ไม่ใช่จะรักใครก็ได้นะเธอ
ถ้าหากเปรียบเธอดุจหนังสือที่ดีที่สุด
เธอย่อมควรคู่กับนักอ่านหนังสือ ที่รู้คุณค่าของหนังสือ
ไม่ใช่ใครก็ได้ อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง แล้วโยนทิ้งให้อยู่กับอดีต
และถ้าเป็นฉันบ้างล่ะ
ฉันไม่เอาหรอกหนังสือ ที่ได้มาแล้วไม่ได้ใช้
จะราคาถูกหรือแพงแค่ไหน สวยงามน่ารัก หรือสาระแน่นหนักแค่ไหน ถ้ามันเกิ้นที่จะได้ใช้
ถ้าฉันไม่ได้ใช้ นั่นก็หมายความว่า ไม่รู้จะเอามาเก็บไว้ทำอะไร
เพราะไม่ได้ใช้ ฉันจึงเลือกหนังสือทีฉันต้องการใช้จริงๆ ไม่ใช่เอามาไว้บูชา หรือเอาไว้อวดใครต่อใคร
ฉันชอบเรื่องราวของความสุข ความสงบของจิตใจ และการการใช้ชีวิตแบบธรรมดาที่เรียบง่าย แต่ไม่มักง่าย
ฉันสนใจหนังสือที่ ทรงคุณค่า เปิดทุกหน้าคือการเรียนรู้ไปตามวันเวลา
มีความสุขซ่อนอยู่ทุกหน้า ทุกๆบท มีแง่มุมดีๆคอยปลอบ คอยสอนเรา
ไม่ว่าเปิดอ่านเมื่อไหร่ ก็พบความสุขได้เสมอทุกเวลา(บางทีมีอยู่ไกล้ข้างๆกาย ก็สุขเกิ้นบรรยาย)
=====================================
และนั่นแหละ คือความรักกับหนังสือ
ให้เธอเป็นหนังสือ ฉันเป็นคนเปิดอ่านเธอ
ต่อมา ถ้าให้ฉันเป็นหนังสือบ้าง แล้วให้เธอเป็นคนอ่านนะ
ตัวอักษรที่เธอได่อ่านนั้น ขอให้รู้ว่า นั้นคือลายมือฉันเอง
เขียนจากท้องทุ่งนามหาสารคาม ผ่านกลางคืนกับแสงจันทร์และดวงดาว
ผ่านวันเวลา สายลมหนาว เม็ดฝนเย็นๆ และผ่านไออุ่นจากแสงแดด จนมาเป็นเล่มที่สมบูรณ์
กับลายมือเขี่ยๆ เนื้อหาสาระไม่ได้มากมาย ฉันแค่คนธรรมดา ปากกาแท่งเดียว
จึงต้องพยายามเขียนให้ดีที่สุดเท่าที่ต้นทุนหมึกชีวิตยังคงเหลือ
ฉันเลยเป็นฉัน เหมือนที่เธอเห็นนะตอนนี้
ทว่าเรื่องราวของฉันมีแต่ความสุข ความสงบ
ถ้าเธอต้องการเรื่องราว ตื่นเต้นๆ สยองขวัญ ดร่าม่าเศร้าๆ เคล้าน้ำตา รักหวง ลวงโลกนั้น
ฉันไม่มีให้เธออ่านหรอก
เพราะเป็นหนังสือทำมือ อาจจะไม่สวยหรู ดูดีมีราคา ค่าควรจอง เท่าไหร่
ไม่ตรงมาตรฐานโรงพิมพ์(สังคม) ที่ copy คล้ายๆกันหมดจนหาความแตกต่างไม่ได้
จึงอย่าหวังว่าฉันจะเหมือนใคร หรือมีใครเหมือนฉัน
ที่ต้องมีตำแหน่ง มีเงินเดือนตามเกณฑ์ ปวส ปตรี ตามปี ตามขั้น ฉันไม่มี
จบล่ะ ไม่รู้จะต่ออะไร นึกไม่ออก 5555+_+
ท้ายสุดนี้ ที่อยากบอก ที่ฉันโสด เพราะฉันเลือก
เลือกที่จะรอเธอ
ไปล่ะ บะบายยย
ไม่ใช่จะรักใครก็ได้นะเธอ ถ้าหากเป็นเช่นหนังสือที่ดีที่สุด เธอย่อมควรคู่กับนักอ่านหนังสือ ที่รู้คุณค่าของหนังสือ
ถ้าหากเปรียบเธอดุจหนังสือที่ดีที่สุด
เธอย่อมควรคู่กับนักอ่านหนังสือ ที่รู้คุณค่าของหนังสือ
ไม่ใช่ใครก็ได้ อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง แล้วโยนทิ้งให้อยู่กับอดีต
และถ้าเป็นฉันบ้างล่ะ
ฉันไม่เอาหรอกหนังสือ ที่ได้มาแล้วไม่ได้ใช้
จะราคาถูกหรือแพงแค่ไหน สวยงามน่ารัก หรือสาระแน่นหนักแค่ไหน ถ้ามันเกิ้นที่จะได้ใช้
ถ้าฉันไม่ได้ใช้ นั่นก็หมายความว่า ไม่รู้จะเอามาเก็บไว้ทำอะไร
ฉันชอบเรื่องราวของความสุข ความสงบของจิตใจ และการการใช้ชีวิตแบบธรรมดาที่เรียบง่าย แต่ไม่มักง่าย
ฉันสนใจหนังสือที่ ทรงคุณค่า เปิดทุกหน้าคือการเรียนรู้ไปตามวันเวลา
มีความสุขซ่อนอยู่ทุกหน้า ทุกๆบท มีแง่มุมดีๆคอยปลอบ คอยสอนเรา
ไม่ว่าเปิดอ่านเมื่อไหร่ ก็พบความสุขได้เสมอทุกเวลา(บางทีมีอยู่ไกล้ข้างๆกาย ก็สุขเกิ้นบรรยาย)
และนั่นแหละ คือความรักกับหนังสือ
ให้เธอเป็นหนังสือ ฉันเป็นคนเปิดอ่านเธอ
ต่อมา ถ้าให้ฉันเป็นหนังสือบ้าง แล้วให้เธอเป็นคนอ่านนะ
ตัวอักษรที่เธอได่อ่านนั้น ขอให้รู้ว่า นั้นคือลายมือฉันเอง
เขียนจากท้องทุ่งนามหาสารคาม ผ่านกลางคืนกับแสงจันทร์และดวงดาว
ผ่านวันเวลา สายลมหนาว เม็ดฝนเย็นๆ และผ่านไออุ่นจากแสงแดด จนมาเป็นเล่มที่สมบูรณ์
กับลายมือเขี่ยๆ เนื้อหาสาระไม่ได้มากมาย ฉันแค่คนธรรมดา ปากกาแท่งเดียว
จึงต้องพยายามเขียนให้ดีที่สุดเท่าที่ต้นทุนหมึกชีวิตยังคงเหลือ
ฉันเลยเป็นฉัน เหมือนที่เธอเห็นนะตอนนี้
ทว่าเรื่องราวของฉันมีแต่ความสุข ความสงบ
ถ้าเธอต้องการเรื่องราว ตื่นเต้นๆ สยองขวัญ ดร่าม่าเศร้าๆ เคล้าน้ำตา รักหวง ลวงโลกนั้น
ฉันไม่มีให้เธออ่านหรอก
เพราะเป็นหนังสือทำมือ อาจจะไม่สวยหรู ดูดีมีราคา ค่าควรจอง เท่าไหร่
ไม่ตรงมาตรฐานโรงพิมพ์(สังคม) ที่ copy คล้ายๆกันหมดจนหาความแตกต่างไม่ได้
จึงอย่าหวังว่าฉันจะเหมือนใคร หรือมีใครเหมือนฉัน
ที่ต้องมีตำแหน่ง มีเงินเดือนตามเกณฑ์ ปวส ปตรี ตามปี ตามขั้น ฉันไม่มี
จบล่ะ ไม่รู้จะต่ออะไร นึกไม่ออก 5555+_+
ท้ายสุดนี้ ที่อยากบอก ที่ฉันโสด เพราะฉันเลือก
เลือกที่จะรอเธอ
ไปล่ะ บะบายยย