.จก. บริษัทวี.อาร์.แฮนด์เดิล จก. บริษัทเวลคราฟท์โปรดัคส์ จก. บริษัทอัสโก้ จก. บริษัทอุปกรณ์ส่องสว่าง จก. บริษัทเอชพอยท์ จก. บริษัทเอเวอร์เฟรชคอร์ปอเรชั่น จก. บริษัทเกียรตินพเก้า จก. หจก.บ.กิตติพัฒน์ หจก.เอส.เอ็น.เอส.ดับบลิว.เซอร์วิส หจก.กลอรี่ เซอร์วิส โซลูชั่น บริษัทแสนศิริสุข จก. บริษัทออนเนอร์ (เอชวีเอซี) 1999 จก. หจก.ปรีดาการช่าง บริษัท เอส.ซี.บี.เอ็นจิเนียริ่ง จก. บริษัทพรหมปิยดิษฐ์ จก.และบริษัทเอ็มโฮมเอสพีวี 2 จก.


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1425785028
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่