อีกครั้งสำหรับการกระทำอันชั่วช้า ในการไล่ล่าผู้หญิงคนเดียว ผู้หญิงที่แสนสวย ผู้หญิงที่แสนดี เป็นแม่พระกับคนยากคนจนทั้งประเทศ ไม่มีสักครั้งที่จะเห็นผู้หญิงคนนี้เปล่งวาจาจากปากของเธอ เพื่อให้ร้ายผู้หนึ่งผู้ใด ไม่มีสักครั้งที่จะเห็นกริยาท่าทางที่โกรธเกลียดชิงชังใคร แม้ว่าเธอจะถูกเหล่าผู้อิจฉาริษยาให้ร้ายป้ายสี ด่าทอเสียดสีโดยปราศจากความจริง ตั้งแต่วินาทีแรกที่เธอเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
และนับตั้งแต่นั้นมา มรสุมของการสาดโคลน ใส่ร้ายป้ายสี ที่มันติดอยู่ในสันดานคนไทยบางคน ก็ถาโถมเข้าใส่ตัวเธออย่างไม่หยุดยั้ง แต่จะด้วยสายเลือดหรือความกล้าหาญแข็งแกร่ง หัวจิตหัวใจของนักสู้ เธอตั้งหน้าตั้งตาที่จะแก้ไขไม่แก้แค้น เธอตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ทำงาน และทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน
ด่านแรกที่เธอต้องแก้ไขอุปสรรคขวากหนามอันยิ่งใหญ่ของประเทศชาติและประชาชนก็คือ น้ำท่วมใหญ่ มหันตภัยที่หลากไหลอย่างบ้าคลั่ง จะด้วยความตั้งใจของน้ำมือมนุษย์หรือเพราะภัยที่มาจากธรรมชาติ จนวันนี้ ไม่มีใครพิสูจน์? หรือกล้าพิสูจน์ ? เธอสามารถสู้กับภัยครั้งนั้น ได้อย่างเข้มแข็งพร้อมน้ำตา จนคนกรุงปลอดภัยจากน้ำท่วม แต่ก็ยังก่นด่า กล่าวหาว่า เอาไม่อยู่ หรือพยายามโจมตีเธอด้วยคำว่า “เอาอยู่ “ มันคือความบัดซบของคนที่พยายามเอาคำๆนี้มาโจมตี อีกคนทำงานแก้ไข แต่คนอีกฝ่ายไม่ทำงานขัดขวางกลั่นแกล้ง นั่งด่านั่งโจมตี นี่คือสันดานคนไทย บางคน
ความพยายามของคนไทยขี้อิจฉาบางคนกล่าวหาด่าทอ เหยียดหยามเธอต่างๆนานา หาว่าโง่ ภาษาอังกฤษใช้ไม่ได้ แม้แต่ ดร.กระจอกบางคน ก็ยังออกมาโจมีตีเธอ ด้วยเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษ แต่ก็เห็นเธอสื่อสารกับโอบามา ได้อย่างสบายกระหนุงกระหนิ๋ง อิฉาเธออีก หาว่าให้ท่า ล้วนแล้วแต่พยายามที่แต่จะโจมตีใส่ร้ายป้ายสีตามนิสัย คนไทยบางคน
แปลกใจมั้ยหลายยุคหลายสมัย คนเป็นนายกพูดภาษาอังกฤษสื่อสารกับใครไม่ได้ เป็นที่น่าอับอายขายหน้า ไปประชุมที่ไหนก็เอาแต่นั่งวาดรูป หรือแค่ยักคิ้วหลิ่วตา แก้เขินด้วยความอึดอัด อันนี้เข้าใจ แต่คนไทยพวกนั้น พวกที่เคยกล่าวหาว่าร้ายคุณยิ่งลักษณ์ กล้าออกมาเห่าหอนมั้ย เงียบกริบยังกับอมสากใครใว้ นี่คือนิสัยคนไทยขี้อิจฉาบางคน
มีเรื่องมากมาย แม้แต่เรื่อง โฟร์ซีซั่น อันอื้อฉาว แค่นายกเขาไปปรึกษาพุดคุยกับนักธุรกิจ กลางวันแสกๆ มีคนติดตามมากมาย มันยังสามารถบิดเบือนกล่าวหาใส่ร้าย ให้กลายเป็นเรื่องชู้สาว นี่คือความเลวร้ายของคนเหล่านั้นอย่างแท้จริง มันคือนิสัยคนไทยบางคน
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอถูกกระทำใส่ร้ายป้ายสีมาโดยตลอด โดยเรื่องเท็จ ทั้งจากผู้หญิงและผู้ชาย ทั้งสื่อ และทั้งนักการเมืองข้าราชการ แทบจะทุกสาขา แต่เธอก็ทนมาได้ จนมาถึงเรื่องโครงการรับจำนำข้าว นี่คือเรื่องประหลาดมาก เท่าที่เคยเห็นมา คนกล่าวหา บอกกับผู้ตัดสินคดี ซึ่งก็คือพวกที่เกลียดชังตัวเธอและพี่ชาย ว่า ยังไม่มีหลักฐานใดๆ ที่ว่าผิดแต่ส่อว่า แค่นี้ เขาก็สามารถที่จะเชือดหรือเอาผิดใครต่อใครได้ ทั้งทางแพ่งทางอาญา อย่างนี้ นี่หรือกฎหมายไทย กระบวนการยุติธรรมไทย หรือเป็นเพราะนิสัยคนไทยบางคน
คดีดีนี้แปลก ประหลาด มหัศจรรย์ บอกไม่มีหลักฐาน แต่ตัดสินกันได้เป็นตุเป็นตะ
คดีนี้แปลก ประหลาด มหัศจรรย์ บอกไม่มีหลักฐาน แต่ส่อ คำว่า ส่อ ต่อไปให้เป็นบรรทัดฐานเพื่อใช้ติดสินคดีทุจริตได้
คดีนี้แปลก ประหลาด มหัศจรรย์ ผู้กล่าวหาว่า ข้าวหาย ก็ไหนล่ะหายที่ไหน เมื่อไร ใครรับผิดชอบ ตอบไม่ได้
คดีนี้แปลก ประหลาด มหัศจรรย์ ผู้กล่าวหาว่าข้าวเน่าเสื่อมสภาพก็ไหนล่ะเน่าที่ไหน ใครรับผิดชอบ
คดีนี้แปลก ประหลาด มหัศจรรย์ บอกชาวนาไม่ได้เงิน ไหนล่ะชาวนาคนไหน จังหวัดอะไรที่ยังไม่ได้ มารับซิ
คดีนี้แปลก ประหลาด มหัศจรรย์ บอกเสียหาย จะให้คลังฟ้องเอาเงินค่าเสียหาย ทั้งที่คลังบอกโครงการนี้มีประโยชน์ต่อGDP
คดีนี้แปลก ประหลาด มหัสจรรย์ จะให้คลังฟ้องเรียกค่าเสียหาย แสดงว่าไม่มีความรู้เรื่องการบริหารบ้านเมืองเลย ไม่รู้แม้กระทั่งเป้าหมายของโครงการนี้ คือรัฐตั้งใจที่จะยอมขาดทุนเพื่อช่วยชาวนา ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ซึ่งทุกรัฐบาลทั้งก่อนหน้านี้หรือหลังจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็เอาเงินของรัฐบาล ไปช่วยชาวนาด้วยกันทุกรัฐบาล เงินส่วนที่เสียให้ชาวนาไปนั้น จะมาฟ้องเอากับนายกทุกคนนั้น มันจะถูกต้องหรือครับท่าน ทุกอย่างที่พวกท่านกำลังทำ มันจะถูกบันทึกใว้เป็นประวัติศาสตร์นะครับแม้เป็นขี้เถ่าไปแล้ว ถ้ามันไม่ถูกไม่ต้อง เขาจะเอาเรื่องราวเหล่านี้ มาสาปแช่งอย่างไม่วันจบ เอามาสร้างเป็นหนัง เอามาเล่ามาขยายเป็นตำนาน ตำจนแหลก แช่งชักหักกระดูก จนลูกหลานว่านเครือวงศ์ตระกูลตกนรกหมกไหม้ทั้งตระกูล สงสารลูกหลานว่านเครือบ้างเถอะ อย่าให้ความริษยาอาฆาตแค้นมันบังตา จนทำทุกอย่างได้โดยไม่คิดถึง คุณธรรม ศิลธรรม ไม่มีบ้างเลยหรืออย่างไร ?
ธรณี่นี่นี้เป็นพยาน เราผิดท่านประหารเราไม่ว่า เราไม่ผิดท่านมาล้าง ความชั่วช้าครั้งนี้จะเป็นประวัติศาตร์ ที่โลกประณาม !
และนับตั้งแต่นั้นมา มรสุมของการสาดโคลน ใส่ร้ายป้ายสี ที่มันติดอยู่ในสันดานคนไทยบางคน ก็ถาโถมเข้าใส่ตัวเธออย่างไม่หยุดยั้ง แต่จะด้วยสายเลือดหรือความกล้าหาญแข็งแกร่ง หัวจิตหัวใจของนักสู้ เธอตั้งหน้าตั้งตาที่จะแก้ไขไม่แก้แค้น เธอตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ทำงาน และทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน
ด่านแรกที่เธอต้องแก้ไขอุปสรรคขวากหนามอันยิ่งใหญ่ของประเทศชาติและประชาชนก็คือ น้ำท่วมใหญ่ มหันตภัยที่หลากไหลอย่างบ้าคลั่ง จะด้วยความตั้งใจของน้ำมือมนุษย์หรือเพราะภัยที่มาจากธรรมชาติ จนวันนี้ ไม่มีใครพิสูจน์? หรือกล้าพิสูจน์ ? เธอสามารถสู้กับภัยครั้งนั้น ได้อย่างเข้มแข็งพร้อมน้ำตา จนคนกรุงปลอดภัยจากน้ำท่วม แต่ก็ยังก่นด่า กล่าวหาว่า เอาไม่อยู่ หรือพยายามโจมตีเธอด้วยคำว่า “เอาอยู่ “ มันคือความบัดซบของคนที่พยายามเอาคำๆนี้มาโจมตี อีกคนทำงานแก้ไข แต่คนอีกฝ่ายไม่ทำงานขัดขวางกลั่นแกล้ง นั่งด่านั่งโจมตี นี่คือสันดานคนไทย บางคน
ความพยายามของคนไทยขี้อิจฉาบางคนกล่าวหาด่าทอ เหยียดหยามเธอต่างๆนานา หาว่าโง่ ภาษาอังกฤษใช้ไม่ได้ แม้แต่ ดร.กระจอกบางคน ก็ยังออกมาโจมีตีเธอ ด้วยเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษ แต่ก็เห็นเธอสื่อสารกับโอบามา ได้อย่างสบายกระหนุงกระหนิ๋ง อิฉาเธออีก หาว่าให้ท่า ล้วนแล้วแต่พยายามที่แต่จะโจมตีใส่ร้ายป้ายสีตามนิสัย คนไทยบางคน
แปลกใจมั้ยหลายยุคหลายสมัย คนเป็นนายกพูดภาษาอังกฤษสื่อสารกับใครไม่ได้ เป็นที่น่าอับอายขายหน้า ไปประชุมที่ไหนก็เอาแต่นั่งวาดรูป หรือแค่ยักคิ้วหลิ่วตา แก้เขินด้วยความอึดอัด อันนี้เข้าใจ แต่คนไทยพวกนั้น พวกที่เคยกล่าวหาว่าร้ายคุณยิ่งลักษณ์ กล้าออกมาเห่าหอนมั้ย เงียบกริบยังกับอมสากใครใว้ นี่คือนิสัยคนไทยขี้อิจฉาบางคน
มีเรื่องมากมาย แม้แต่เรื่อง โฟร์ซีซั่น อันอื้อฉาว แค่นายกเขาไปปรึกษาพุดคุยกับนักธุรกิจ กลางวันแสกๆ มีคนติดตามมากมาย มันยังสามารถบิดเบือนกล่าวหาใส่ร้าย ให้กลายเป็นเรื่องชู้สาว นี่คือความเลวร้ายของคนเหล่านั้นอย่างแท้จริง มันคือนิสัยคนไทยบางคน
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอถูกกระทำใส่ร้ายป้ายสีมาโดยตลอด โดยเรื่องเท็จ ทั้งจากผู้หญิงและผู้ชาย ทั้งสื่อ และทั้งนักการเมืองข้าราชการ แทบจะทุกสาขา แต่เธอก็ทนมาได้ จนมาถึงเรื่องโครงการรับจำนำข้าว นี่คือเรื่องประหลาดมาก เท่าที่เคยเห็นมา คนกล่าวหา บอกกับผู้ตัดสินคดี ซึ่งก็คือพวกที่เกลียดชังตัวเธอและพี่ชาย ว่า ยังไม่มีหลักฐานใดๆ ที่ว่าผิดแต่ส่อว่า แค่นี้ เขาก็สามารถที่จะเชือดหรือเอาผิดใครต่อใครได้ ทั้งทางแพ่งทางอาญา อย่างนี้ นี่หรือกฎหมายไทย กระบวนการยุติธรรมไทย หรือเป็นเพราะนิสัยคนไทยบางคน
คดีดีนี้แปลก ประหลาด มหัศจรรย์ บอกไม่มีหลักฐาน แต่ตัดสินกันได้เป็นตุเป็นตะ
คดีนี้แปลก ประหลาด มหัศจรรย์ บอกไม่มีหลักฐาน แต่ส่อ คำว่า ส่อ ต่อไปให้เป็นบรรทัดฐานเพื่อใช้ติดสินคดีทุจริตได้
คดีนี้แปลก ประหลาด มหัศจรรย์ ผู้กล่าวหาว่า ข้าวหาย ก็ไหนล่ะหายที่ไหน เมื่อไร ใครรับผิดชอบ ตอบไม่ได้
คดีนี้แปลก ประหลาด มหัศจรรย์ ผู้กล่าวหาว่าข้าวเน่าเสื่อมสภาพก็ไหนล่ะเน่าที่ไหน ใครรับผิดชอบ
คดีนี้แปลก ประหลาด มหัศจรรย์ บอกชาวนาไม่ได้เงิน ไหนล่ะชาวนาคนไหน จังหวัดอะไรที่ยังไม่ได้ มารับซิ
คดีนี้แปลก ประหลาด มหัศจรรย์ บอกเสียหาย จะให้คลังฟ้องเอาเงินค่าเสียหาย ทั้งที่คลังบอกโครงการนี้มีประโยชน์ต่อGDP
คดีนี้แปลก ประหลาด มหัสจรรย์ จะให้คลังฟ้องเรียกค่าเสียหาย แสดงว่าไม่มีความรู้เรื่องการบริหารบ้านเมืองเลย ไม่รู้แม้กระทั่งเป้าหมายของโครงการนี้ คือรัฐตั้งใจที่จะยอมขาดทุนเพื่อช่วยชาวนา ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ซึ่งทุกรัฐบาลทั้งก่อนหน้านี้หรือหลังจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็เอาเงินของรัฐบาล ไปช่วยชาวนาด้วยกันทุกรัฐบาล เงินส่วนที่เสียให้ชาวนาไปนั้น จะมาฟ้องเอากับนายกทุกคนนั้น มันจะถูกต้องหรือครับท่าน ทุกอย่างที่พวกท่านกำลังทำ มันจะถูกบันทึกใว้เป็นประวัติศาสตร์นะครับแม้เป็นขี้เถ่าไปแล้ว ถ้ามันไม่ถูกไม่ต้อง เขาจะเอาเรื่องราวเหล่านี้ มาสาปแช่งอย่างไม่วันจบ เอามาสร้างเป็นหนัง เอามาเล่ามาขยายเป็นตำนาน ตำจนแหลก แช่งชักหักกระดูก จนลูกหลานว่านเครือวงศ์ตระกูลตกนรกหมกไหม้ทั้งตระกูล สงสารลูกหลานว่านเครือบ้างเถอะ อย่าให้ความริษยาอาฆาตแค้นมันบังตา จนทำทุกอย่างได้โดยไม่คิดถึง คุณธรรม ศิลธรรม ไม่มีบ้างเลยหรืออย่างไร ?