สวัสดีพ่อแม่พี่น้องงงงงง ขออนุญาติเปิดทู้ด้วยภาพคุณย่ากะพี่มูนะคะ ฉากท่านย่าตายดูกี่ทีก็เศร้า ท่านรักเรมมากจริงๆ T^T ถ้าย่ายังได้มองเรมจากบนกระแสแห่งลูฟคงอยากบอกลูกๆหลานๆชาวเรมว่าจงเข้มแข็งเข้าไว้แน่ๆ หลังจากจบซีรีย์นายอ.ไปแล้ว ว่าจะเขียนอะไรเกี่ยวกับเรมบ้าง แล้วพอดีตอนหาข้อมูลทู้นายอ.ดันบังเอิญหลืบไปเห็นชื่อจักพรรดิคนนึงของโรมเข้า แล้วแบบรู้สึกว่าชื่อมันคุ้นๆนะ คล้ายๆชื่อมู อเรเชียสเลย แล้วก็เลยไปนั่งสืบประวัติมาจนได้เป็นสมมุติฐานนี้
ย้ำอีกครั้งนะคะว่าสมมุติฐานก็ไม่รู้ว่ามันจะถูกหรือผิด ถ้าผิดก็ถือซะว่าได้มานั่งอ่านประวัติศาตร์ของโรมไปแล้วกัน ซึ่ง
ลำดับการเปรียบเทียบจะไล่ตามรัชสมัยของจักพรรดิที่คิดว่าเป็นต้นแบบของตัวละครนะคะ เรื่องมันจะได้อ่านง่ายๆ
ไททัส อเรเซียส(Titus alexius)น่าจะมีที่มาของชื่อมาจาก
จักรพรรดิไททัสแห่งราชวงศ์ราชวงศ์เฟลเวีย(Titus Flavius Vespa)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ภายหลังจากที่จักพรรดินีโรผู้ทำให้โรมเข้าสู่กลียุค ได้ตัดสินใจฆ่าตัวตาย หลังถูกสภาสูงยึดอำนาจ โรมก็เข้าสู่ยุคยุคcivil warที่เรียกว่า Year of the four emperors คือปีเดียวมีจักรพรรดิขึ้นครองบัลลังก์ 4คน ตอนแรกเป็นกาบาลก่อน ต่อมากาบาลโดนฆ่า โอโธเลยขึ้นแทน แล้วโอโธก็ฆ่าตัวตาย ไวเทลเลียสก็มาขึ้นแทน แต่อยู่ไม่นานไวเทลเทียสก็ตายอีก เวสเปเชียนก็เลยขึ้นเป็นจักพรรดิองค์ที่4 แล้วก็สิ้นสุดยุค Year of the four emperors จักพรรดิเวสเฟเชียนได้ตั้งราชวงศ์เฟลเวียของตัวเองขึ้นมา พอเวสเปเชียนสิ้นใจ ก็ให้ลูกชายก็คือไททัสขึ้นครองบังลังก์แทน
ไททัสนั้นเดิมมีตำแหน่งเป็นแม่ทัพอยู่แล้ว ดังนั้นจึงมีผลงานในเรื่องการรบที่โดดเด่นคือการปราบปรามชาวยิว โดยการปิดล้อมและทำลายกรุงเยรุซาเลม เมื่อการปราบปรามเสร็จสิ้นลง ทางกรุงโรมสร้างประตูชัยไททัสให้ท่าน ส่วนผลงานด้านการสร้างสาธารณูปโภคก็มีการบูรณะห้องอาบน้ำสาธารณะ แล้วก็สร้างโคลอสเซียม (ซึ่งจริงๆแล้วโคลอสเซียมนี้สร้างมาตั้งแต่สมัยเวสเปเชียนซึ่งเป็นบิดาแล้วค่ะแต่ว่าสร้างยังไม่เสร็จ มาเสร็จตอนไททัสแทน) วัตถุประสงค์การสร้างโคลอสเซียมหลักๆมันก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกค่ะ เอาไว้อวดแสงยานุภาพ แล้วก็จัดแข่งกลาดิเอเตอร์เรียกความนิยมค่ะ แล้วก็ได้รับความนิยมจริง555 นอกจากนี้ยังมีผลงานเรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยภูเขาไฟวิสุเวียส ระเบิดถล่มเมืองบอมเปอี และฮอคิวลานิอุสด้วย แล้วในปีถัดมาไททัสก็ได้ก็ช่วยเหลือประชาชนจากเหตุไฟไหม้กรุงโรม
แต่ทว่าช่างน่าเสียดายที่จักพรรดิดีๆอย่างไททัสนั้นครองบังลังก์ได้แค่เพียงช่วงสั้นๆไม่ถึง2ปี(ตรงอายุขัยของไททัสที่ไม่ถึง2ปี อาจจะมีที่มีจากการครองราชย์ที่ไม่ถึง2ปีของจักพรรดิไททัสก็เป็นได้ด้วย แต่ไม่ค่อยแน่ใจนะ) เมื่อตายไปไททัสก็ได้รับการนับถือให้เป็น apotheosis หรือเทพเจ้า ซึ่งในช่วงโรมันโบราณนี้การยกย่องให้เป็น apotheosis ถือเป็นการสดุดีอย่างนึงให้แก่จักพรรดิที่ตายไปแล้ว โดยวุฒิสภาและประชาชน (จริงถ้าจักพรรดิองค์ไหนดีๆ ก็โดนยกย่องเป็นเทพหมดนั้นแหละ ไม่ใช่แค่เพียงไททัส)
เนอร์วา จูเลียส คารัวเดียส(Nerva Julius Caluades)น่าจะมีที่มาของชื่อจาก
จักรพรรดิเนอร์วา(Marcus Cocceius Nerva)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พอจักพรรดิไททัสสวรรคตแล้วจักรพรรดิโดมิเชียนซึ่งเป็นน้องชายก็ขึ้นครองบังลังค์ต่อ แต่ว่าดิโดมิเชียนเป็นคนที่เผด็จการ สุดท้ายก็ถูกลอบสังหารโดยองครักษ์ จักพรรดิเนอร์วาเลยได้ขึ้นครองบังลังก์แทนแทน ช่วงการปกครองของเนอร์วานั้นภารกิจอย่างแรกๆก็คือแก้ไขปัญหาที่ดิโดมิเชียนก่อเอาไว้ทั้งหลาย มีการยกเลิกกฎหมายเผด็จการ คืนอำนาจให้วุฒิสภาของโรมัน และปล่อยนักโทษที่ถูกจับกุมโดยไม่ได้รับความยุติธรรมจากคำสั่งของดิโอเมียน และทำลายอนุเสาวรีย์ของดิโดมิเนียนเพื่อเอาโลหะที่พอมีค่ามาใช้จ่ายปรับปรุงบ้านเมืองลดหย่อนภาษี ช่วยเหลือคนยากจน
แต่ทว่าในช่วงของเนอร์วานั้นก็ไม่ได้ราบรื่นนักเพราะมีปัญหาทางเศรษฐกิจและความขาดสมรรถภาพในการใช้อำนาจในการควบคุมกองทหาร และสุดท้ายก็เกิดการปฏิวัติโดยทหารองครักษ์ ที่ต้องการเรียกร้องให้มีการประหารผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสังหารจักพรรดิดิโดมิเนียน ซึ่งตรงนี้ทำให้มีนักประวัติศาสตร์บางท่านมองว่าจักพรรดิเนอร์วานั้นถือว่าเป็นอ่อนแอ(แหม่ อ่อนแอทั้งต้นฉบับทั้งในเรื่องเมไจเลย ถึงในตันฉบับเขาจะอ่อนแอเพราะอายุมากแล้วก็เถอะ)
จากเหตุความวุ่นวายดังกล่าวเลยทำให้เนอร์วาตัดสินใจชำระแก้กฏมณเฑียรบาลแห่งการสืบสันตติวงศ์ของราชวงศ์โรมันใหม่ จากที่ว่าต้องเป็นคนที่มีสายเลือดเดียวกัน เป็นให้จักพรรดิเลือกใครก็ได้ที่ตนเองเห็นว่าเหมาะสม ซึ่งเนอร์วาไม่มีบุตรเลยก็ได้แต่งตั้งให้ทหารคนสนิท มาร์คัส อุลพิอุส ทราอีย์นุส (Marcus Ulpius Traianus)ขึ้นมาเป็นรัชทายาท ต่อมาเมื่อจักพรรดิเนอร์วาสวรรคต มาร์คัส อุลพิอุส ทราอีย์นุส ก็ได้ขึ้นครองราชย์เป็นจักพรรดิทราจัน
ซึ่งการตัดสินใจแก้กฎหมายดังกล่าวของเนอร์วา ก็ได้นำไปสู่ยุคที่โรมันมีแต่ความสงบสุข และยิ่งใหญ่เกรียงไกร ภายใต้การปกครองของจักพรรดิผู้ทรงคุณธรรมทั้ง5(Five Good Emperor) ที่ถูกคัดเลือกมาด้วยความสามารถและคุณธรรมจริงๆ โดยไม่สนเรื่องความสัมพันธ์ทางสายเลือด ได้แก่เนอร์วา ทราจัน เฮเดรียน แอนโตนินุส และ มาร์คุส ออเรลิอุส
อิกเนเชียส อเรเซียส(Ignatius Alexius) น่าจะได้ที่มาจากบาทหลวงอิกเนเชียส ส่วนบุคลิกที่ดูเป็นแม่ทัพที่ยิ่งใหญ่
อาจจะได้รับบันดาลใจมาจาก จักรพรรดิทราจัน (หรือชื่อเดิมสมัยเป็นทหารก็คือ Marcus Ulpius Traianus)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จากการสืบค้นของจขกท.ไม่มีจักพรรดิองค์ใดทื่ออกเสียงใกล้เคียงคำวาอิกนาเชียสเลยนะ 555 อิกเนเชียสเป็นชื่อของบาทหลวงชาวซีเรียที่ถูกจักพรรดิทราจันสั่งประหาร โดยส่วนตัวแล้วก็ไม่คิดว่าต้นแบบของอิกเนเชียสเป็นบาทหลวงหรอก แต่เป็นจักพรรดิทราจันที่เป็นคนสั่งประหารนี่แหละ
จักพรรดิทราจันมีสมญานามว่า Optimus princeps ที่แปลว่าผู้ปกครองที่ดีที่สุด ทราจันมีชื่อเสียงในด้านการรบและขยายดินแดน ในสมัยของพระองค์จักรวรรดิโรมันแผ่ขยายไปในทวีปยุโรปตะวันออก ถึงเมืองดาเชีย (Dacia) ซึ่งปัจจุบันคือประเทศโรมาเนีย (Romania) ส่วนทางทวีปเอเชียแผ่ขยายไปถึงดินแดนเมโสโปเตเมีย (Mesopotemia) และดินแดนในกลุ่มอราเบีย (Arabia) นับว่าเป็นช่วงเวลาที่จักรวรรดิโรมันยิ่งใหญ่มากที่สุดมีอาณาเขตกว้างขวางมากที่สุด ส่วนผลงานด้านอื่นนอกจาการรบก็คือการทรัพย์สมบัติบรรณาการที่ได้จากการไปรบ มาสร้างมาปรับปรุงสาธารณุปโภคต่างๆให้แก่ชาวโรมัน รวมทั้งสร้างเสาแห่งทราจันและจตุรัสแห่งทราจันเพื่อเป็นสัญญาลักษณ์แสดงชัยชนะเหนือศัตรูของพระองค์เอง
มู อเรเซียส(Mu Alexius) น่าจะมีที่มาของชื่อและบุคคลิกบางส่วนมาจาก
จักรพรรดิมาร์คัส ออเรลิอุส(Marcus Aurelius)แล้วก็มีผสมกับนิสัยชอบลงไปแข่งกลาดิเอเตอร์กับสามัญชน
ของจักรพรรดิคอมโมดัส(commodus)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มาร์คุส ออเรลิอัสเป็นจักพรรดิองค์สุดท้ายของยุคสันติภาพโรมัน มาร์คุสเมื่อดูแบบเผินๆ ก็อาจจะดูแหมือนจักพรรดิที่เหมือนจักพรรดิคนอื่นในช่วงยุคสันติภาพโรมัน คือไม่ได้สืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์โดยตรง แต่มาร์คุสยังมีลักษณะที่พิเศษไปกว่านั้น เพราะนอกจากจะไม่ได้เป็นลูกของจักพรรดิแล้ว เมื่อนับสายสกุล ตระกูลออเรลิอัสของมาร์คัสนั้นยังถือเป็นเพียงแค่ตระกูลสาขาอีกด้วย
มาร์คุสขึ้นครองบังลังก์ต่อจากจักพรรดิอันโตนิอุสพร้อมกับจักพรรดิลูซิอุสในฐานะจักพรรดิร่วมบังลังก์ แต่หลังจากที่สองจักพรรดิขึ้นครองบังลังก์ได้ไม่นานจักรวรรดิพาร์เธียน (Parthian Empire)ก็มาเปิดศึกท้าทายจักพรรดิทั้งสองเพราะคิดว่าโรมนั้นคงอ่อนแอไม่ได้แข็งแกร่งเมื่อสมัยจัพรรดิทราจัน แต่ทว่าก็ถูกจักพรรดิทั้งสองกรีฑาทัพไปปราบสิ้น ต่อมาจักรพรรดิลูซิอุก็ประชวรและสวรรณคตด้วยกาฬโรคจักพรรดิมาร์คุสเลยได้ขึ้นครองบังลังก์แต่เพียงผู้เดียว
ส่วนประวัติการรบอื่นๆนอกเหนือจากการรบกับจักวรรดิพาร์เธียนแล้ว ก็มีการรบกับชนเผ่าเจอร์มานิคตามบริเวณพรมแดนโรมัน-เจอร์มานิคัส (LimesGermanicus) เข้าไปในกอลและข้ามแม่น้ำดานูป(ตรงประวัติยกพลข้าแม่น้ำจขกท.นึกฉากเฟอร์นาริสว่ายน้ำบุกมัตโนซุตัสสมากค่ะ)
ส่วนผลงานอื่นนอกจากการรบที่เด่นคือเรื่องการศึกษา พระองค์ได้ตั้งโรงเรียนหลวงขึ้นทั่วจักวรรดิเพื่อให้ราษฎรได้มีโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมไม่จำกัดแค่ในหมู่ขุนนางผู้ดีเท่านั้น และเนื่องจากการที่พระองค์นับถือลัทธิสโตอิค" (Stoic) ซึ่งมีความเชื่อว่าหากต้องการให้โลกสงบนั้น มนุษย์จะต้องรู้จักพอใจในสิ่งที่ตนมี ประหยัดมัธยัสถ์ ไม่ละโมบโลภมาก รู้จักปล่อยวาง และช่วยเหลือผู้อื่นทุกครั้งที่มีโอกาส ดังนั้นพระองค์จึงได้วางตัวเป็นเหมือนปถุชน คิดว่าตัวเองเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาไม่ใช่พระเจ้า ทำให้พระองค์เป็นที่รักของประชาชนและได้รับสมญานามว่า จักรพรรดินักปราชญ์(Philosopher's king) ซึ่งมีคำพูดนึงของพระองค์ที่จขกท.คิดว่าเข้ากับธีมเมไจมากเลยค่ะ คือคำกล่าวที่ว่า
ลักษณะพิเศษของผู้ที่รู้จักคิดก็คือยอมรับต่อชะตากรรม ซึ่งตรงข้ามกับการพยายามขัดขืนอย่างน่าอดสู ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสัตว์ที่มีแต่ร่าง
พอจักพรรดิมาร์คัสสวรรคตแล้ว จักพรรดิคอมมาโดสที่เป็นบุตรชายก็ขึ้นครองบังลังก์ต่อ และยุคเสื่อมสลายของโรมก็ได้เริ่มต้นขึ้น คอมมาโดสนั้นเป็นจักพรรดิที่วุฒิสภาของโรมรู้สึกไม่ค่อยพอใจมาก เพราะคอมมาโดสไม่ได้ถูกแต่งตั้งด้วยความสามารถแต่ถูกแต่งตั้งเพราะเป็นลูกชายค่ะ คอมมาโดสนั้นวันๆก็เอาแต่เมา(เอ๋ ! คุณมูก็คอแข็งนะคะ อิอิ)แล้วก็ชอบแข่งกลาดิเอเตอร์(ลงไปแข่งเองแบบมูเลยซึ่งจักพรรดิปกติเขาไม่ทำกัน) ส่วนงานอดิเรกตอนเช้าก็คือล่าสัตว์(บัลบาทอส=จิตวิญญาณแห่งความสูงส่งและการไล่ล่า) ยุคของคอมโมดุสนั้นมีข้อดีอยู่อย่างเดียวคือเป็นยุคที่มีการแข่งกลาดิเอเตอร์ที่มากที่สุดค่ะ ปรบมือค่ะ!!! ซึ่งนั้นก็ทำให้คอมโมดุสมักมีปัญหากับสภาอยู่บ่อยๆ ภายหลังคอมโมดุสก็เลยรำคาญ จัดการสังการคนที่มีปากเสียงซะแล้วก็รีเทริ์นตั้งกฎหมายห้ามวิพากษ์วิจารณ์จักรพรรดิ(ที่เนอร์วายกเลิกไป)ขึ้นมาอีกรอบ
เครดิตข้อมูลนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://valentinocellar.blogspot.com/2012/02/blog-post.html
https://tnahra.wordpress.com/3/
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.474923049251206.1073741921.365098623566983&type=3
http://jiradino.blogspot.com/2011/09/purpose-of-our-lives-is-to-be-happy.html
[magi]สมมุติฐานต้นแบบของไททัสและ3ผู้ใช้ภาชนะโลหะแห่งเรม
สวัสดีพ่อแม่พี่น้องงงงงง ขออนุญาติเปิดทู้ด้วยภาพคุณย่ากะพี่มูนะคะ ฉากท่านย่าตายดูกี่ทีก็เศร้า ท่านรักเรมมากจริงๆ T^T ถ้าย่ายังได้มองเรมจากบนกระแสแห่งลูฟคงอยากบอกลูกๆหลานๆชาวเรมว่าจงเข้มแข็งเข้าไว้แน่ๆ หลังจากจบซีรีย์นายอ.ไปแล้ว ว่าจะเขียนอะไรเกี่ยวกับเรมบ้าง แล้วพอดีตอนหาข้อมูลทู้นายอ.ดันบังเอิญหลืบไปเห็นชื่อจักพรรดิคนนึงของโรมเข้า แล้วแบบรู้สึกว่าชื่อมันคุ้นๆนะ คล้ายๆชื่อมู อเรเชียสเลย แล้วก็เลยไปนั่งสืบประวัติมาจนได้เป็นสมมุติฐานนี้ ย้ำอีกครั้งนะคะว่าสมมุติฐานก็ไม่รู้ว่ามันจะถูกหรือผิด ถ้าผิดก็ถือซะว่าได้มานั่งอ่านประวัติศาตร์ของโรมไปแล้วกัน ซึ่งลำดับการเปรียบเทียบจะไล่ตามรัชสมัยของจักพรรดิที่คิดว่าเป็นต้นแบบของตัวละครนะคะ เรื่องมันจะได้อ่านง่ายๆ
จักรพรรดิไททัสแห่งราชวงศ์ราชวงศ์เฟลเวีย(Titus Flavius Vespa)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จักรพรรดิเนอร์วา(Marcus Cocceius Nerva)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อาจจะได้รับบันดาลใจมาจาก จักรพรรดิทราจัน (หรือชื่อเดิมสมัยเป็นทหารก็คือ Marcus Ulpius Traianus)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จักรพรรดิมาร์คัส ออเรลิอุส(Marcus Aurelius)แล้วก็มีผสมกับนิสัยชอบลงไปแข่งกลาดิเอเตอร์กับสามัญชน
ของจักรพรรดิคอมโมดัส(commodus)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จบทู้แล้วจ้าาาา
เครดิตข้อมูลนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้