เปิดออกไปซิ เมื่อเปิดออกไปน้ำมันก็อยู่ใต้จอกแหนนั่น....






พระพุทธเจ้ากับศาสนธรรมตลอดถึงมรรคผลนิพพานห่างกันที่ไหน
ลงจุดนี้จุดเดียวนี้เท่านั้น เราอย่าไปคาดให้เสียเวล่ำเวลา
ว่ากาลนั้นสมัยนี้มรรคผลนิพพานมีไม่มี อันตรธานหรือเสื่อมสูญหรือด้อยลงไป  
อย่างนี้เป็นเรื่องของกิเลสหลอกคนให้ท้อถอยน้อยใจต่างหาก  ความจริงเป็นอย่างนี้  


ก็เหมือนกันกับน้ำที่จอกแหนปกคลุมหุ้มห่ออยู่นั้น เปิดออกไปซิ  เมื่อเปิดออกไปน้ำมันก็อยู่ใต้จอกแหนนั่น  
อันนี้กิเลสมันปกคลุมหุ้มห่อ กิเลสเป็นเหมือนจอกเหมือนแหนปกคลุมหุ้มห่อใจเราอยู่  ทำให้ไม่เห็นน้ำ
ก็คือไม่เห็นมรรคผลนิพพาน  ก็ว่านิพพานไม่มี  บุญกุศลไม่มี  บาปไม่มี  ไปร้อยแปดพันประการจนหาประมาณไม่ได้


ความจริงเป็นเพียงจอกแหนปกคลุมน้ำอยู่เท่านั้นเอง  น้ำเป็นน้ำมีอยู่อย่างนั้น  
จอกแหนเป็นจอกแหนเปิดออกมาแล้วก็เห็นน้ำเอง นี่กิเลสเป็นกิเลสปกคลุมหุ้มห่อภายในจิตใจ  
เปิดกิเลสออกไปทำไมจะไม่เห็น  เริ่มเห็นตั้งแต่ความฟุ้งซ่าน  ก็คือกิเลสเป็นจอกเป็นแหนประเภทหนึ่ง  
พอเปิดออกไปเห็นน้ำก็คือความสงบร่มเย็นของใจที่เรียกว่าสมาธิ  
เปิดออกไปก็ไปเห็นเรื่องของปัญญาฆ่ากิเลสประเภทต่างๆ ไปโดยลำดับๆ
เปิดเข้าไปจนกระทั่งเห็นแดนแห่งความพ้นทุกข์

คือวิมุตติพระนิพพานประจักษ์กับหัวใจนั้น  เต็มอยู่ภายในนี้


....................................


เรื่องของโลกเป็นอย่างนี้แล้ว  แล้วจะตื่นไปอะไรนักหนา  
มันเคยหลอกโลกมาสักเท่าไรแล้ว  กิเลสไม่เคยเอาของจริงมาใช้แหละ  
มันเอาแต่เครื่องหลอกเครื่องหลอนมาใช้  เราก็เป็นบ๋อยของกิเลสด้วยแล้วก็ยิ่งหมุนติ้วเป็นฟืนเป็นไฟ  
ไม่ได้เห็นโทษของมันได้เลย  ตายทิ้งเปล่าๆ ใครมีความสมหวังล่ะในโลกอันนี้  
ถ้าลงกิเลสได้บีบหัวแล้วก็ตายด้วยอำนาจแห่งความบีบคั้นของกิเลสนั่นแหละ


----------------------------

กำลังใจ - พระธรรมเทศนาโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด  เมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๓๕
อ่านเนื้อหาเต็มได้จาก  http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=2377&CatID=3




แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่