ชาวไร่มือสมัครเล่นแลกที่อยู่ที่กินที่ญี่ปุ่น เพราะไอดอลของเราคือ HARVEST MOON (2)

ชาวไร่มือสมัครเล่นแลกที่อยู่ที่กินที่ญี่ปุ่น เพราะไอดอลของเราคือ HARVEST MOON
ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/33223394

WWOOF Switzerland ประสบการณ์ทำงานในฟาร์มแลกที่อยู่ที่กินครั้งแรก (ที่ทำให้มีครั้งที่สองสามสี่ห้าหกเจ็ดแปดเก้าสิบ)
ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/33142921

WWOOF Switzerland ประสบการณ์ทำงานในฟาร์มแลกที่อยู่ที่กินครั้งแรก (ที่ทำให้มีครั้งที่สองสามสี่ห้าหกเจ็ดแปดเก้าสิบ)
ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/33171519

ติดตาม พูดคุย ติชม สอบถาม ได้ที่นี่นะจ๊าาาาาา ยิ้ม
https://www.facebook.com/ggrroowwss















ก่อนลาจากเคนซัง และยาโยซัง โฮสต์ฟาร์มแรกที่ญี่ปุ่นของเรา เราแวะร้านสาเกข้างๆ สถานีรถไฟกันก่อน
"ชิมฟรี" เคนซังพูดน้ำเสียงราบเรียบเหมือนเคย มือหนึ่งลูบเคราที่คาง อีกมือกอดอกไว้



"จะได้หลับสบายบนรถไฟน่ะ ทางมันค่อนข้างไกล" เคนซังบอก พร้อมยื่นแก้วสาเกหลากชนิดให้เราชิม

ภาพสุดท้ายก่อนจากมา เคนซังและยาโยขึ้นมาส่งเรากับก้อยบนรถไฟ

(อย่าสาปส่งเค้านะ ตอนนั้นได้ชุดมาฟรี ไม่รู้จริงๆ ว่าต้องเป็นสาวที่มีคู่ครองแล้วถึงจะใส่ชุดสีแดงได้ ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า ใส่เสร็จขายต่อ ใส่เสร็จขายต่อ 55555555555555555)



รถไฟค่อยๆ แล่นออกจากชานชาลา เราชะเง้อหน้า โบกมือให้ทั้งคู่จนลับตาไป จุดหมายต่อไป Nagano


วันนี้อากาศดีจัง เรามองทิวทัศน์ข้างทาง ที่มีแดดอุ่นๆ สาดเข้ามาที่หน้าต่างทำให้ผลอยหลับไป

เรานั่งหลับกันอย่างสบายอก สบายใจ คนในรถมีบ้างประปรายไม่เบียดแน่นเหมือนในเมืองใหญ่ เสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือปลุกให้เราตื่น เป็นเวลา 15นาที ก่อนจะถึงเวลาเปลี่ยนรถไฟ เราตั้งนาฬิกาเสมอ เพราะแน่ใจเรื่องความตรงเวลาของระบบขนส่งที่นี่ อีกทั้งยังแน่ใจคำพูดที่แม่บอกกับเราเสมอๆ "ขึ้นรถเมื่อไหร่ หลับเมื่อนั้น" อีกด้วย

เราบิดตัว ไปมองหาท้องฟ้าฟ๊าาาฟ้า ที่มีก้อนเมฆปุกปุยสีขาวจั๊วะลอยช้าๆ ไปมา ข้างหน้าต่าง





.....................................


ท้องฟ้าได้ตายจากเราไปแล้ว!
เจ้าเมฆปุกปุยเมื่อกี้ มันคือปีศาจในคราบความน่ารักน่าชัง เผลอแป๊บเดียวก็เขมือบท้องฟ้าของเราเข้าไปทั้งตัว
เหลือเพียงเจ้าท้องเทา น้ำฝนโหมกระหน่ำลงมา ช่วยชำระ ร่องรอยจากการต่อสู้อันแสนโหดร้ายที่เพิ่งผ่านไป


เราเดินขึ้น เดินลง เปลี่ยนรถไฟไปมา ไม่กี่ครั้ง ก็มาถึงสถานี เราเทียบชื่อบนป้ายสถานี กับชื่อที่เราจดไว้ในกระดาษยัดไว้ในกระเป๋าสะพายข้าง




เราเดินลงมาพร้อมกับผู้โดยสารคนอื่นๆ บางคนก็มีญาติมายืนรอ บ้างก็เดินไปเอง บ้างก็เรียกแท็กซี ไม่นานชานชาลาก็ (เกือบจะ) ว่างเปล่า
เรายืนชะเง้อมองหาผู้ปกครองกันอยู่สักพัก ก็ไม่มีวี่แววของเทรุมิซัง เราจึงเดินไปหยอดเหรียญที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะโทรเข้าเบอร์บ้านที่เธอให้เอาไว้ในอีเมล ตอนติดต่อกัน

"สวัสดีค่า เทรูมิซัง ใช่ไหมคะ เรามาถึงแล้วค่ะ"

"อ้าว ยังไม่มีคนไปรับอีกเหรอเนี่ย สงสัยจะลืม งั้นรอแป๊บนึงนะจ๊ะ" แล้วสายก็ตัดไป


เราเดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ ที่วางสัมภาระเอาไว้ ใช่! วางของทุกอย่างไว้ ทำไมล่ะ ก็ที่นี่ญี่ปุ่นนี่นา ไม่มีที่ไหนจะปลอดภัยเท่านี้นี้แล้ว (คิดเอง)

"เทรุมิซัง? ฟาร์ม?" คุณลุงที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ข้างๆ หันมาคุยกับเรา

"ใช่ค่ะ รู้ได้ยังไงคะ?"

"ได้ยินเธอพูดชื่อ เทรูมิซังน่ะ ฉันก็จะไปฟาร์มนั้นเหมือนกัน"

"โอ้ๆๆๆ ดีจังเลยยยย คุณตาก็เป็นอาสาสมัครเหรอคะ?"

"5555555555555555555555555555555 อาสาสมัคร จะว่างั้นก็ได้ บางทีถ้าว่างก็จะไปช่วยงานน่ะ" คุณลุงหัวเราะร่วน ตอบเรา

ลุงแกก็ถามโน่นนี่เราไปซักพักใหญ่ๆ มาจากไหน ทำอะไร ทำไมถึงอยากมาทำฟาร์ม แล้วพูดญี่ปุ่นไม่ได้เลยเหรอ อะไรต่างๆ นาๆ สักพักรถตู้คันจิ๋วแบบฉบับชาวไร่ญี่ปุ่นก็มาเบรกดังเอี๊ยดอยู่ตรงหน้าเรา ชายวัยกลางคนเดินลงมาจากรถ ใส่แว่นหนา โพกผ้าเช็ดตัวสีขาวไว้บนหัว ทำให้ไม่รู้ว่าเขาไว้ผมทรงอะไรกันแน่ เขาแนะนำตัวว่าเป็นเจ้าของฟาร์ม สามีเทรูมิซัง บีบมือแน่น แล้วให้เขาขนกระเป๋าไปไว้ท้ายรถ คุณลุงเดินตามมา เราเห็นว่าทั้ง 2ยังไม่ได้ทักทายกัน ด้วยความเฟรนด์ลี่ระดับ 10 จึงบอกพี่เขาไปว่า

"คุณลุงคนนี้ก็ไปกับเราด้วยนะคะ เป็นอาสาสมัครเหมือนกัน" เรายิ้มแฉ่ง

"อ๋อ รู้สิ นี่พ่อตาฉันเอง"

"5555555555555555555555555555555555555555555555555555 โวลันเทีย เยส โวลันเทีย" คุณลุงหัวเราอร่อยที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา

................................................................................... (แตก!)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่