หน้าที่ใคร 'สึกโจรในคราบพระ'? เปลว สีเงิน (ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4)

กระทู้สนทนา
เปลว สีเงิน
Thursday, 19 February, 2015 - 00:00
หน้าที่ใคร 'สึกโจรในคราบพระ'?
     "คุณไพศาล พืชมงคล" โพสต์ fb เมื่อวาน (๑๘  ก.พ.๕๘) สรุปประเด็นว่า คณะกรรมาธิการการศาสนา  สปช.ประชุมกันแล้ว มีข้อสรุปว่า
    "ธัมมชโย" เป็นปาราชิก!
     ขาดจากความเป็นภิกษุ ตามพระลิขิต "สมเด็จพระญาณสังวร" สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๒ แล้ว!
    อีกทั้งมหาเถรสมาคมครั้งนั้น มีมติรับทราบตามพระดำริสมเด็จพระสังฆราชแล้ว ส่งเรื่องให้ฝ่ายสังฆการดำเนินการให้เป็นไปตามมติแล้ว
    แต่นับจากบัดนั้น ๒๕๔๒ จนบัดนี้ ๒๕๕๘.............!
    เดียรถีย์ธัมมชโย ก็ยังลอยชาย แปลงจีวรเป็นเสื้อแขนกระบอกเหลือง แปลงสบงเป็นกระโปรงเหลือง กระตุ้งกระติ้งเป็นแต๋วหัวโล้น  
    เที่ยวนะจ๊ะ..นะจ๊ะ แปลงพระพุทธศาสนา ให้เป็นลัทธิ-นิกาย "ธรรมกายจานบิน" แนวร่วมองค์การพีระมิดไปเรื่อยๆ
    เอาสวรรค์มาจัดสรรหลอกขาย ใช้พุทธศาสนาและผ้าเหลืองเป็นตัวขยายเครือข่าย ประสานการเมือง "กินเมือง" แพร่ลัทธิอุบาทว์แทรกซึมทั้งในและนอกประเทศ
    ก็เห็นมั้ยล่ะ .....!
    ตอนแดงจลาจล "เผาบ้าน-เผาเมือง" พวกหัวโล้นห่มเหลือง "แหกนรก" พรึ่บมาเป็นกองทัพ
    ทักษิณไปยุโรป-สหรัฐฯ ก็มีมาเฟียเหลือง จากข้างในนี่แหละ บัญชาการถึงแขนขาที่ส่งไปคุมข้างนอก ระดมพระในต่างประเทศ
    ไปแห่ห้อมล้อม "สะเดาะเคราะห์-ต่อชะตา" ทักษิณ!
    มหาเถรสมาคมเหมือนไม่รู้ ไม่เห็น สำนักพุทธฯ ที่การเมืองส่งสาวกธรรมกายไปมีอำนาจใหญ่อยู่ในนั้น ก็ไม่รู้-ไม่เห็น ขะมักเขม้นแต่ผันงบประมาณเข้าธรรมกาย ผ่านการจัดอีเวนต์ จัดอบรม
    การเมืองโจรกลมกลืนการกลืนพุทธศาสนา "ตามแผน" ไปสู่เป้าหมายเร้นลับด้วยกันอย่างนี้
    แล้วใคร...หน้าไหน จะกล้าเข้าไปจัดการเฉดหัวธัมมชโยให้พ้นจากรูปแบบพระสงฆ์ล่ะ?
    ธัมมชโยน่ะ ไม่มีผ้าเหลืองให้ถอด เพราะสวมเสื้อ-นุ่งกระโปรงเหลือง ดังนั้น การจับสึก ถ้าไม่จับถอดเสื้อ-ถอดกระโปรง ให้เหลือแต่ยกทรง-กางเกงใน ก็ต้องใช้วิธี "เฉดหัว" ออกไปจากวัดทางเดียว
    คำถามตอนนี้ถึงคณะกรรมาธิการศาสนา สปช. ถึง ผอ.สำนักงานพระพุทธฯ และรองนายกฯ ผู้กำกับสำนักพุทธฯ
    รู้หรือยังว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ในความรับผิดชอบใคร?    
    ในการที่จะนำเรื่องไปสู่ที่ประชุม "มหาเถรสมาคม"  กระตุ้นเตือนถามพระเดชพระคุณเจ้าผู้ทำหน้าที่ ครม.สงฆ์ ว่า.........
    "จับสึกธัมมชโย ให้เป็นไปตามมติมหาเถรสมาคมครั้งนั้นได้หรือยัง?"
    ดูตามหน้าที่แล้ว น่าจะเป็น "นายพนม ศรศิลป์" ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
    เพราะตามกฎหมายในโครงสร้างสำนักพุทธฯ ที่ทักษิณปฏิรูป เมื่อปี ๔๕ กำหนดให้คนเป็น ผอ.สำนักพุทธฯ ทำหน้าที่ "เลขาธิการมหาเถรสมาคม"
    ฉะนั้น นายพนมต้องทำหน้าที่....!
    หรือกลัว "ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนา" แถววัดราชาฯ  ที่นายทองขาว ทองแดง และแก๊งแดงในคราบเหลือง "เขื่องอำนาจ" ว่า สำนักพุทธฯ เกิดจากอิทธิพลข้าในสมัยนั้น จะเขมือบหัว?
    หรือกลัวนายอำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักงานพุทธมณฑล?    
    ไม่ต้องกลัวหรอก นายอำนาจ "ศิษย์ธรรมกาย" เคยถูก ป.ป.ช.ลงโทษทางวินัย "ลดเงินเดือน" ๑ ขั้นไปแล้ว ด้วยความผิดฐานเดียวกับนายศุภชัย คลองจั่น คือยักยอกเงินในตู้บริจาค!
    ดังนั้น เมื่อกรรมาธิการศาสนา สปช.เชิญตัวแทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมาตอบข้อซักถาม มาชี้แจงเรื่องราวประกอบหลักฐานต่างๆ เมื่ออังคารที่ ๑๗ ก.พ.๕๘  และสรุปตรงกันว่า ธัมมชโย พ้นจากความเป็นพระภิกษุไปแล้ว
    จะเอาเรื่องที่สรุปกองไว้ในที่ประชุมเฉยๆ ไม่ได้ นายพนมในฐานะเลขาฯ มหาเถรสมาคม ต้องเดินเรื่องให้ถึงที่สุด ตามพระลิขิต "สมเด็จพระญาณสังวร" พระผู้เป็นราชาแห่งสงฆ์
    จะทำอู้อี้เหมือนผีอำ ปล่อยให้ธัมมชโยอยู่ในคราบซาตาน ระดมคน-ระดมเงิน ขยายอาณาจักร ขยายเครือข่าย เป็น ๑ ใน ๒ ปีก "พุทธจักร-อาณาจักร" รุกคืบ ตีโอบเข้าไปบรรจบกัน "ตามแผน" ไปเรื่อยๆ อย่างทุกวันนี้ไม่ได้!
    กรณีนี้ ต้องเข้าใจกันให้ชัด ไม่ใช่ธัมมชโยขาดจากความเป็นพระด้วยพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช
    สมเด็จพระสังฆราชทรงพิจารณา ทบทวน สวนสอบ การกระทำของธัมมชโยเรื่องยักยอกเงินและทรัพย์สินวัดเกือบพันล้านตามกฎเกณฑ์พระวินัยบัญญัติแล้ว
    ถึงแม้ยอมคืน ตอนจวนตัวใกล้ติดคุก เมื่อปี ๒๕๔๙ ......!
    การมีเจตนาเอาทรัพย์เขาไปเป็นของตน แบบนั้น....แม้เอามาคืนภายหลัง ก็ต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระอยู่ดี
    เป็นเดียรถีย์ในคราบเหลืองหัวโล้น นับแต่นั้น แต่คณะสงฆ์ไม่จัดการให้เป็นไปตามพระวินัย ด้วยเหตุดังที่...รู้ๆ กันอยู่
    จนสมเด็จพระสังฆราชสลดสังเวชพระทัย จึงมีพระลิขิต "ตามพระวินัย" ติดต่อถึง ๒-๓ ฉบับ
    มหาเถรสมาคม ชุดที่ "สมเด็จพระพุฒาจารย์" วัดสระเกศฯ ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช จึงเกิดละอายในธรรมวินัย มีมติให้เป็นไปตามพระลิขิต
    แต่ก็อย่างว่า.....!
    รู้แล้วมิใช่หรือ ยุคนั้น...ใครใหญ่?
    ฝ่ายอาณาจักร ทักษิณใหญ่สุด ฝ่ายพุทธจักร สมเด็จเกี่ยว พระประจำตระกูลทักษิณ-พจมาน ใหญ่สุด
    แล้วธัมมชโย ปีกพุทธจักร ที่ตีโอบไปบรรจบปีกอาณาจักรของทักษิณ "ดังประจักษ์"
    หน้าไหน...ใครจะไปกระชากผ้าเหลืองออกจากร่างซาตาน "โล้นจอมลวงโลก" ได้ล่ะ?
    ทั้งพุทธจักร-อาณาจักร ปล่อยปละมาจนถึงวันนี้ แต่ก็แปลก ถึงวันนี้ เรื่องราวทำนอง "รอยเกวียน-รอยโค" สำหรับธัมมชโย ก็เกิดอีก
    นั่นคือ เมื่อ ๑๐ กว่าปีก่อน ธัมมชโยก็ยักยอกเงินและที่ดินวัดเกือบพันล้านไปเป็นของตน จนเป็นเรื่องเป็นราว
    ด้วยบารมีทักษิณ และบารมีใส่ซองถวาย ก็รอดมาได้จนถึงวันนี้!
    แล้วก็เกิดคดีพัวพันยักยอกเงินและที่ดิน "สหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น" โดยฝีมือศิษย์เอกฝ่ายหาเงินเข้าวัด "นายศุภชัย ศรีศุภอักษร" ด้วยมูลค่าเกือบหรือกว่าพันล้านขึ้นอีก
    คราวนี้ ไม่มีบารมีทักษิณอุ้มโจรในศาสนา มีแต่บารมีนายกฯ ลุงตู่ ล้างโจรที่ซุกผ้าเหลืองกัดกร่อนพุทธศาสนา!
    ก็ดูซิว่า.......
    ด้วยบารมีนายกฯ ลุงตู่ จะปราบชั่ว-ล้างมาร ที่แฝงอยู่ในพระพุทธศาสนาเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชา ได้สำเร็จหรือไม่?
    วันนี้ ยังไม่ได้นำความสัมพันธ์ในเรื่อง "สหกรณ์เครดิตยูเนียนมงคลเศรษฐี" ที่นายศุภชัยตั้งกองทุนเงินกู้ ให้คนกู้ไปซื้อทองทำบุญหล่อรูปหลวงพ่อสด ว่านายศุภชัยคนที่ธัมมชโย "สาบาน" ก่อนให้การต่อศาลว่า "ไม่รู้จักกัน" นั้น
    แท้ที่จริง....."ขี้" กับ "ไส้" ใช่หรือไม่?!
    และวันนี้ก็ ขอค้างไว้ก่อน ในประเด็น "บริษัท มงคลเศรษฐีเอสเตท จำกัด" ของธรรมกาย ว่าเป็นแหล่งยักย้ายถ่ายเงินจากสหกรณ์เครดิตคลองจั่น โดยนายศุภชัย หรือเป็นเมืองแก้ว-เมืองสวรรค์ ที่อาตมานะจ๊ะ เนรมิตขึ้น โดยไม่รู้-ไม่เห็น-ไม่เกี่ยวเงินโจร?
    ที่ผมยกเรื่องนายศุภชัยขึ้นมาพูด ๒-๓ วันนี้ นั้น เพราะเห็นว่า เส้นทางเดินของเงินยักยอก ส่วนหนึ่งไหลเข้ามาที่กิจการเครือข่ายธรรมกายและธัมมชโย ในลักษณะ "ผิดสังเกต-ผิดปกติ" ที่จะสรุปว่าเป็น "เงินบริจาค"
    ผมเน้นด้านคดีอาญา DSI และ ปปง. ดูจากพฤติกรรม และการแถลงของ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาฯ ปปง.
    "รับของโจร" ชัดๆ ยังไม่ต้องพูดประเด็น ร่วมแก๊ง-ร่วมประโยชน์ หรือแหล่งฟอกเงิน
    แต่ ปปง.ดูจะมีจิตศรัทธาเกินกฎหมาย เอะอะสรุป....เงินบริจาค-ที่ดินบริจาคไปทั้งหมด....หวังนิพพานธรรมกายด้วยรึยังไงจ๊ะ?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่