หลังจาก Nara ปิด market ไปละกลับมาเปิดไลน์ Buffet เหมือนเดิม
ยังไม่ได้แวะกลับไปกินเลย

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา เลยโฉบไปกินดู



เมนูแรกที่สั่งเลย ซาชิมิ มีฮามาจิ แซลมอนละก็หมึก
มากินร้านนี้ทีไรผมว่าหมึกนี่อร่อยกว่าเมนูอื่นจริงๆนะ ฮามาจินี่ส่วนตัวรู้สึกว่าคาว ส่วนแซลมอนน้ำแข็งยังไม่ละลายเลย


อันที่สองที่สั่งเป็นเมนูใน Gold  ซูชิไข่ปลาแซลมอน อันนี้นี่ไข่ปลาน้อยข้าวเยอะ, ซูชิปลาไหล เกรดอูนาหงิสู้พวก sushi hiro หรือ masa ไม่ได้
กินไปละคล้ายปลาไหลใน Kin Ramen แต่ของ Kin Ramen จะเป็นชิ้นเล็กๆ คำสุดท้ายเป็นเอนกาว่า เอนกาว่าหนา แต่มันไม่ค่อยมีรสชาติ


อันที่สามนี่เป็นปลาอาจิ หมึก ละก็ปูอัด ปลาดิบที่นี่ผมว่าปลาอาจิกะหมึกเวิร์คสุดละ ส่วนปูอัดแป้งเยอะไป


ซูชิอีกจานเพิ่มเนื้อวากิว กับหอยเชลล์มา หอยเชลสดอร่อย ส่วนเนื้อตัวซอสอร่อยแต่เนื้อนี่เหนียวไปหน่อย


กุ้งทอดซอสเปรี้ยวหาน  ไม่มีอะไรให้จดจำ


ยาคินิคุ ในเมนูโกลด์จะเป็นวากิวออสเตรเลีย ผมก็สั่งเมนูนี้ไป สักพักเด็กเสริฟมาบอกว่าเนื้อหมดครับ
ผมเลยเปลี่ยนเป็น Yakiniku ธรรมดา
กินไปสักพักมีจานที่สองมาเสริฟ ผมก็บอกไปว่าได้แล้วนี่งัยกินอยู่ เด็กเสริฟเลยยกกลับไป
สักพักน่าจะเป็น ผจก ร้าน เดินมาบอกคุณพี่สั่งครับ ผมก็บอกนี่งัยได้รับแล้ว
แกก็แย้งว่าผมสั่งไปสองจานจานแรกวากิว จานที่สองเนื้อปกติ
ผมก็เลยตอบไปว่า จานวากิวพนักงานคุณบอกว่าเนื้อวากิวหมด ผมเลยสั่งเนื้อปกติแทน
คุณผู้จัดการก็ตอบว่า เนื้อไม่ได้หมดครับ แค่ยังไม่ละลาย
อ้าวว ถ้ายังไม่ละลายก็บอกสิยังไม่ละลาย ผมจะได้รอ
สุดท้ายก็ไม่ได้รับจานที่สอง

ถ้าจานในรูปเป็นวากิวออสจริง ก็ขอบอกว่าเหนียวเกินไป


สุดท้ายของหวาน เลือกสั่งไมโลนี่แหล่ะ อร่อยดี ให้ผงไมโลมาเต็มที่

สุดท้ายเชคบิลมา 940
ส่วนตัวคิดว่า ส่วนต่างที่จ่ายเพิ่มมาเพื่อเมนูโกลด์ประมาณ 200 บาท ถ้าจะมองว่าราคา 200 กินเอนกาว่าแค่ 2 คำก็คุ้มแล้ว แบบนั้นมันก็โอเคจ่ายได้
แต่ผมคิดว่าถ้ามาคราวหน้า กินแบบปกติละเน้นหมึกกับปลาอาจิดีกว่า

สวัสดี