สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เราขอเเนะนำตัวก่อนเลยเนอะแหะๆ --' เราเป็นนักศึกษาค่ะเรียนอยู่ชั้นปวช.ที่โรงเรียนชื่อดังเเห่งนึงในกรุงเทพเนี้ยเเหละค่ะ ฮ่าๆ(ขอไม่บอกชื่อละกันเนอะ^^) ตั้งเเต่ที่ซุ่มส่องเรื่องของชาวบ้านมานานมากกก วันนี้เลยอยากจะมาเล่าเรื่องของตัวเองบ้างค่ะ เป็นเรื่องที่ตอนนี้เรายังรู้สึกผิดมากๆ เลยล้ะ😭
อ้อ !! ลืมไปค่ะว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้เเรกของเราค่ะ ที่มาเล่าไม่ได้มีเจตนาจะมาประจารความเ_ี้ยของตัวเองนะคะ เเค่อยากให้เพื่อนๆที่ได้เข้ามาอ่านได้เอาไว้คอยเตือนสติเวลาคิดจะทำอะไรในเวลาที่มันสับสนเท่านั้นเองนะคะ !! ผิดพลาดประการใดก็ติเตือนได้ค่ะไม่ว่ากัน^_^
เริ่มกันเลยเเล้วกันโน๊ะๆ^^ คือเราต้องบอกก่อนว่าเราเป็นลูกคนเดียวค่ะ พ่อทำงานรับราชการเเม่ทำงานบริษัททั่วไปแหละค่ะ ฐานะครอบครัวเราก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรค่ะพออยู่พอใช้ เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณปลายปีที่เเล้วนี้เองค่ะ เเต่มันทำให้เราเลิกทุกอย่างได้อย่างไม่น่าเชื่อ ! เรื่องมันมีอยู่ว่า เเม่เราชวนเราไปบ้านยายค่ะ ตอนนั้นน่าจะประมาณเดือน พ.ย ค่ะ จำไม่ได้ว่าวันที่เท่าไหร่ เราก็ไปค่ะเพราะปกติเราจะไปๆมาๆบ้านยายกับเเม่อยู่บ่อยๆตั้งเเต่เล็กๆค่ะ บ้านยายเราอยู่เเถวเขตภาษีเจริญค่ะ จากบ้านเราไปบ้านยายใช้เวลาในการเดินทางก็น่าจะประมาณ เกือบ 1. ชม.ได้ค่ะ จนวันนั้นที่เราไปกับเเม่ เราก็ไปเจอพี่คนนึงเราขอใช้ตัวย่อเป็น พ นะคะ พี่ พ เรารู้จักกันมาตั้งเเต่เด็กๆค่ะ เเต่ด้วยการเดินทางเเละก็ติดเรียนจึงไม่สามารถมาบ้านยายได้บ่อยเหมือนตอนเด็กๆค่ะ เราเลยจำพี่ พ ไม่ได้ เเต่พี่ พ เค้าจำเรากับเเม่ได้ พี่ พ ก็ทักเรากับเเม่ค่ะว่า "นี่ .. หรอเเม่ โตขึ้นเร็วมากอ่ะ น่ารักด้วยนะเนี้ย ฮ่าๆ". เราก็ยิ้มเลยค่ะแหม .. มีคนชมทั้งทีแหะๆ --' เเต่เเม่เราไม่ค่อยให้เรายุ่งกับพี่ พ เหมือนตอนเด็กๆเเล้วค่ะ เพราะเราโตเป็นสาวเเล้ว อีกอย่างพี่ พ เค้าก็เป็นพี่เราห่างกับเราตั้ง 4 ปี เเม่เราเลยไม่ค่อยอยากให้ยุ่งค่ะ เราก็ไม่ได้ได้อะไรค่ะเพราะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ จนวันนั้นก็ผ่านไป วันรุ่งขึ้นพี่ พ ก็ทักเฟสเรามาค่ะ บอกว่าเราน่ารักขึ้นอย่างงั้นอย่างงี้ เราคุยกันได้ประมาณ 2. วันค่ะ พี่ พ ก็ขอเราคบ เเต่เรายังไม่ได้ตอบตกลงไปนะคะ เพราะเราก็ยังไม่ค่อยเชื่อใจพี่ พ เท่าไหร่ เราก็คุยๆกันไปประมาณ 3-4. วัน พี่ พ ก็ขอเราคบอีกค่ะ เราก็เลยเริ่มชอบพี่ พ ขึ้นมาเเล้วล่ะสิฮ่าๆ>< เราเลยตอบตกลงไปค่ะ พี่เค้าก็ดีใจมากๆค่ะที่ได้คบกับเรา เเต่เรายังไม่บอกเรื่องนี้กับทางครอบครัวเราค่ะ เพราะเรายังไม่อยากให้พ่อกับเเม่เราเป็นห่วงไปมากกว่านี้ พี่ พ ก็เช่นเดียวกันต่างคนต่างคบกันโดยที่ไม่ได้บอกทางครอบครัวค่ะ เเต่ว่าพี่เรา(เเม่เดียวกันเเต่คนละพ่อ). กับเพื่อนสนิทเรารู้ค่ะว่าเราคบกัน ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะสมัยนี้เค้าก็มีเเฟนกันหมดละจิงม้ะฮ่าๆ อ้อ !! ลืมบอกอีกเเย้วว่าปกติเราออกไปเที่ยวกลางคืนไม่ได้ค่ะเพราะพ่อเเม่เค้ายังไม่อยากให้ออกไปเที่ยวกลางคืน อยากให้เราเรียนจบปวช.ก่อนค่ะ เราก็ไม่ได้ขัดใจพ่อกับเเม่นะ จนวันนึงพี่ พ เค้าก็ชวนไปบ้านเค้าตอนนั้นน่าจะประมาณ 5. ทุ่มกว่าๆค่ะ เราก็บอกว่าไม่เพราะเราออกไม่ได้ พี่ พ เค้าก็ตื้อค่ะ เพราะว่าถ้าไม่ออกเราก็เจอกันไม่ได้ค่ะเพราะบ้านยายเรากับบ้านพี่เค้าติดกัน คนเเถวนั้นรู้จักเราหมดเลยเราเลยเจอกันลำบากค่ะ เเต่เเล้วไม่รู้อะไรทำให้เราตัดสินใจแอบออกกลางคืนค่ะ เราอาศัยตอนที่พ่อกับเเม่หลับเเล้วก็น่าจะเกือบๆเที่ยงคืนได้ค่ะ ก็สำเร็จค่ะเราแอบออกมาโดยที่พ่อเเม่ไม่รู้ เป็นครั้งเเรกค่ะที่ออกกลางคืน เราก็ให้พี่ พ มารับเเถวบ้านค่ะ ตอนนั้นมันมืดเเล้วก็เปลี่ยวมากๆ ในใจก็คิดว่จะรอดมั้ยเนี้ยแหะๆ --'. เเต่ก็รอดมาได้ค่ะ พี่ พ ก็มารับใช้เวลาจากบ้านเราไปบ้านพี่ พ ก็เกือบครึ้งชั่วโมงค่ะ เพราะรถไม่มีเลยอีกอย่างเป็นมอไซด้วยเลยไปถึงไวค่ะ พอไปถึงก็ไม่มีอะไรค่ะนั่งเล่นกันคุยกันตามประสาเเฟนกันทั่วไปแหละค่ะ. ประมาณตี3 ตี4 พี่ พ ก็จะขับรถมาส่งเราที่บ้านค่ะ เป็นเเบบนี้อยู่เกือบ1เดือน เราก็เลิกกันค่ะ(ขอไม่บอกเเล้วกันนะคะว่าเลิกกันเพราะอะไร) หลังจากที่เลิกกันเราก็ต่างคนต่างอยู่ค่ะไม่มีอะไร ผ่านไปประมาณ 1. เดือน แฟนเก่าเราสมัยม.2. ก็ทักแชทในเฟสเรามา ขอใช้ตัวย่อ ม นะคะ ม ทักเรามาว่า "เป็นไงมั่ง เลิกกับพี่ พ ทำไมอ่ะ". เราก็เล่าไปค่ะว่าเลิกกันเพราะอะไร ตั้งเเต่เราเลิกกะพี่ พ ม ก็ทักมาหาเราทุกวัน จนวันนึง ม ก็ขอเรากลับมาคบค่ะ ความที่เราเชื่อใจ ม เราเลยตอบตกลงไปค่ะ จากวันนั้นที่เราแอบออกกลางคืนได้เราก็ทำอีกค่ะ ม จะมารับเราเเถวบ้านเหมือนเดิม (เเต่ก่อนจะมารับเเค่เลิกเรียนหรืออยากไปนู่นไปนี่เท่านั้น) ก็เหมือนเดิมค่ะแอบออกกลางคืนไปหา ม ทุกวัน จนมาวันนึงพ่อกับเเม่เราจับได้ค่ะว่าเราแอบหนีเที่ยวตอนกลางคืน จนเป็นเรื่องเป็นราวเลยค่ะ เเต่เหตุการณ์ครั้งนั้นก็จบไปค่ะ เเต่พ่อกับเเม่ไม่ให้เราไปไหนเเล้วค่ะทั้งกับเพื่อนกับใครก็เเล้วเเต่ ให้เราอยู่เเต่บ้านTT เราก็เครียดเลยค่ะทีนี้ไม่ได้ออกไปไหนประมาณ 1. เดือนได้ จนวันนึงเราได้ตัดสินใจผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่มหาศาลมากกก เราหนีออกจากบ้านค่ะ ซึ่งวันนั้นเป็นวันธรรมดาค่ะ พ่อกับเเม่เราก็ออกไปทำงานเราอยู่บ้านคนเดียวค่ะ เลยทางสะดวก เเต่ใจนึงก็เสียใจค่ะไม่อยากทำเเต่ใจนึงก็อยากออกไปไหนบ้างเลยบอกกับเพื่อนสนิทคนนึงไว้ค่ะ เพื่อนเราก็ห้ามเราไม่ให้เราทำรั้งทุกอย่างจริงๆค่ะ เเต่เราก็ไม่ฟังจนเพื่อนเราต้องมาหาเราที่บ้านค่ะ มาคุยกับเราเกือบชม.ได้ค่ะ เเต่เราก็ไม่ฟังค่ะเรายังอยากที่จะหนีออกไปจากบ้านอยู่ดี จนเพื่อนหมดหนทางหมดคำพูดที่จะรั้งเราไว้ไม่ให้เราไป เราก็เสียใจนะคะที่ทำเพื่อนเสียใจมำพ่อกับเเม่เสียใจ เเต่ที่ทำไปเพราะความคึกคะนองค่ะ เราก็รีบเก็บเสื้อผ้าตอนนั้นน่าจะเวลาประมาน 5 โมงกว่าๆค่ะ เเม่กับพ่อเราเลิกงานประมาณ 6. โมงกว่าๆ เราก็รีบไปที่บ้าน ม พอไปถึง ม เหมือนตกใจค่ะ เเล้วมองไปที่กระเป๋าเรา ม ก็ถามเราว่า "เก็บเสื้อผ้ามาเลยหรอ คิดดีเเล้วหรอ". เราตอบไรไม่ถูกค่ะได้เเต่นั่งเงียบๆไม่พูดกับใคร เราก็นั่งอยู่ในบ้าน ม ถึงประมาณ 6. โมงนิดๆค่ะ เเม่เราก็โทรมา ตอนนั้นเรารู้เลยว่าเเม่เราต้องรู้เเล้วเเน่ๆที่เราหนีออกมา เราเลยปิดเครื่องค่ะ เเต่เเม่เราไม่รู้ไปเอาเบอร์ ม มาจากไหน หลังจากที่เราปิดเครื่อง เเม่เราก็โทรเข้าเครื่อง ม ค่ะ ม ก็กลัวเราก็กลัวไม่กล้ารับทั้งคู่ เเม่เราโทรมาได้ประมาณ6-7สายค่ะ เรากับ ม ไม่รู้จะทำยังไงต่างคนต่างกลัวไปหมด จนประมาณ6โมงครึ่งเรากับ ม ก็ลงไปหาเพื่อนค่ะ ซึ่งบ้านจะอยู่ไกล้ๆกับ ม เเล้วสักพักเพื่อนอีกคนที่กำลังไปซื้อข้าวอยู่อยู่ซอยบ้าน ม ก็โทรมาหาเราเเล้วบอกว่า "อยู่ไหน รู้ป่าวว่าพ่อกับเเม่เอาตร.มา". เราก็อึ้งเลยค่ะไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ เราเลยบอกกับเพื่อนที่โทรมาว่า "อย่าบอกใครนะว่ากูอยู่นี่" . เพื่อนมันเลยบอกว่า "เออๆเเค่นี้ก่อนๆ" น้ำเสียงเเบบรนๆ เราเลยวางสายค่ะเเล้วบอกกับเพื่อนที่อยู่ด้วยกันตอนนั้นรวมถึง ม ว่า " เเม่กูเอาตร.มาว่ะไปเหอะ". ม ก็เลยรีบไปเอารถเพื่อนมา(เพื่อนคนที่อยู่ด้วยกันนะคะ) เลยอัด3ไป ตอนนั้นต่างคนต่างไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนมันเป็นช่วงเวลาอธิบายไม่ถูก เป็นความรู้สึกที่เหมือนกับทุกอย่าง
หยุดไปหมด สักพักเเม่เราก็โทรมาเบอร์ ม ค่ะ เเต่ก็ไม่มีใครรับเพราะรู้ว่าต้องเกิดเรื่องเเน่ๆ จนเราสามคนไปหลบอยู่ที่สาธารณะที่นึง (ขอไม่บอกนะคะ) เเล้วเเม่เราก็โทรมาเบอร์ ม อีก เราเลยบอกไปว่า "ไม่ต้องรับนะ". พร้อมกับน้ำเสียงที่สั่นเเละกลัวมากก เพื่อนคนที่มาด้วยกันก็พูดขึ้นมาว่า "รับไปดิเชื่อกู". จากนั้น ม มันก็รวบรวมความกลัวของมันทั้งหมด ตัดสินใจรับสาย เเม่เราก็พูดว่า "เอา .. ไปไว้ไหน เอามาส่งเดี๋ยวนี้ ตอนนี้ชั้นอยู่หน้าบ้านแกเอา .. มาส่งเดี๋ยวนี้ไม่งั้นชั้นเอาเรื่องเเน่". ม ตัวสั่นไม่พูดอะไรจนเพื่อนคนที่มาด้วยกันเเย่งโทรสัพท์ไป เเล้วก็เดินไปคุยไกลๆสักพักก็วางเเล้วเดินกลับมาพร้อมกับพูดว่า "กลับเหอะ เเม่บอกว่าถ้า ม ไม่ไปส่งอ่ะ เเม่เค้าจะเอาเรื่อง ม นะเว่ย". เราก็ได้เเต่ยืนเงียบๆค่ะ อึ้งตกใจกลัวมันบอกไม่ถูกมันสั่นไปหมด ใจนึงเราก็ไม่อยากกลับไปใจนึงก็ไม่อยากให้ ม เดือดร้อนเพราะเรา. เราเลยบอกเพื่อนที่มาด้วยกันกับ ม ว่า "พวกกลับไปเถอะ ให้กูอยู่ตรงนี้เเหละกูอยู่ได้". เเต่เพื่อนเรากับ ม ไม่ยอมค่ะ จะลากเรากลับไปให้ได้ ตื้อเราให้กลับบ้านอยู่สักพักใหญ่ๆระหว่างนั้นเเม่เราก็โทรมายิกๆเลยล่ะ จนเราต้องใจอ่อนยอมกลับบ้าน เพราะเราไม่อยากให้ ม เดือดร้อนเพราะเรา ม กับเพื่นเราเลยไปส่งเราที่บ้านเพราะไม่อยากให้เรากลับไปที่บ้าน ม ไม่อยากให้เราเห็น ก่อนที่ ม จะขับรถไปก็พูดกับเราว่า " กลับไปถึงเข้าบ้านเลยนะไม่ต้องออกไปไหน ม ไม่เป็นไรหรอกดูเเลตัวเองด้วยอ่ะ". เราน้ำตาคลอเบ้าเลยค่ะ เเล้วเราก็เลยรีบเดินเข้าบ้ายปิดล็อกบ้านอย่างดีเลยค่ะ ไม่ถึง10นาที พ่อกับเเม่ก็มาถึงบ้านค่ะ เรา งง มาก. เค้ากลับมาไม่พูดอะไรค่ะไม่ด่าไม่ว่าอะไรเลย มีเเต่เรียกให้เราออกไปกินข้าว เเต่เราไม่ออกค่ะเรากลัว กลัวไปหมดเลยตอนนั้น พ่อเราเลยถือข้าวกับน้ำมาให้เราหน้าห้องค่ะ บอกว่า"ถ้าไม่ออกมากินก็เอาเข้าไปกินไปลูก". เราได้ยินคำนี้เราร้องไห้เลยค่ะเราก็เลยเปิดประตูเเล้วรับข้าวกับน้ำที่พ่อถือมาให้ พ่อก็มองหน้าเราค่ะเเล้วก็เดินไปกินข้าวกับเเม่ ตอนนั้นเรามานั่งนึกว่าทำไมเราถึงทำตัวเเบบนี้ เราทำให้พ่อเเม่เสียใจขนาดนี้ทำไมเราถึงเหลวไหลขนาดนี้ คำถามเป็นร้อยเป็นพันที่อยู่ในหัวมันทำให้ร้องไห้ออกมาหนักมาก ทั้งกินข้าวไปร้องไห้ไป กินเสร็จก็นอนร้องไห้จนหลับไปเอง ตื่นเช้ามาพอเราทำอะไรเสร็จ พ่อก็พูดขึ้นมาว่า "ไหนมานี่สิ้ มานั่งคุยกันดีๆ ทำไมเมื่อคืนถึงทำเเบบนั้น". เราก็ไปนั่งค่ะเเต่เราไม่พูดได้เเต่นั่งน้ำตาคลอเบ้า จนวันนี้เราไม่กล้าออกไปไหนอีกเลยค่ะ เราจะเรียนให้จบตามที่พ่อกับเเม่ขอไว้ อยากให้เค้าภูมิใจสักครั้งถึงเเม้ความผิดครั้งนี้มันจะจำฝังใจไปตลอดชีวิตก็เถอะTT
สุดท้าย .. เราอยากฝากเรื่องนี้ไว้เตือนใจกับเพื่อนๆที่คิดทางออกให้กับตัวเองที่ผิดรวมถึงการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุด ถึงเเม้เราจะดีจะเลวยังไง สุดท้ายคนที่อยู่ข้างๆเราก็คือพ่อเเม่ของเราเสมอนะคะ ตอนนี้เราไม่ออกไปเที่ยวไหนเลยคิดว่าจะตั้งใจเรียนให้จบก่อนอยากให้พ่อกับเเม่ภูมิใจบ้าง อิอิ^_^
ปล.ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านเรื่องของเราจนจบนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นด้วยน้าา^^
ครั้งหนึ่งกับความผิดที่ไม่น่าให้อภัยTT
อ้อ !! ลืมไปค่ะว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้เเรกของเราค่ะ ที่มาเล่าไม่ได้มีเจตนาจะมาประจารความเ_ี้ยของตัวเองนะคะ เเค่อยากให้เพื่อนๆที่ได้เข้ามาอ่านได้เอาไว้คอยเตือนสติเวลาคิดจะทำอะไรในเวลาที่มันสับสนเท่านั้นเองนะคะ !! ผิดพลาดประการใดก็ติเตือนได้ค่ะไม่ว่ากัน^_^
เริ่มกันเลยเเล้วกันโน๊ะๆ^^ คือเราต้องบอกก่อนว่าเราเป็นลูกคนเดียวค่ะ พ่อทำงานรับราชการเเม่ทำงานบริษัททั่วไปแหละค่ะ ฐานะครอบครัวเราก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรค่ะพออยู่พอใช้ เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณปลายปีที่เเล้วนี้เองค่ะ เเต่มันทำให้เราเลิกทุกอย่างได้อย่างไม่น่าเชื่อ ! เรื่องมันมีอยู่ว่า เเม่เราชวนเราไปบ้านยายค่ะ ตอนนั้นน่าจะประมาณเดือน พ.ย ค่ะ จำไม่ได้ว่าวันที่เท่าไหร่ เราก็ไปค่ะเพราะปกติเราจะไปๆมาๆบ้านยายกับเเม่อยู่บ่อยๆตั้งเเต่เล็กๆค่ะ บ้านยายเราอยู่เเถวเขตภาษีเจริญค่ะ จากบ้านเราไปบ้านยายใช้เวลาในการเดินทางก็น่าจะประมาณ เกือบ 1. ชม.ได้ค่ะ จนวันนั้นที่เราไปกับเเม่ เราก็ไปเจอพี่คนนึงเราขอใช้ตัวย่อเป็น พ นะคะ พี่ พ เรารู้จักกันมาตั้งเเต่เด็กๆค่ะ เเต่ด้วยการเดินทางเเละก็ติดเรียนจึงไม่สามารถมาบ้านยายได้บ่อยเหมือนตอนเด็กๆค่ะ เราเลยจำพี่ พ ไม่ได้ เเต่พี่ พ เค้าจำเรากับเเม่ได้ พี่ พ ก็ทักเรากับเเม่ค่ะว่า "นี่ .. หรอเเม่ โตขึ้นเร็วมากอ่ะ น่ารักด้วยนะเนี้ย ฮ่าๆ". เราก็ยิ้มเลยค่ะแหม .. มีคนชมทั้งทีแหะๆ --' เเต่เเม่เราไม่ค่อยให้เรายุ่งกับพี่ พ เหมือนตอนเด็กๆเเล้วค่ะ เพราะเราโตเป็นสาวเเล้ว อีกอย่างพี่ พ เค้าก็เป็นพี่เราห่างกับเราตั้ง 4 ปี เเม่เราเลยไม่ค่อยอยากให้ยุ่งค่ะ เราก็ไม่ได้ได้อะไรค่ะเพราะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ จนวันนั้นก็ผ่านไป วันรุ่งขึ้นพี่ พ ก็ทักเฟสเรามาค่ะ บอกว่าเราน่ารักขึ้นอย่างงั้นอย่างงี้ เราคุยกันได้ประมาณ 2. วันค่ะ พี่ พ ก็ขอเราคบ เเต่เรายังไม่ได้ตอบตกลงไปนะคะ เพราะเราก็ยังไม่ค่อยเชื่อใจพี่ พ เท่าไหร่ เราก็คุยๆกันไปประมาณ 3-4. วัน พี่ พ ก็ขอเราคบอีกค่ะ เราก็เลยเริ่มชอบพี่ พ ขึ้นมาเเล้วล่ะสิฮ่าๆ>< เราเลยตอบตกลงไปค่ะ พี่เค้าก็ดีใจมากๆค่ะที่ได้คบกับเรา เเต่เรายังไม่บอกเรื่องนี้กับทางครอบครัวเราค่ะ เพราะเรายังไม่อยากให้พ่อกับเเม่เราเป็นห่วงไปมากกว่านี้ พี่ พ ก็เช่นเดียวกันต่างคนต่างคบกันโดยที่ไม่ได้บอกทางครอบครัวค่ะ เเต่ว่าพี่เรา(เเม่เดียวกันเเต่คนละพ่อ). กับเพื่อนสนิทเรารู้ค่ะว่าเราคบกัน ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะสมัยนี้เค้าก็มีเเฟนกันหมดละจิงม้ะฮ่าๆ อ้อ !! ลืมบอกอีกเเย้วว่าปกติเราออกไปเที่ยวกลางคืนไม่ได้ค่ะเพราะพ่อเเม่เค้ายังไม่อยากให้ออกไปเที่ยวกลางคืน อยากให้เราเรียนจบปวช.ก่อนค่ะ เราก็ไม่ได้ขัดใจพ่อกับเเม่นะ จนวันนึงพี่ พ เค้าก็ชวนไปบ้านเค้าตอนนั้นน่าจะประมาณ 5. ทุ่มกว่าๆค่ะ เราก็บอกว่าไม่เพราะเราออกไม่ได้ พี่ พ เค้าก็ตื้อค่ะ เพราะว่าถ้าไม่ออกเราก็เจอกันไม่ได้ค่ะเพราะบ้านยายเรากับบ้านพี่เค้าติดกัน คนเเถวนั้นรู้จักเราหมดเลยเราเลยเจอกันลำบากค่ะ เเต่เเล้วไม่รู้อะไรทำให้เราตัดสินใจแอบออกกลางคืนค่ะ เราอาศัยตอนที่พ่อกับเเม่หลับเเล้วก็น่าจะเกือบๆเที่ยงคืนได้ค่ะ ก็สำเร็จค่ะเราแอบออกมาโดยที่พ่อเเม่ไม่รู้ เป็นครั้งเเรกค่ะที่ออกกลางคืน เราก็ให้พี่ พ มารับเเถวบ้านค่ะ ตอนนั้นมันมืดเเล้วก็เปลี่ยวมากๆ ในใจก็คิดว่จะรอดมั้ยเนี้ยแหะๆ --'. เเต่ก็รอดมาได้ค่ะ พี่ พ ก็มารับใช้เวลาจากบ้านเราไปบ้านพี่ พ ก็เกือบครึ้งชั่วโมงค่ะ เพราะรถไม่มีเลยอีกอย่างเป็นมอไซด้วยเลยไปถึงไวค่ะ พอไปถึงก็ไม่มีอะไรค่ะนั่งเล่นกันคุยกันตามประสาเเฟนกันทั่วไปแหละค่ะ. ประมาณตี3 ตี4 พี่ พ ก็จะขับรถมาส่งเราที่บ้านค่ะ เป็นเเบบนี้อยู่เกือบ1เดือน เราก็เลิกกันค่ะ(ขอไม่บอกเเล้วกันนะคะว่าเลิกกันเพราะอะไร) หลังจากที่เลิกกันเราก็ต่างคนต่างอยู่ค่ะไม่มีอะไร ผ่านไปประมาณ 1. เดือน แฟนเก่าเราสมัยม.2. ก็ทักแชทในเฟสเรามา ขอใช้ตัวย่อ ม นะคะ ม ทักเรามาว่า "เป็นไงมั่ง เลิกกับพี่ พ ทำไมอ่ะ". เราก็เล่าไปค่ะว่าเลิกกันเพราะอะไร ตั้งเเต่เราเลิกกะพี่ พ ม ก็ทักมาหาเราทุกวัน จนวันนึง ม ก็ขอเรากลับมาคบค่ะ ความที่เราเชื่อใจ ม เราเลยตอบตกลงไปค่ะ จากวันนั้นที่เราแอบออกกลางคืนได้เราก็ทำอีกค่ะ ม จะมารับเราเเถวบ้านเหมือนเดิม (เเต่ก่อนจะมารับเเค่เลิกเรียนหรืออยากไปนู่นไปนี่เท่านั้น) ก็เหมือนเดิมค่ะแอบออกกลางคืนไปหา ม ทุกวัน จนมาวันนึงพ่อกับเเม่เราจับได้ค่ะว่าเราแอบหนีเที่ยวตอนกลางคืน จนเป็นเรื่องเป็นราวเลยค่ะ เเต่เหตุการณ์ครั้งนั้นก็จบไปค่ะ เเต่พ่อกับเเม่ไม่ให้เราไปไหนเเล้วค่ะทั้งกับเพื่อนกับใครก็เเล้วเเต่ ให้เราอยู่เเต่บ้านTT เราก็เครียดเลยค่ะทีนี้ไม่ได้ออกไปไหนประมาณ 1. เดือนได้ จนวันนึงเราได้ตัดสินใจผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่มหาศาลมากกก เราหนีออกจากบ้านค่ะ ซึ่งวันนั้นเป็นวันธรรมดาค่ะ พ่อกับเเม่เราก็ออกไปทำงานเราอยู่บ้านคนเดียวค่ะ เลยทางสะดวก เเต่ใจนึงก็เสียใจค่ะไม่อยากทำเเต่ใจนึงก็อยากออกไปไหนบ้างเลยบอกกับเพื่อนสนิทคนนึงไว้ค่ะ เพื่อนเราก็ห้ามเราไม่ให้เราทำรั้งทุกอย่างจริงๆค่ะ เเต่เราก็ไม่ฟังจนเพื่อนเราต้องมาหาเราที่บ้านค่ะ มาคุยกับเราเกือบชม.ได้ค่ะ เเต่เราก็ไม่ฟังค่ะเรายังอยากที่จะหนีออกไปจากบ้านอยู่ดี จนเพื่อนหมดหนทางหมดคำพูดที่จะรั้งเราไว้ไม่ให้เราไป เราก็เสียใจนะคะที่ทำเพื่อนเสียใจมำพ่อกับเเม่เสียใจ เเต่ที่ทำไปเพราะความคึกคะนองค่ะ เราก็รีบเก็บเสื้อผ้าตอนนั้นน่าจะเวลาประมาน 5 โมงกว่าๆค่ะ เเม่กับพ่อเราเลิกงานประมาณ 6. โมงกว่าๆ เราก็รีบไปที่บ้าน ม พอไปถึง ม เหมือนตกใจค่ะ เเล้วมองไปที่กระเป๋าเรา ม ก็ถามเราว่า "เก็บเสื้อผ้ามาเลยหรอ คิดดีเเล้วหรอ". เราตอบไรไม่ถูกค่ะได้เเต่นั่งเงียบๆไม่พูดกับใคร เราก็นั่งอยู่ในบ้าน ม ถึงประมาณ 6. โมงนิดๆค่ะ เเม่เราก็โทรมา ตอนนั้นเรารู้เลยว่าเเม่เราต้องรู้เเล้วเเน่ๆที่เราหนีออกมา เราเลยปิดเครื่องค่ะ เเต่เเม่เราไม่รู้ไปเอาเบอร์ ม มาจากไหน หลังจากที่เราปิดเครื่อง เเม่เราก็โทรเข้าเครื่อง ม ค่ะ ม ก็กลัวเราก็กลัวไม่กล้ารับทั้งคู่ เเม่เราโทรมาได้ประมาณ6-7สายค่ะ เรากับ ม ไม่รู้จะทำยังไงต่างคนต่างกลัวไปหมด จนประมาณ6โมงครึ่งเรากับ ม ก็ลงไปหาเพื่อนค่ะ ซึ่งบ้านจะอยู่ไกล้ๆกับ ม เเล้วสักพักเพื่อนอีกคนที่กำลังไปซื้อข้าวอยู่อยู่ซอยบ้าน ม ก็โทรมาหาเราเเล้วบอกว่า "อยู่ไหน รู้ป่าวว่าพ่อกับเเม่เอาตร.มา". เราก็อึ้งเลยค่ะไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ เราเลยบอกกับเพื่อนที่โทรมาว่า "อย่าบอกใครนะว่ากูอยู่นี่" . เพื่อนมันเลยบอกว่า "เออๆเเค่นี้ก่อนๆ" น้ำเสียงเเบบรนๆ เราเลยวางสายค่ะเเล้วบอกกับเพื่อนที่อยู่ด้วยกันตอนนั้นรวมถึง ม ว่า " เเม่กูเอาตร.มาว่ะไปเหอะ". ม ก็เลยรีบไปเอารถเพื่อนมา(เพื่อนคนที่อยู่ด้วยกันนะคะ) เลยอัด3ไป ตอนนั้นต่างคนต่างไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนมันเป็นช่วงเวลาอธิบายไม่ถูก เป็นความรู้สึกที่เหมือนกับทุกอย่างหยุดไปหมด สักพักเเม่เราก็โทรมาเบอร์ ม ค่ะ เเต่ก็ไม่มีใครรับเพราะรู้ว่าต้องเกิดเรื่องเเน่ๆ จนเราสามคนไปหลบอยู่ที่สาธารณะที่นึง (ขอไม่บอกนะคะ) เเล้วเเม่เราก็โทรมาเบอร์ ม อีก เราเลยบอกไปว่า "ไม่ต้องรับนะ". พร้อมกับน้ำเสียงที่สั่นเเละกลัวมากก เพื่อนคนที่มาด้วยกันก็พูดขึ้นมาว่า "รับไปดิเชื่อกู". จากนั้น ม มันก็รวบรวมความกลัวของมันทั้งหมด ตัดสินใจรับสาย เเม่เราก็พูดว่า "เอา .. ไปไว้ไหน เอามาส่งเดี๋ยวนี้ ตอนนี้ชั้นอยู่หน้าบ้านแกเอา .. มาส่งเดี๋ยวนี้ไม่งั้นชั้นเอาเรื่องเเน่". ม ตัวสั่นไม่พูดอะไรจนเพื่อนคนที่มาด้วยกันเเย่งโทรสัพท์ไป เเล้วก็เดินไปคุยไกลๆสักพักก็วางเเล้วเดินกลับมาพร้อมกับพูดว่า "กลับเหอะ เเม่บอกว่าถ้า ม ไม่ไปส่งอ่ะ เเม่เค้าจะเอาเรื่อง ม นะเว่ย". เราก็ได้เเต่ยืนเงียบๆค่ะ อึ้งตกใจกลัวมันบอกไม่ถูกมันสั่นไปหมด ใจนึงเราก็ไม่อยากกลับไปใจนึงก็ไม่อยากให้ ม เดือดร้อนเพราะเรา. เราเลยบอกเพื่อนที่มาด้วยกันกับ ม ว่า "พวกกลับไปเถอะ ให้กูอยู่ตรงนี้เเหละกูอยู่ได้". เเต่เพื่อนเรากับ ม ไม่ยอมค่ะ จะลากเรากลับไปให้ได้ ตื้อเราให้กลับบ้านอยู่สักพักใหญ่ๆระหว่างนั้นเเม่เราก็โทรมายิกๆเลยล่ะ จนเราต้องใจอ่อนยอมกลับบ้าน เพราะเราไม่อยากให้ ม เดือดร้อนเพราะเรา ม กับเพื่นเราเลยไปส่งเราที่บ้านเพราะไม่อยากให้เรากลับไปที่บ้าน ม ไม่อยากให้เราเห็น ก่อนที่ ม จะขับรถไปก็พูดกับเราว่า " กลับไปถึงเข้าบ้านเลยนะไม่ต้องออกไปไหน ม ไม่เป็นไรหรอกดูเเลตัวเองด้วยอ่ะ". เราน้ำตาคลอเบ้าเลยค่ะ เเล้วเราก็เลยรีบเดินเข้าบ้ายปิดล็อกบ้านอย่างดีเลยค่ะ ไม่ถึง10นาที พ่อกับเเม่ก็มาถึงบ้านค่ะ เรา งง มาก. เค้ากลับมาไม่พูดอะไรค่ะไม่ด่าไม่ว่าอะไรเลย มีเเต่เรียกให้เราออกไปกินข้าว เเต่เราไม่ออกค่ะเรากลัว กลัวไปหมดเลยตอนนั้น พ่อเราเลยถือข้าวกับน้ำมาให้เราหน้าห้องค่ะ บอกว่า"ถ้าไม่ออกมากินก็เอาเข้าไปกินไปลูก". เราได้ยินคำนี้เราร้องไห้เลยค่ะเราก็เลยเปิดประตูเเล้วรับข้าวกับน้ำที่พ่อถือมาให้ พ่อก็มองหน้าเราค่ะเเล้วก็เดินไปกินข้าวกับเเม่ ตอนนั้นเรามานั่งนึกว่าทำไมเราถึงทำตัวเเบบนี้ เราทำให้พ่อเเม่เสียใจขนาดนี้ทำไมเราถึงเหลวไหลขนาดนี้ คำถามเป็นร้อยเป็นพันที่อยู่ในหัวมันทำให้ร้องไห้ออกมาหนักมาก ทั้งกินข้าวไปร้องไห้ไป กินเสร็จก็นอนร้องไห้จนหลับไปเอง ตื่นเช้ามาพอเราทำอะไรเสร็จ พ่อก็พูดขึ้นมาว่า "ไหนมานี่สิ้ มานั่งคุยกันดีๆ ทำไมเมื่อคืนถึงทำเเบบนั้น". เราก็ไปนั่งค่ะเเต่เราไม่พูดได้เเต่นั่งน้ำตาคลอเบ้า จนวันนี้เราไม่กล้าออกไปไหนอีกเลยค่ะ เราจะเรียนให้จบตามที่พ่อกับเเม่ขอไว้ อยากให้เค้าภูมิใจสักครั้งถึงเเม้ความผิดครั้งนี้มันจะจำฝังใจไปตลอดชีวิตก็เถอะTT
สุดท้าย .. เราอยากฝากเรื่องนี้ไว้เตือนใจกับเพื่อนๆที่คิดทางออกให้กับตัวเองที่ผิดรวมถึงการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุด ถึงเเม้เราจะดีจะเลวยังไง สุดท้ายคนที่อยู่ข้างๆเราก็คือพ่อเเม่ของเราเสมอนะคะ ตอนนี้เราไม่ออกไปเที่ยวไหนเลยคิดว่าจะตั้งใจเรียนให้จบก่อนอยากให้พ่อกับเเม่ภูมิใจบ้าง อิอิ^_^
ปล.ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านเรื่องของเราจนจบนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นด้วยน้าา^^