ล้อมกรอบทำธุรกิจโซล่าร์ฟาร์ม
ห้ามเปลี่ยนมือ-เปลี่ยนผู้ถือหุ้น
ข่าวล่ามาแรง! อ้างอิงถึงกฎระเบียบเกี่ยวกับทำธุรกิจโซลาร์ฟาร์มล็อต 500 เมกฯ ที่ตกค้างจาก 1,300 เมกฯ ห้ามทำการเปลี่ยนมือเจ้าของโดยเด็ดขาด และห้ามเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น ล่าสุดเช็คข่าวกันให้ฝุ่นตลบมีใครโดนผลกระทบจากเรื่องนี้จังๆ
แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ร่างหลักเกณฑ์และระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงของภาครัฐ ในส่วนของโครงการโซลาร์ฟาร์มที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2557 ก็เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นระเบียบในการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการดังกล่าวต่อไป
โดยที่ผ่านมาทางคณะกรรมการบริหารมาตรการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียน (อาร์อี) มีปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ได้มีการพิจารณาอนุมัติตอบรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโซลาร์ฟาร์มจำนวน 80 โครงการ กำลังการผลิตประมาณ 500 เมกะวัตต์ จากที่ค้างท่ออยู่ 177 โครงการ กำลังการผลิต 1.073 พันเมกะวัตต์ เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีสายส่งรองรับการจ่ายไฟฟ้าอยู่แล้ว ส่วนที่เหลือ 97 โครงการนั้น ได้ให้ผู้ประกอบการไปหารือกับทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ว่ามีพื้นที่ไหนที่ยังรองรับการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้บ้าง และส่งกลับมาให้คณะกรรมการอาร์อีพิจารณาใหม่
จากปัญหาความล่าช้าของโครงการที่เหลืออยู่ทำให้คณะกรรมการเร่งตรวจสอบผู้ที่ได้รับใบอนุญาตตอบรับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มไปแล้ว แต่ไม่ดำเนินการก่อสร้าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงว่าจะมีการเร่ขายใบอนุญาตกัน ดังนั้น ทางกระทรวงพลังงานจะเข้าไปตรวจสอบโครงการทุกแห่ง หากพบรายใดมีพฤติกรรมดังกล่าว ก็จะทำการยกเลิกสัญญาและยึดใบอนุญาตคืนมาทันที
โดยขณะนี้พบว่ามีจำนวน 14 ราย กำลังผลิต 243.49 เมกะวัตต์ ที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (พีพีเอ) แล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการก่อสร้าง และจากกฎระเบียบล่าสุดที่ได้มีการร่างขึ้นมาใหม่นั้น ได้มีการวางระเบียบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นเพิ่มเติม เพื่อเป็นการป้องกันทางอ้อมไว้อีกทีหนึ่ง เพราะปัญหาการเร่ขายใบอนุญาติยังมีให้เป็นข่าวตลอดเวลา
“ตอนนี้กำลังเช็คข่าวว่า ใครได้รับผลกระทบการตั้งกฎระเบียบบ้าง เพราะที่ผ่านมามีหุ้นหลายตัวประกาศว่า ตัวเองจะไปซื้อใบอนุญาติ แต่ในเมื่อภาครัฐตีกรอบเรื่องดังกล่าว หุ้นตัวนั้นน่าจะได้รับผลกระทบมากเลยทีเดียว” แหล่งข่าวกล่าว
ปล.ข่าวจากline
ล้อมกรอบทำธุรกิจโซล่าร์ฟาร์ม ห้ามเปลี่ยนมือ-เปลี่ยนผู้ถือหุ้น
ห้ามเปลี่ยนมือ-เปลี่ยนผู้ถือหุ้น
ข่าวล่ามาแรง! อ้างอิงถึงกฎระเบียบเกี่ยวกับทำธุรกิจโซลาร์ฟาร์มล็อต 500 เมกฯ ที่ตกค้างจาก 1,300 เมกฯ ห้ามทำการเปลี่ยนมือเจ้าของโดยเด็ดขาด และห้ามเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น ล่าสุดเช็คข่าวกันให้ฝุ่นตลบมีใครโดนผลกระทบจากเรื่องนี้จังๆ
แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ร่างหลักเกณฑ์และระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงของภาครัฐ ในส่วนของโครงการโซลาร์ฟาร์มที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2557 ก็เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นระเบียบในการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการดังกล่าวต่อไป
โดยที่ผ่านมาทางคณะกรรมการบริหารมาตรการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียน (อาร์อี) มีปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ได้มีการพิจารณาอนุมัติตอบรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโซลาร์ฟาร์มจำนวน 80 โครงการ กำลังการผลิตประมาณ 500 เมกะวัตต์ จากที่ค้างท่ออยู่ 177 โครงการ กำลังการผลิต 1.073 พันเมกะวัตต์ เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีสายส่งรองรับการจ่ายไฟฟ้าอยู่แล้ว ส่วนที่เหลือ 97 โครงการนั้น ได้ให้ผู้ประกอบการไปหารือกับทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ว่ามีพื้นที่ไหนที่ยังรองรับการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้บ้าง และส่งกลับมาให้คณะกรรมการอาร์อีพิจารณาใหม่
จากปัญหาความล่าช้าของโครงการที่เหลืออยู่ทำให้คณะกรรมการเร่งตรวจสอบผู้ที่ได้รับใบอนุญาตตอบรับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มไปแล้ว แต่ไม่ดำเนินการก่อสร้าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงว่าจะมีการเร่ขายใบอนุญาตกัน ดังนั้น ทางกระทรวงพลังงานจะเข้าไปตรวจสอบโครงการทุกแห่ง หากพบรายใดมีพฤติกรรมดังกล่าว ก็จะทำการยกเลิกสัญญาและยึดใบอนุญาตคืนมาทันที
โดยขณะนี้พบว่ามีจำนวน 14 ราย กำลังผลิต 243.49 เมกะวัตต์ ที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (พีพีเอ) แล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการก่อสร้าง และจากกฎระเบียบล่าสุดที่ได้มีการร่างขึ้นมาใหม่นั้น ได้มีการวางระเบียบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นเพิ่มเติม เพื่อเป็นการป้องกันทางอ้อมไว้อีกทีหนึ่ง เพราะปัญหาการเร่ขายใบอนุญาติยังมีให้เป็นข่าวตลอดเวลา
“ตอนนี้กำลังเช็คข่าวว่า ใครได้รับผลกระทบการตั้งกฎระเบียบบ้าง เพราะที่ผ่านมามีหุ้นหลายตัวประกาศว่า ตัวเองจะไปซื้อใบอนุญาติ แต่ในเมื่อภาครัฐตีกรอบเรื่องดังกล่าว หุ้นตัวนั้นน่าจะได้รับผลกระทบมากเลยทีเดียว” แหล่งข่าวกล่าว
ปล.ข่าวจากline