หลังจากที่เคยตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับคุณสมับติ http://ppantip.com/topic/32958310 การขอวีซ่าของเราไปแล้ว
คราวนี้อยากจะแชร์ประสบการณ์สัมภาษณ์บ้าง ส่วนขั้นตอนอื่นๆมีผู้แชร์เอาไว้เยอะแล้ว

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณกระทู้ http://ppantip.com/topic/32193184 นี้มากๆและกระทู้อื่นๆด้วยนะคะ
เข้ามาเก็บข้อมูลอยู่พักใหญ่ๆเหมือนกัน ด้วยคุณสมบัติที่กลัวไม่ผ่านแต่ก็ใจดีสู้เสือเข้าไว้

วันที่ได้นัดสัมภาษณ์คือวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 10: 15
เอกสารที่เราเตรียมไปก็จะมี
- Passport
- ใบยืนยัน DS-160
- ใบนัดวันสัมภาษณ์
- เอกสารรับรองการทำงานจากบริษัท
- จดหมายเชิญ
- Statement
- ใบรับรองสถานะทางการเงิน
- เอกสารเช่าซื้อรถ ยังผ่อนไม่หมด
- รูปถ่าย
- ทะเบียนบ้านฉบับจริง
- บัตรประชาชน
เรื่องการแต่งกายก็สำคัญควรจะแต่งการให้เรียบร้อย สุภาพ ดูดีเข้าไว้ เรามีหินนำโชคใส่ไปด้วย 3 เส้น อันนี้ความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ และะควรไปถึงหน้าสถานฑูตก่อนเวลา (30นาที) แต่วันนั้นเราไปถึง 9 โมง
พอไปถึงหน้าสถานฑูตดูเวลาแล้วก็ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะเข้าไปสักเท่าไร จึงเดินดูราดราวเอาไว้ก่อน ระหว่างนั้นมื้อเช้ายังไม่ได้ทานอะไรเลย
เดินย้อนกลับไปเพลินจิตเพื่อหาของกิน ระหว่างรอเวลา พอทานข้าวเสร็จเกิดอาการปวดท้องหนักเข้าให้  เวลาตื่นเต้นแบบนี้ชอบมีอาการปวดหนักอยู่เรื่องเลย ไม่รู้ว่ามีใครเป็นแบบนี้บ้าง เดินหาห้องน้ำอยู่พักใหญ่ จนไปเจอตึกสูงๆอยู่ใกล้สถานฑูตก่อนถึงสะพานลอย ก็แอบเนียนเดินเข้าไปจนเจอห้องน้ำ รอดตาย 555555 ไอ้เราก็ไม่รู้ว่าข้างในสถานฑูตก็มีห้องน้ำ พอเสร็จกิจแล้วก็ตรงดิ่งไปหน้าสถานฑูตเล๊ยยยประมาณ 9 :20 แต่เราก็ยังไม่ได้เข้าไปนะ เดินดูราดราวข้างนอกก่อน มองดูรอบๆแล้วแถวก็ม่ยาวมีประมาณ 2 คน จนท.กำลังเช็คเอกสารให้ ด้านหน้าจะมีญาติ พี่ น้อง ของผู้สัมภาษณ์ยืนรอเยอะอยู่พอสมควร เราคิดว่าเค้าน่าจะมาให้กำลังใจกัน บางคนมีกระเป๋าเดินทางมาด้วย เราสังเกตุเห็นส่วนมากคนที่มาสัมภาษณ์เค้าจะไม่เอาประเป๋ามาจะถือแค่ซองเอกสารสะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนของเราเอาประเป๋าเอกสารไป 1 ใบ กระเป๋าเครื่องสำอาง ร่ม : เรามาเริ่มกันทีละด่านดีกว่านะ

ด่านที่ 1 : ด้านหน้าสถานฑูต เข้าแถว จนท บทสนทนา
จนท : เวลานัดเท่าไหร่คะ
เรา : 10 โมง 15 คะ
จนท : ก็ดูเอกสารในมือเค้าว่ามีชื่อเราหรือเปล่า
         ขอใบ DS-160 ด้วยคะ พร้อม Passport คะ
เรา : ยื่นเอกสารให้
จนท : ยื่นเอกสารคืนพร้อมใบเข้าสถานฑูตหรือเปล่าอันนี้เราคิดเอง มันเป็นตาสัญลักษณ์เคลือบแข็งๆอันนจะคืนให้ จนท ด่านต่อไป

ด่านที่2 : เราเดินขึ้นมาอีกนิดหน่อยจะเจอ จนท รักษาความปลอดภัย ยื่นกระดาษแข็งๆคืน ระหว่างนี้จะมี จนท ตะโกนบอกเป็นระยะๆ
เกี่ยวอุปกรณ์ต้องห้ามทั้งหลาย เช่น ใครมีแหนบ (อันนี้เรามี) ร่ม(อันนี้เราก็มี) และอันนี้สำคัญมาก โทรศัพท์ขอบอกว่าเอาไปเครื่องเดียวพอ เพราะไม่อย่างนั้นคุณต้องเดินย้อนไปหาที่ฝากเสียทั้งเงินทั้งเวลา

ด่านที่ 3 : เคาน์เตอร์ฝากของ
จนท: มีแหนบ ของมีคมอะไรในกระเป๋าใหมคะ
เรา : ตอบแบบมั่นใจเลยว่า ไม่มีคะ แล้วก็ยื่นโทรศัพท์ฝากไป 1 เครื่อง **1คนต่อ1เครื่องจริงๆแล้วเราก็ถามว่ากระเป๋าเอาเข้าไปด้วยได้ใช่ใหมคะ
จนท : ได้คะ พร้อมยื่นหมายเลขฝากของ คล้องแขนเอาไว้

ด่านที่ 4 : เข้าเครื่องสแกนของในกระเป๋า
จนท : เอาของทั้งหมดวางลงบนตระกร้านะครับ พร้อมถอดเสื้อคลุมออกด้วย อันนี้ใครมีเสื้อคลุมต้องถอดลงใส่ตระกล้าคะ
เรา : ทำตามคำแนะนำ

     และแล้วงานก็เข้า !!!!! ตกใจมาก กระเป๋าตรวจไม่ผ่าน เราก็ยิ่งตื่นเต้น คิดมาก เข้าไปใหญ่ เค้าเอาเข้าเครื่อง 2 รอบก็ไม่ผ่าน จน จนท เอาออกมาค้นก็เจอแหนบกับร่ม อันนี้หน้าแหกมากบอกเค้าว่าไม่มีแต่ดันติดมาในกระเป๋าเครื่องสำอางสะงั้น พร้อมร่ม 1 อัน เอามาฝากใหม่อีกรอบ

จนท:เชิญครับ ตรวจสแกนร่างกาย ด้านหน้าด้านหลัง **ระบบรักษาความปลอดภัยเค้านี้เข้มงวดจริงๆคะ

ด่านที่ 5 : นั่งรอเรียกคิวเวลา ตรงด่านนี้จะยังอยู่ภายนอกอาคารจะมีคนนั่งรออยู่เยอะพอสมควร เราชอบตรงนี้มาก ลมพัดเย็นดี มีร้านค้าเล็กๆด้วย พอได้คลายความตื่นเต้นไปได้บ้างนิดหน่อย

เราก็ งง ๆ เหมือนกันว่าต้องทำไงต่อ ก็มองดูราดราวตามเคยว่าเค้าทำอะไรกันยังไง เห็นคนนั้ง เราก็นั่งตามเค้า รอฟัง จนท ประกาศ
ว่าเรียกคิวเวลาเท่าไหร่ถึงเท่าไหร่

จนท : เรียกเวลาเป็นรอบๆไป จนท ขอเชิญผู้สัมภาษณ์เวลา 10:15 ต่อแถวได้เลยคะ
เรา : เดินไปต่อแถว

ตรงด่านนี้จะมีห้องอยู่ห้องหนึ่งมีพนักนั่งด้านในใส่หูฟังอันใหญ่ๆพร้อมไมร์ พอถึงคิวเรา
เรายื่น : Passport + DS-160
จนท : ทำครั้งแรกหรือเปล่าคะ
เรา : ใช่คะ ครั้งแรก
จนท : ไปกับใครคะ
เรา :คนเดียวคะ ระหว่างนั้น จนท ก็เอา Passport + DS-160 มัดหนังยางรวมกัน
จนท : ก็ยื่นเอกสารคืน **จะมี จนท อีกคนคอยบอกตลอดว่าให้ จด Tracking No.เอาไว้ตรวจว่าเอกสารเราถูกส่งมาถึงที่ไหน กรณีผ่านวีซ่าแล้ว

พอเสร็จแล้วก็เดินเข้าสู่ด้านในตัวอาคาร เปิดประตูเข้าไปจะเจอคนยื่นต่อแถวกันคดไปมาตามที่เค้าจัดไว้ อันดับแรกเราก็กวาดสายตาไปรอบๆ ทำตามเค้าอีก 5555 เค้าทำไรเราก็ทำตาม

ด่านที่ 6 : ช่อง จนท คนไทย หน้าโหด (อันนี้เราเรียกเอง) เพราะเค้าไม่ยิ้ม ตรงนี้จะมี จนท คนไทยทั้งหมด ช่อง 12-15 เราได้ช่อง 15
เรา : ยื่น Passport + DS-160 มัดหนังยาง
จนท : ไปไหน
เรา : Oregon คะ
จนท : ไปกับใคร
เรา : คนเดียวคะ
จนท : ดู Passport ทำหน้าบึ้งตึง แล้วก็พิมพ์ๆไป
        พิมพ์ลายนิ้วมือ ด้านซ้าย-ขวา นิ้วโป้งพร้อมกัน **เหงื่อเต็มเลยคะ ตื่นเต้น
         คืนเอกสารไปต่อแถวช่อง 11 เอา Passport + DS-160 มัดหนังยาง นาบกับหน้าตู้ให้ จนท ดู

ด่านที่ 7 : ช่อง 11 ไปทีแรกไม่เจอใครเลย สักพัก จนท ฝรั่งรูปหล่อก็เดินมา
จนท ฝรั่ง รูปหล่อ : สวัสดีคราบบบบ
เรา : สวัสดีคะ (พูดไทยจัดม๊ากกก) เอา Passport + DS-160 มัดหนังยาง นาบกับหน้าตู้ให้ จนท
จนท ฝรั่ง รูปหล่อ : คุณ........ใช่ใหมคราบบบบ
เรา : ใช่คะ
จนท ฝรั่ง รูปหล่อ : มือออออขวาาาาาาา สแกนคราบบบบ
เรา : คะๆๆ
จนท ฝรั่ง รูปหล่อ : เสร็จแล้วคราบบบ เอา Passport + DS-160 มัดหนังยางคืน

พอเสร็จจากตรงนี้แล้วคราวนี้เจอของจิงละ สัมภาษณ์กับท่านกงศุลในตู้กระจกกั้น ระหว่างเข้าแถวไปเรื่อยๆเราก็ท่องคำถามคำตอบที่เราคิดว่าท่านกงจะถาม
พร้อมกับฟังจากคนข้างๆเค้าคุยกันแลกเปลี่ยนความคิดกัน บางคนจะไปเยี่ยมแฟน ไปเที่ยว ไปเรียนต่อ ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ผ่านบ้างไปผ่านบ้าง
เราเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆคอยจ้องว่าจะได้ท่านกงคนไหน วันนั้นจะมีท่านกงอยู่ 2 ช่องที่สัมภาษณ์ มีท่านกงหล่อแต่ให้ผ่านยาก กับท่างกงรูปร่างอวบๆให้ผ่านง่ายมาก เราลุ้นมาก อยากได้ท่านกงคนนี้ และแล้วก็ถึงคิวเราได้ท่านกงรูปร่างอวบๆ


ด่านที่ 8 ท่านกงศุล

เรา : ยื่น Passport + DS-160 มัดหนังยาง
ท่านกง : สาาหวัดดดีคราบบบบ (พูดไทยชัดม๊ากก)
เรา : สวัสดีคะ พร้อมพนมมือไหว้อย่างสวยงาม พร้อม ยิ้มสยาม
ท่านกง :จะปายยหน่ายยคราบบบ
เรา : Oregon คะ
ท่านกง : พยักหน้า ยิ้มที่มุมปาก ปายยทำอาหร่ายยคราบบ
เรา : ไปเที่ยวและเยี่ยมญาติคะ
ท่านกง : ปายยกับครายยคราบบ
เรา : คนเดียวคะ
ท่านกง : ทำไมปายยคนเดียว
เรา : ไม่มีใครไปด้วยคะ จึงต้องไปคนเดียว
ท่านกง : พยักหน้าและยิ้มที่มุมปากอีกรอบ ก้มหน้าพิมพ์ๆๆ เงยหน้ามา
            ......(ชื่อสามีญาติ)เป็นครายย
เรา : สามีลูกพี่ลูกน้อง เป็นญาติกันคะ
ท่านกง : พยักหน้าก้มหน้าพิมพ์ๆๆ เงยหน้ามา ยินดีด้วยคราบบบวีซ่าคุณผ่าน
เรา : ยืน งง อยู่ 3 วิ แล้วก็ขอบคุณยกมือไหว้พร้อมยิ้มสยามส่งท้าย แล้วรีบเดินออกมาจากตรงนั้นให้ไว กลัวท่านกงเรียกกลับไปเอา Passport คืน

คือ ณ ตอนนั้นเรา งง มาก นี้เราผ่านแล้วแล้วหรอ ผ่านมาได้ไงท่านกงไม่ขอดูเอกสารใดๆเพิ่มเลย มีเพียง Passport + DS-160 มัดหนังยาง เท่านั้น!!!
เอกสารที่เราเตรียมมาละทำไมท่านไม่ขอดูเพิ่ม ไม่ถามอะไรเพิ่ม ทำไมมันง่ายจัง หรือว่าเราฟังอะไรผิดหรือเปล่า ถ้าไม่ผ่านทำไมท่างกงไม่คืน Passport ละ นี่เราผ่านแล้วจริงๆใช่ใหม (ถามตัวเอง) หลังจากที่ตั้งสติได้แล้วก็เดินไปเอาของคืน พร้อมโทรบอกที่บ้านว่าผ่านแล้ว ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำไมผ่านง่ายจัง เอกสารไม่ขอดูอะไรเลยจริงๆนะหรอ โชคดีจังเลย

ปล.อยากให้ทุกคนที่กำลังจะสัมภาษณ์ผ่านทุกคนนะคะ เป็นกำลังใจให้