สุดสัปดาห์นี้ผู้คนจำนวนมากทั่วอเมริกาได้ไปเยือนพิพิธภัณฑ์ Ripley’s Believe It or Not! เพื่อชมการแสดงการกลืนดาบ(ไม้)ลงท้องผ่านหลอดอาหาร !
อ้างอิงข้อมูลจาก “สมาคมนักกลืนดาบนานาชาติ” วันนักกลืนดาบโลก(มีวันแบบนี้ด้วย- -“) มีขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองศิลปะเก่าแก่ในการกลืนดาบ ตำนานการขับไล่สิ่งชั่วร้าย และเพื่อให้ตระหนักถึงคุณูปการที่นักกลืนดาบมีต่อวงการวิทยาศาสตร์และการแพทย์
ครับถ้ายากที่เชื่อว่านักกลืนดาบมีคุณูปการต่อวงการวิทยาศาสตร์และการแพทย์อย่างไร เราลองมาย้อนดูเกร็ดประวัติศาสตร์กันสักหน่อย เครื่องตรวจระบบทางเดินอาหาร หรือกล้องส่องตรวจระบบทางเดินอาหาร(esophagoscopy) รุ่นแรกๆ ของโลก ถูกใช้กับนักกลืนดาบในปี 1868 โดย Adolph Kussmaul นายแพทย์ชาวเยอรมัน หลังจากที่มีประสบการณ์อันน่าผิดหวังที่จะเห็นระบบทางเดินอาหารเพื่อตรวจหาเนื้องอกของผู้ป่วย Kussmaul กลับได้เห็นมันอย่างแจ่มชัดโดยให้นักกลืนดาบ กลืนกระบอกยาว 47 เซนติเมตร พร้อมกับใช้อุปกรณ์กระจกส่องคอ (laryngeal mirror )และตะเกียงน้ำมันในการตรวจ
รูปอุปกรณ์ laryngeal mirror
เทคโนโลยีการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiography)ก็เป็นหนี้บรรดานักกลืนดาบด้วยเช่นเดียวกัน เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจรุ่นแรก ก็ใช้นักกลืนดาบนี่แหละเป็นผู้ทดสอบ ในปี 1906 M. Cremer นายแพทย์ชาวเยอรมัน(อีกแล้ว) ได้สอดขั้วไฟฟ้า (electrode) ผ่านหลอดอาหารของนักกลืนดาบ เพื่อสังเกตการทำงานของหัวใจ
คุณปการของนักกลืนดาบต่อวงการแพทย์ในศตวรรษที่ 19-20 เป็นผลพวงโดยบังเอิญของการฝึกฝนบางประเภท ที่ย้อนไปได้ในสมัย 2,000 ปี ก่อนคริสตกาล มันเริ่มต้นที่อินเดียโบราณเช่นพิธีการลุยไฟเพื่อทดสอบความกล้าและความศรัทธา ก่อนที่มันจะแพร่ลามไปทั่วเอเชียจนถึงยุโรป ผ่านกาลเวลาหลายศตวรรษ จากพิธีกรรมทางศาสนาจนกลายเป็นการแสดงตามท้องถนน
ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นปรากฏการณ์ที่แพร่ลามไปทั่วโลกแต่เดี๋ยวนี้กลับเริ่มเลือนหายไป “สมาคมนักกลืนดาบนานาชาติ” ประเมินว่ายังคงมีนักกลืนดาบอาชีพเพียงไม่กี่สิบรายที่ยังคงแสดงอยู่ แต่กิจกรรมของชุมชนนักกลืนดาบเล็กๆ เหล่านี้ยังคงยืนยันต่อสาธารณะชนทั่วไปที่มีแนวโน้มคิดว่างานของพวกเขาเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับละครสัตว์ และเตือนความจำว่ากิจกรรมของพวกเขาเป็นคุณูปการในประวัติศาสตร์ทางการแพทย์
ครั้งหน้าที่ได้ไปหาหมอ หากคุณหมอได้ตรวจภายในร่างกายของเราด้วยการส่องผ่านท่อ อย่าลืมขอบคุณนักกลืนดาบด้วยนะครับ
แปลและเรียบเรียงจากบทความของ Eliza Berman
http://time.com/3711869/sword-swallower-paris-1945/
***********************************
ปล. กำลังเริ่มทำบล็อกและเพจ แปลข่าววิทยาศาสตร์นะครับ ผิดถูกอย่างไรช่วยชี้แนะด้วยครับ ^ ^
ฝากเพจนะครับ
https://www.facebook.com/newsdeedee
ส่วนนี่ บล็อกครับ
http://newsdeedee.weebly.com/
การโชว์กลืนดาบ ก็มีคุณูปการกับวงการแพทย์นะ ?
สุดสัปดาห์นี้ผู้คนจำนวนมากทั่วอเมริกาได้ไปเยือนพิพิธภัณฑ์ Ripley’s Believe It or Not! เพื่อชมการแสดงการกลืนดาบ(ไม้)ลงท้องผ่านหลอดอาหาร !
อ้างอิงข้อมูลจาก “สมาคมนักกลืนดาบนานาชาติ” วันนักกลืนดาบโลก(มีวันแบบนี้ด้วย- -“) มีขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองศิลปะเก่าแก่ในการกลืนดาบ ตำนานการขับไล่สิ่งชั่วร้าย และเพื่อให้ตระหนักถึงคุณูปการที่นักกลืนดาบมีต่อวงการวิทยาศาสตร์และการแพทย์
ครับถ้ายากที่เชื่อว่านักกลืนดาบมีคุณูปการต่อวงการวิทยาศาสตร์และการแพทย์อย่างไร เราลองมาย้อนดูเกร็ดประวัติศาสตร์กันสักหน่อย เครื่องตรวจระบบทางเดินอาหาร หรือกล้องส่องตรวจระบบทางเดินอาหาร(esophagoscopy) รุ่นแรกๆ ของโลก ถูกใช้กับนักกลืนดาบในปี 1868 โดย Adolph Kussmaul นายแพทย์ชาวเยอรมัน หลังจากที่มีประสบการณ์อันน่าผิดหวังที่จะเห็นระบบทางเดินอาหารเพื่อตรวจหาเนื้องอกของผู้ป่วย Kussmaul กลับได้เห็นมันอย่างแจ่มชัดโดยให้นักกลืนดาบ กลืนกระบอกยาว 47 เซนติเมตร พร้อมกับใช้อุปกรณ์กระจกส่องคอ (laryngeal mirror )และตะเกียงน้ำมันในการตรวจ
รูปอุปกรณ์ laryngeal mirror
เทคโนโลยีการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiography)ก็เป็นหนี้บรรดานักกลืนดาบด้วยเช่นเดียวกัน เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจรุ่นแรก ก็ใช้นักกลืนดาบนี่แหละเป็นผู้ทดสอบ ในปี 1906 M. Cremer นายแพทย์ชาวเยอรมัน(อีกแล้ว) ได้สอดขั้วไฟฟ้า (electrode) ผ่านหลอดอาหารของนักกลืนดาบ เพื่อสังเกตการทำงานของหัวใจ
คุณปการของนักกลืนดาบต่อวงการแพทย์ในศตวรรษที่ 19-20 เป็นผลพวงโดยบังเอิญของการฝึกฝนบางประเภท ที่ย้อนไปได้ในสมัย 2,000 ปี ก่อนคริสตกาล มันเริ่มต้นที่อินเดียโบราณเช่นพิธีการลุยไฟเพื่อทดสอบความกล้าและความศรัทธา ก่อนที่มันจะแพร่ลามไปทั่วเอเชียจนถึงยุโรป ผ่านกาลเวลาหลายศตวรรษ จากพิธีกรรมทางศาสนาจนกลายเป็นการแสดงตามท้องถนน
ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นปรากฏการณ์ที่แพร่ลามไปทั่วโลกแต่เดี๋ยวนี้กลับเริ่มเลือนหายไป “สมาคมนักกลืนดาบนานาชาติ” ประเมินว่ายังคงมีนักกลืนดาบอาชีพเพียงไม่กี่สิบรายที่ยังคงแสดงอยู่ แต่กิจกรรมของชุมชนนักกลืนดาบเล็กๆ เหล่านี้ยังคงยืนยันต่อสาธารณะชนทั่วไปที่มีแนวโน้มคิดว่างานของพวกเขาเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับละครสัตว์ และเตือนความจำว่ากิจกรรมของพวกเขาเป็นคุณูปการในประวัติศาสตร์ทางการแพทย์
ครั้งหน้าที่ได้ไปหาหมอ หากคุณหมอได้ตรวจภายในร่างกายของเราด้วยการส่องผ่านท่อ อย่าลืมขอบคุณนักกลืนดาบด้วยนะครับ
แปลและเรียบเรียงจากบทความของ Eliza Berman http://time.com/3711869/sword-swallower-paris-1945/
***********************************
ปล. กำลังเริ่มทำบล็อกและเพจ แปลข่าววิทยาศาสตร์นะครับ ผิดถูกอย่างไรช่วยชี้แนะด้วยครับ ^ ^
ฝากเพจนะครับ https://www.facebook.com/newsdeedee
ส่วนนี่ บล็อกครับ http://newsdeedee.weebly.com/