สวัสดีครับ ผมไม่ค่อยได้ตั้งกระทู้เท่าไหร่ครับ
แต่เห็นช่วงนี้มีกระทู้แนวๆ “อยากจีบหมอ” “สินสอดแพทย์หญิง” หรือ ”อยากลองจีบนักเรียนแพทย์” ออกมาให้เห็นเยอะ...
ในความเห็นผมนะ ผมว่าสิ่งหนึ่งที่จะทำให้เราเข้าถึงพวกหมอๆได้ง่ายขึ้น คือการรู้จักคำศัพท์ที่เค้าคุยกัน เพราะผมแอบสังเกตเห็นว่าพวกหมอๆเค้าชอบเอาคำศัพท์ทางการแพทย์ หรือ technical term ออกมาใช้นอกเวลางานกันบ่อยมาก ดังนั้นถ้าเรารู้ศัพท์แพทย์ไว้ซักนิด และหัดใช้พูดให้เป็นบ้าง น่าจะเพิ่มเปอร์เซ็นต์ในการเข้าหาแพทย์ได้บ้างล่ะ
จากการค้นคว้าของผมเอง ผมพบว่าศัพท์แพทย์ที่เราควรรู้ก่อนจะจีบแพทย์ มีดังต่อไปนี้ครับ
1. Rule out และ Rule in
คำว่า Rule out (รูล เอาท์) หรือเขียนย่อๆว่า R/O ในทางการแพทย์ เค้าใช้กัน 2 ความหมาย ความหมายแรกคือ ใช้พูดเพื่อตัดตัวเลือกหรือโรค หรือแนวคิดบางอย่างทิ้งไป เช่น “ผู้ป่วยรายนี้ไม่มีอาการไอ ไม่หอบ น่าจะ rule out pneumonia (นิวโมเนีย - ปอดติดเชื้อ) ออกไปได้แล้วนะ”
...…. แต่คำว่า Rule out บางครั้งจะถูกนำมาใช้ในอีกความหมายหนึ่ง โดยใช้พูดเพื่อแสดงให้เห็นว่า เรากำลังสงสัยโรค หรือภาวะนี้อยู่ จำเป็นต้องส่งตรวจหรือหาเหตุผลเพิ่มเติมมายืนยัน เช่น “ผู้ป่วยรายนี้มาพบแพทย์ด้วยไข้ ไอ หอบ น่าจะเป็น Pneumonia แต่ยังไม่มีผลเอกซ์เรย์ทรวงอกมาช่วยยืนยัน งั้นเขียนวินิจฉัยว่า R/O Pneumonia ไปก่อนก็แล้วกันนะ”
ส่วนคำว่า Rule in (รูล อิน) เป็นคำที่มีความหมายย้อนทางกับ Rule out คือหมายถึง การดึงเอาโรคหรือภาวะใดภาวะหนึ่ง เข้ามาอยู่ในตัวเลือกหรือสมมุติฐานของเรา เช่น “ผู้ป่วยรายนี้มีไข้ ไอ หอบ ฟังปอดได้ยินเสียงกรอบแกรบชัดเจน แบบนี้ Rule in pneumonia ไว้ได้เลย” อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติ แพทย์มักนิยมใช้คำว่า Rule out มากว่า Rule in อย่างเห็นได้ชัด
คราวนี้มาดูตัวอย่างประโยคที่เอาคำว่า Rule out/Rule in มาใช้กันนะครับ
แพทย์หญิง(ที่คุณจีบ) : เธอว่าพี่คนนั้นเค้าเป็นเกย์มั้ยอ่ะ แต่เค้าก็มีภรรยาแล้วนะ
คุณอาจจะตอบไปว่า : มีภรรยาแล้วอาจจะเป็นเกย์หรือไม่ก็ได้ครับ ตัดสินยังไม่ได้... แต่ถ้าเค้ามีสามีแล้วนี่เกย์แน่นอนครับ
ถ้าใช้ศัพท์แพทย์เสริมเข้าไป คุณก็จะพูดได้ว่า : มีภรรยาแล้วไม่ Rule out เกย์ครับ.. แต่ถ้ามีสามีนี่ Rule in แน่ๆครับ
เห็นมั้ย.... ใช้ไม่ยากใช่มั้ยครับ Rule out กับ Rule in เนี่ย
2. Stat
Stat (สแตต) แปลว่า Now ครับ ซึ่ง Now ก็แปลว่า ตอนนี้ เดี๋ยวนี้... ใช้ในการสั่งการรักษาครับ เช่น “Paracetamol (500) 1 tab oral stat --- ให้กินยาพาราขนาด 500 mg เดี๋ยวนี้”… หมอชอบใช้คำนี้กันนอก รพ.บ่อยมาก บางคนที่ชอบพูดจิกๆ เค้าจะพูดรวบคำไปเลยว่า “StatNow!!”
ตัวอย่างประโยคที่ใช้คำว่า Stat
แพทย์หญิง(ที่คุณจีบ) : เธอจะมารับเราไปกินข้าวตอนไหนอ่ะ
คุณอาจจะตอบไปว่า : ผมจะออกมาเดี๋ยวนี้เลยครับ
ถ้าใช้ศัพท์แพทย์เสริมเข้าไป คุณก็จะพูดได้ว่า : ผมจะมา stat เลยครับ
นี่ไง... ดูเก๋ไปอีกแบบ
3. เฉี่ยน
เฉี่ยน มีรากศัพท์มากจากคำว่า (Differential diagnosis – ดิฟ-เฟอ-เรน-เฉี่ยล ได-แอก-โน-ซิส) แปลว่าการวินิจฉัยแยกโรค คือเวลาที่คนไข้มาพบแพทย์ บางทีอาการของคนไข้ ก็ไปตรงกับหลายๆโรค เช่น ปวดท้องน้อยข้างขวา ก็อาจจะเป็นไส้ติ่งอักเสบ หรือปีกมดลูก อักเสบก็ได้ แพทย์เค้าก็จะเอาโรคพวกนี้มาเรียงลำดับกัน ว่าอาการของผู้ป่วยใกล้เคียงกับโรคหรือภาวะใดมากที่สุด แล้วก็ส่งตรวจเลือดหรือเอกซ์เรย์ หรือตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ เพื่อยืนยันการวินิจฉัย แพทย์ก็มักจะพูดกันติดปากครับเช่น
“คนไข้ปวดท้องน้อยข้างขวาแบบนี้ เธอเฉี่ยนอะไรมั่งอ่ะ.... เฉี่ยนไส้ติ่งอักเสบกับปีกมดลูกอักเสบไว้ดีกว่านะ”
หรือ “คนไข้คนนี้ปวดหัวตุบๆซีกเดียว เราเฉี่ยนไมเกรนแหละ”
หรือ “คนไข้คนนี้ไอมาแค่หนึ่งวัน... เราว่าวัณโรคไม่อยู่ในเฉี่ยนของเราอ่ะ”
ตัวอย่างประโยค ที่ใช้คำว่า เฉี่ยน
แพทย์หญิง(ที่คุณจีบ) : เราชอบผู้ชายที่จริงใจ คุยเก่ง สนุกสนาน แล้วก็มีหนวด
คุณอาจจะตอบไปว่า : อย่างผมนี่ใช่แบบที่คุณชอบมั้ยล่ะครับ
ถ้าใช้ศัพท์แพทย์เสริมเข้าไป คุณก็จะพูดได้ว่า : อย่างผมนี่อยู่ในเฉี่ยนมั้ยครับ
โอ้ววววว...... คิดดูดิ ถ้าคุณไม่ใช่แพทย์ แล้วพูดจาแบบนี้ได้ จัดว่าพลิ้วเลยครับ
***** เปิดหัวกระทู้ด้วย 3 คำนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวกลับมาต่อครับ ยังมีอีกเยอะ
รวมคำศัพท์แพทย์ที่คุณควรรู้ สำหรับคนไม่ใช่แพทย์ ที่ต้องการจีบแพทย์
แต่เห็นช่วงนี้มีกระทู้แนวๆ “อยากจีบหมอ” “สินสอดแพทย์หญิง” หรือ ”อยากลองจีบนักเรียนแพทย์” ออกมาให้เห็นเยอะ...
ในความเห็นผมนะ ผมว่าสิ่งหนึ่งที่จะทำให้เราเข้าถึงพวกหมอๆได้ง่ายขึ้น คือการรู้จักคำศัพท์ที่เค้าคุยกัน เพราะผมแอบสังเกตเห็นว่าพวกหมอๆเค้าชอบเอาคำศัพท์ทางการแพทย์ หรือ technical term ออกมาใช้นอกเวลางานกันบ่อยมาก ดังนั้นถ้าเรารู้ศัพท์แพทย์ไว้ซักนิด และหัดใช้พูดให้เป็นบ้าง น่าจะเพิ่มเปอร์เซ็นต์ในการเข้าหาแพทย์ได้บ้างล่ะ
จากการค้นคว้าของผมเอง ผมพบว่าศัพท์แพทย์ที่เราควรรู้ก่อนจะจีบแพทย์ มีดังต่อไปนี้ครับ
1. Rule out และ Rule in
คำว่า Rule out (รูล เอาท์) หรือเขียนย่อๆว่า R/O ในทางการแพทย์ เค้าใช้กัน 2 ความหมาย ความหมายแรกคือ ใช้พูดเพื่อตัดตัวเลือกหรือโรค หรือแนวคิดบางอย่างทิ้งไป เช่น “ผู้ป่วยรายนี้ไม่มีอาการไอ ไม่หอบ น่าจะ rule out pneumonia (นิวโมเนีย - ปอดติดเชื้อ) ออกไปได้แล้วนะ”
...…. แต่คำว่า Rule out บางครั้งจะถูกนำมาใช้ในอีกความหมายหนึ่ง โดยใช้พูดเพื่อแสดงให้เห็นว่า เรากำลังสงสัยโรค หรือภาวะนี้อยู่ จำเป็นต้องส่งตรวจหรือหาเหตุผลเพิ่มเติมมายืนยัน เช่น “ผู้ป่วยรายนี้มาพบแพทย์ด้วยไข้ ไอ หอบ น่าจะเป็น Pneumonia แต่ยังไม่มีผลเอกซ์เรย์ทรวงอกมาช่วยยืนยัน งั้นเขียนวินิจฉัยว่า R/O Pneumonia ไปก่อนก็แล้วกันนะ”
ส่วนคำว่า Rule in (รูล อิน) เป็นคำที่มีความหมายย้อนทางกับ Rule out คือหมายถึง การดึงเอาโรคหรือภาวะใดภาวะหนึ่ง เข้ามาอยู่ในตัวเลือกหรือสมมุติฐานของเรา เช่น “ผู้ป่วยรายนี้มีไข้ ไอ หอบ ฟังปอดได้ยินเสียงกรอบแกรบชัดเจน แบบนี้ Rule in pneumonia ไว้ได้เลย” อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติ แพทย์มักนิยมใช้คำว่า Rule out มากว่า Rule in อย่างเห็นได้ชัด
คราวนี้มาดูตัวอย่างประโยคที่เอาคำว่า Rule out/Rule in มาใช้กันนะครับ
แพทย์หญิง(ที่คุณจีบ) : เธอว่าพี่คนนั้นเค้าเป็นเกย์มั้ยอ่ะ แต่เค้าก็มีภรรยาแล้วนะ
คุณอาจจะตอบไปว่า : มีภรรยาแล้วอาจจะเป็นเกย์หรือไม่ก็ได้ครับ ตัดสินยังไม่ได้... แต่ถ้าเค้ามีสามีแล้วนี่เกย์แน่นอนครับ
ถ้าใช้ศัพท์แพทย์เสริมเข้าไป คุณก็จะพูดได้ว่า : มีภรรยาแล้วไม่ Rule out เกย์ครับ.. แต่ถ้ามีสามีนี่ Rule in แน่ๆครับ
เห็นมั้ย.... ใช้ไม่ยากใช่มั้ยครับ Rule out กับ Rule in เนี่ย
2. Stat
Stat (สแตต) แปลว่า Now ครับ ซึ่ง Now ก็แปลว่า ตอนนี้ เดี๋ยวนี้... ใช้ในการสั่งการรักษาครับ เช่น “Paracetamol (500) 1 tab oral stat --- ให้กินยาพาราขนาด 500 mg เดี๋ยวนี้”… หมอชอบใช้คำนี้กันนอก รพ.บ่อยมาก บางคนที่ชอบพูดจิกๆ เค้าจะพูดรวบคำไปเลยว่า “StatNow!!”
ตัวอย่างประโยคที่ใช้คำว่า Stat
แพทย์หญิง(ที่คุณจีบ) : เธอจะมารับเราไปกินข้าวตอนไหนอ่ะ
คุณอาจจะตอบไปว่า : ผมจะออกมาเดี๋ยวนี้เลยครับ
ถ้าใช้ศัพท์แพทย์เสริมเข้าไป คุณก็จะพูดได้ว่า : ผมจะมา stat เลยครับ
นี่ไง... ดูเก๋ไปอีกแบบ
3. เฉี่ยน
เฉี่ยน มีรากศัพท์มากจากคำว่า (Differential diagnosis – ดิฟ-เฟอ-เรน-เฉี่ยล ได-แอก-โน-ซิส) แปลว่าการวินิจฉัยแยกโรค คือเวลาที่คนไข้มาพบแพทย์ บางทีอาการของคนไข้ ก็ไปตรงกับหลายๆโรค เช่น ปวดท้องน้อยข้างขวา ก็อาจจะเป็นไส้ติ่งอักเสบ หรือปีกมดลูก อักเสบก็ได้ แพทย์เค้าก็จะเอาโรคพวกนี้มาเรียงลำดับกัน ว่าอาการของผู้ป่วยใกล้เคียงกับโรคหรือภาวะใดมากที่สุด แล้วก็ส่งตรวจเลือดหรือเอกซ์เรย์ หรือตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ เพื่อยืนยันการวินิจฉัย แพทย์ก็มักจะพูดกันติดปากครับเช่น
“คนไข้ปวดท้องน้อยข้างขวาแบบนี้ เธอเฉี่ยนอะไรมั่งอ่ะ.... เฉี่ยนไส้ติ่งอักเสบกับปีกมดลูกอักเสบไว้ดีกว่านะ”
หรือ “คนไข้คนนี้ปวดหัวตุบๆซีกเดียว เราเฉี่ยนไมเกรนแหละ”
หรือ “คนไข้คนนี้ไอมาแค่หนึ่งวัน... เราว่าวัณโรคไม่อยู่ในเฉี่ยนของเราอ่ะ”
ตัวอย่างประโยค ที่ใช้คำว่า เฉี่ยน
แพทย์หญิง(ที่คุณจีบ) : เราชอบผู้ชายที่จริงใจ คุยเก่ง สนุกสนาน แล้วก็มีหนวด
คุณอาจจะตอบไปว่า : อย่างผมนี่ใช่แบบที่คุณชอบมั้ยล่ะครับ
ถ้าใช้ศัพท์แพทย์เสริมเข้าไป คุณก็จะพูดได้ว่า : อย่างผมนี่อยู่ในเฉี่ยนมั้ยครับ
โอ้ววววว...... คิดดูดิ ถ้าคุณไม่ใช่แพทย์ แล้วพูดจาแบบนี้ได้ จัดว่าพลิ้วเลยครับ
***** เปิดหัวกระทู้ด้วย 3 คำนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวกลับมาต่อครับ ยังมีอีกเยอะ