สวัสดีค่าาา  วันนี้เราจะพาทุกคนมาทัวร์อาหารคาวกันบ้างนะคะ เป็นอาหารที่ทุกคนต้องรู้จักกันแน่นอน
มันก็คือออ...”ขนมจีน!!!” นั่นเอง มีใครเคยสงสัยกันบ้างคะ ว่าขนมจีนที่เราทานๆกันเนี่ย
กว่านางจะออกมาเป็นเส้นสวยๆ นางต้องผ่านอะไรมาบ้าง ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปชมขั้นตอนการ process น้องขนมจีนกันค่ะ
และที่เลอค่าไปกว่านั้นคือ มันเป็นวิธีการทำขนมจีนแบบชาวบ้านดั้งเดิมเลยค่ะ
ต้องขอเท้าความ ย้อนกลับไปเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมาค่ะ เราได้เดินทางไปบ้านญาติที่ต่างจังหวัด
และทุกครั้งที่ไป ต้องแวะไปทาน “ขนมจีนกับแกงใต้” ทุกครั้งค่ะ เส้นขนมจีนที่นี่จะเป็นเส้นสด
เพราะฉะนั้นเวลาจะกินเราก็ต้องไปซื้อที่บ้านที่เขาทำขาย
ซื้อทานกันสดๆเลยค่ะ พอขึ้นจากเตาปุ๊บเอากลับบ้านมาราดน้ำยาปั๊บ
เส้นเหนียวๆกับน้ำยาอร่อยๆเป็นอะไรที่มีความสุขมากๆ

การทำขนมจีนแบบนี้เป็นวิธีที่เขาทำกันมาเป็นสิบๆปี รุ่นต่อรุ่น เราเห็นการทำของที่นี่มาตั้งแต่ตัวเล็กๆ
ทุกครั้งที่ไปบ้านญาติจะต้องไปบ้านนี้ไปดูเขาทำขนมจีน ยืนดูทุกครั้งก็ชอบทุกครั้ง ดูมายี่สิบปีแล้ว
เลยอยากนำมาแบ่งปันเพื่อนให้ได้ชมกัน เพราะเชื่อว่าหลายคนอาจไม่เคยเห็นวิถีชีวิตแบบนี้




ปกติแล้วเวลาดูเราก็ไม่เคยสงสัยนะว่าก่อนจะมาเป็นแป้งนี่มันทำยังไง
แต่อยู่ๆวันนี้ก็สงสัยเลยถามป้าเจ้าของบ้านว่าก่อนจะมาต้มเนี่ยมันมาจากอะไร
ป้าแกก็เล่าให้ฟังว่าเอาแป้งนู้นนี่นั้นมาหมัก (เราจำไม่ได้แล้วว่าแป้งอะไร อิอิ)
หลังจากหมักแป้งแล้ว มันก็จะได้เป็นน้ำเหลวๆ จากนั้นก็เทใส่ถุงแล้วก็เอาหินทับไว้
ประมาณคืนนึงก็จะได้แป้งพร้อมทำขนมจีนแล้ววว




จากนั้นก็จะนำมานึ่งจนแป้งสุกพอประมาณ นึ่งด้วยเตาถ่านหน้าตาแบบนี้เลยค่ะ
ป้าเขาบอกว่าไฟต้องไม่แรงเกินไปไม่งั้นแป้งมันจะสุกเร็วเกินไป





นึ่งจนแป้งสุกได้ที่ ก็นำแป้งมาใส่เครื่องบดต่อ
ปั่นๆๆๆๆจนแป้งละเอียดได้ที่ถึงจะนำไปบีบเป็นเส้นเเละต้มได้นะจ๊ะ  



มาถึงขั้นตอนการต้มกันเลย  นี่คือกระทะต้มเส้นขนมจีนจ้า  เป็นเตาถ่านเช่นเคย
ป้าเจ้าของบ้านบอกว่ากระทะใบนี้ใช้มานานเป็นสิบปีแล้ว ใช้ต้มทุกวันไม่มีวันหยุด






หลังจากนั้นก็นำแป้งที่เราบดเสร็จมาใส่ในเครื่องบีบเส้นขนมจีน (อันที่กระบอกสีเงินๆ)
ใส่แป้งเข้าไปเสร็จเราเลื่อนกระบอกเงินๆไปตรงตัวกดแป้ง จากนั้นก็เปิดเครื่อง
พอเส้นออกมาก็ต้องเอาไม้มาเขี่ยเส้นไม่ให้มันลงไปกระจุกกันอยู่ที่เดียว  จากนั้นครอบฝารอสุกโลดดด






เส้นขนมจีนป้าเขาบอกว่าถ้ายิ่งต้มนานเส้นจะยิ่งเหนียวและยิ่งอร่อยจ้า
แต่คอนเฟิร์มเลยค่ะว่าเส้นของที่นี่เหนียวนุ่มไม่เหมือนในเมืองอย่างที่เรากินๆกันแน่นอน
พอเส้นสุกก็เอากระชอนช้อนเส้นขึ้นมาล้างน้ำ จากนั้นใส่ถุงชั่งกิโลเป็นอันเรียบร้อยค่าาา



แป้งขนมจีนไม่ได้ทำเป็นเส้นๆได้อย่างเดียวน้า  
มันมีเวอร์ชั่นแบบแผ่นด้วย เอาแป้งที่บดเสร็จมาบีบๆให้เป็นแผ่นๆแล้วนำไปต้ม ก็จะได้ขนมจีนแบบแผ่น
หลังจากนั้นเอาไปกินกับน้ำยาได้เหมือนขนมจีนปกติเลยจ้า  
แบบแผ่นที่กินกับน้ำยาจะแผ่นเล็กกว่าในรูปครึ่งนึง จานนึงก็ประมาณสิบกว่าแผ่น
เราชอบทานแบบเวอร์ชั่นแผ่นมากๆค่ะ แต่มันเสียเวลาตอนบีบแป้งลงไปต้ม
ถ้าลูกค้าไม่เยอะป้าเขาก็จะทำให้ แต่ถ้าลูกค้าเยอะๆ เขาก็ให้เราทำทานเองได้เลยค่ะถ้าอยากทาน



นอกจากการเอาแป้งขนมจีนไปต้มแล้ว การจี่ไฟทานก็เป็นอีกวิธีที่ทำออกมาแล้วอร่อยมากค่ะ
คือเราจะเอาแป้งขนมจีนที่บดเสร็จแล้วมาปั้นเป็นแผ่นบางๆขนาดประมาณฝ่ามือมาจี่ไฟ
ถ่านที่ใช้ต้องอ่อนๆไม่แรงมากไม่งั้นแป้งจะไหม้แล้วแป้งจะไม่สุกเอา  
พอแป้งไหม้มีรอยดำๆเราก็เอามีดมาเคาะๆๆให้แป้งดำๆหลุดออก แล้วจี่ไฟต่อ
พอแป้งสุกมันก็จะกรอบๆ รสชาติเปรี้ยวนิดๆ พูดเลยว่าอร่อยไม่แพ้แป้งที่เอาไปต้มเลยค่ะ



ไหนๆก็ดูวิธีต้มเส้นกันไปแล้ว จะไม่พาไปกินก็กระไรอยู่เนาะ
ก็เลยพามาชิมขนมจีนเส้นสดน้ำยาปักษ์ใต้แบบบ้านๆกัน
ที่นี่เขาจะกินขนมจีนกันในตอนเช้า  ร้านขนมจีนที่นี่เป็นเหมือนที่รวมตัวของชาวบ้านให้มาพูดคุยกัน
คนเมืองอาจสงสัยกันว่ากินเผ็ดเช้าๆท้องไม่เสียหรอ
เราขอคอนเฟิร์มเลยว่าไม่เสียจ้า อร่อยเเช่บๆกันเช้าๆ อิอิ




ขนมจีนร้านนี้มี 3 น้ำยาให้เลือก คือ แกงน้ำพริก , แกงปลา, และแกงกะทิไก่
ในเเต่ละวันป้าจะมีเมนูเปลี่ยนไปเรื่อยๆ บางวันก็จะมีเเกงปลากระป๋องอะไรเเบบนี้
ซึ่งเราจะใส่กี่น้ำยาก็ได้ ป้าใจดีมากให้ใส่ได้ตามใจจ้า




ป้าเขาจะมีผักเหนาะให้กินด้วย  แล้วที่อร่อยและเราชอบที่สุดคือผักยำ  
กลับมากรุงเทพลองเอามาทำเองยังได้รสชาติไม่เหมือนที่ป้าเขาทำเลยค่ะ



ส่วนน้ำยาที่เราชอบกินจะเป็นแบบสองน้ำยาผสมกัน จะผสมแกงปลากับแกงน้ำพริก อร่อยสุดๆไปเลย !!
อร่อยไม่พอแถมถูกมากๆอีกด้วย จานนี้เพียงแค่ 10 บาทเท่านั้นจ้าาาาาาา




กินของคาวเสร็จก็ต้องต่อด้วยของหวาน  
นี่คือขนมครกโบราณจ้า ที่นี่เขาจะใส่แป้งนิดเดียว ที่เหลือจะเป็นหัวกะทิ
ป้าคนขายบอกว่ากะทิที่ใช้ต้องเป็นหัวกะทิเท่านั้นไม่งั้นไม่อร่อย





ขนมครกโบราณนี้จะไม่ใส่น้ำตาลในแป้งหรือในกะทิเลย
ถ้าใครชอบหวานๆก็โรยน้ำตาลเพิ่มเอา เวลากินก็กรุบๆน้ำตาล
เวลาเราทาน เราก็ไม่ใส่น้ำตาลเลยค่ะ เพราะรสชาติของมันหวานมันอยู่ในตัวแล้ว
ในจานด้านบนนั้น 6 คู่ แค่ 10 บาทเท่านั้น !!!!  ถูกและอร่อยค่ะ หายากมากๆ


กระทู้นี้ก็จบเพียงเท่านี้แหละค่า ขอบคุณทุกท่านที่อ่านกันมาถึงตรงนี้
ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ  แล้วเจอกันใหม่ในกระทู้หน้านะคะ

ขอฝากกระทู้เก่า by Chilled Style ด้วยนะคะ
Review : Croissant Taiyaki หรือขนมปลาไส้ทะลักยอดฮิตจากญี่ปุ่น
http://ppantip.com/topic/33290075