เมือคุณเผชิญกับปัญหาคุณอาจจะเครียดจนไม่เป็นอันทำอะไรหรือท้อแท้หมดหวัง อย่าพึ่งเครียดเวอร์เลยค่ะหลายคนคงเคยได้ยินคำนี้ คือ ปัญหาเหมือนเม็ดทรายมีมากมายเเต่เล็กนิดเดียว
ดังน้นอย่าให้มันมามีอิทธิพลกับเรามากไปทุกอย่างมันขึ้นอยู่ที่เราค่ะ

Vอยากให้คุณเปรียบชีวิตของคุณเหมือนเส้นทางเดินเปรียบปัญหาของคุณเหมือนก้อนหิน และเปรียบผลกระทบปัญหาเหมือนบาดแผล

บนทางเดินนั้นเป็นธรรมดาที่ต้องมีหินมากมายแต่หินเหล่านั้นเป็นเพียงบทเรียน และถึงหินทำให้เราบาดเจ็บจนมีแผลแม้บางครั้งแผลหาย ก็อาจมีรอยแผลเป็น
คิดเเง่บวกเถอะค่ะว่ามันคือร่องรอยแห่งประสบการณ์

ก้อนหินบนทางเดินมันอาจจะทำให้คุณสะดุดจนเซ หกล้ม จนบาดเจ็บ แต่ขณะที่คุณล้มนั่งจมเลือดไม่กี่หยดบนพื้นคุณมีเพียง2ทางเลือกเท่านั้นค่ะคือ

1 คุณร้องโอดโอยอ้อนวอนพระเจ้าช่วยเพราะลุกไม่ขึ้นทั้งที่จริงคุณไม่พยายามลุกซะด้วยซ้ำ คุณนั่งตรงนันมานานเกินไปจนเเผลของคุณเริ่มเน่าเกินเ

2 คุณพยายามตั้งสติ พยุงตัวเองไปทำแผล รอให้อาการดีขึ้นเล็กน้อย พักสักหน่อยก็ไม่เสียเวลามากมายนะคะ แล้วค่อยเดินต่อ

อย่ากลัวที่จะเผชิญหน้ากับก้อนหินค่ะ เพราะ
ทุกคนเรียนรู้การล้มก่อนการลุกเสมอ
ก้อนหินที่เราสะดุดวันนี้ มันจะทำให้เรากล้าเผชิญกับก้อนใหญ่ได้ในวันข้างหน้าค่ะเชื่อV
แม้ในบางครั้งก้อนหินที่เรียงรายอยู่บนทางเดินสำหรับบางคนมันมีอยู่แล้วบนทางเพื่อเป็นบททดสอบให้เราก้าวต่อไปอย่างระวังและมั่นคงมากขึ้น แต่ สำหรับบางก้อนคุณเองที่สร้างมันขึ้นมาและแน่นอนค่ะสิ่งที่Vจะบอกคือเมื่อเราเรียนรู้ที่จะสร้างเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับมัน และ แก้ไขมันอย่างใจเย็น

เมื่อถึงวันหนึ่งเมื่อคุณเจอก้อนหินที่ใหญ่กว่า แข็งกว่า เยอะกว่า วันนั้นคุณจะสามารถใช้สัญชาตญาณและประสบการณ์ทั้งหมดที่มี ข้ามมัน เลี่ยงมัน หรือกระทั่งผลักมันออกไปให้พ้นทางของคุณอย่างประณีประนอม

Vเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มีปัญหานะคะ ปัญหาทุกปัญหามัทางออกเสมอค่ะขึ้นอยู่ที่ว่าคุณจะหาทา
งออกวิธีไหน Vขอให้ปัญหาของทุกคนเจอทางออกที่ดีที่สุดและถูกต้องนะคะ

อ่อ ที่สำคัญ อย่าลืมมองปัญหาในแง่บวกนะคะแม้มันจะไม่ใช่วิธีแก้แต่มันก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น และมีกำลังใจสำหรับวันต่อไป

ใครมีปัญหาอะไรหนักใจบ้างไหมคะช่วงนี้ สู้นะคะ