ผมสงสัยครับจากที่อ่านมา คือว่าผมอยากรู้ว่าการที่เราเอาเงินไปลงทุนในหุ้น โดยเฉพาะสไตล์บัฟเฟตที่ซื้อแล้วแทบจะไม่ขายเลย คำถามคือว่าบัฟเฟตได้เติมเงินเข้าไปเรื่อยๆเปล่าครับ หมายถึงไม่ได้เอาเงินที่ได้จากปันผลของหุ้นมาทบต้นอย่างเดียว แต่เอาเงินจากแหล่งอื่นมาลงทุนเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะงั้นที่พอร์ตบัฟเฟตโตขนาดนี้แสดงว่าเงินต้นของปู่เขาก็น่าจะมีจำนวนมหาศาล(มาก)
คือผมลองมาคิดดูแล้วว่าการซื้อหุ้นโดยแทบไม่ขายนั้น มันจะทำให้ผลตอบแทนสูงขนาดติดอันดับเศรษฐีของโลกได้ขนาดนั้นเลยเหรอครับ โดยเฉพาะการที่ถือแทบไม่ขาย(ยกเว้นสูงเกินมูลค่ามากๆ บัฟเฟตก็จะขายทิ้ง) หากจะใช้วิธีเอากำไรทบต้นอย่างเดียวจะทำให้พอร์ตโตรวยติดอันดับโลกเลยเหรอครับ(เอาปันผลมาซื้อหุ้นใหม่เพิ่ม) หรือจริงๆแล้วถ้าหุ้นสูงเกินมูลค่าบัฟเฟตก็จะขายแล้วหาซื้อตัวใหม่ ก้แปลว่าบัฟเฟตก็เล่นหุ้นเป็นรอบๆเหมือนกันเพราะหุ้นตัวไหนเมื่อขึ้นสูงไปแล้ว ก็จะค่อยๆเติบโตในด้านราคา ไม่ใช่ว่าจะโตแบบก้าวกระโดดหลายปีติดต่อกัน ดังนั้นจำนวนผลตอบแทนให้ทบต้นยังไงก็น่าจะเป็นแค่คนรวยระดับประเทศ แต่นี่ที่ฟังมามันระดับโลกซึ่งผมว่าการถือโดยไม่ขายหากเงินต้นไม่มากพอ ก้แค่ทำให้ได้ชื่อว่ารวยในระดับหนึ่งแต่ไม่น่าจะติดระดับโลกหรือประเทศได้ครับ
ตอนนี้รู้สึกสงสัยกับแนวคิดถือแล้ว(แทบ)ไม่ขายมากๆครับว่ามันใช้ได้จริงหรือ ใครช่วยให้ความกระจ่างทีครับ คือผมก็เคยอ่านประวัติของบัฟเฟตนะครับ แต่ว่าไม่ค่อยมีการพูดถึงประเด็นนี้กันเท่าไร
สอบถามครับ ใครศึกษาประวัติของบัฟเฟต หรือรู้เรื่องการลงทุนในหุ้นที่ทำให้พอร์ตเติบโตมากๆครับ
คือผมลองมาคิดดูแล้วว่าการซื้อหุ้นโดยแทบไม่ขายนั้น มันจะทำให้ผลตอบแทนสูงขนาดติดอันดับเศรษฐีของโลกได้ขนาดนั้นเลยเหรอครับ โดยเฉพาะการที่ถือแทบไม่ขาย(ยกเว้นสูงเกินมูลค่ามากๆ บัฟเฟตก็จะขายทิ้ง) หากจะใช้วิธีเอากำไรทบต้นอย่างเดียวจะทำให้พอร์ตโตรวยติดอันดับโลกเลยเหรอครับ(เอาปันผลมาซื้อหุ้นใหม่เพิ่ม) หรือจริงๆแล้วถ้าหุ้นสูงเกินมูลค่าบัฟเฟตก็จะขายแล้วหาซื้อตัวใหม่ ก้แปลว่าบัฟเฟตก็เล่นหุ้นเป็นรอบๆเหมือนกันเพราะหุ้นตัวไหนเมื่อขึ้นสูงไปแล้ว ก็จะค่อยๆเติบโตในด้านราคา ไม่ใช่ว่าจะโตแบบก้าวกระโดดหลายปีติดต่อกัน ดังนั้นจำนวนผลตอบแทนให้ทบต้นยังไงก็น่าจะเป็นแค่คนรวยระดับประเทศ แต่นี่ที่ฟังมามันระดับโลกซึ่งผมว่าการถือโดยไม่ขายหากเงินต้นไม่มากพอ ก้แค่ทำให้ได้ชื่อว่ารวยในระดับหนึ่งแต่ไม่น่าจะติดระดับโลกหรือประเทศได้ครับ
ตอนนี้รู้สึกสงสัยกับแนวคิดถือแล้ว(แทบ)ไม่ขายมากๆครับว่ามันใช้ได้จริงหรือ ใครช่วยให้ความกระจ่างทีครับ คือผมก็เคยอ่านประวัติของบัฟเฟตนะครับ แต่ว่าไม่ค่อยมีการพูดถึงประเด็นนี้กันเท่าไร