วิเคราะห์ปมไอเอส ทำไมต้องเผาเหยื่อทั้งเป็น
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. เอเอฟพีรายงานการวิเคราะห์ของนักวิชาการ ถึงการยกระดับความโหดเหี้ยมของกลุ่มนักรบรัฐอิสลามหรือไอเอส หลังการเผยแพร่คลิปสังหารนักบินกองทัพอากาศจอร์แดน ร.ท.มาอัซ อัล-คาสซาวี ด้วยวิธีเผาทั้งเป็นในกรงเหล็ก จากเดิมที่เคยสังหารเหยื่อตัวประกันด้วยวิธีฆ่าตัดคอมาแล้ว
โรเมน ไซเลต์ ผู้ศึกษากิจกรรมจีฮัด ในเบรุต กล่าวว่า ไอเอสต้องการส่งสารถึงพันธมิตรของสหรัฐอเมริกาที่มาต่อสู้กับไอเอส หวังให้เกิดความแตกแยกและความกลัว
"เขาต้องการบอกว่า ทหารของพวกท่านจะต้องลงเอยในวิดีโอแบบนี้ และอาจจะโหดร้ายกว่านี้ และจะทำลายความคิดเห็นของประชาชนในประเทศของพวกท่าน เพราะไม่มีประมุขแห่งรัฐคนใดต้องการเห็นทหารหนุ่มของตนเองต้องลงเอยเหมือนในวิดีโอแบบนี้" ผู้เชี่ยวชาญชาวเลบานอนกล่าว
ฮัสซัน ฮัสซัน ผู้เชี่ยวชาญประจำสถาบันเดลมา ในอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวว่า นี่เป็นโอกาสใหญ่มากสำหรับไอเอสที่สร้างความเจ็บปวดสูงสุดต่อพันธมิตรนานาชาติของอเมริกา
"เป้าหมายหลักของวิดีโอชุดนี้คือต้องการส่งสารว่า ผลกรรมของชาวมุสลิมที่ไปช่วยอเมริกาในการต่อสู้ไอเอสจะเหนือความคาดหมาย" ฮัสซันกล่าว
ด้านฮิชัม อัล-ฮาชิมี ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงในอิรัก เห็นตรงกันว่า วิธีการประหารเช่นนี้เจตนาจะส่งสาร "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" ไอเอสต้องการข่มขวัญกองทัพอากาศจอร์แดนว่า นักบินคนไหนก็ตามที่เครื่องถูกสอยตกลงมาจนอยู่ในมือไอเอสแล้วจะต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกัน ดังนั้นไอเอสจึงเผานักบินหนุ่มทั้งเป็นให้เห็น
โธมัส เพียร์เร็ต ผู้เชี่ยวชาญชาวซีเรีย ประจำมหาวิทยาลัยเอดินเบอระ ในสกอตแลนด์ กล่าวว่า ทางกลุ่มถูกบีบให้สร้างผลสะท้านสะเทือนขั้นสูงสุด เพื่อเรียกความสนใจ
"หลังจากไอเอสใช้วิธีตัดศีรษะมาบ่อยจนเริ่มซ้ำ การเผานักโทษทั้งเป็นอย่างนี้จึงเรียกความสนใจได้สูงสุดอย่างที่เกิดขึ้น"
นอกจากนี้เพียร์เร็ตเห็นว่า วิดีโอคลิปดังกล่าวที่มีความยาว 22 นาที เป็นภาพการเผานายคาสซาเบห์นั้น ยังส่งสารด้วยว่า การเผาทั้งเป็นเป็นวิธีตอบโต้เปลวไฟจากฟ้า ที่เครื่องบินเอฟ-16 ทิ้งระเบิดทางอากาศถล่มไอเอสนั่นเอง
ทั้งนี้ หากย้อนไปศึกษานักวิชาการสมัยศตวรรษที่ 13 อิบน์ ทามีย์ยะ ผู้ที่สมาชิกสายเคร่งและสายสุดโต่งเคารพนับถือเคยกล่าวไว้ว่า "ถ้าความตายอันสยดสยองทำให้ท่านสยบความก้าวร้าวได้ นั่นเป็นจีฮัดที่ชอบแล้ว" ปรากฏเป็นข้อความตรงภาพร่างอันไหม้เกรียมของร.ท.คาสซาเบห์
อย่างไรก็ตาม มีนักวิชาการอิสลามที่เห็นว่า กลุ่มไอเอสละเมิดกฎทางศาสนาและอ้างประโยคไปก่อความรุนแรง ทั้งที่จริงแล้ว ประโยคในพระคัมภีร์ระบุว่า หากท่านจะลงโทษศัตรู ให้ลงโทษเท่ากับที่เขาทำร้ายท่าน แต่หากท่านอดกลั้นได้ นั่นย่อมดีกว่า
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReU16QTJPRGM1Tmc9PQ%3D%3D
วิเคราะห์ปมไอเอส ทำไมต้องเผาเหยื่อทั้งเป็น
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. เอเอฟพีรายงานการวิเคราะห์ของนักวิชาการ ถึงการยกระดับความโหดเหี้ยมของกลุ่มนักรบรัฐอิสลามหรือไอเอส หลังการเผยแพร่คลิปสังหารนักบินกองทัพอากาศจอร์แดน ร.ท.มาอัซ อัล-คาสซาวี ด้วยวิธีเผาทั้งเป็นในกรงเหล็ก จากเดิมที่เคยสังหารเหยื่อตัวประกันด้วยวิธีฆ่าตัดคอมาแล้ว
โรเมน ไซเลต์ ผู้ศึกษากิจกรรมจีฮัด ในเบรุต กล่าวว่า ไอเอสต้องการส่งสารถึงพันธมิตรของสหรัฐอเมริกาที่มาต่อสู้กับไอเอส หวังให้เกิดความแตกแยกและความกลัว
"เขาต้องการบอกว่า ทหารของพวกท่านจะต้องลงเอยในวิดีโอแบบนี้ และอาจจะโหดร้ายกว่านี้ และจะทำลายความคิดเห็นของประชาชนในประเทศของพวกท่าน เพราะไม่มีประมุขแห่งรัฐคนใดต้องการเห็นทหารหนุ่มของตนเองต้องลงเอยเหมือนในวิดีโอแบบนี้" ผู้เชี่ยวชาญชาวเลบานอนกล่าว
ฮัสซัน ฮัสซัน ผู้เชี่ยวชาญประจำสถาบันเดลมา ในอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวว่า นี่เป็นโอกาสใหญ่มากสำหรับไอเอสที่สร้างความเจ็บปวดสูงสุดต่อพันธมิตรนานาชาติของอเมริกา
"เป้าหมายหลักของวิดีโอชุดนี้คือต้องการส่งสารว่า ผลกรรมของชาวมุสลิมที่ไปช่วยอเมริกาในการต่อสู้ไอเอสจะเหนือความคาดหมาย" ฮัสซันกล่าว
ด้านฮิชัม อัล-ฮาชิมี ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงในอิรัก เห็นตรงกันว่า วิธีการประหารเช่นนี้เจตนาจะส่งสาร "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" ไอเอสต้องการข่มขวัญกองทัพอากาศจอร์แดนว่า นักบินคนไหนก็ตามที่เครื่องถูกสอยตกลงมาจนอยู่ในมือไอเอสแล้วจะต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกัน ดังนั้นไอเอสจึงเผานักบินหนุ่มทั้งเป็นให้เห็น
โธมัส เพียร์เร็ต ผู้เชี่ยวชาญชาวซีเรีย ประจำมหาวิทยาลัยเอดินเบอระ ในสกอตแลนด์ กล่าวว่า ทางกลุ่มถูกบีบให้สร้างผลสะท้านสะเทือนขั้นสูงสุด เพื่อเรียกความสนใจ
"หลังจากไอเอสใช้วิธีตัดศีรษะมาบ่อยจนเริ่มซ้ำ การเผานักโทษทั้งเป็นอย่างนี้จึงเรียกความสนใจได้สูงสุดอย่างที่เกิดขึ้น"
นอกจากนี้เพียร์เร็ตเห็นว่า วิดีโอคลิปดังกล่าวที่มีความยาว 22 นาที เป็นภาพการเผานายคาสซาเบห์นั้น ยังส่งสารด้วยว่า การเผาทั้งเป็นเป็นวิธีตอบโต้เปลวไฟจากฟ้า ที่เครื่องบินเอฟ-16 ทิ้งระเบิดทางอากาศถล่มไอเอสนั่นเอง
ทั้งนี้ หากย้อนไปศึกษานักวิชาการสมัยศตวรรษที่ 13 อิบน์ ทามีย์ยะ ผู้ที่สมาชิกสายเคร่งและสายสุดโต่งเคารพนับถือเคยกล่าวไว้ว่า "ถ้าความตายอันสยดสยองทำให้ท่านสยบความก้าวร้าวได้ นั่นเป็นจีฮัดที่ชอบแล้ว" ปรากฏเป็นข้อความตรงภาพร่างอันไหม้เกรียมของร.ท.คาสซาเบห์
อย่างไรก็ตาม มีนักวิชาการอิสลามที่เห็นว่า กลุ่มไอเอสละเมิดกฎทางศาสนาและอ้างประโยคไปก่อความรุนแรง ทั้งที่จริงแล้ว ประโยคในพระคัมภีร์ระบุว่า หากท่านจะลงโทษศัตรู ให้ลงโทษเท่ากับที่เขาทำร้ายท่าน แต่หากท่านอดกลั้นได้ นั่นย่อมดีกว่า
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReU16QTJPRGM1Tmc9PQ%3D%3D