ความจำ เป็น ฐานของการใช้ความคิด
ไม่ใช่แค่ ความจำแบบจำเขามา ไม่ว่าจะเป็น ความรู้ คำสอน หรือหลักวิชา
เพราะ สิ่งเหล่านั้น ไม่ใช่ประสบการณ์ตรงของคุณเอง จึงไม่ได้ยืนพื้นบนการพิสูจน์เชิงประจักษ์แต่อย่างใด
แต่ความจำ ณ ที่นี้ หมายถึง ความจำจากการทบทวน จากประสบการณ์
โดยมีลำดับเวลากับเหตุการณ์ ที่คุณเชื่อมโยงเอง และ มีความหมายในสายตาของคุณ
ความจำเช่นนี้ ยิ่งชัดเจน ก็จักยิ่งมีพลังในการยกระดับไปสู่ความรู้ทั่วไป ที่ทรงความหมายได้
บ่อยครั้ง แค่การพยายามจะจัดระเบียบความจำ ก็อาจยากแล้ว
เพราะ ต้องมีความตั้งใจจะทบทวนก่อน ตรงนี้มันจะปลุกพลังสมอง และการค้นพบใหม่ๆก็จักเกิดขึ้นได้
นี่เป็นเรื่องแปลก...แต่ก็เป็นจริง ของสำนึกที่ไปสร้างความหมายขึ้นจากวัตถุดิบแห่งประสบการณ์ของเราเอง
การค้นพบความหมายนี้ มันคือภารกิจของการใช้ชีวิต เพื่อชีวิตที่ดีกว่า
เพราะ ไม่มีใครมาสอนคุณได้ว่า อะไรจริง อะไรไม่จริง อะไรถูก อะไรผิด จริงๆ
ทุกอย่างที่คุณพบจากการทบทวนประสบการณ์ มันคือการพิสูจน์ความเชื่อ สมมติฐาน หลายเรื่องหลากหลาย
ที่กำลังก่อรูปเป็น ตัวตน หรืออัตลักษณ์ของเราแต่ละคน มันคือการถักทอแบบที่คุณเป็นและกำลังจะเป็น...ที่ไม่มีสิ้นสุด
จัดระเบียบความจำ
ไม่ใช่แค่ ความจำแบบจำเขามา ไม่ว่าจะเป็น ความรู้ คำสอน หรือหลักวิชา
เพราะ สิ่งเหล่านั้น ไม่ใช่ประสบการณ์ตรงของคุณเอง จึงไม่ได้ยืนพื้นบนการพิสูจน์เชิงประจักษ์แต่อย่างใด
แต่ความจำ ณ ที่นี้ หมายถึง ความจำจากการทบทวน จากประสบการณ์
โดยมีลำดับเวลากับเหตุการณ์ ที่คุณเชื่อมโยงเอง และ มีความหมายในสายตาของคุณ
ความจำเช่นนี้ ยิ่งชัดเจน ก็จักยิ่งมีพลังในการยกระดับไปสู่ความรู้ทั่วไป ที่ทรงความหมายได้
บ่อยครั้ง แค่การพยายามจะจัดระเบียบความจำ ก็อาจยากแล้ว
เพราะ ต้องมีความตั้งใจจะทบทวนก่อน ตรงนี้มันจะปลุกพลังสมอง และการค้นพบใหม่ๆก็จักเกิดขึ้นได้
นี่เป็นเรื่องแปลก...แต่ก็เป็นจริง ของสำนึกที่ไปสร้างความหมายขึ้นจากวัตถุดิบแห่งประสบการณ์ของเราเอง
การค้นพบความหมายนี้ มันคือภารกิจของการใช้ชีวิต เพื่อชีวิตที่ดีกว่า
เพราะ ไม่มีใครมาสอนคุณได้ว่า อะไรจริง อะไรไม่จริง อะไรถูก อะไรผิด จริงๆ
ทุกอย่างที่คุณพบจากการทบทวนประสบการณ์ มันคือการพิสูจน์ความเชื่อ สมมติฐาน หลายเรื่องหลากหลาย
ที่กำลังก่อรูปเป็น ตัวตน หรืออัตลักษณ์ของเราแต่ละคน มันคือการถักทอแบบที่คุณเป็นและกำลังจะเป็น...ที่ไม่มีสิ้นสุด