เริ่มต้นของนวนิยายสั้นแบบนี้พอจะได้ไหมคะ ช่วยกรุณาแนะนำด้วยค่ะ (เพิ่งหัดแต่งคะ)

กระทู้คำถาม
เรื่อง เส้นทางรักลวงใจ
ตอน ลาจากความลวง


นานาเสียใจนานาเสียใจนานาเสียใจ
    ฝนที่ตกโปรยปรายลงมาเริ่มหนักเม็ดขึ้น จากที่เดินอย่างช้าๆ และเงียบเหงา กลับกลายเป็นว่า กานดา ต้องเร่งฝีเท้าขึ้น เพื่อหาที่หลบฝนไม่ให้ฝนกระหน่ำจนเสื้อผ้าของเธอต้องเปียกปอนไป เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวตัวบาง ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที หากว่ามีใครอาจเดินเข้ามาใกล้ๆ และเห็นรูปร่างของเธอที่ซ่อนอยู่ในยามฝนพรำเช่นนี้ ถึงแม้ว่าแถบนี้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติเข้ามาพักผ่อน เล่นน้ำทะเลในเวลากลางวัน และสนุกสนานเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยว ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ยามราตรีซึ่งมีอยู่อย่างมากมาย ที่นี่มีผู้คนหนาแน่นตลอดทั้งปี และสามารถแต่งกายได้อย่างไม่ค่อยจะมิดชิดรัดกุมนัก แต่กานดาก็ยังรู้สึกว่าตัวเธอเองกระดากอายกับสภาพที่เสื้อโดนน้ำฝนบางๆ ประพรมอยู่ในตอนนี้ แม้จะเป็นช่วงเวลากลางวันของเมืองไทย แต่ว่าผู้คนสองข้างทางก็ดูเหมือนจะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธอ

   กานดาเร่งฝีเท้า และมองหาที่หลบฝน ใจคิดถึงหอพักที่คุ้นเคย ซึ่งช่วงหลังปีใหม่เธอไปที่นั่นแทบทุกสัปดาห์
หอพักพนักงานโรงแรมเคียงดาวเพลส คงเหมาะแก่การหลบฝน มากกว่าการที่เธอจะขอหลบฝนในที่พักของคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนการขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าอาจไม่ค่อยดีนักสำหรับเธอ

   ฝนที่กำลังตกลงมายังคงลงเม็ดต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด สองเท้าของกานดาก้าวเดินอย่างรวดเร็วเข้าไปในถนนเล็กๆ เส้นหนึ่ง อีกไม่ไกลมากนักเหลือแค่ประมาณสามสิบเมตรก็จะถึงหอพักของโรงแรมเคียงดาวเพลสแล้ว

   กานดาใช้ฝ่ามือทั้งสองเช็ดน้ำฝนที่เกาะอยู่ตามใบหน้า เส้นผม และตามเนื้อตัว เธอเดินอย่างระมัดระวังไม่ให้น้ำฝนที่เฉอะแฉะอยู่บนทางกระเซ็นมาเปื้อนกางเกงยีนส์ขายาวที่สวมอยู่

    ในตอนแรกเธอคิดว่าเธอน่าจะได้กลับที่พักของเธอไป หลังจากไม่เจออรินทร์ ในที่ทำงานของเขาวันนี้ เธอไม่ได้ตั้งใจมาหาเขานักหรอก แค่อยากทราบว่าเขาจะทำเช่นไร จะมีท่าทีรับผิดชอบต่อการกระทำที่เคยทำล่วงเกินต่อเธอทำให้เธอเสียหายมาก่อนหน้านี้แล้วหรือไม่อีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เธอจะเดินทางออกจากเมืองนี้เพื่อกลับภูมิลำเนาต่อไป เพราะสิ้นสุดสัญญาการจ้างงานหนึ่งปี ที่สัญญาเริ่มเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว แต่กลับโชคร้ายกลับกลายเป็นว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เธอจะต้องมาทนติดฝนอยู่ในหอพักรวมของพนักงานโรงแรมที่อรินทร์พักอาศัยอยู่แทนที่จะได้กลับที่พักดังใจหวัง

    อรินทร์มีห้องพักส่วนตัวที่หอพักพนักงานโรงแรมหนึ่งห้อง เธอไม่ได้ต้องการมาขอพักที่ห้องของเขาหรอก เธอเพียงแค่ต้องการมาขอพักที่ห้องญาติของเขาสักเพียงครู่เดียว แค่รอให้ฝนหยุดตกแค่นั้น ก่อนจะกลับที่พักต่อไป เพราะการมาพบเขาในที่ส่วนตัวเช่นนี้ไม่ได้เป็นที่ปรารถนาของเธออีกต่อไปเลย
  
    ณ สถานที่แห่งนั้น เธอเคยมาพบเขาหลายครั้งแล้ว ที่ซึ่งเขาเคยทำให้เธอเจ็บช้ำ จนเหมือนกับว่าลมหายใจของเธอแทบจะหลุดลอยออกไปนอกร่างในหลายต่อหลายครา เพราะความเจ้าโทสะและการใช้กำลังรุนแรงของเขา

    ผู้คนสองข้างทางคงแปลกใจ ที่เห็นหญิงสาวใบหน้าเศร้าหมองอมทุกข์อย่างเธอ มาเดินอยู่คนเดียวโดดเดี่ยวแบบนี้
ความรู้สึกเช่นนี้เกิดขึ้นกับเธอในหลายต่อหลายคราที่เธอยอมเสียเวลามาแถวนี้ เพื่อติดตามดูนิสัยใจคอของเขาทั้งที่ทำงานและที่พัก

   ที่พักของเขาต้องอ้อมมาเข้าทางด้านหลังของโรงแรมที่อรินทร์ทำงานต้องผ่านร้านค้าต่างๆ ผ่านผับเล็กผับน้อยที่หยุดให้บริการในตอนกลางวัน ผ่านตลาดเล็กๆ ก่อนที่จะถึงหอพัก  มีแต่อาคารร้านค้า ไม่มีสภาพสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติให้เห็นผ่านตา ทางเข้าโรงแรมและหอพักอยู่ห่างกันประมาณสี่ร้อยเมตร

   หนึ่งปีที่ผ่านมาเธอได้มาดูความเป็นอยู่ของเขาในยามว่าง และต่อมาก็เป็นทุกสัปดาห์ในช่วงหลังเทศกาลปีใหม่ของปีนี้
เดินมาเรื่อยๆ จนมองเห็นหลังคาหอพักอยู่ข้างหน้า เธอตั้งใจว่าจะขอหลบฝนในห้องของน้าโสพนักงานถูพื้นของโรงแรมซึ่งเป็นญาติห่างๆ ของอรินทร์ เดินเลี้ยวขวา เหลืออีกไม่กี่เมตรก็ถึงประตูรั้วของหอพักซึ่งอยู่ด้านหลังโรงแรมเคียงดาวเพลส

    เปิดประตูรั้วบานเล็กที่ทำจากเหล็กของหอพักแล้ว กานดาก็รีบเดินตรงดิ่งไปที่หอพักเพื่อขึ้นไปยังชั้นสองซึ่งเป็นห้องของคนที่ต้องการขอพัก
ประตูห้องนั้นเปิดอยู่ เธอมองเห็นเจ้าของห้องกำลังนั่งรีดผ้า ก้มลงนั่งพับเพียบแล้วยกมือสวัสดี “สวัสดีค่ะ คุณน้า”

   “อ้าวหนูปลา สวัสดีค่ะ เป็นไงมาไงถึงได้มาที่นี่ล่ะ” เสียงแหบๆ แต่แฝงไว้ซึ่งความมีชีวิตชีวาของเจ้าของห้องทักทาย

   มองไปที่ใบหน้าของหญิงวัยห้าสิบกว่าและเส้นผมสีดำที่ตัดสั้นถึงคอ “หนูแวะมาหาพี่อ๋อที่ร้านอาหารค่ะ แต่ไม่เจอ กำลังจะกลับไปก็พอดีฝนเกิดตกลงมา เลยแวะมาขอพักหลบฝนที่นี่สักครู่ก่อนค่ะ ฝนหยุดก็จะกลับค่ะ”

   เจ้าของห้องเชื้อเชิญให้เธอนั่งพักต่อไป “ไม่เป็นไร หนูนั่งเล่นที่นี่ก่อนก็ได้นะ น้าก็กำลังรีดผ้าให้พนักงานอยู่ พวกเขาจ้างน้าซักรีดน่ะ”
ห้องของน้าโสเป็นห้องเป็นห้องเล็กๆ ขนาดประมาณ 4x5 เมตร มีหน้าต่างบานเกล็ดอยู่สามบานตรงหลังห้อง มีเตียงนอนสองเตียง และตู้เสื้อผ้าขนาดเล็กสองตู้สำหรับน้าโส และพนักงานหญิงอีกคนพักหอพักนี้เป็นหอพักรวมแต่แยกห้องชายหญิง บางคู่เป็นสามีภรรยากันก็อาศัยอยู่ร่วมกัน แต่จะไม่อนุญาตให้นำเด็กเข้ามาเลี้ยงในบริเวณหอพัก

   “ขอบคุณมากค่ะ หากฝนหยุดตก... หนูก็คงกลับค่ะคุณน้า คงแวะขึ้นมอเตอร์ไซด์รับจ้างแถวนี้ ให้ไปส่งที่ท่ารถโดยสารค่ะ” เธอขอบคุณเจ้าของห้องอย่างจริงใจ

   พูดคุยกับเจ้าของห้องครู่หนึ่ง แต่ก็เกิดความรู้สึกเกรงใจขึ้นมา เห็นเจ้าของห้องง่วนอยู่กับการรีดผ้า เธอจึงอยากจะทำอะไรส่วนตัวบ้าง ไม่อยากนั่งอยู่เฉยๆ เพราะทำให้รู้สึกว่าตนเองว่างมากจนเกินไป

   เธออยากจะไปสอดส่องดูสักเล็กน้อยว่าอรินทร์จะไม่อยู่ที่ห้องพักเหมือนปกติที่เคยเป็นในเวลานี้หรือไม่   จึงบอกเจ้าของห้อง “คุณน้าคะ หนูแวะไปที่ห้องพี่อ๋อครู่หนึ่งนะคะ จะไปดูว่าพี่อ๋ออยู่ไหม เดี๋ยวหนูกลับมาค่ะ”

   เดินออกมาจากห้องน้าโส คิดในใจว่าอรินทร์คงไม่อยู่ที่ห้องพักเป็นแน่ ตามนิสัยของเขาที่เธอคุ้นเคยมาตลอดเวลาที่เธอเคยมาที่นี่
เพราะยามพักเวลาบ่ายสองโมงถึงสี่โมงเย็นเขาจะต้องขับจักรยานยนต์ไปที่อื่นที่เธอไม่รู้จัก และเป็นสถานที่ที่เขาไม่เคยบอกเธอทุกครั้งไป
แต่กลับประหลาดใจที่มองเห็นประตูห้องของเขาเปิดอยู่ จึงแอบเดินเข้าไปข้างใน รู้สึกแปลกใจขึ้นมามากที่มองเห็นเขายังสวมชุดพนักงานโรงแรมนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่ง

  “อ้าว! พี่อ๋อ ไม่ได้ออกไปไหนหรือคะ ปลานึกว่าจะไม่อยู่เหมือนที่เคยเป็นมาเสียอีกค่ะ”

  ห้องนี้อรินทร์เคยบอกเธอว่าเป็นห้องสำหรับพักผ่อนหลับนอนส่วนตัวและเก็บเสื้อผ้ารวมถึงสิ่งของเครื่องใช้บางชิ้นของเขา บางครั้งญาติๆ หรือเพื่อนๆ ของเขาก็เข้ามาเล่นในนี้

  เธอไม่อยากพูดคุยอะไรกับเขามากมายนัก เห็นเขานั่งนิ่งเงียบ ในใจคิดว่าเขาคงนึกถึงใครที่กำลังสนใจอยู่ อาจเป็นพนักงานสาวหน้าใหม่ๆ หน้าตาดีของโรงแรม ถึงแม้ตอนนี้เธอมั่นใจว่าเขาต้องมีคู่ขานอนด้วยประจำแล้วก็ตาม

  “ปลาออกไปนั่งเล่นที่ห้องพักของน้าโสก่อนนะคะ พี่อ๋อพักผ่อนเถอะค่ะ” กล่าวเรียบร้อยแล้วเธอก็รีบออกมาจากห้องนั้น

  แค่ทักทายอรินทร์นิดหน่อยแล้วก็บอกเขาว่าจะมานั่งเล่นที่ห้องน้าโส ไม่อยากพูดมาก กลัวเขาจะทำอะไรให้เธอไม่สบายใจอีก

   กานดาไม่คิดว่าอยากจะเจอะเจอเขาในหอพักนี้อีกเลย เพราะเธอตัดสินใจแล้วว่าจะไม่มาที่นี่อีก แม้ว่าสัปดาห์ที่แล้วอรินทร์จะเคยบอกกับเธอว่าหากเธอหมดสัญญาการจ้างงาน เขาจะหาห้องเช่าให้พักอยู่ด้วยกันสองคน และจะพยายามช่วยเหลือให้เธอทำงานที่โรงแรมเคียงดาวเพลส

  ‘อยากอยู่กับเราเหมือนคู่สามีภรรยา...ฮึ!! แต่ไม่ยอมแต่งงานตั้งแต่ต้น อีกทั้งนิสัยส่วนตัวก็ย่ำแย่ มั่วผู้หญิง!! อันธพาล!! ทำตัวเป็นเจ้าถิ่นทั้งพี่ทั้งน้องสาว คงไม่มีใครหลงกลไปอยู่ด้วยหรอกนะคะพี่อ๋อ!!!’ เธอนึกอย่างเดือดดาล และไม่เคยลืมเลือนสิ่งที่เขากระทำมาตลอดทั้งปีกับเธอ
  ‘คนที่ขาดความรักความทะนุถนอม ขาดความเอาใจใส่ หวังเพียงแค่เรื่องโลกีย์บนเตียงนอนอย่างพี่อ๋อ ปลาคงไม่ยินยอมทำตามคำพูดง่ายๆ หรอกค่ะ แค่นี้ก็เหมือนปลาได้มาพบมาเจอผีห่า ซาตาน จนขยะแขยงเต็มทนแล้ว!! เจ็บปวดจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด! ไม่อยากเอาอนาคตไปฝากไว้กับคนอย่างพี่อ๋อหรอก นี่คงยังไม่รู้ตัวว่าทำเลวอะไรไปบ้าง คนเลวๆ แบบนี้คงไม่รู้ตัวง่ายๆ นักหรอก ต่อไปเส้นทางเดินของปลาก็จะไม่มีพี่อ๋ออีกต่อไป’

  เพราะเธอเห็นตัวตนของเขาชัดเจนตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาแล้ว เธอจึงไม่สนใจเขาและไม่ใส่ใจที่จะพูดคุยอะไรกับเขามากมาย
เธอออกมารอให้ฝนหยุดตกที่ห้องน้าโสอีกครั้ง มองไปนอกประตูเห็นสายฝนเริ่มบางลง ไม่นานฝนก็หยุดตก เธอต้องการกลับที่พักโดยเร็วตามแผนการที่วางไว้  เห็นเจ้าของห้องเก็บอุปกรณ์การรีดผ้าเรียบร้อยแล้ว

  “คุณน้าคะ หนูขอบคุณมากที่กรุณาให้พักหลบฝนในวันนี้ ตอนนี้หนูคงจะกลับที่พักค่ะ”

  หญิงเจ้าของห้องซึ่งสวมผ้าถุงสำหรับอาบน้ำ และกำลังหยิบหมวกอาบน้ำมาสวมก็หันหน้ามาหาเธอ

  “หนูปลาเจออ๋อไหม ปกติเวลานี้เขาไม่ค่อยอยู่นี่ นี่น้าก็กำลังจะอาบน้ำแล้วไปตลาดหาซื้อของมาทำกับข้าวเย็น”

  “ค่ะ เจอค่ะ พี่อ๋อนั่งพักอยู่ในห้องคนเดียว แต่ปลามีธุระส่วนตัวที่จะต้องทำเลยอยู่ที่นี่ไม่ได้นานค่ะ ปลาลานะคะ”

  “ค่ะ แล้วเจอกันใหม่นะหนูปลา”

  เธอรีบกลับ หลังจากกล่าวขอบคุณ และลาเจ้าของห้องเรียบร้อยแล้ว ไม่คิดอาลัยอาวรณ์อยู่ต่อ

  เธอเคยมาที่โรงแรม และหอพัก จนคุ้นเคยกับการโดยสารรถจักรยานยนต์ และรถโดยสารประจำทางแล้ว จักรยานยนต์รับจ้างจะยินดีรับผู้โดยสารโดยไม่คิดราคามากกว่าปกติแต่อย่างใด

  เธอจ้างรถจักรยานยนต์รับจ้างให้ไปส่งยังจุดรอรถโดยสาร เพื่อโดยสารรถประจำทางกลับที่พักของเธอ ซึ่งอยู่ใกล้ชายหาดที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนี้

  นักท่องเที่ยวในแถบชายทะเลภาคตะวันออกที่เธอเห็นผ่านตามาไม่ได้ลดน้อยลงเลย แม้เหตุการณ์ 9/11 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจะผ่านไปไม่ถึงปี ชาวผิวขาวยังมาท่องเที่ยวอย่างมากมายเหมือนเมื่อตอนก่อนเกิดเหตุการณ์วินาศกรรมนั่น สองข้างถนนเต็มไปด้วยตึกสูงมากมาย นักท่องเที่ยวผมทอง สีผมต่างๆ และสีผิวต่างๆ นั่งเล่นอยู่บ้าง เดินอยู่บ้าง ขับขี่ยวดยานพาหนะต่างๆ บ้าง โดยสารรถบ้างมีมากมายตลอดหลายกิโลเมตรที่เธอผ่านมา สร้างสีสัน และความรู้สึกมีชีวิตชีวาให้เมืองนี้เป็นอย่างดี

  เมื่อขึ้นโดยสารรถประจำทางเรียบร้อยแล้ว กานดาก็นั่งรอไปจนกว่ารถจะไปจอดที่สถานีใกล้ๆ ที่พักของเธอ เธอมองเห็นเส้นทางจราจรคับคั่งไปด้วยรถรามากมาย เพราะที่นี่เป็นเมืองท่องเที่ยวแบบเปิดอีกแห่งของคนไทย ให้ผู้คนได้ทำอะไรตามใจได้อย่างอิสระมากมาย ต่างจากรูปแบบเมืองทั่วไปในประเทศไทย ใช้ระยะเวลาหนึ่งชั่วโมงรถโดยสารก็จะส่งเธอถึงที่หมาย เธอรู้สึกดีใจที่แผนต่างๆ ที่วางไว้ใกล้จะสำเร็จ เธอใกล้จะได้กลับบ้านเกิดในเย็นวันนี้ไปหาคุณแม่ที่จากมานานนับปี  แต่ก็ดีใจได้อย่างไม่มีความสุขมากนัก เพราะว่าเจ็บปวดตามเนื้อตัวตรงที่อรินทร์เคยทำร้ายไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่