หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ธรรมชาตินี้....
กระทู้สนทนา
ศาสนาพุทธ
ปฏิบัติธรรม
พระธรรมวิสุทธิมงคล (บัว ญาณสมฺปนฺโน)
เรื่องกิเลส
คำว่ากิเลส ๆ
เป็นธรรมชาติอันหนึ่ง
ที่กลมกลืนกันกับใจดวงรู้ ๆ นี้
ถ้าจะว่ามืดก็มืดมิดปิดตามองไม่เห็นใจเลย สักแต่ว่ารู้ แต่สิ่งที่เราไม่คิดไม่คำนึงว่าเป็นอะไรนั้น
นั้นแลเป็นเจ้าอำนาจบังคับจิตใจของโลกอยู่ตลอดเวลา
คำว่าโลกนั้นหมายถึงจิตแต่ละดวง ๆ ของสัตว์โลกมีมนุษย์เป็นสำคัญ
ย่นเข้ามาสู่วงปฏิบัติของเราแต่ละรูปละนาม มีธรรมชาตินี้เป็นเครื่องปกคลุมหุ้มห่อเอาไว้อย่างมิดตัว
ไม่อาจทราบได้อย่างง่ายดาย
เพราะเป็นสิ่งที่ลึกลับมาก สลับซับซ้อนมาก แง่งอนพรรณนาไม่จบพรรณนาไม่สิ้น
ที่ธรรมชาตินี้
แสดงออกรอบตัวของมัน และทำงานของตัวเองโดยอัตโนมัติอยู่ภายในจิตใจของโลก
สร้างวัฏวนวัฏจักรให้หมุนรอบจิตใจอยู่ตลอดเวลา จนสติธรรมปัญญาธรรมหาทางเล็ดลอดออกไม่ได้
ถ้าไม่เอาจริงจังแล้วจะไม่มีทางเล็ดลอด อันนี้เป็นสิ่งที่เรามีความวิตกกังวลมากกับเพื่อนฝูง
เท่าที่เคยปฏิบัติมานี้รู้สึกว่าหนักเอามากจริง ๆ ขั้นล้มลุกคลุกคลานก็ทุกข์ไปประเภทหนึ่ง
ขั้นพอตั้งเนื้อตั้งตัวได้บ้างแล้วก็เป็นความทุกข์เพราะการตะเกียกตะกายอีกประเภทหนึ่ง
คำว่าความทุกข์ ๆ นี้ล้วนแล้วตั้งแต่ทุกข์จากการต่อสู้กับ
ธรรมชาตินี้
ทั้งนั้น
จนจิตก้าวเดินทางปัญญา
พอรู้ทางเข้าทางออกทางแก้ไขทางหลบหลีกปลีกตัวได้บ้างก็ทุกข์ไปอีกแบบหนึ่ง ทุกข์ไปตลอดที่ต่อสู้กับธรรมชาตินี้
แต่ความทุกข์เหล่านี้ที่กล่าวมาเป็นความทุกข์ที่มีคุณค่า
เป็นความทุกข์ที่จะเป็นไปเพื่อทางออกทางหลุดพ้นโดยลำดับลำดาของความเพียร
และความทุกข์ที่ได้รับในเวลาประกอบความเพียรนั้น
ไม่เหมือนความทุกข์ของโลกทั้งหลายที่ทุกข์อยู่โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
.......................................
เวลานี้ก็กำลังหมุนเข้าไป ๆ กิเลสประเภทนี้ กิเลสตัวนี้ที่เป็นฟืนเป็นไฟ
ชมกันเต็มโลกธาตุแล้วเวลานี้ นี้ละคือชมกองฟืนกองไฟให้มันเผามันไหม้ไม่รู้เนื้อรู้ตัว
นี่กิเลสพาให้ชม ธรรมะท่านตำหนิ ธรรมะของผู้ตำหนินั้นคือจอมปราชญ์
พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ตำหนิทั้งนั้น พระอรหัตอรหันต์ไม่ผ่านกองไฟนี้ไปเสียก่อนเป็นพระอรหันต์ไม่ได้
ท่านทำไมท่านจะไม่เห็นกองไฟทั้งกอง กองใหญ่ ๆ ราคคฺคิ โทสคฺคิ โมหคฺคิ โลภคฺคิ
๓ - ๔ กองนี้เผาโลก ไม่มีอันอื่นอันใดเผา
แล้ว
ธรรมชาตินี้
อยู่ที่ไหน
อยู่ที่หัวใจของสัตว์โลก ไม่อยู่ต้นไม้ภูเขา ดินฟ้าอากาศที่ไหน อยู่ที่หัวใจโลก
เพราะฉะนั้นหัวใจโลกจึงได้หมุนเป็นบ้าไปหมด ไม่ว่าเขาว่าเราว่าท่านว่าใครเป็นแบบเดียวกันหมดไม่รู้เนื้อรู้ตัว
มันกล่อมได้ถึงขนาดนั้น
ถ้าเราไม่รีบแก้ไขเสียตั้งแต่บัดนี้ ไม่เชื่อศาสดาองค์เอกแล้ว
เราจะถูกมันจูงจมูกต้อย ๆ ไป มันจูงจมูกไปธรรมดาค่อยยังชั่ว
มันจะจูงลงเหวลงบ่อลงนรกอเวจี เกิดตาย ๆ เต็มโลกเต็มสงสาร
อะไรจะมากยิ่งกว่าจิตวิญญาณของสัตว์โลกที่เกิดตาย ๆ และเสาะแสวงหาที่เกิดที่ตายอยู่เต็ม
ไม่ว่าแผ่นฟ้าแผ่นดินใต้น้ำบนบกที่ไหน ท้องฟ้ามหาสมุทรทะเลที่ไหนไม่มีช่องว่าง
มีแต่ธรรมชาติอันนี้
จิตวิญญาณของสัตว์โลกนี่เสาะแสวงหาที่เกิด
เกิดแล้วตายแล้วจมในนรกละไม่ต้องพูด นรกมีขนาดไหนแน่นอยู่ตลอด
อัดแน่นตลอดเวลา ก็เพราะอำนาจของความเชื่อกิเลสนั้นแหละ
----------------------------
ธรรมชาตินี้....
- พระธรรมเทศนาโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๓๗
อ่านเนื้อหาเต็มได้จาก
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=1136&CatID=3
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ธรรมชาตินี้....
เรื่องกิเลส คำว่ากิเลส ๆ เป็นธรรมชาติอันหนึ่งที่กลมกลืนกันกับใจดวงรู้ ๆ นี้ ถ้าจะว่ามืดก็มืดมิดปิดตามองไม่เห็นใจเลย สักแต่ว่ารู้ แต่สิ่งที่เราไม่คิดไม่คำนึงว่าเป็นอะไรนั้น นั้นแลเป็นเจ้าอำนาจบังคับจิต
สมาชิกหมายเลข 2735898
ธรรมอยู่ฟากตาย...
ธรรมอยู่ฟากตาย ธรรมอยู่ที่การต่อสู้ ธรรมอยู่ที่การฝืน ฝืนกับกิเลสตัวชอบความสบาย แต่ขนทุกข์มาทับหัวใจอยู่เสมอ นี้คือเรื่องของกิเลสพึงทราบเสมอ การปฏิบัติไปไม่ถึงไหนล้มละลายๆ เพราะความอ่อนแอตามกิเลส เล
สมาชิกหมายเลข 962719
แก้ไขถากถางสิ่งที่ปิดบังทางที่มันรกรุกรังด้วยกิเลสนั้นออกด้วยมรรค
ไม่ใช่ว่านิโรธจะต้องทำหน้าที่ของตัวเองอย่างหนึ่งโดยไม่เกี่ยวข้องกับมรรค มรรคทำหน้าที่อันหนึ่งต่างหาก เป็นคนละชิ้นละอันอย่างนั้น มันเป็นความเกี่ยวเนื่องกันในสัจธรรมทั้ง ๔ ถ้าพูดตามความจริงของผู้ปฏิ
สมาชิกหมายเลข 962719
นี่แหละที่เรียกว่า คำสาวก
สาวกคนที่ 1 กล่าวว่า นิพพานต้องเป็นอนัตตาแหงๆ เพราะพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ........................ สาวกคนที่ 2 ก็กล่าวทำนองทักท้วงไม่เห็นด้วยว่า
สมาชิกหมายเลข 8486991
ภาษาของธรรมกับภาษาของกิเลสต่างกัน
ภาษาพระ หัวใจพระ - พระธรรมเทศนาโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๖ อ่านเนื้อหาเต็มได้จาก http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_tex
สมาชิกหมายเลข 962719
เพราะฉะนั้นคำว่า"มัชฌิมา" จึงต้องเหนือกิเลสทุกประเภท
คำว่ามัชฌิมา คือ สายกลาง คำว่าสายกลางนั้น โลกทั้งหลายจะต้องคิดกันแบบว่า ตรงไปตรงมาเฉย ๆ ไม่ได้คำนึงถึงว่ากิเลสมันตรงไปตรงมาไหม อันใดจะมีความปลิ้นปล้อนหลอกลวงร้อยสันพันคม พลิกแพลงเปลี่ยนแปลงได้รวด
สมาชิกหมายเลข 962719
เห็นผู้สนใจพระธรรมเริ่มต้นฟังธรรม เห็นว่าควรฟังเรื่อง เจโตขีลสูตร ที่บรรยายโดยอาจารย์สุภีร์ ทุมทอง ครับ
ที่กระทู้นี้ https://ppantip.com/topic/43166621 เจโตสูตร กิเลสตรึงจิต และ กิเลสผูกจิตไว้ : ดร.สุภีร์ ทุมทอง หรือที่ยูตู๊บที่นี่ครับ https://www.youtube.com/watch?v=oDfCTxY
satanmipop
หลวงปู่มั่น เตือน การส่งจิต ออกนอกกาย ผิดหลัก มรรคภาวนาถึงนิพพาน
"ถ้าส่งจิตออกไป ภายนอกร่างกายแล้ว เป็นอันผิดมรรคภาวนา... เพราะบรรดาพระธรรมคำสั่งสอน ของพระพุทธเจ้า ที่พระองค์ได้ทรงสั่งสอน ประกาศพระศาสนา อยู่...ตลอดพระชนม์ชีพ&nb
สมาชิกหมายเลข 8521504
“ฟังธรรมทั้งกลางวันกลางคืน”
เพราะฉะนั้นอุบายของสติปัญญา จึงสำคัญอยู่ที่ผู้คิดผู้พิจารณาจะแยกแยะออกมาใช้ด้วยอุบายความฉลาดของแต่ละราย ๆ ไป ตามสติกำลังความสามารถของแต่ละราย ๆ ไปไม่มีสิ้นสุด จึงไม่จำเป็นที่จะไปเอาจากตำรับตำราเสียท
สมาชิกหมายเลข 962719
เข้าใจพระพุทธศาสนาภายใน 10 นาที
1.พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร ? อริยสัจ 4 คือ ทุกข์ คือความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ สมุทัย คือเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ นิโรธ คือความดับทุกข์ มรรค คือข้อปฏิบัติเพื่อความดับทุกข์ 2. พระพุทธเจ้าทรงสอน เรื่องอ
Honeymile
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ศาสนาพุทธ
ปฏิบัติธรรม
พระธรรมวิสุทธิมงคล (บัว ญาณสมฺปนฺโน)
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ธรรมชาตินี้....
เรื่องกิเลส คำว่ากิเลส ๆ เป็นธรรมชาติอันหนึ่งที่กลมกลืนกันกับใจดวงรู้ ๆ นี้
ถ้าจะว่ามืดก็มืดมิดปิดตามองไม่เห็นใจเลย สักแต่ว่ารู้ แต่สิ่งที่เราไม่คิดไม่คำนึงว่าเป็นอะไรนั้น
นั้นแลเป็นเจ้าอำนาจบังคับจิตใจของโลกอยู่ตลอดเวลา
คำว่าโลกนั้นหมายถึงจิตแต่ละดวง ๆ ของสัตว์โลกมีมนุษย์เป็นสำคัญ
ย่นเข้ามาสู่วงปฏิบัติของเราแต่ละรูปละนาม มีธรรมชาตินี้เป็นเครื่องปกคลุมหุ้มห่อเอาไว้อย่างมิดตัว
ไม่อาจทราบได้อย่างง่ายดาย เพราะเป็นสิ่งที่ลึกลับมาก สลับซับซ้อนมาก แง่งอนพรรณนาไม่จบพรรณนาไม่สิ้น
ที่ธรรมชาตินี้แสดงออกรอบตัวของมัน และทำงานของตัวเองโดยอัตโนมัติอยู่ภายในจิตใจของโลก
สร้างวัฏวนวัฏจักรให้หมุนรอบจิตใจอยู่ตลอดเวลา จนสติธรรมปัญญาธรรมหาทางเล็ดลอดออกไม่ได้
ถ้าไม่เอาจริงจังแล้วจะไม่มีทางเล็ดลอด อันนี้เป็นสิ่งที่เรามีความวิตกกังวลมากกับเพื่อนฝูง
เท่าที่เคยปฏิบัติมานี้รู้สึกว่าหนักเอามากจริง ๆ ขั้นล้มลุกคลุกคลานก็ทุกข์ไปประเภทหนึ่ง
ขั้นพอตั้งเนื้อตั้งตัวได้บ้างแล้วก็เป็นความทุกข์เพราะการตะเกียกตะกายอีกประเภทหนึ่ง
คำว่าความทุกข์ ๆ นี้ล้วนแล้วตั้งแต่ทุกข์จากการต่อสู้กับธรรมชาตินี้ทั้งนั้น จนจิตก้าวเดินทางปัญญา
พอรู้ทางเข้าทางออกทางแก้ไขทางหลบหลีกปลีกตัวได้บ้างก็ทุกข์ไปอีกแบบหนึ่ง ทุกข์ไปตลอดที่ต่อสู้กับธรรมชาตินี้
แต่ความทุกข์เหล่านี้ที่กล่าวมาเป็นความทุกข์ที่มีคุณค่า
เป็นความทุกข์ที่จะเป็นไปเพื่อทางออกทางหลุดพ้นโดยลำดับลำดาของความเพียร
และความทุกข์ที่ได้รับในเวลาประกอบความเพียรนั้น
ไม่เหมือนความทุกข์ของโลกทั้งหลายที่ทุกข์อยู่โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
.......................................
เวลานี้ก็กำลังหมุนเข้าไป ๆ กิเลสประเภทนี้ กิเลสตัวนี้ที่เป็นฟืนเป็นไฟ
ชมกันเต็มโลกธาตุแล้วเวลานี้ นี้ละคือชมกองฟืนกองไฟให้มันเผามันไหม้ไม่รู้เนื้อรู้ตัว
นี่กิเลสพาให้ชม ธรรมะท่านตำหนิ ธรรมะของผู้ตำหนินั้นคือจอมปราชญ์
พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ตำหนิทั้งนั้น พระอรหัตอรหันต์ไม่ผ่านกองไฟนี้ไปเสียก่อนเป็นพระอรหันต์ไม่ได้
ท่านทำไมท่านจะไม่เห็นกองไฟทั้งกอง กองใหญ่ ๆ ราคคฺคิ โทสคฺคิ โมหคฺคิ โลภคฺคิ
๓ - ๔ กองนี้เผาโลก ไม่มีอันอื่นอันใดเผา
แล้วธรรมชาตินี้อยู่ที่ไหน
อยู่ที่หัวใจของสัตว์โลก ไม่อยู่ต้นไม้ภูเขา ดินฟ้าอากาศที่ไหน อยู่ที่หัวใจโลก
เพราะฉะนั้นหัวใจโลกจึงได้หมุนเป็นบ้าไปหมด ไม่ว่าเขาว่าเราว่าท่านว่าใครเป็นแบบเดียวกันหมดไม่รู้เนื้อรู้ตัว
มันกล่อมได้ถึงขนาดนั้น ถ้าเราไม่รีบแก้ไขเสียตั้งแต่บัดนี้ ไม่เชื่อศาสดาองค์เอกแล้ว
เราจะถูกมันจูงจมูกต้อย ๆ ไป มันจูงจมูกไปธรรมดาค่อยยังชั่ว
มันจะจูงลงเหวลงบ่อลงนรกอเวจี เกิดตาย ๆ เต็มโลกเต็มสงสาร
อะไรจะมากยิ่งกว่าจิตวิญญาณของสัตว์โลกที่เกิดตาย ๆ และเสาะแสวงหาที่เกิดที่ตายอยู่เต็ม
ไม่ว่าแผ่นฟ้าแผ่นดินใต้น้ำบนบกที่ไหน ท้องฟ้ามหาสมุทรทะเลที่ไหนไม่มีช่องว่าง
มีแต่ธรรมชาติอันนี้ จิตวิญญาณของสัตว์โลกนี่เสาะแสวงหาที่เกิด
เกิดแล้วตายแล้วจมในนรกละไม่ต้องพูด นรกมีขนาดไหนแน่นอยู่ตลอด
อัดแน่นตลอดเวลา ก็เพราะอำนาจของความเชื่อกิเลสนั้นแหละ
----------------------------
ธรรมชาตินี้.... - พระธรรมเทศนาโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๓๗
อ่านเนื้อหาเต็มได้จาก http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=1136&CatID=3