ผมเป็นคนที่ใช้รถใช้ไฟฟ้า เยอะมาก จึงอยากประหยัดค่าน้ำมันค่าไฟฟ้า แล้ววันหนึ่งมีคนมาเสนอแผ่นสมาร์ทการ์ดประหยัดพลังไฟฟ้าและน้ำมัน ด้วยความที่เป็นคนใช้ไฟฟ้าและน้ำมันเยอะอยู่แล้วจึงเกิดความสนใจ และอยากลองซื้อมาใช้แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่ามันลดจริงป่าว ผมจึงบอกไปว่าขอไปหาข้อมูลก่อน ถ้ายังไงเดี๋ยวจะติดต่อกลับไป แล้วผมก็มาหาข้อมูลเกี่ยวกับการ์ดประหยัดพลัง แล้วก็มาเจอเข้ากับ ข่าว นักวิชาการ จุฬาฯ ชี้อันตรายของ Smart Card การ์ดประหยัดพลังงาน อ่านข้อความในข่าวแล้วผมก็มีข้อสงสัย อยู่ 2 จุดจึงอยากถามเลยมาตั้งกระทู้
http://www.chula.ac.th/th/archive/19439
จุดแรกที่อยากทราบคือ นักวิชาการเขาใช้คำว่าไม่น่าจะลดได้ มันเหมือนเป็นการคาดเดา จึงอยากทราบว่ามันลดได้หรือ ลดไม่ได้กันแน่ และอยากถามว่านักวิชาการทำการทดลองหรือทดลองใช้หรือยังว่ามันลดได้จริงหรือลดไม่ได้ คำพูดน่าจะชัดเจนกว่านี้ ใช้คำว่า
ไม่น่าจะ มันเหมือนเป็นการคาดเดา ผมเลยสงสัยว่าลดได้หรือไม่ได้กันแน่
จุดที่ 2 ที่อยากทราบคือ แร่ยูเรเนียมกับทอเรียม จากที่ผมหาข้อมูลมา
แร่ยูเรเนียม ทำให้เกิดมะเร็งปอดหรือโรคทางเดินหายใจ
http://www.nst.or.th/article/article494/article49405.htm
แร่ทอเรียม การสูดละอองทอเรียมเข้าไปอาจจะทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอด ตับและเม็ดโลหิต การรับทอเรียมเข้าไปในร่างกายจะทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับ
http://www.nst.or.th/article/article494/article49409.htm
จากที่นักวิชาการบอกว่า หากมีจำนวนมากและเก็บไว้ใกล้ตัว จะทำให้ได้รับรังสีปริมาณสูง อาจก่อให้เกิดอันตรายกับสุขภาพร่างกาย
อยากทราบว่าที่บอกว่า จำนวนมาก คือ จำนวน เท่าไร แล้วเก็บไว้ใกล้ตัว ใก้ลแค่ไหนถึงจะเป็นมะเร็ง แล้วปริมาณกัมมันตรังสีที่ได้รับ ต้องมากแค่ไหนถึงจะถึงจะเป็นมะเร็ง และได้รับกัมมันตรังสี เป็นระยะเวลาเท่าไร ถึงจะเป็นมะเร็ง
จากคำถามที่อยากรู้เพราะ การติดแผ่นประหยัดพลังที่นักวิชาการกล่าวไว้ในข่าว หากเป็นรถยนต์จะติดไว้ที่ฝาถังน้ำมัน นอกรถยนต์ แล้วกัมมันตรังสีมันจะเข้ามาได้หรอ และหากเป็นไฟฟ้าก็ติดไว้ที่เบรกเกอร์ซึ่ง เบรกเกอร์ที่ติดตามบ้านทั่วไปมันอยู่สูงมันไม่ก็ต้องอยู่ห่างจากตัวเราแน่นอนเพราะไม่มีใครไปอยู่ใกล้เบรกเกอร์ไฟฟ้าหรอก เพราะกลัวโดนไฟฟ้าช๊อต หากเป็นบ้านที่มีกล่องปิดสวิทซ์ตัดไฟฟ้ามิดชิด ที่ผมได้เห็นรูปภาพจาการหาข้อมูล เขาเปิดฝากล่องออกแล้วติดเข้าไปที่ตัวสวิทซ์ตัดไฟฟ้าข้างใน หากมันอยู่ที่สูงไกลตัวเราหรืออยู่ในกล่องมิดชิด กัมมันตรังสีมันจะแผ่มาโดนตัวเราหรอ จึงอยากรู้ว่าอย่างที่เอ่ยไปข้างต้น ว่ามันอันตรายมากแค่ไหน
อันนี้เป็นข้อสงสัยที่อยากทราบเพราะข่าวที่ออกมามันไม่ชัดเจน หากมันประหยัดได้จริงตามที่โฆษณา และมีอันตรายไม่มากก็น่าจะนำมาใช้ได้ เพราะปัจจุบันไม่ว่าจะทำอะไรก็เสี่ยงเป็นมะเร็งทั้งนั้น เช่น
1. การใช้กล่องโฟมและถุงพลาสติก เป็นสาเหตุใหญ่ๆ โดยเฉพาะผู้ชายที่รับประทานเข้าไปมากๆ มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ในขณะที่ผู้หญิงมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม และทั้งสองเพศมีโอกาสสูงที่จะเป็น มะเร็งตับ และยังทำให้สมองมึนงง สมองเสื่อมง่าย หยุดหงิดง่าย ประจำเดือนมาไม่ปกติ
2. การใช้โทรศัพท์มือถือนานๆ ทำให้เป็นมะเร็งสมองได้
3. การสูบบุหรี การดื่มสุรา ทำให้เกิดมะเร็งปอด มะเร็งตับ
จากที่องค์การอนามัยโลกรายงาน. โรคมะเร็งตอนนี้ไทยเป็นเบอร์ 1 ของเอเซียแล้ว อัตรา 1 คนจาก 8 คน สาเหตุเกิดจาก
1. กินเนื้อสัตว์ปิ้งย่าง
2. กินอาหารกะทิค้างคืน
3. กล้วยแขก ปาท่องโก๋และขนมครก
4. ผัดผักค้างคืน
ตอนนี้ยังไม่เห็นคนไทยเป็นโรคมะเร็งและตาย เพราะ แร่ยูเรเนียมและทอเรียมเลย
ที่ผมตั้งกระทู้ขึ้นมาเพราะอยากรู้จริงๆ รบกวนผู้ที่รู้จริงช่วยชี้แนะด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ช่วยชี้อันตรายของ Smart Card การ์ดประหยัดพลังงาน
http://www.chula.ac.th/th/archive/19439
จุดแรกที่อยากทราบคือ นักวิชาการเขาใช้คำว่าไม่น่าจะลดได้ มันเหมือนเป็นการคาดเดา จึงอยากทราบว่ามันลดได้หรือ ลดไม่ได้กันแน่ และอยากถามว่านักวิชาการทำการทดลองหรือทดลองใช้หรือยังว่ามันลดได้จริงหรือลดไม่ได้ คำพูดน่าจะชัดเจนกว่านี้ ใช้คำว่า ไม่น่าจะ มันเหมือนเป็นการคาดเดา ผมเลยสงสัยว่าลดได้หรือไม่ได้กันแน่
จุดที่ 2 ที่อยากทราบคือ แร่ยูเรเนียมกับทอเรียม จากที่ผมหาข้อมูลมา
แร่ยูเรเนียม ทำให้เกิดมะเร็งปอดหรือโรคทางเดินหายใจ
http://www.nst.or.th/article/article494/article49405.htm
แร่ทอเรียม การสูดละอองทอเรียมเข้าไปอาจจะทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอด ตับและเม็ดโลหิต การรับทอเรียมเข้าไปในร่างกายจะทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับ
http://www.nst.or.th/article/article494/article49409.htm
จากที่นักวิชาการบอกว่า หากมีจำนวนมากและเก็บไว้ใกล้ตัว จะทำให้ได้รับรังสีปริมาณสูง อาจก่อให้เกิดอันตรายกับสุขภาพร่างกาย
อยากทราบว่าที่บอกว่า จำนวนมาก คือ จำนวน เท่าไร แล้วเก็บไว้ใกล้ตัว ใก้ลแค่ไหนถึงจะเป็นมะเร็ง แล้วปริมาณกัมมันตรังสีที่ได้รับ ต้องมากแค่ไหนถึงจะถึงจะเป็นมะเร็ง และได้รับกัมมันตรังสี เป็นระยะเวลาเท่าไร ถึงจะเป็นมะเร็ง
จากคำถามที่อยากรู้เพราะ การติดแผ่นประหยัดพลังที่นักวิชาการกล่าวไว้ในข่าว หากเป็นรถยนต์จะติดไว้ที่ฝาถังน้ำมัน นอกรถยนต์ แล้วกัมมันตรังสีมันจะเข้ามาได้หรอ และหากเป็นไฟฟ้าก็ติดไว้ที่เบรกเกอร์ซึ่ง เบรกเกอร์ที่ติดตามบ้านทั่วไปมันอยู่สูงมันไม่ก็ต้องอยู่ห่างจากตัวเราแน่นอนเพราะไม่มีใครไปอยู่ใกล้เบรกเกอร์ไฟฟ้าหรอก เพราะกลัวโดนไฟฟ้าช๊อต หากเป็นบ้านที่มีกล่องปิดสวิทซ์ตัดไฟฟ้ามิดชิด ที่ผมได้เห็นรูปภาพจาการหาข้อมูล เขาเปิดฝากล่องออกแล้วติดเข้าไปที่ตัวสวิทซ์ตัดไฟฟ้าข้างใน หากมันอยู่ที่สูงไกลตัวเราหรืออยู่ในกล่องมิดชิด กัมมันตรังสีมันจะแผ่มาโดนตัวเราหรอ จึงอยากรู้ว่าอย่างที่เอ่ยไปข้างต้น ว่ามันอันตรายมากแค่ไหน
อันนี้เป็นข้อสงสัยที่อยากทราบเพราะข่าวที่ออกมามันไม่ชัดเจน หากมันประหยัดได้จริงตามที่โฆษณา และมีอันตรายไม่มากก็น่าจะนำมาใช้ได้ เพราะปัจจุบันไม่ว่าจะทำอะไรก็เสี่ยงเป็นมะเร็งทั้งนั้น เช่น
1. การใช้กล่องโฟมและถุงพลาสติก เป็นสาเหตุใหญ่ๆ โดยเฉพาะผู้ชายที่รับประทานเข้าไปมากๆ มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ในขณะที่ผู้หญิงมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม และทั้งสองเพศมีโอกาสสูงที่จะเป็น มะเร็งตับ และยังทำให้สมองมึนงง สมองเสื่อมง่าย หยุดหงิดง่าย ประจำเดือนมาไม่ปกติ
2. การใช้โทรศัพท์มือถือนานๆ ทำให้เป็นมะเร็งสมองได้
3. การสูบบุหรี การดื่มสุรา ทำให้เกิดมะเร็งปอด มะเร็งตับ
จากที่องค์การอนามัยโลกรายงาน. โรคมะเร็งตอนนี้ไทยเป็นเบอร์ 1 ของเอเซียแล้ว อัตรา 1 คนจาก 8 คน สาเหตุเกิดจาก
1. กินเนื้อสัตว์ปิ้งย่าง
2. กินอาหารกะทิค้างคืน
3. กล้วยแขก ปาท่องโก๋และขนมครก
4. ผัดผักค้างคืน
ตอนนี้ยังไม่เห็นคนไทยเป็นโรคมะเร็งและตาย เพราะ แร่ยูเรเนียมและทอเรียมเลย
ที่ผมตั้งกระทู้ขึ้นมาเพราะอยากรู้จริงๆ รบกวนผู้ที่รู้จริงช่วยชี้แนะด้วยนะครับ ขอบคุณครับ