ผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จสูงสุดบางคนในตลาดหุ้นวอลสตรีท ซึ่งครอบครองทรัพย์สินระดับพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการนั่งสมาธิทุกวัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การทำสมาธิกำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงในหมู่คนทำงานแวดวงการเงิน เห็นได้จากคอร์สสมาธิซึ่งเปิดสอนที่ “โกลด์แมน แซคส์” บริษัทวาณิชธนกิจชื่อดังแห่งย่านวอลสตรีท (ศูนย์กลางการเงินของโลก) มีผู้ลงชื่อเรียนหลายร้อยคน
• เซียนเฮดจ์ฟันด์พันล้านฟันธง การทำสมาธิคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ
เนื่องจากลักษณะงานในโลกการเงินนั้น พนักงานต้องทำงานต่อเนื่องยาวนานหลายชั่วโมง จึงมีบริษัทหลายแห่งที่พยายามหาวิธีฟื้นฟูพนักงานให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ด้วยการหันมาใช้เทคนิคการทำสมาธิแบบโบราณที่เรียกว่า Transcendental Meditation (TM) ซึ่งให้ผู้ปฏิบัติภาวนามนตรา เพื่อให้เข้าถึงระดับที่ลึกสุดและสงบสุดของจิต อันจะส่งผลให้ความวิตกกังวลลดลง และมีความคิดอ่านดียิ่งขึ้น
มูลนิธิเดวิด ลินช์ ผู้จัดอบรมสมาธิแบบ TM ที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา ได้รับการติดต่อจากบริษัทหลายแห่งย่านวอลสตรีท เพื่อให้จัดคอร์ส TM อย่างเข้มข้นให้พนักงาน ค่าเรียนคอร์สละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 33,000 บาท) ที่ผ่านมามีพนักงาน 1,400 คน จาก 400 บริษัท เข้าคอร์สนี้
“ปี 2012 มีเพียง 1-2 บริษัทที่สนใจจัดโปรแกรมนี้ให้พนักงาน แต่ปัจจุบัน มีบริษัทราว 30-40 แห่งที่สนใจ และมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆตลอดเวลา” บ็อบ รอท ผู้อำนวยการบริหารของมูลนิธิเดวิด ลินช์ ซึ่งปฏิบัติและสอน TM มากว่า 40 ปี กล่าว
รอท กล่าวต่อไปว่า บริษัทเฮดจ์ฟันด์ (คือกองทุนการเงินประเภทหนึ่ง ที่มีจุดมุ่งหมายในการบริหารเพื่อให้ได้ผลตอบแทนหรือกำไรมากที่สุด โดยใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลายและซับซ้อน) และบริษัทร่วมลงทุน คือกลุ่มบริษัทที่สนใจโปรแกรม TM มากที่สุด และถึงแม้บริษัทส่วนใหญ่ยังรู้สึกอายที่จะประกาศออกสื่อ แต่ก็มีผู้จัดการเฮดจ์ฟันด์ที่มีชื่อเสียงจำนวนหนึ่งยอมรับว่าได้ปฏิบัติสมาธิ
เรย์ ดาลิโอ ผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates ซึ่งเป็นเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือหนึ่งในผู้สนับสนุนการทำสมาธิรายใหญ่ที่สุด เขาให้เหตุผลถึงความสำเร็จของตัวเองว่า “การทำสมาธิ คือเหตุผลที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จ มากกว่าสิ่งอื่นใด บางครั้งเมื่อเครียด ผมจะหยุดพักและทำสมาธิ เพื่อลบล้างความเครียดออกไป”
ปี 2012 นิตยสาร TIME ได้จัดอันดับดาลิโอให้เป็น 1 ใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดของโลก และในปี 2014 นิตยสารธุรกิจและการเงินในอเมริกา FORBES ได้จัดให้เขาเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก อันดับที่ 69
ดาลิโอทำสมาธิ TM มานาน 42 ปีแล้ว โดยได้แรงบันดาลใจมาจากวงดนตรีเดอะบีทเทิลส์ เขาสนับสนุนพนักงานหลายคนของบริษัทให้เรียนคอร์สสมาธิ TM ที่มูลนิธิเดวิด ลินช์ โดยออกค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่ง และยังจัดห้องทำสมาธิไว้ภายในสำนักงานด้วย
นิกอล คูลาเจียน หุ้นส่วนผู้ก่อตั้งเฮดจ์ฟันด์ Quest Partners คืออีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบการทำสมาธิ TM และได้ให้มูลนิธิเดวิด ลินช์ สอนทำสมาธิให้พนักงานของเขา
“เมื่อทำสมาธิ TM เป็นประจำ จิตและสัญชาตญาณของคุณจะถูกพัฒนาให้ดีขึ้น คุณจะโต้ตอบสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวน้อยลง เพราะฉะนั้น ยามที่ตลาดหุ้นผันผวน เต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย คุณสามารถกำหนดทิศทางการลงทุนด้วยใจที่เป็นกลาง ได้มากกว่าที่จะถูกครอบงำด้วยอารมณ์ส่วนใหญ่ในตลาด ซึ่งเมื่อทุกคนทำตามกัน อาจทำให้ขาดทุนได้” คูลาเจียน กล่าว
• อยากเป็นแบบเซียนหุ้นวอลสตรีท ต้องเริ่มทำสมาธิ
เมื่อตลาดหุ้นและตราสารหนี้ดิ่งเหวในเดือนมกราคม 2014 เดวิด ฟอร์ด ผู้จัดการเฮดจ์ฟันด์ Latigo Partners LP วัย 48 ปี อยู่ในอาการสงบ เฝ้ามองดูตลาดเกิดใหม่ทั้งหลายที่พากันพังครืน และอ่านบทความที่เขียนเตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯอาจปะทุตามไปด้วย ขณะที่ราคาหุ้นร่วงหล่น ฟอร์ดสามารถเอาชนะแรงกระตุ้นให้หนีออกจากตลาดเหมือนเช่นคนอื่นๆ พร้อมกับซื้อตราสารหนี้เพิ่มมากขึ้น
ด้วยประสบการณ์ 20 ปีในฐานะนักเก็งกำไรในตลาดเงิน ฟอร์ดให้เครดิตกับสิ่งที่ทำให้เขาสงบเยือกเย็นได้ นั่นคือ ประสบการณ์ และการทำสมาธิภาวนามนตราทุกๆเช้านาน 20 นาที ซึ่งเขาได้เรียนจากครูสอน TM เมื่อปี 2012
“เดี๋ยวนี้ผมรับมือกับตลาดที่ผันผวนอย่างสงบนิ่งมากขึ้น และมีความอดทนมากขึ้น” ฟอร์ด กล่าว
ส่วน แดเนียล โลเอบ นักลงทุนระดับพันล้านดอลลาร์สหรัฐ แห่ง Third Point Management กล่าวยกย่องการทำสมาธิว่ามีประโยชน์มาก ขณะสนทนากับองค์ทะไล ลามะ บนเวทีสัมมนาในกรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2014
• ตัวอย่างงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของการทำสมาธิ
1. งานวิจัยปี 2005 ของคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่า การทำสมาธิช่วยเพิ่มความหนาของสมองกลีบหน้าผากส่วนหน้า ซึ่งเป็นศูนย์กลางสมองที่เกี่ยวข้องกับการคิด วิเคราะห์ และวางแผนระยะยาว
2. งานวิจัยปี 2009 ของมหาวิทยาลัยอาร์ฮุส ประเทศเดนมาร์ก พบว่า คนที่ปฏิบัติสมาธิต่อเนื่องในระยะยาว มีก้านสมองหนาขึ้น
3. งานวิจัยปี 2010 ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย พบว่า การทำสมาธิช่วยเพิ่มช่วงความสนใจให้กว้างขึ้น
4. งานวิจัยปี 2010 ของคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่า การทำสมาธิช่วยเพิ่มเซลล์สมองในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้และกระบวนการจำ การควบคุมอารมณ์ การรับรู้ การเห็น การได้ยิน
5. งานวิจัยปี 2014 ของมหาวิทยาลัยนานาชาติแห่งหนึ่งในประเทศไทย พบว่า ผู้ปฏิบัติสมาธิมีอัตราความอ่อนล้าน้อยกว่า และจัดการกับความเครียดที่เกิดจากการทำงานได้ดีกว่า
6. งานวิจัยปี 2014 ของมหาวิทยาลัยอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ พบว่า การทำสมาธิมีความสัมพันธ์กับความใส่ใจในรายละเอียดและพฤติกรรมสร้างสรรค์
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนของงานวิจัยนับพันชิ้น ในเรื่องประโยชน์ของการทำสมาธิ
ปัจจุบัน ในสหรัฐอเมริกา มีผู้สนใจหันมาฝึกสมาธิ TRANSCENDENTAL MEDITATION กันมาก ซึ่งเป็นเทคนิคของมหาฤษีมเหศ โยคี ชาวอินเดีย ที่ได้นำเข้าไปเผยแพร่ในสหรัฐฯ ราว 30 ปีมาแล้ว ขณะนี้มีศูนย์ฝึก TM อยู่ทั่วโลก 300 กว่าแห่ง
สมาธิแบบ TM มีพื้นฐานมาจากการผสมผสานเทคนิค วีดานติค ของศาสนาฮินดู และมนตราของผู้สอน เป็นการทำสมาธิภาวนามนตรา โดยผู้ปฏิบัติภาวนาคำสั้นๆซ้ำๆ เช่น โอม... เพื่อกำหนดจิตให้อยู่ในภาวะที่สงบนิ่งมากที่สุด รวมทั้งเน้นการฝึกหายใจเข้าออกลึกๆ และเพ่งไปที่ลมหายใจ เพื่อให้เกิดการผ่อนคลาย อันเป็นการปฏิบัติเพื่อให้เกิดความสงบ สุขภาพดี และสามารถต่อสู้กับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เข้ามากระทบในชีวิตได้ แต่การฝึกสมาธิแบบนี้หากเทียบกับสมาธิในพระพุทธศาสนา ก็เป็นเพียงสมาธิขั้นต้นเท่านั้น
ที่มา นิตยสารธรรมลีลา
ฉบับที่ 170 กุมภาพันธ์ 2558
โดย มนตรา
www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9580000012874
เซียน “วอลสตรีท” ฟันธง “สมาธิ” คือกุญแจสู่ความสำเร็จ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การทำสมาธิกำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงในหมู่คนทำงานแวดวงการเงิน เห็นได้จากคอร์สสมาธิซึ่งเปิดสอนที่ “โกลด์แมน แซคส์” บริษัทวาณิชธนกิจชื่อดังแห่งย่านวอลสตรีท (ศูนย์กลางการเงินของโลก) มีผู้ลงชื่อเรียนหลายร้อยคน
• เซียนเฮดจ์ฟันด์พันล้านฟันธง การทำสมาธิคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ
เนื่องจากลักษณะงานในโลกการเงินนั้น พนักงานต้องทำงานต่อเนื่องยาวนานหลายชั่วโมง จึงมีบริษัทหลายแห่งที่พยายามหาวิธีฟื้นฟูพนักงานให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ด้วยการหันมาใช้เทคนิคการทำสมาธิแบบโบราณที่เรียกว่า Transcendental Meditation (TM) ซึ่งให้ผู้ปฏิบัติภาวนามนตรา เพื่อให้เข้าถึงระดับที่ลึกสุดและสงบสุดของจิต อันจะส่งผลให้ความวิตกกังวลลดลง และมีความคิดอ่านดียิ่งขึ้น
มูลนิธิเดวิด ลินช์ ผู้จัดอบรมสมาธิแบบ TM ที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา ได้รับการติดต่อจากบริษัทหลายแห่งย่านวอลสตรีท เพื่อให้จัดคอร์ส TM อย่างเข้มข้นให้พนักงาน ค่าเรียนคอร์สละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 33,000 บาท) ที่ผ่านมามีพนักงาน 1,400 คน จาก 400 บริษัท เข้าคอร์สนี้
“ปี 2012 มีเพียง 1-2 บริษัทที่สนใจจัดโปรแกรมนี้ให้พนักงาน แต่ปัจจุบัน มีบริษัทราว 30-40 แห่งที่สนใจ และมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆตลอดเวลา” บ็อบ รอท ผู้อำนวยการบริหารของมูลนิธิเดวิด ลินช์ ซึ่งปฏิบัติและสอน TM มากว่า 40 ปี กล่าว
รอท กล่าวต่อไปว่า บริษัทเฮดจ์ฟันด์ (คือกองทุนการเงินประเภทหนึ่ง ที่มีจุดมุ่งหมายในการบริหารเพื่อให้ได้ผลตอบแทนหรือกำไรมากที่สุด โดยใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลายและซับซ้อน) และบริษัทร่วมลงทุน คือกลุ่มบริษัทที่สนใจโปรแกรม TM มากที่สุด และถึงแม้บริษัทส่วนใหญ่ยังรู้สึกอายที่จะประกาศออกสื่อ แต่ก็มีผู้จัดการเฮดจ์ฟันด์ที่มีชื่อเสียงจำนวนหนึ่งยอมรับว่าได้ปฏิบัติสมาธิ
เรย์ ดาลิโอ ผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates ซึ่งเป็นเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือหนึ่งในผู้สนับสนุนการทำสมาธิรายใหญ่ที่สุด เขาให้เหตุผลถึงความสำเร็จของตัวเองว่า “การทำสมาธิ คือเหตุผลที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จ มากกว่าสิ่งอื่นใด บางครั้งเมื่อเครียด ผมจะหยุดพักและทำสมาธิ เพื่อลบล้างความเครียดออกไป”
ปี 2012 นิตยสาร TIME ได้จัดอันดับดาลิโอให้เป็น 1 ใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดของโลก และในปี 2014 นิตยสารธุรกิจและการเงินในอเมริกา FORBES ได้จัดให้เขาเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก อันดับที่ 69
ดาลิโอทำสมาธิ TM มานาน 42 ปีแล้ว โดยได้แรงบันดาลใจมาจากวงดนตรีเดอะบีทเทิลส์ เขาสนับสนุนพนักงานหลายคนของบริษัทให้เรียนคอร์สสมาธิ TM ที่มูลนิธิเดวิด ลินช์ โดยออกค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่ง และยังจัดห้องทำสมาธิไว้ภายในสำนักงานด้วย
นิกอล คูลาเจียน หุ้นส่วนผู้ก่อตั้งเฮดจ์ฟันด์ Quest Partners คืออีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบการทำสมาธิ TM และได้ให้มูลนิธิเดวิด ลินช์ สอนทำสมาธิให้พนักงานของเขา
“เมื่อทำสมาธิ TM เป็นประจำ จิตและสัญชาตญาณของคุณจะถูกพัฒนาให้ดีขึ้น คุณจะโต้ตอบสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวน้อยลง เพราะฉะนั้น ยามที่ตลาดหุ้นผันผวน เต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย คุณสามารถกำหนดทิศทางการลงทุนด้วยใจที่เป็นกลาง ได้มากกว่าที่จะถูกครอบงำด้วยอารมณ์ส่วนใหญ่ในตลาด ซึ่งเมื่อทุกคนทำตามกัน อาจทำให้ขาดทุนได้” คูลาเจียน กล่าว
• อยากเป็นแบบเซียนหุ้นวอลสตรีท ต้องเริ่มทำสมาธิ
เมื่อตลาดหุ้นและตราสารหนี้ดิ่งเหวในเดือนมกราคม 2014 เดวิด ฟอร์ด ผู้จัดการเฮดจ์ฟันด์ Latigo Partners LP วัย 48 ปี อยู่ในอาการสงบ เฝ้ามองดูตลาดเกิดใหม่ทั้งหลายที่พากันพังครืน และอ่านบทความที่เขียนเตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯอาจปะทุตามไปด้วย ขณะที่ราคาหุ้นร่วงหล่น ฟอร์ดสามารถเอาชนะแรงกระตุ้นให้หนีออกจากตลาดเหมือนเช่นคนอื่นๆ พร้อมกับซื้อตราสารหนี้เพิ่มมากขึ้น
ด้วยประสบการณ์ 20 ปีในฐานะนักเก็งกำไรในตลาดเงิน ฟอร์ดให้เครดิตกับสิ่งที่ทำให้เขาสงบเยือกเย็นได้ นั่นคือ ประสบการณ์ และการทำสมาธิภาวนามนตราทุกๆเช้านาน 20 นาที ซึ่งเขาได้เรียนจากครูสอน TM เมื่อปี 2012
“เดี๋ยวนี้ผมรับมือกับตลาดที่ผันผวนอย่างสงบนิ่งมากขึ้น และมีความอดทนมากขึ้น” ฟอร์ด กล่าว
ส่วน แดเนียล โลเอบ นักลงทุนระดับพันล้านดอลลาร์สหรัฐ แห่ง Third Point Management กล่าวยกย่องการทำสมาธิว่ามีประโยชน์มาก ขณะสนทนากับองค์ทะไล ลามะ บนเวทีสัมมนาในกรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2014
• ตัวอย่างงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของการทำสมาธิ
1. งานวิจัยปี 2005 ของคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่า การทำสมาธิช่วยเพิ่มความหนาของสมองกลีบหน้าผากส่วนหน้า ซึ่งเป็นศูนย์กลางสมองที่เกี่ยวข้องกับการคิด วิเคราะห์ และวางแผนระยะยาว
2. งานวิจัยปี 2009 ของมหาวิทยาลัยอาร์ฮุส ประเทศเดนมาร์ก พบว่า คนที่ปฏิบัติสมาธิต่อเนื่องในระยะยาว มีก้านสมองหนาขึ้น
3. งานวิจัยปี 2010 ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย พบว่า การทำสมาธิช่วยเพิ่มช่วงความสนใจให้กว้างขึ้น
4. งานวิจัยปี 2010 ของคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่า การทำสมาธิช่วยเพิ่มเซลล์สมองในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้และกระบวนการจำ การควบคุมอารมณ์ การรับรู้ การเห็น การได้ยิน
5. งานวิจัยปี 2014 ของมหาวิทยาลัยนานาชาติแห่งหนึ่งในประเทศไทย พบว่า ผู้ปฏิบัติสมาธิมีอัตราความอ่อนล้าน้อยกว่า และจัดการกับความเครียดที่เกิดจากการทำงานได้ดีกว่า
6. งานวิจัยปี 2014 ของมหาวิทยาลัยอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ พบว่า การทำสมาธิมีความสัมพันธ์กับความใส่ใจในรายละเอียดและพฤติกรรมสร้างสรรค์
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนของงานวิจัยนับพันชิ้น ในเรื่องประโยชน์ของการทำสมาธิ
ปัจจุบัน ในสหรัฐอเมริกา มีผู้สนใจหันมาฝึกสมาธิ TRANSCENDENTAL MEDITATION กันมาก ซึ่งเป็นเทคนิคของมหาฤษีมเหศ โยคี ชาวอินเดีย ที่ได้นำเข้าไปเผยแพร่ในสหรัฐฯ ราว 30 ปีมาแล้ว ขณะนี้มีศูนย์ฝึก TM อยู่ทั่วโลก 300 กว่าแห่ง
สมาธิแบบ TM มีพื้นฐานมาจากการผสมผสานเทคนิค วีดานติค ของศาสนาฮินดู และมนตราของผู้สอน เป็นการทำสมาธิภาวนามนตรา โดยผู้ปฏิบัติภาวนาคำสั้นๆซ้ำๆ เช่น โอม... เพื่อกำหนดจิตให้อยู่ในภาวะที่สงบนิ่งมากที่สุด รวมทั้งเน้นการฝึกหายใจเข้าออกลึกๆ และเพ่งไปที่ลมหายใจ เพื่อให้เกิดการผ่อนคลาย อันเป็นการปฏิบัติเพื่อให้เกิดความสงบ สุขภาพดี และสามารถต่อสู้กับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เข้ามากระทบในชีวิตได้ แต่การฝึกสมาธิแบบนี้หากเทียบกับสมาธิในพระพุทธศาสนา ก็เป็นเพียงสมาธิขั้นต้นเท่านั้น
ที่มา นิตยสารธรรมลีลา
ฉบับที่ 170 กุมภาพันธ์ 2558
โดย มนตรา
www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9580000012874