[แปลแบบเต็ม #LISAxVMagazine ]
คำว่า "ความหลากหลาย" อาจถูกแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดผ่านฤดูกาล ในแต่ละปี น้ำค้างแข็งยามเช้าของฤดูหนาว สายฝนในฤดูใบไม้ผลิ วันที่ยาวนานของฤดูร้อน และใบไม้เปลี่ยนสีของฤดูใบไม้ร่วง ล้วนสร้างฉากที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากตำแหน่งของโลกเมื่อเทียบกับดวงอาทิตย์ในแต่ละช่วงเวลา สามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อวิธีการแสดงออก ความคิด และแน่นอนการแต่งกายของเรา กระตุ้นให้บุคลิกหลากหลายภายในตัวเราก้าวเข้าสู่สปอตไลท์ในช่วงเวลาหนึ่ง
ลลิษา มโนบาล วัย 27 ปี หรือที่รู้จักกันในชื่อ ลิซ่า (เผื่อว่าคุณยังไม่รู้) กำลังสำรวจความหลากหลายของตัวเองผ่านอัลบั้มเดบิวต์ที่หลายคนตั้งตารอชื่อ Alter Ego แต่จริงๆ แล้วนี่เป็นเพียงการสานต่อธีมที่มีอยู่เดิม เพราะ LS ได้แสดงความหลากหลายของตัวเองมาเป็นเวลาหลายปีซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ช่วยให้เธอโด่งดังในฐานะหนึ่งในสมาชิกของ BP วง K-Pop ที่มีชื่อเสียงระดับโลก
ศิลปินชาวไทยคนนี้สามารถเต้น แร็ป ร้องเพลง และแสดงได้ อีกทั้งยังสามารถทำสามอย่างหลังได้ถึงห้าภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ เกาหลี จีน และญี่ปุ่น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม มีการประมาณว่ามีประชากรโลกน้อยกว่า 1% เท่านั้นที่สามารถพูดได้ห้าภาษาขึ้นไป นอกจากทักษะด้านภาษาที่หลากหลายแล้ว ความเชี่ยวชาญในวงการแฟชั่นของลิซ่ายังทำให้เธอได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับแบรนด์หรูระดับโลกอย่าง C*line, Bvlgari และล่าสุด Louis Vuitton
"นี่เป็นอัลบั้มเดี่ยวเต็มชุดแรกของหนูค่ะ" LS พูดถึง Alter Ego ผ่านการสัมภาษณ์ทาง Zoom ในค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ LA หนึ่งวันก่อนการถ่ายปกให้กับ V Magazine เปลวไฟจากเตาผิงสะท้อนอยู่ในหน้าต่างด้านหลังโซฟาที่เธอนั่งอยู่ ขณะสวมแว่นกรอบใสและห่มผ้าห่มอย่างอบอุ่น
"หนูเคยปล่อย EP ไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน มีแค่สองเพลงเองค่ะ แต่ตอนนี้อยากขยายขอบเขตตัวเองมากขึ้น และลองเล่นกับซาวด์หลากหลายแนว พร้อมกับควบคุมกระบวนการสร้างสรรค์ด้วยตัวเอง"
EP ที่เธอกล่าวถึงคือ Lalisa (2021) ซึ่งประกอบด้วยสองเพลงฮิตอย่าง Lalisa และ Money ที่ทำให้ LS ได้รับการยอมรับ
ในฐานะศิลปินเดี่ยวอย่างเต็มตัว โดยเพลง Lalisa มียอดสตรีมเกิน 500 ล้านครั้งบน Spotify ในขณะที่ Money ทะลุหนึ่งพันล้านครั้งไปแล้ว
ณ ช่วงเวลาของการสัมภาษณ์ LS ได้ปล่อยเพลง "Rockstar" และ "New Woman" ที่มี Rosalía มาร่วมงานออกมาแล้ว ซึ่งทั้งสองเพลงนี้จะรวมอยู่ในอัลบั้มใหม่ด้วย
แต่เพลงเหล่านี้เป็นเพียงแค่ส่วนเล็ก ๆ ของปีที่เต็มไปด้วยความสำเร็จของ LS เธอได้ขึ้นแสดงบนเวที VSF และ MTV Video Music Awards รวมถึงการแสดงในเทศกาลดนตรีเดี่ยวครั้งแรกของเธอที่ Global Citizen Festival ใจกลางเซ็นทรัลพาร์ค NYC
ในเดือนกรกฎาคม LV ยังได้แต่งตั้งเธอเป็น BA คนใหม่ล่าสุด และเพื่อเติมเต็มความตื่นเต้น LS ยังได้เปิดตัวบริษัทของตัวเองในชื่อ LLOUD ซึ่งเป็นการประกาศจุดเริ่มต้นบทใหม่ที่กล้าหาญ ด้วยการเข้ามาควบคุมด้านธุรกิจในอาชีพของเธอมากขึ้น
“หนูภูมิใจกับทุกอย่างจริง ๆ” LS กล่าวขณะย้อนมองถึงปีที่เต็มไปด้วยความสำเร็จแบบถล่มทลาย “แต่ถ้าต้องเลือกจริง ๆ แบบเลือกไม่ได้เลย หนูก็คงเลือก VSF และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะโชว์ในปีที่แล้ว ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ถือเป็นการกลับมาของแบรนด์หลังจากพักไปถึง 6 ปี โดยมีผู้ชมเกือบ 3 ล้านคนเข้ารับชมการถ่ายทอดสด
ในโชว์ครั้งนี้ นอกจาก Tyla และ Cher แล้ว การแสดงและเพลงของ LS ยังช่วยสร้างบรรยากาศให้กับเวทีที่รวมเอาชื่อดังในวงการแฟชั่น เช่น Kate Moss, Gigi และ Bella Hadid, Tyra Banks, และ Candice Swanepoel ที่ร่วมเดินเฉิดฉายบนรันเวย์
แต่ถึงแม้ผู้ชม 3 ล้านคนของ VS จะดูเยอะมาก แต่ก็ถือเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ เมื่อเทียบกับฐานแฟนคลับของ LS ศิลปินผู้มากความสามารถคนนี้มีผู้ติดตามใน Instagram กว่า 105 ล้านคน และถือเป็นศิลปิน K-Pop ที่มียอดผู้ติดตามสูงที่สุดในโลก ด้วยตัวเลขเหล่านี้ ทั้งวงการเพลงและแฟชั่นต่างตื่นตาตื่นใจกับความสำเร็จระดับโลกและอิทธิพลที่ไม่เคยมีมาก่อนของเธอ
แม้ว่าการได้พบกับแฟน ๆ ทุกคนอาจเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ แต่ LS ก็ให้ความสำคัญกับช่วงเวลาที่ได้เชื่อมต่อกับแฟน ๆ อย่างมาก “ตอนทัวร์กับ BP หนูได้เจอแฟน ๆ เยอะมาก แต่ไม่มีเวลาที่จะได้นั่งฟังพวกเขาจริง ๆ เลยค่ะ” LSกล่าว “แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป หนูไป 5 เมือง และมีเวลาได้ฟังสิ่งที่พวกเขาอยากแชร์กับหนูจริง ๆ พวกเขายังได้ขึ้นเวทีและแสดงความรู้สึกด้วย มันเป็นช่วงเวลาคุณภาพที่ดีมาก ๆ ค่ะ”
อีกเหตุผลหนึ่งที่ LS ไม่สามารถใช้เวลากับแฟน ๆ ได้มากเท่าที่เธอต้องการ คือ ตารางงานที่แน่นขนัดอย่างเหลือเชื่อของเธอ เธอถือเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ทำงานหนักที่สุดในวงการบันเทิง และลักษณะนิสัยนี้เองที่ผลักดันให้เธอลองทำสิ่งใหม่ ๆ หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการแสดง
ในปี 2024 LS ได้ก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนมากขึ้นด้วยการเดบิวต์ในวงการโทรทัศน์เป็นครั้งแรก หากสำหรับคนทั่วไป บทบาทอย่าง “tree #2” ใน The Wizard of Oz อาจเป็นจุดเริ่มต้นธรรมดา แต่บทบาทแรกของ LS นั้นกลับเป็นตัวละครชื่อ มุก ในซีรีส์สุดฮิต TWL ss.3 ของ HBO ซึ่งได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม โดยเนื้อเรื่องในซีซั่นนี้จะเกิดขึ้นในประเทศไทย บ้านเกิดที่เธอรัก
FYI: V mag พูดถึงว่า การเดผลงานแสดงของคนอื่นอาจจะเป็นบทต้นไม้#2 ในเรื่อง The Wizard of Oz (ละครเวทีของงานโรงเรียน)
"นี่คืองานแสดงครั้งแรกของหนู ดังนั้นตอนเริ่มก็ต้องเตรียมตัวหลายอย่าง มันเป็นโลกใหม่สำหรับหนู" LS กล่าว "ตอนแรกหนูรู้สึกมั่วไปหมด แต่ในวันแรกของการถ่ายทำ ทุกคนให้การสนับสนุนดีมาก Mike White... อมก. หนูรักเขามาก เขาสุดยอดมากและบอกหนูว่าหนูทำได้ดี หนูแทบไม่เชื่อเลย"
Mike White กล่าวกับ Entertainment Weekly ว่าซีซั่นนี้จะ "นานขึ้น ยิ่งใหญ่ขึ้น และบ้าขึ้น" ซึ่งทำให้ความตื่นเต้นยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น อีกอย่างที่ไม่ใช่ความลับคือ LS รักประเทศไทยมากและดีใจที่ได้ยินว่ามีการถ่ายทำ TWL ในที่ตั้งใหม่ "คนไทยภูมิใจ"
เธอกล่าว "หนูรักวัฒนธรรมไทย บางคนอาจจะรู้แล้วว่าไทยมันเจ๋งแค่ไหน แต่หนูรู้สึกว่า [ในซีรีส์นี้] จะเป็นโอกาสที่ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักประเทศไทยและความงดงามของมันมากขึ้น...และมันสนุกมากตอนถ่ายทำด้วย แม่หนูมาที่กองถ่ายด้วย หนูเลยมีเวลาที่ดีร่วมกับเธอด้วย"
ซีรีส์นี้จะออกอากาศวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2025
เหมือนกับว่าโครงการเหล่านี้ยังไม่พอ LS ยังจะขึ้นแสดงในงาน Coachella ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นเทศกาลที่เธอได้แสดงร่วมกับ BP ในปี 2019 และได้ขึ้นแสดงเดี่ยวในปี 2023 โดยการแสดงครั้งแรกถือเป็นประวัติศาสตร์ในฐานะกลุ่ม K-Pop กลุ่มแรกที่ได้แสดง
ที่เทศกาลนี้ และการแสดงครั้งที่สองทำลายประวัติศาสตร์เป็นกลุ่ม K-Pop กลุ่มแรกที่ได้ขึ้นแสดงเป็น headlined เมื่อถามถึงแผนหรือลูกเล่นในปีหน้า LS รู้สึกตกใจเล็กน้อย "ตอนนี้หนูใช้ชีวิตไปทีละเดือน หรือวันต่อวัน หนูยังไม่คิดเลยว่าจะเป็นยังไงในปีหน้า" เธอกล่าว
"แต่แน่นอน หนูอยากโฟกัสไปที่การปล่อยอัลบั้มก่อน และจากนั้นก็จะมี TWL ที่กำลังมา"
แน่นอนว่าอนาคตของ LS ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมเหมือนเมื่อก่อน อุตสาหกรรม K-Pop มีชื่อเสียงเรื่องกฎเกณฑ์และข้อบังคับในการทำตัวหรือการแสดง แต่ตอนนี้อาชีพของ LS ก้าวข้าม K-Pop ไปแล้ว และกฎเกณฑ์เก่าๆ ก็หมดไป สำหรับ "NEW WOMEN" คนนี้ ที่มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เธอไม่ต้องอยู่ในกรอบสี "ดำ" หรือ "ชมพู" อีกต่อไป แต่เธอสามารถสำรวจทุกสีสันที่อยู่ระหว่างนั้น
จบ
เครดิตแปล @JUSTCALLMENINGG
[แปลแบบเต็ม #LISAxVMagazine ]
คำว่า "ความหลากหลาย" อาจถูกแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดผ่านฤดูกาล ในแต่ละปี น้ำค้างแข็งยามเช้าของฤดูหนาว สายฝนในฤดูใบไม้ผลิ วันที่ยาวนานของฤดูร้อน และใบไม้เปลี่ยนสีของฤดูใบไม้ร่วง ล้วนสร้างฉากที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากตำแหน่งของโลกเมื่อเทียบกับดวงอาทิตย์ในแต่ละช่วงเวลา สามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อวิธีการแสดงออก ความคิด และแน่นอนการแต่งกายของเรา กระตุ้นให้บุคลิกหลากหลายภายในตัวเราก้าวเข้าสู่สปอตไลท์ในช่วงเวลาหนึ่ง
ลลิษา มโนบาล วัย 27 ปี หรือที่รู้จักกันในชื่อ ลิซ่า (เผื่อว่าคุณยังไม่รู้) กำลังสำรวจความหลากหลายของตัวเองผ่านอัลบั้มเดบิวต์ที่หลายคนตั้งตารอชื่อ Alter Ego แต่จริงๆ แล้วนี่เป็นเพียงการสานต่อธีมที่มีอยู่เดิม เพราะ LS ได้แสดงความหลากหลายของตัวเองมาเป็นเวลาหลายปีซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ช่วยให้เธอโด่งดังในฐานะหนึ่งในสมาชิกของ BP วง K-Pop ที่มีชื่อเสียงระดับโลก
ศิลปินชาวไทยคนนี้สามารถเต้น แร็ป ร้องเพลง และแสดงได้ อีกทั้งยังสามารถทำสามอย่างหลังได้ถึงห้าภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ เกาหลี จีน และญี่ปุ่น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม มีการประมาณว่ามีประชากรโลกน้อยกว่า 1% เท่านั้นที่สามารถพูดได้ห้าภาษาขึ้นไป นอกจากทักษะด้านภาษาที่หลากหลายแล้ว ความเชี่ยวชาญในวงการแฟชั่นของลิซ่ายังทำให้เธอได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับแบรนด์หรูระดับโลกอย่าง C*line, Bvlgari และล่าสุด Louis Vuitton
"นี่เป็นอัลบั้มเดี่ยวเต็มชุดแรกของหนูค่ะ" LS พูดถึง Alter Ego ผ่านการสัมภาษณ์ทาง Zoom ในค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ LA หนึ่งวันก่อนการถ่ายปกให้กับ V Magazine เปลวไฟจากเตาผิงสะท้อนอยู่ในหน้าต่างด้านหลังโซฟาที่เธอนั่งอยู่ ขณะสวมแว่นกรอบใสและห่มผ้าห่มอย่างอบอุ่น
"หนูเคยปล่อย EP ไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน มีแค่สองเพลงเองค่ะ แต่ตอนนี้อยากขยายขอบเขตตัวเองมากขึ้น และลองเล่นกับซาวด์หลากหลายแนว พร้อมกับควบคุมกระบวนการสร้างสรรค์ด้วยตัวเอง"
EP ที่เธอกล่าวถึงคือ Lalisa (2021) ซึ่งประกอบด้วยสองเพลงฮิตอย่าง Lalisa และ Money ที่ทำให้ LS ได้รับการยอมรับ
ในฐานะศิลปินเดี่ยวอย่างเต็มตัว โดยเพลง Lalisa มียอดสตรีมเกิน 500 ล้านครั้งบน Spotify ในขณะที่ Money ทะลุหนึ่งพันล้านครั้งไปแล้ว
ณ ช่วงเวลาของการสัมภาษณ์ LS ได้ปล่อยเพลง "Rockstar" และ "New Woman" ที่มี Rosalía มาร่วมงานออกมาแล้ว ซึ่งทั้งสองเพลงนี้จะรวมอยู่ในอัลบั้มใหม่ด้วย
แต่เพลงเหล่านี้เป็นเพียงแค่ส่วนเล็ก ๆ ของปีที่เต็มไปด้วยความสำเร็จของ LS เธอได้ขึ้นแสดงบนเวที VSF และ MTV Video Music Awards รวมถึงการแสดงในเทศกาลดนตรีเดี่ยวครั้งแรกของเธอที่ Global Citizen Festival ใจกลางเซ็นทรัลพาร์ค NYC
ในเดือนกรกฎาคม LV ยังได้แต่งตั้งเธอเป็น BA คนใหม่ล่าสุด และเพื่อเติมเต็มความตื่นเต้น LS ยังได้เปิดตัวบริษัทของตัวเองในชื่อ LLOUD ซึ่งเป็นการประกาศจุดเริ่มต้นบทใหม่ที่กล้าหาญ ด้วยการเข้ามาควบคุมด้านธุรกิจในอาชีพของเธอมากขึ้น
“หนูภูมิใจกับทุกอย่างจริง ๆ” LS กล่าวขณะย้อนมองถึงปีที่เต็มไปด้วยความสำเร็จแบบถล่มทลาย “แต่ถ้าต้องเลือกจริง ๆ แบบเลือกไม่ได้เลย หนูก็คงเลือก VSF และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะโชว์ในปีที่แล้ว ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ถือเป็นการกลับมาของแบรนด์หลังจากพักไปถึง 6 ปี โดยมีผู้ชมเกือบ 3 ล้านคนเข้ารับชมการถ่ายทอดสด
ในโชว์ครั้งนี้ นอกจาก Tyla และ Cher แล้ว การแสดงและเพลงของ LS ยังช่วยสร้างบรรยากาศให้กับเวทีที่รวมเอาชื่อดังในวงการแฟชั่น เช่น Kate Moss, Gigi และ Bella Hadid, Tyra Banks, และ Candice Swanepoel ที่ร่วมเดินเฉิดฉายบนรันเวย์
แต่ถึงแม้ผู้ชม 3 ล้านคนของ VS จะดูเยอะมาก แต่ก็ถือเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ เมื่อเทียบกับฐานแฟนคลับของ LS ศิลปินผู้มากความสามารถคนนี้มีผู้ติดตามใน Instagram กว่า 105 ล้านคน และถือเป็นศิลปิน K-Pop ที่มียอดผู้ติดตามสูงที่สุดในโลก ด้วยตัวเลขเหล่านี้ ทั้งวงการเพลงและแฟชั่นต่างตื่นตาตื่นใจกับความสำเร็จระดับโลกและอิทธิพลที่ไม่เคยมีมาก่อนของเธอ
แม้ว่าการได้พบกับแฟน ๆ ทุกคนอาจเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ แต่ LS ก็ให้ความสำคัญกับช่วงเวลาที่ได้เชื่อมต่อกับแฟน ๆ อย่างมาก “ตอนทัวร์กับ BP หนูได้เจอแฟน ๆ เยอะมาก แต่ไม่มีเวลาที่จะได้นั่งฟังพวกเขาจริง ๆ เลยค่ะ” LSกล่าว “แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป หนูไป 5 เมือง และมีเวลาได้ฟังสิ่งที่พวกเขาอยากแชร์กับหนูจริง ๆ พวกเขายังได้ขึ้นเวทีและแสดงความรู้สึกด้วย มันเป็นช่วงเวลาคุณภาพที่ดีมาก ๆ ค่ะ”
อีกเหตุผลหนึ่งที่ LS ไม่สามารถใช้เวลากับแฟน ๆ ได้มากเท่าที่เธอต้องการ คือ ตารางงานที่แน่นขนัดอย่างเหลือเชื่อของเธอ เธอถือเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ทำงานหนักที่สุดในวงการบันเทิง และลักษณะนิสัยนี้เองที่ผลักดันให้เธอลองทำสิ่งใหม่ ๆ หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการแสดง
ในปี 2024 LS ได้ก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนมากขึ้นด้วยการเดบิวต์ในวงการโทรทัศน์เป็นครั้งแรก หากสำหรับคนทั่วไป บทบาทอย่าง “tree #2” ใน The Wizard of Oz อาจเป็นจุดเริ่มต้นธรรมดา แต่บทบาทแรกของ LS นั้นกลับเป็นตัวละครชื่อ มุก ในซีรีส์สุดฮิต TWL ss.3 ของ HBO ซึ่งได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม โดยเนื้อเรื่องในซีซั่นนี้จะเกิดขึ้นในประเทศไทย บ้านเกิดที่เธอรัก
FYI: V mag พูดถึงว่า การเดผลงานแสดงของคนอื่นอาจจะเป็นบทต้นไม้#2 ในเรื่อง The Wizard of Oz (ละครเวทีของงานโรงเรียน)
"นี่คืองานแสดงครั้งแรกของหนู ดังนั้นตอนเริ่มก็ต้องเตรียมตัวหลายอย่าง มันเป็นโลกใหม่สำหรับหนู" LS กล่าว "ตอนแรกหนูรู้สึกมั่วไปหมด แต่ในวันแรกของการถ่ายทำ ทุกคนให้การสนับสนุนดีมาก Mike White... อมก. หนูรักเขามาก เขาสุดยอดมากและบอกหนูว่าหนูทำได้ดี หนูแทบไม่เชื่อเลย"
Mike White กล่าวกับ Entertainment Weekly ว่าซีซั่นนี้จะ "นานขึ้น ยิ่งใหญ่ขึ้น และบ้าขึ้น" ซึ่งทำให้ความตื่นเต้นยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น อีกอย่างที่ไม่ใช่ความลับคือ LS รักประเทศไทยมากและดีใจที่ได้ยินว่ามีการถ่ายทำ TWL ในที่ตั้งใหม่ "คนไทยภูมิใจ"
เธอกล่าว "หนูรักวัฒนธรรมไทย บางคนอาจจะรู้แล้วว่าไทยมันเจ๋งแค่ไหน แต่หนูรู้สึกว่า [ในซีรีส์นี้] จะเป็นโอกาสที่ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักประเทศไทยและความงดงามของมันมากขึ้น...และมันสนุกมากตอนถ่ายทำด้วย แม่หนูมาที่กองถ่ายด้วย หนูเลยมีเวลาที่ดีร่วมกับเธอด้วย"
ซีรีส์นี้จะออกอากาศวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2025
เหมือนกับว่าโครงการเหล่านี้ยังไม่พอ LS ยังจะขึ้นแสดงในงาน Coachella ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นเทศกาลที่เธอได้แสดงร่วมกับ BP ในปี 2019 และได้ขึ้นแสดงเดี่ยวในปี 2023 โดยการแสดงครั้งแรกถือเป็นประวัติศาสตร์ในฐานะกลุ่ม K-Pop กลุ่มแรกที่ได้แสดง
ที่เทศกาลนี้ และการแสดงครั้งที่สองทำลายประวัติศาสตร์เป็นกลุ่ม K-Pop กลุ่มแรกที่ได้ขึ้นแสดงเป็น headlined เมื่อถามถึงแผนหรือลูกเล่นในปีหน้า LS รู้สึกตกใจเล็กน้อย "ตอนนี้หนูใช้ชีวิตไปทีละเดือน หรือวันต่อวัน หนูยังไม่คิดเลยว่าจะเป็นยังไงในปีหน้า" เธอกล่าว
"แต่แน่นอน หนูอยากโฟกัสไปที่การปล่อยอัลบั้มก่อน และจากนั้นก็จะมี TWL ที่กำลังมา"
แน่นอนว่าอนาคตของ LS ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมเหมือนเมื่อก่อน อุตสาหกรรม K-Pop มีชื่อเสียงเรื่องกฎเกณฑ์และข้อบังคับในการทำตัวหรือการแสดง แต่ตอนนี้อาชีพของ LS ก้าวข้าม K-Pop ไปแล้ว และกฎเกณฑ์เก่าๆ ก็หมดไป สำหรับ "NEW WOMEN" คนนี้ ที่มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เธอไม่ต้องอยู่ในกรอบสี "ดำ" หรือ "ชมพู" อีกต่อไป แต่เธอสามารถสำรวจทุกสีสันที่อยู่ระหว่างนั้น
จบ
เครดิตแปล @JUSTCALLMENINGG