แชร์เรื่องการใช้ชีวิตใน จาการ์ต้า อินโดนีเซีย แล้วคุณจะรู้จักเมืองนี้ดีขึ้นครับ

สวัสดีครับเพื่อน ทิ้งห่างจากกระทู้แรกไปสักเนื่องจากช่วงนี้หลังตรุษจีนงานยุ่งมาก วันนี้จะมาเล่าเรื่องการใช้ชีวิตของผมในจาการ์ต้าครับ หลังจากเคยแชร์เรื่องการเรียนภาษาอินโดนีเซียและการใช้จริงมาก่อนหน้า (http://ppantip.com/topic/33296993)
พูดถึงจาการ์ต้าหลายคนก็นึกไม่ค่อยออกว่ามีอะไรใช่ไหมครับ ก่อนที่ผมไปก็จินตนาการว่าเป็นเมืองที่คนเยอะๆ รถติดหนัก มีคนบอกหนักกว่ากรุงเทพ พอไปเริ่มใช้ชีวิตที่จาการ์ต้าแล้วก็รู้เลยครับว่า ที่ฟังๆมายังมีข้อมูลน้อยไป

จาการ์ต้าเป็นเมืองใหญ่ในอินโดนีเซียครับ แต่เอาจริงๆขนาดพื้นที่เล็กกว่ากรุงเทพเรา สองเท่ากว่า แต่ประชากว่าประมาณ 12 ล้านคนครับ กรุงเทพเราประมาณ 8-9 ล้านคน ทำให้ความหนาแน่นของคนในจาการ์ต้าสูงถึง 3 เท่าตัวของกรุงเทพ (คิดดูว่าจะเยอะขนาดไหนครับ) ความแออัดนี้ส่งผลหลายอย่างมาก ต่อจาการ์ต้า ได้แก่
1 . คนในจาการ์ต้าอยู่ในชุมชนแออัดเยอะมาก บ้านหลังเล็กจริงๆครับ คนเขาเยอะส่วนหนึ่งอาจเพราะเป็นหลักศาสนาที่ไม่คุมกำเนิดครับ

2. ความเหลื่อมล้ำของคนในสังคมเยอะมาก จนก็จนสุดๆ รวยก็รวยสุดๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนจีนครับที่ทำธุรกิจแล้วจะมีฐานะ
3.ราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่ราคาสูงมาก ในจาการ์ต้าก็เหมือนกรุงเทพครับ ราคาก็ต่างกันแล้วแต่ย่าน คนรวยบางคนจะอยู่คอนโดหรูแทนเนื่องจากปลอดภัย
4. การขโมยของ โจรวิ่งราวก็มีพอสมควรครับ คนจนเยอะก็เลือกที่จะขโมยครับ เคยเจอกับตัวตอนนั่งรถบัสไปซื้อของ โดนล้วงกระเป๋ากางเกง ดีที่โทรศัพท์ดังจึงรู้ตัวครับ ตอนนั้นผมปัดมือโจร โจรก็วิ่งไวมาก
5. ปัญหาเรื่องการคมนาคม ถนนแคบมากครับ ขับรถลำบาก คนเยอะรถก็เยอะ ติดหนักสุดๆ ไม่รู้จธิบายว่าติดยังไง เอาเป็นว่าเคยอยู่ในรถชั่วโมงหนึ่งแค่ระยะทางกิโลเดียว ต้องใจเย็นจริงๆครับ แล้วที่นี้ไม่มีรถไฟฟ้า มีแต่รถบัส ชื่อว่า Trans Jakarta เขาเรียกกัน Busway รถนี้จะมีรางของตัวเองที่แยกจากรถปกติ แต่คนนี้ก็ใช้รางรถนี้แหละครับ เพราะถนนแคบมาก


6. ขยะและน้ำเสียเยอะจริงๆ คืออยู่มาไม่เคยเห็นแม่น้ำใสๆมรจาการ์ต้าเลยครับ ที่มาคงมาจากบ้านเรือนที่ทิ้งขยะกันครับ คนเยอะ ขยะก็ตามมา คนที่นี้ชอบทิ้งขยะกันไม่เป็นที่ (เหมือนไทย แต่ขยะเยอะกว่า หาดูได้ตามข้างทาง)


อย่าเพิ่งกลัวที่จะมาเยือนจาการ์ต้านะครับเพราะจริงแล้วก็มีข้อดีของเมืองเยอะเช่นกันครับเช่น
1.    จาการ์ต้ามีห้างเยอะมากๆ เยอะกว่ากรุงเทพอีก ห้างของเขาใหญ่จริงๆ หลายห้างจะทำคอนโดอยู่บ้านบนครับ ของแบรนด์ต่างๆก็เยอะ ราคาไม่แน่ใจว่าถูกแพงขนาดไหนครับ แต่ดูแล้วเหมาะกับคนชอบช้อปปิ้งไม่น้อย คนที่นี้ชอบเข้าห้างกันเพราะข้างนอกร้อนมาก

2.    แม้อากาศจะร้อนและฝนตกบ่อย คนเขาก็ยิ้มแย้ม และพยายามช่วยเหลือเราเสมอครับ ภาษาอังกฤษอาจจะไม่ดีมาก แต่เขาก็พยายามสื่อสารกับเรา แต่ถ้าจะดีเราควรใช้ภาษาอินโดครับ
3.    สถานที่ท่องเที่ยวในจาการ์ต้าก็มีพอสมควรครับ มีตั้งแต่วัด โบสถ์ มัสยิด สวนสนุก museum และทะเลที่สวยมากทางตอนเหนือ ไว้คราวหลังจะมาเล่าเรื่องเที่ยวครับ  
4.    ค่าครองชีพที่นี้นับว่าไม่แพงมากครับ พอๆกับกรุงเทพเลย หากอยู่แบบพอเพียงจะสามารถประหยัดได้มากครับ ผมก็จะกินข้าวโรงอาหารที่ออฟฟิศก็จะประมาณ 50 บาทไทยครับ หากกินที่ห้างก็สูงหน่อย เกือบ 100 หรือเกิน 100 บาท
5.    โอกาสทางธุรกิจมีมากครับ การลงทุนของต่างชาติก็เพิ่มขึ้นที่จาการ์ต้า เนื่องจากประชากรที่มากกำลังซื้อจะมากตามครับ ในอนาคต
6.    หลายคนคิดว่าคนอินโดไม่หล่อไม่สวย คิดผิดเลยครับ คนที่นี้ก็จะหลากหลายมากครับ หนุ่มสาวที่นี้ก็นิยมแฟชันกันเยอะ คนรุ่นใหม่แต่งตัวดีมากครับ เจอในห้างสวยหล่อเยอะเลย คนจีนก็จะหมวยๆตี๋แบบไม่ผสมครับ เพราะปกติคนจีนจะไม่แต่งงานกับคนมุสลิม คนมุสลิมผิวดี มักจะมาจากชวา เรียกว่าชาวซุนดาห์ครับ หน้าคม ผิวขาว
7.     อาหารอร่อยดีครับ อาจจะไม่รสจัดมากเท่าอาหารไทย แต่ว่ามีให้เลือกหลากหลายครับ แนะนำว่าไม่ควรพลาด

สะเต้ะเนื้อแกะ อร่อยจริงๆ แล้วก็น้ำพริกที่นี้รสชาติดีครับ ถึงกับมีร้านน้ำพริกเปิดเป็นร้านใหญ่เลย เรียก
Restoran sambal (ไม่มี t ครับ ออกเสียง เรสโตราน ซำบอล)


และที่ต้องมาชิมคือ Sop durian คือไอศครีมทุเรียนแต่รสชาติดีจริงๆ ต้องลอง  

โดยรวมแล้ว ถามว่าสะดวกเหมือนกรุงเทพไหม ก็ไม่เท่าครับ อยู่ไหนก็ไม่สบายใจเหมือนเมืองไทยเรา การอยู่ต่างประเทศทำให้เราเห็นอะไรหลายอย่าง ทำให้ได้ประสบการณ์ที่หาไม่ได้ในไทย การทำงานกับคนต่างชาติก็ปัญหาเยอะกว่าทำกับคนไทย ช่วงปรับตัวก็เหนื่อยหน่อยครับ แต่พออยู่ไปก็จะรับมือได้  นานๆเข้าจะหลงรักจาการ์ต้า อยากกลับไปอีกแน่นอนครับ หากใครมีไรถามก็ถามได้ครับ หรือหลังไมค์ได้เลย ไว้คราวหน้าจะมาเล่าเรื่องท่องเที่ยวในจาการ์ต้าครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่