ท้าวความก่อนตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีปม มีปัญหาในชีวิตมาก่อนเลย
พ่อแม่เลี้ยงมาให้ภูมิใจตัวเอง รักในตัวเอง ซื่อสัตย์อดทน เลยมีชีวิตแบบชิลๆไม่คิดมาก
พอเรียนจบ เลือกมาทำงานที่แรกเป็นองค์กรที่ค่อนข้างใหญ่ มีน่ามีตา ดูน่าเชื่อถือในสังคม
ที่เด็กจบใหม่ส่วนมากเลือกที่จะมาลองทำเพราะมีสาขามากมายใกล้บ้าน และรับพนง.ทั่วประเทศเยอะมาก
อารมณ์ตอนที่ได้งานทำจริงจังได้เงินเดือนเป็นครั้งแรก ไม่รวมฝึกงาน ตั้งใจ หวังกับงานนี้ไว้มากสุดๆ
เลยแสดงความเป็นตัวของตัวเองมากไป ใครให้ทำอะไรก็อาสาทำไปหมด ขอความเห็นเราก็ตอบไปตามตรง
แต่ด้วยความที่เคยอยู่มาในสังคมมหาลัยที่เปิดกว้างทางความคิดและการแสดงออก
พอมาอยู่ในองค์กรนี้ มันแตกต่างและไม่ทันคิด วางใจมากไป เริ่มจากจุดเล็กๆคือ เพื่อนที่อยู่กลุ่มเดียวกันเริ่มไม่พอใจ
มีอยู่วันนึงเพื่อนมาบอกว่าเป็นคนเยอะไปไหม ก็โอเคยินดีปรับตัวก็เริ่มอยู่เฉยๆ พยายามเข้ากับสังคมนี้
แต่เหมือนยังไม่จบ คนที่ไม่ชอบขี้หน้าเป็นระดับสูงขึ้นไปอีก ทีนี้โดนแกล้งสารพัด
ทั้งแกล้งบอกให้แบกเอกสารหนักๆมา ในวันที่ไม่ต้องนำมา แกล้งหลอกให้ทำผิดกฏ
แกล้งแก้ไขคะแนนสอบให้น้อยลง ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้เอะใจแต่เค้าก็มีให้คนมาแกล้งแสดงใส่
ให้คนมากระแหนะกระแหนว่าคิดว่าทำได้เยอะกว่านี้นะทำไมได้แค่นี้ แล้วก็หัวเราะชอบใจกัน
เก้าอี้บางทีก็เอาน้ำมาหยดใส่ ข้าวพอเห็นเรามาก็จงใจมาเทให้เหมือนเทข้าวหมา
จริงๆโดนแกล้งมากกว่านี้แต่ลืมไปบางส่วนแล้ว เป็นระยะเวลากว่า 3 อาทิตย์ที่ทนอยู่
จนกลายเป็นคนจิตไม่ปกติไปเลย เป็นหวาดระแวงกลัวคนมาด่าว่าเรา
เดินไปไหนทำอะไร ก็คิดว่าคนมาด่ากรอกหูตลอด คิดว่าทำอะไรก็ผิด แม้กระทั้งจะก้าวขาเดินก็กลัว
จนพ่อแม่ก็กลุ้มใจว่าเราเป็นอะไร บอกไปว่าโดนแกล้งเค้าก็ไม่เชื่อ แต่ก็เริ่มรู้ว่าเครียดจนหวาดกลัว
ร้องไห้ทุกวัน นอนไม่หลับ ปวดหัวไมเกรนขึ้น ต้องพึ่งยานอนหลับและแก้ปวดชนิดอ่อน
สงสารตัวเองมากๆ จนทนไม่ไหวไปถามเพื่อนตรงๆว่า เราต้องออกไปจริงๆใช่ไหม
เราไม่เหมาะกับที่นี่จริงๆใช่ไหม แต่คำตอบคือเปล่านะไม่มีใครว่าอะไรเลย ไม่มีใครทำอะไรเลย
เหมือนดูละครน้ำเน่า โดนแกล้งโดนด่าสารพัดแต่กลับมาบอกว่าไม่ได้ทำอะไร ไม่มีอะไรเลย
วันรุ่งขึ้น เลยตัดสินใจออกจากงานมา เหมือนยกภูเขาออกจากอกจริงๆ โล่งมากๆ
กลับมาพักฟื้นอยู่ที่บ้านได้สักระยะ ประมาณ 1 เดือนกว่าๆก็ได้งานใหม่
ทีนี้ปมที่โดนมามันดันมากำเริบ ได้ยินเสียงคนด่าตลอดเวลา ใครพูดอะไรก็จับมาโยง
กลัวคนนู่นคนนี้รู้ความลับของเรา กลัวคนจะเกลียดเรา ไม่กล้าไว้ใจใคร หลอนไปเลย
แต่พี่ๆ ที่ทำงานใหม่ก็ดีมากๆ เห็นว่าเราฮาไปอีกทำไมมันหลอนๆเหม่อๆ
เป็นหลอนๆอยู่จนอยากจะออกจากงานอีกครั้ง แต่ก็ฝืนตัวเองอดทนๆ จนผ่านมาได้
เพราะเจอพี่ๆเพื่อนๆที่ดีด้วยเดือนต่อมาเลยเริ่มดีขึ้นแล้วก็เป็นปกติขึ้นเรื่อยๆ
จนวันนี้ผ่านมาแล้วครึ่งปี ก็ได้กลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง
ร่าเริง บ้าบอ กล้าแสดงออก ติดตลก ทำงานหนัก ครีเอทงานได้ ชิลๆ สะสมความรู้ในทุกๆวัน
แต่ก็ยังมีบางครั้งที่ยังกลับไปคิดถึงปมนี้ มันไม่หายไปสักที มาเป็นหย่อมๆเวลาเครียดๆเศร้าๆ
รู้สึกโกรธ คนที่ทำให้เราเป็นเด็กมีปม ไม่รักตัวเอง ไม่ภูมิใจตัวเอง ไม่เป็นตัวเองกลัวคนรังเกียจ
แต่ตรงนี้ก็ต้องขอขอบคุณพี่ๆที่ทำงานใหม่ ที่ให้โอกาส เข้าใจความหลอน ความบ้าของน้องคนนี้ ให้ได้ปรับตัว
และเพื่อนๆ ที่รับฟัง ทนฟังเรื่องบ้าๆ เพ้อเจ้อ ที่ไม่น่าเป็นไปได้จากประสาทหลอน จนได้กลับมาเป็นคนอีกครั้งหนึ่ง
สุดท้ายก็หวังแค่ว่าปมนี้จะลบหายไปจากใจได้จนหมดในสักวันหนึ่ง*
ใครเคยมีปม เกี่ยวกับเรื่องโดนแกล้งโดนรังเกียจบ้าง ฝังใจไหม ผ่านมาได้ยังไง?
พ่อแม่เลี้ยงมาให้ภูมิใจตัวเอง รักในตัวเอง ซื่อสัตย์อดทน เลยมีชีวิตแบบชิลๆไม่คิดมาก
พอเรียนจบ เลือกมาทำงานที่แรกเป็นองค์กรที่ค่อนข้างใหญ่ มีน่ามีตา ดูน่าเชื่อถือในสังคม
ที่เด็กจบใหม่ส่วนมากเลือกที่จะมาลองทำเพราะมีสาขามากมายใกล้บ้าน และรับพนง.ทั่วประเทศเยอะมาก
อารมณ์ตอนที่ได้งานทำจริงจังได้เงินเดือนเป็นครั้งแรก ไม่รวมฝึกงาน ตั้งใจ หวังกับงานนี้ไว้มากสุดๆ
เลยแสดงความเป็นตัวของตัวเองมากไป ใครให้ทำอะไรก็อาสาทำไปหมด ขอความเห็นเราก็ตอบไปตามตรง
แต่ด้วยความที่เคยอยู่มาในสังคมมหาลัยที่เปิดกว้างทางความคิดและการแสดงออก
พอมาอยู่ในองค์กรนี้ มันแตกต่างและไม่ทันคิด วางใจมากไป เริ่มจากจุดเล็กๆคือ เพื่อนที่อยู่กลุ่มเดียวกันเริ่มไม่พอใจ
มีอยู่วันนึงเพื่อนมาบอกว่าเป็นคนเยอะไปไหม ก็โอเคยินดีปรับตัวก็เริ่มอยู่เฉยๆ พยายามเข้ากับสังคมนี้
แต่เหมือนยังไม่จบ คนที่ไม่ชอบขี้หน้าเป็นระดับสูงขึ้นไปอีก ทีนี้โดนแกล้งสารพัด
ทั้งแกล้งบอกให้แบกเอกสารหนักๆมา ในวันที่ไม่ต้องนำมา แกล้งหลอกให้ทำผิดกฏ
แกล้งแก้ไขคะแนนสอบให้น้อยลง ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้เอะใจแต่เค้าก็มีให้คนมาแกล้งแสดงใส่
ให้คนมากระแหนะกระแหนว่าคิดว่าทำได้เยอะกว่านี้นะทำไมได้แค่นี้ แล้วก็หัวเราะชอบใจกัน
เก้าอี้บางทีก็เอาน้ำมาหยดใส่ ข้าวพอเห็นเรามาก็จงใจมาเทให้เหมือนเทข้าวหมา
จริงๆโดนแกล้งมากกว่านี้แต่ลืมไปบางส่วนแล้ว เป็นระยะเวลากว่า 3 อาทิตย์ที่ทนอยู่
จนกลายเป็นคนจิตไม่ปกติไปเลย เป็นหวาดระแวงกลัวคนมาด่าว่าเรา
เดินไปไหนทำอะไร ก็คิดว่าคนมาด่ากรอกหูตลอด คิดว่าทำอะไรก็ผิด แม้กระทั้งจะก้าวขาเดินก็กลัว
จนพ่อแม่ก็กลุ้มใจว่าเราเป็นอะไร บอกไปว่าโดนแกล้งเค้าก็ไม่เชื่อ แต่ก็เริ่มรู้ว่าเครียดจนหวาดกลัว
ร้องไห้ทุกวัน นอนไม่หลับ ปวดหัวไมเกรนขึ้น ต้องพึ่งยานอนหลับและแก้ปวดชนิดอ่อน
สงสารตัวเองมากๆ จนทนไม่ไหวไปถามเพื่อนตรงๆว่า เราต้องออกไปจริงๆใช่ไหม
เราไม่เหมาะกับที่นี่จริงๆใช่ไหม แต่คำตอบคือเปล่านะไม่มีใครว่าอะไรเลย ไม่มีใครทำอะไรเลย
เหมือนดูละครน้ำเน่า โดนแกล้งโดนด่าสารพัดแต่กลับมาบอกว่าไม่ได้ทำอะไร ไม่มีอะไรเลย
วันรุ่งขึ้น เลยตัดสินใจออกจากงานมา เหมือนยกภูเขาออกจากอกจริงๆ โล่งมากๆ
กลับมาพักฟื้นอยู่ที่บ้านได้สักระยะ ประมาณ 1 เดือนกว่าๆก็ได้งานใหม่
ทีนี้ปมที่โดนมามันดันมากำเริบ ได้ยินเสียงคนด่าตลอดเวลา ใครพูดอะไรก็จับมาโยง
กลัวคนนู่นคนนี้รู้ความลับของเรา กลัวคนจะเกลียดเรา ไม่กล้าไว้ใจใคร หลอนไปเลย
แต่พี่ๆ ที่ทำงานใหม่ก็ดีมากๆ เห็นว่าเราฮาไปอีกทำไมมันหลอนๆเหม่อๆ
เป็นหลอนๆอยู่จนอยากจะออกจากงานอีกครั้ง แต่ก็ฝืนตัวเองอดทนๆ จนผ่านมาได้
เพราะเจอพี่ๆเพื่อนๆที่ดีด้วยเดือนต่อมาเลยเริ่มดีขึ้นแล้วก็เป็นปกติขึ้นเรื่อยๆ
จนวันนี้ผ่านมาแล้วครึ่งปี ก็ได้กลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง
ร่าเริง บ้าบอ กล้าแสดงออก ติดตลก ทำงานหนัก ครีเอทงานได้ ชิลๆ สะสมความรู้ในทุกๆวัน
แต่ก็ยังมีบางครั้งที่ยังกลับไปคิดถึงปมนี้ มันไม่หายไปสักที มาเป็นหย่อมๆเวลาเครียดๆเศร้าๆ
รู้สึกโกรธ คนที่ทำให้เราเป็นเด็กมีปม ไม่รักตัวเอง ไม่ภูมิใจตัวเอง ไม่เป็นตัวเองกลัวคนรังเกียจ
แต่ตรงนี้ก็ต้องขอขอบคุณพี่ๆที่ทำงานใหม่ ที่ให้โอกาส เข้าใจความหลอน ความบ้าของน้องคนนี้ ให้ได้ปรับตัว
และเพื่อนๆ ที่รับฟัง ทนฟังเรื่องบ้าๆ เพ้อเจ้อ ที่ไม่น่าเป็นไปได้จากประสาทหลอน จนได้กลับมาเป็นคนอีกครั้งหนึ่ง
สุดท้ายก็หวังแค่ว่าปมนี้จะลบหายไปจากใจได้จนหมดในสักวันหนึ่ง*