*** เรายืมไอดีของเพื่อน (แอน เพื่อนร่วมทริปนั่นแหละ) มาตั้งนะคะ แฮ่ !
ยังไงมีคำถาม/ อยากติชม เข้าไปได้ที่นี่นะคะ
https://www.facebook.com/ggrroowwss
* รูปที่ถ่ายมาทั้งหมด ใช้ไอโฟน 4 ค่ะ ไม่ได้พกกล้องไป(ไม่มี) แล้วก็รูปส่วนใหญ่ไปดูดมาจาก IG ของตัวเองอีกที ไฟล์ต้นฉบับหายยยยไปหมดดดเลย ฮือออ!
กลางมิถุนา 2012 วันหนึ่ง
เราเดินลงจากรถไฟ ด้วยไหล่สองข้างแสนร้าวระบมที่ถูกกดทับด้วยกระเป๋าเป้ใบใหญ่ หันหลังไปมองป้ายสถานีเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
"La Roche"
เราเดินมารอตรงศูนย์บริการข้อมูลการเดินรถไฟตามที่คุณลุงแกนัดแนะเอาไว้ผ่านการคุยโทรศัพท์เมื่อ 2คืนก่อน
2คืนก่อน เมือง Basel สวิตเซอร์แลนด์
เรายืนเบียดกับแอน เพื่อนร่วมชะตากรรมอีกคนในตู้โทรศํพท์เก่าอับๆ คลุ้งกลิ่นเบียร์ผสมฉี่จากชายฉกรรจ์ร้อยพ่อพันแม่ให้กลิ่นชวนพิศวง ข้างถนนตู้หนึ่ง (หาทั้งเมือง มีอยู่ตู้เดียว)
เรา: สวัสดีค่ะ คุณอังเดรใช่ไหมคะ (เยอรมัน)
เขา: ใช่ นั่นใคร? (เยอรมันสำเนียงฝรั่งเศส)
เรา: เราที่ติดต่อไปทางอีเมล เรื่องไปช่วยงานที่ฟาร์มของคุณน่ะค่ะ ตอนนี้มาถึงสวิตเซอร์แลนด์แล้วค่ะ (ภาษาเยอรมันประหลาดๆ ผสมอังกฤษ)
เขา: โอ้ มาแล้วเหรอๆ ดีจังเลยๆ (ภาษาอังกฤษสำเนียงฝรั่งเศส)
เรา:คุณสะดวกให้เราเข้าไปวันไหน และเจอกันที่ไหนดีคะ?
เขา: (อธิบายๆๆๆๆๆ ด้วยภาษาอังกฤษผสมฝรั่งเศสและเยอรมัน) anyway! ตื่นเต้นมากๆๆๆๆ เลยนะเนี่ยหนูๆ จะมีคนมาอยู่ฟาร์มฉัน ผู้หญิงอีกต่างหาก นี่กระท่อมบนยอดเขาของฉันไม่มีผู้หญิงมาเยี่ยมเป็น 30ปีแล้วนะเนี่ย ฉันอยู่คนเดียวเหงามาตลอด ตื่นเต้นจริงๆ เลยๆๆๆๆ โฮ่โฮ่โฮ่ เอาเป็นว่าเจอกันตามนี้แล้วกัน แทบรอไม่ไหวแล้วล่ะ แฮ่ก แฮ่ก แกร่ก
เรา: ................................................................................
ตัดกลับมาหน้าศูนย์บริการการเดินรถไฟ สถานี Fribourg เราเดินช้าๆ สอดส่ายสายตาหาภาพชายหนุ่มวัยกลางคนประมาณ 50 พุงพลุ้ย ในเสื้อเชิ้ตลายสก็อต ชุดเอี๊ยมยีนส์และรองเท้าบู้ทพร้อมหมวกคาวบอย ตามภาพในจินตนาการ
"สงสัยยังไม่มาแหะ" เราพูดกับแอน (เพื่อนที่โดนหลอกมาด้วยกัน อิอิ) ขณะเดียวกันก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มร่างผอมแห้ง เนื้อตัวมอมแมมเหมือนไม่ได้อาบน้ำตั้งแต่หน้าร้อนปีที่แล้ว ผมเผ้ารุงรัง ยืนมองเราอยู่อย่างเก้ๆ กังๆ เขาแสยะยิ้มแล้วตรงดิ่งมาหาเรา
"มากันแล้วๆ สวัสดีๆ" ชายผู้นั้นบีบมือเราหนักแน่นพร้อมเขย่าอย่างแรง เหมือนพยายามหาอาวุธที่เราซ่อนไว้ในแขนเสื้อ เราได้กลิ่นนมบูด กลิ่นชีสแบบอับๆ ขณะแขนเสื้อเขากระพือ "ซอรี่ ไอ สเมล ออฟ ชีสสสส" แกพูดแบบอายๆ
"ปะๆๆๆ ไปกันเถอะๆๆๆ ต้องรีบหน่อยนะ ฉันจอดรถไว้ในที่ห้ามจอด เดี๋ยวจะโดนปรับซะก่อน" เขาเดินลิ่วๆ นำไป เรามองหน้ากันแล้วก็รีบตาม แปลกใจกับท่าทีเพราะก่อนหน้านี้เราไปเยอรมนีกันมา และไม่เคยเจอคนเยอรมันที่ไม่ทำตามกฎกติกา (หมายถึงเท่าที่เจอ)
"คันนี้เหรอคะ?" แอนยืนตัวแข็ง ถามเพื่อความแน่ใจ รถยนต์สีน้ำเงินคันจิ๋ว ยี่ห้ออะไรจำไม่ได้ สภาพแบบต้องปล่อยควันดำเยอะๆ เวลาเร่ง แต่ก็ไม่แน่ใจว่าแค่สตาร์ทจะติดไหม ล้อทั้ง 4ด้าน เกรอะไปด้วยขี้ดินหนา แกเปิดท้ายรถเป็นช่องเล็กๆ หลังเบาะหลังให้เราเอากระเป๋าเป้ใบยักษ์ และกระเป๋าลากอีกใบของแอนยัดลงไป แต่เอาจริงๆ ข้างหลังรถมันก็เต็มไปด้วยของของแกเต็มไปหมด คือก่อนหน้าที่แกจะมารับเราเนี่ย ลุงแกไปขายชีสที่ตลาดนัดมา นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่เราต้องมาหาแกวันนี้ วันนี้เท่านั้น ไม่อย่างนั้นต้องรอไปอีก 1อาทิตย์ เพราะลุงอังเดรจะลงมาจากยอดเขา จากกระท่อมของแก เข้ามาขายชีสแพะที่แกะทำเองในตัวเมือง อาทิตย์ละ 1-2ครั้ง หลังเรามีกล่องโฟม ผ้าม้วน ร่วม ถุง ขยะ และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ยัดกันอยู่ เราก็ยัด ยัด ยัด กระเป๋าเป้ของเราเข้าไปอีก ดันแล้วดันอีก จนปิดหลังได้
"ฉันขอนั่งหลัง" แอนพูด ขณะเรากำลังเดินอ้อมมาขึ้นรถ
"ตรงไหนวะ?" เราถามแอน
สภาพเบาะหลัง มีกล่องๆๆๆๆ มีพวกเครื่องครัว เขียง ผ้าขี้ริ้ว ผ้าใบ ซ้อนๆ กันอยู่ แล้วมีโต๊ะเหล็ก กับเก้าอี้พลาสติก พาดอยู่ข้างบน ลุงอังเดรเริ่มสตาร์ทรถ แล้วบอกกับแอนว่า
"ดันไปเลยๆ พุชช พุชชชช ฮาร์ดเด้อออ!" แอนทำตาม แล้วเข้ามานั่งแบบไม่เกรงใจโต๊ะเก้าอี้รวมถึงของอื่นๆ ที่เขาอยู่มาก่อน ระบบรุ่นพี่รุ่นน้องใช้ไม่ได้ในสถานการณ์นี้
รถแล่นออกจากที่ทางเท้าในสนานีรถไฟ (เรียกที่จอดรถก็ไม่ถูก แกจอดบนทางเท้า ที่มีป้ายห้ามจอด)
ผลั้วะ! ประตูหลัง ฟากตรงข้ามแอนเปิดเอง เพราะโต๊ะเหล็กไปดันมัน
"เฮ้ย!!!" เราอุทานพร้อมกัน
"!@$ ^#$RRFDSA" ลุงแกสบถ
เราลงมาดันๆ แล้วปิดใหม่ รีบวิ่งขึ้นรถ (กลางถนน)
เงียบ
"Switzerland is beautiful huh?" ลุงแกถาม
"ํYESSSSSS" เราตอบพร้อมกัน
"OK I Tell you my house is not like Switzerland"
"หือ?"
"Welcome to AFRICA! หึหึ"
ลุงพูดพร้อมบีบแตรยาว ขับรถแซงรถรุ่นใหม่ ไม่ลืมพ่นควันดำใส่หน้าก่อนจากไป
WWOOF Switzerland ประสบการณ์ทำงานในฟาร์มแลกที่อยู่ที่กินครั้งแรก (ที่ทำให้มีครั้งที่สองสามสี่ห้าหกเจ็ดแปดเก้าสิบ)
ยังไงมีคำถาม/ อยากติชม เข้าไปได้ที่นี่นะคะ
https://www.facebook.com/ggrroowwss
* รูปที่ถ่ายมาทั้งหมด ใช้ไอโฟน 4 ค่ะ ไม่ได้พกกล้องไป(ไม่มี) แล้วก็รูปส่วนใหญ่ไปดูดมาจาก IG ของตัวเองอีกที ไฟล์ต้นฉบับหายยยยไปหมดดดเลย ฮือออ!
กลางมิถุนา 2012 วันหนึ่ง
เราเดินลงจากรถไฟ ด้วยไหล่สองข้างแสนร้าวระบมที่ถูกกดทับด้วยกระเป๋าเป้ใบใหญ่ หันหลังไปมองป้ายสถานีเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
"La Roche"
เราเดินมารอตรงศูนย์บริการข้อมูลการเดินรถไฟตามที่คุณลุงแกนัดแนะเอาไว้ผ่านการคุยโทรศัพท์เมื่อ 2คืนก่อน
2คืนก่อน เมือง Basel สวิตเซอร์แลนด์
เรายืนเบียดกับแอน เพื่อนร่วมชะตากรรมอีกคนในตู้โทรศํพท์เก่าอับๆ คลุ้งกลิ่นเบียร์ผสมฉี่จากชายฉกรรจ์ร้อยพ่อพันแม่ให้กลิ่นชวนพิศวง ข้างถนนตู้หนึ่ง (หาทั้งเมือง มีอยู่ตู้เดียว)
เรา: สวัสดีค่ะ คุณอังเดรใช่ไหมคะ (เยอรมัน)
เขา: ใช่ นั่นใคร? (เยอรมันสำเนียงฝรั่งเศส)
เรา: เราที่ติดต่อไปทางอีเมล เรื่องไปช่วยงานที่ฟาร์มของคุณน่ะค่ะ ตอนนี้มาถึงสวิตเซอร์แลนด์แล้วค่ะ (ภาษาเยอรมันประหลาดๆ ผสมอังกฤษ)
เขา: โอ้ มาแล้วเหรอๆ ดีจังเลยๆ (ภาษาอังกฤษสำเนียงฝรั่งเศส)
เรา:คุณสะดวกให้เราเข้าไปวันไหน และเจอกันที่ไหนดีคะ?
เขา: (อธิบายๆๆๆๆๆ ด้วยภาษาอังกฤษผสมฝรั่งเศสและเยอรมัน) anyway! ตื่นเต้นมากๆๆๆๆ เลยนะเนี่ยหนูๆ จะมีคนมาอยู่ฟาร์มฉัน ผู้หญิงอีกต่างหาก นี่กระท่อมบนยอดเขาของฉันไม่มีผู้หญิงมาเยี่ยมเป็น 30ปีแล้วนะเนี่ย ฉันอยู่คนเดียวเหงามาตลอด ตื่นเต้นจริงๆ เลยๆๆๆๆ โฮ่โฮ่โฮ่ เอาเป็นว่าเจอกันตามนี้แล้วกัน แทบรอไม่ไหวแล้วล่ะ แฮ่ก แฮ่ก แกร่ก
เรา: ................................................................................
ตัดกลับมาหน้าศูนย์บริการการเดินรถไฟ สถานี Fribourg เราเดินช้าๆ สอดส่ายสายตาหาภาพชายหนุ่มวัยกลางคนประมาณ 50 พุงพลุ้ย ในเสื้อเชิ้ตลายสก็อต ชุดเอี๊ยมยีนส์และรองเท้าบู้ทพร้อมหมวกคาวบอย ตามภาพในจินตนาการ
"สงสัยยังไม่มาแหะ" เราพูดกับแอน (เพื่อนที่โดนหลอกมาด้วยกัน อิอิ) ขณะเดียวกันก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มร่างผอมแห้ง เนื้อตัวมอมแมมเหมือนไม่ได้อาบน้ำตั้งแต่หน้าร้อนปีที่แล้ว ผมเผ้ารุงรัง ยืนมองเราอยู่อย่างเก้ๆ กังๆ เขาแสยะยิ้มแล้วตรงดิ่งมาหาเรา
"มากันแล้วๆ สวัสดีๆ" ชายผู้นั้นบีบมือเราหนักแน่นพร้อมเขย่าอย่างแรง เหมือนพยายามหาอาวุธที่เราซ่อนไว้ในแขนเสื้อ เราได้กลิ่นนมบูด กลิ่นชีสแบบอับๆ ขณะแขนเสื้อเขากระพือ "ซอรี่ ไอ สเมล ออฟ ชีสสสส" แกพูดแบบอายๆ
"ปะๆๆๆ ไปกันเถอะๆๆๆ ต้องรีบหน่อยนะ ฉันจอดรถไว้ในที่ห้ามจอด เดี๋ยวจะโดนปรับซะก่อน" เขาเดินลิ่วๆ นำไป เรามองหน้ากันแล้วก็รีบตาม แปลกใจกับท่าทีเพราะก่อนหน้านี้เราไปเยอรมนีกันมา และไม่เคยเจอคนเยอรมันที่ไม่ทำตามกฎกติกา (หมายถึงเท่าที่เจอ)
"คันนี้เหรอคะ?" แอนยืนตัวแข็ง ถามเพื่อความแน่ใจ รถยนต์สีน้ำเงินคันจิ๋ว ยี่ห้ออะไรจำไม่ได้ สภาพแบบต้องปล่อยควันดำเยอะๆ เวลาเร่ง แต่ก็ไม่แน่ใจว่าแค่สตาร์ทจะติดไหม ล้อทั้ง 4ด้าน เกรอะไปด้วยขี้ดินหนา แกเปิดท้ายรถเป็นช่องเล็กๆ หลังเบาะหลังให้เราเอากระเป๋าเป้ใบยักษ์ และกระเป๋าลากอีกใบของแอนยัดลงไป แต่เอาจริงๆ ข้างหลังรถมันก็เต็มไปด้วยของของแกเต็มไปหมด คือก่อนหน้าที่แกจะมารับเราเนี่ย ลุงแกไปขายชีสที่ตลาดนัดมา นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่เราต้องมาหาแกวันนี้ วันนี้เท่านั้น ไม่อย่างนั้นต้องรอไปอีก 1อาทิตย์ เพราะลุงอังเดรจะลงมาจากยอดเขา จากกระท่อมของแก เข้ามาขายชีสแพะที่แกะทำเองในตัวเมือง อาทิตย์ละ 1-2ครั้ง หลังเรามีกล่องโฟม ผ้าม้วน ร่วม ถุง ขยะ และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ยัดกันอยู่ เราก็ยัด ยัด ยัด กระเป๋าเป้ของเราเข้าไปอีก ดันแล้วดันอีก จนปิดหลังได้
"ฉันขอนั่งหลัง" แอนพูด ขณะเรากำลังเดินอ้อมมาขึ้นรถ
"ตรงไหนวะ?" เราถามแอน
สภาพเบาะหลัง มีกล่องๆๆๆๆ มีพวกเครื่องครัว เขียง ผ้าขี้ริ้ว ผ้าใบ ซ้อนๆ กันอยู่ แล้วมีโต๊ะเหล็ก กับเก้าอี้พลาสติก พาดอยู่ข้างบน ลุงอังเดรเริ่มสตาร์ทรถ แล้วบอกกับแอนว่า
"ดันไปเลยๆ พุชช พุชชชช ฮาร์ดเด้อออ!" แอนทำตาม แล้วเข้ามานั่งแบบไม่เกรงใจโต๊ะเก้าอี้รวมถึงของอื่นๆ ที่เขาอยู่มาก่อน ระบบรุ่นพี่รุ่นน้องใช้ไม่ได้ในสถานการณ์นี้
รถแล่นออกจากที่ทางเท้าในสนานีรถไฟ (เรียกที่จอดรถก็ไม่ถูก แกจอดบนทางเท้า ที่มีป้ายห้ามจอด)
ผลั้วะ! ประตูหลัง ฟากตรงข้ามแอนเปิดเอง เพราะโต๊ะเหล็กไปดันมัน
"เฮ้ย!!!" เราอุทานพร้อมกัน
"!@$ ^#$RRFDSA" ลุงแกสบถ
เราลงมาดันๆ แล้วปิดใหม่ รีบวิ่งขึ้นรถ (กลางถนน)
เงียบ
"Switzerland is beautiful huh?" ลุงแกถาม
"ํYESSSSSS" เราตอบพร้อมกัน
"OK I Tell you my house is not like Switzerland"
"หือ?"
"Welcome to AFRICA! หึหึ"
ลุงพูดพร้อมบีบแตรยาว ขับรถแซงรถรุ่นใหม่ ไม่ลืมพ่นควันดำใส่หน้าก่อนจากไป