ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิพย์ครับ เป็นครั้งแรกที่ผมโพสต์เล่าเรื่องครั้งแรก ครั้งนี้อยากแชร์ประสบการณ์ตัวเองที่มีครับ เผื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่นครับ ตอนนี้ผมทำงานที่มาเลเซียครับ ก่อนหน้านี้เคยทำงานที่จาการ์ตาครับ ผมเคยเรียนภาษาอินโดนีเซียที่จุฬาครับ เป็นโครงการอบรมภาษาอินโดนีเซียสำหรับธุรกิจ จัดโดยศูนย์บริการวิชาการ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นเวลา 6เดือนครับ สอนโดยอาจารย์ชาวอินโดนีเซียที่มีประสบการณ์และพูดไทยชัดมากครับ รายละเอียดดูจาก http://www.arts.chula.ac.th/~asc/home/?p=12 นะครับ

เมื่อพูดถึงอินโดนีเซีย หลายคนจะคิดถึงไม่กี่อย่าง เช่น เกาะบาหลี บุโรพุทโธ หรือไม่ก็ผ้าบาติก ซึ่งตอนแรกผมเองก็แทบไม่รู้จักประเทศนี้เลย หลังจากได้งานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เขาก็แนะนำให้เรียนภาษาก่อนไป หกเดือนครับ การเรียนที่นี้ไม่ใช่แค่ได้เรียนภาษาอย่างเดียว อาจารย์จะแทรกแนวคิด การใช้ชีวิตและวัฒนธรรมของคนอินโดนีเซียไปด้วยครับ บรรยากาศการเรียนก็สนุกสนานครับ เราเรียนคอร์สละประมาณ 3 เดือน เรียนวันเสาร์ ครั้งละ 3 ชั่วโมงครับ อาจจะดูน้อยนะครับ 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ครับ แต่เพียงพอสำหรับคนที่ตั้งใจครับ ในคลาสจะมีคนเรียนไม่เยอะครับมาถึง 10 คน แต่ละคนมีจุดประสงค์ในการเรียนต่างกันครับ อย่างผมจะไปทำงาน บางคนชอบภาษาอินโด บางคนชอบเที่ยวอินโด ทำธุรกิจกับคนอินโด บางคนมีแฟนคนอินโดก็มีครับ  อาจารย์จะคุยกับทุกคน อาจารย์จะสอนทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียนครับ โดยคอร์สแรก จะได้เบื้องต้นครับอาจจะพูดไม่ค่อยได้ ส่วนตัวสองก็ยากขึ้นครับ เนื้อหาจะเน้นการนำไปใช้จริง การใช้ชีวิตประจำวัน ศัพท์จะเยอะขึ้นครับ

การเรียนภาษาอินโดนั้นไม่ยากสำหรับคนไทยครับ เพราะการเรียงรูปประโยคเหมือนไทยครับ เช่น
Besok saya akan pergi ke pasar untuk membeli ayam dan sayur.  
พรุ่งนี้   ฉัน    จะ     ไป   ที่ ตลาด  เพื่อ        ซื้อ    เนื้อไก่  และ  ผัก
เพราะฉนั้นหลักการเรียงประโยคจะไม่ต้องคิดอะไรมาก ที่สำคัญต้องจำศัพท์และการออกเสียงให้ได้ครับ เพราะการเขียนจะใช้ตัวอักษรอังกฤษครับ การออกเสียงภาษาอินโดนั้นเป็นเอกลักษณ์ครับ มีความคล้ายภาษามาเลย์แต่ไม่เหมือนครับ ภาษามลายูมีการใช้ในหลายประเทศครับเช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไน และบางส่วนของสิงคโปร์ครับ  เป็นกลุ่มภาษาที่มีต้นกำเนิดเดียวกัน และมีความต่างกันตามพื้นที่ ภาษาอินโด จะได้รับอิทธิพลจากดัชต์เยอะครับ เพราะเคยดัชต์ครอบครองเป็นเวลานาน บางคำจะเป็นคำทับศัพท์ดัชต์ครับ ส่วนมาเลย์ที่ใช้ในมาเลเซียนั้นจะได้รับอิทธิพลจากอังกฤษมากกว่าครับ ส่วนตัวผมว่ามาเลย์ง่ายกว่า และออกเสียงง่ายกว่าครับ

ภาษาอินโดจะออกเสียงตัว R ชัดมากๆๆ แต่คนไทยมี ร ซึ่งเราจะง่ายต่อการออกเสียง ผมว่าตัวR ในอินโดจะชัดกว่า ร บ้านเราครับ เช่น Jakarta คนทั่วจะออกเสียง จาการ์ตา ไม่ออก r แต่คนอินโด ออก จาการรรรต้า ลิ้นรัวกันมันมากครับ แต่มาเลย์ออก R ไม่ชัด  เรื่องไวยกรณ์ก็เหมือนไทยครับ ไม่มีรูปอดีต มีแต่บอกว่าเคยทำอะไร ใช้คำว่า Pernah (เปอรนะห์) โดยรวมๆคือภาษาอินโดนั้นน่าเรียนมากครับ ไม่ยากเลย  ภาษาต้องฝึกฝนครับ ช่วงเรียนเวลาไปเดินสยาม เจอคนอินโดจะพยายามคุยด้วยครับ คนอินโดอัธนาศัยดี ยิ้มแย้มดีครับ มาเที่ยวกรุงเทพเยอะมาก โดยเฉพาะสยามพารากอน มาบุญครอง และประตูน้ำ เวลาช่วงทุเรียนเยอะๆ คนอินโดมาไทยจะซื้อกันเยอะมากครับเขาชอบกินทุเรียนกันมาก โดยเฉพาะ Durian Bangkok (ดุเรียน บางก้อก)
ผมมีเคล็ดลับการเรียนให้ประสำความสำเร็จครับ ทำไม่ยากเลย ลองดูกันครับ

1.    ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศอินโดนีเซียในหลายๆด้านครับ เช่นวัฒนธรรม ประชากร บ้านเมือง การเมือง เป็นต้น เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองครับ อยากเรียนรู้มากขึ้น
2.     เนื่องจากผมได้งานก่อนเรียนจบหกเดือนครับ ตอนเรียนก็เรียนหนักครับในวันธรรมดา วันเสาร์ก็มาเรียนภาษา ต้องแบ่งเวลาดีๆครับ ต้องจัดสรรการอ่านทั้งที่เรียนปกติและทบทวนภาษา
3.    ตอนเรียนภาษา ผมจะชอบอ่านไปล่วงหน้าไปคร่าวๆครับ ตอนเช้าก่อนเข้าเรียนทุกครั้ง ในห้องต้องตั้งใจเรียนให้มาก พยายามมีส่วนร่วมในการถามและตอบคำถามครับ เพราะเราจะเจอเจ้าของภาษาแค่สามชั่วโมงนี้เอง นี่คือโอกาสในการเรียนรู้ของเรา
4.    ผมจะอ่านหนังสือภาษาทุกวันครับ เพราะชอบเรียนภาษามาก บวกกับหาแรงบันดาลใจจากข้อมูลต่างๆที่เคยอ่านครับ บอกก่อนว่าผมไม่ได้เรียนสายภาษาครับ เรียนสายวิทย์ครับ ตอนอ่านก็จะจดศัพท์ใหม่ทุกวัน ทวนบ่อยๆ ฝึกออกเสียงด้วยครับ
5.    ผมจะหาเพื่อนชาวอินโด แชทไลน์ทุกวันครับ หรือเฟสบุ๊คครับ โชคดีที่ผมเคยทำกิจกรรมแล้วรู้จักเพื่อนอินโดหลายคนครับ แชทตอนเย็นทุกวันจนสนิทกันไปเลย เพื่อนจะสอดแทรกศัพท์ที่ใช้ทั่วไป แสลง คำพวกนี้ตอนเรียนเราจะไม่คุ้นครับ คนอินโดจะพิมพ์และพูดย่อๆ บางทีก็ย่อตลกๆ เช่น TTDJ = Hati Hati di jalan คือเดินทางปลอดภัยครับ
6.    ยังไม่พอครับ ต้องหาไรทำเพิ่ม ผมจะหาเพลงอินโดฟังครับ ฟังทุกวัน จำได้ว่าเพลงแรกที่ฟังและชอบจนถึงทุกวันนี้ คือ Cinta ini membunuhku (รักนี้ฆ่าฉันแล้ว) เป็นเพลงเศร้าของวง D’Massive ครับ ที่คนอินโดทุกคนรู้จักแน่นอน ผมจะชอบปรินท์เพลงมาแปล และฝึกร้องครับ ตอนนี้ก็ยังฟังเพลงอินโดทุกวันครับ แม้จะย้ายมามาเลเซียแล้วก็ตามครับ
7.    หาหนังมาดูครับ ผมติดหนังอินโดเยอะมากหลายเรื่อง ได้ทั้งภาษาและเห็นวิถีชีวิตครับ ผมเป็นพุทธแต่ก็เข้าใจศาสนาอิสลามมากขึ้นจากหนังอินโดครับ ที่แนะนำคือ Ketika cinta bertasbih สนุกมากครับ หนังรักที่นางเอกสวย เรียบร้อย (สเป้กผมเลย 555) , Ayat ayat cinta (หนังรักสามเศร้าที่อินจริงๆ), Merah putih (แปลว่าแดง ขาว คือการรวมชาติของอินโดครับ มันมากๆครับ ) ,Jokowi (อัตชีวประวัติของประธานาธิบดี คนปัจจุบันครับ ชอบมากครับ) และอื่นๆ สนุกเยอะมากครับ
8.    อ่านรีวิวท่องเที่ยวเยอะๆครับ ทำให้อยากไปอินโดมากขึ้น จากพันทิพย์นี่แหละครับ เยอะมากๆ
พอเรียนจบ 6 เดือนแล้วก็จบปีสุดท้ายพอดีครับ ผมก็เทรนงานที่ไทยสองเดือน แล้วอินโดเลยครับ เรื่องการใช้ชีวิตในอินโด รอต่อภาคหน้าครับ ถามว่าหกเดือนเป็นยังไง สำหรับผมถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีครับ เพราะเรียนในห้องคุยกับอาจารย์ก็ประโยคจากหนังสือ แต่นี่คือชีวิตจริง ผมก็บินจากไทยโชคดีที่นั่งข้างสาวสวยคนอินโด เลยชวนคุยภาษาอินโดตอนนั่งเครื่องครับ สนุกมาก เขาบอกว่าการออกเสียงเราไม่คล่องมาก แต่สำเนียงชัด ผมดีใจมากครับ เพราะความคล่องจะฝึกได้ในการใช้ทุกวัน คุยกันเยอะมากครับ จนลงเครื่องเพิ่งรู้แฟนเขามาด้วยแต่นั่งข้างหลัง 555 งงว่าทำไมไม่นั่งติดกัน ดีนะที่ผมไม่ได้จีบ ไม่งั้นคงมีมวยบนเครื่องบินไปละ 55

การทำงานในออฟฟิศผมก็อยู่ในย่านธุรกิจของจาการ์ตาครับ ตอนทำงานก็มีเพื่อนที่ทำงานเป็นคนไทยอีกสองคน อยู่บ้านหลังเดียวกันครับ เจ้านายใหญ่ที่นี้เป็นคนอินโด ผมก็พยายามใช้ภาษาที่เรียนมาให้มากที่สุดกับเจ้านายและเพื่อนร่วมงาน แล้วใช้อังกฤษให้น้อยครับ พยายามส่งอีเมลล์เป็นภาษาอินโดด้วย เวลาไปเจอลูกค้าก็พยายามใช้อินโดครับ แต่ก็ยังไม่คล่องในช่วงแรก อยู่ไปเรื่อยๆก็ชัดและคล่องขึ้นครับ คนอินโดก็เหมือนคนไทยครับ จะไม่ค่อยใช้ภาษาอังกฤษเท่าไหร่ คนพูดอังกฤษได้บ้างแต่ไม่มาก แม้แต่จบมหาลัยแล้วก็ตาม การทำงานที่นี้นอกจากภาษาที่สำคัญมากแล้ว การปรับตัวเรื่องวัฒนธรรมการใช้ชีวิตนี่ก็เป็นเรื่องสำคัญครับ ไว้ผมจะเล่าต่อไปนะครับ วันนี้ขอตัวก่อน  มีคำถามอะไรหลังไมค์ได้ครับผม