เราไปดูหนังเรื่อง Life Itself ที่ SF World เซ็นทรัลเวิร์ลมา เป็นหนังของโครงการ Documentary Club ซึ่งเปิดน้อยรอบ แต่คนอยากดูมีเยอะ ถ้าไปซื้อหน้าโรงต้องนั่งหน้าสุด ไม่ก็อดดูแน่ เลยจำเป็นต้องจองออนไลน์ ใจจดใจจ่อรีบจองตั้งแต่วันแรกที่เปิดจอง เห็นราคาโชว์ว่า 120 บาททุกที่นั่ง (110 บาท + ค่าจอง 10 บาท) เอ๊ะ ทำไมถูก แปลกใจ ดีใจ มโนไปเองว่าโปรโมชันพิเศษไรงี้ โลกสวยจริงๆ เพิ่งมาคิดได้ทีหลังว่าไม่มีทาง
ทุกทีเราจะเลือกที่ปกติ ซึ่งถูกกว่าที่นั่งพรีเมียม ตามประสาคนรักหนังเงินเดือนน้อย แต่นี่ราคาเท่ากันทุกที่นั่งไง ด้วยคอมมอนเซนส์ ก็เลือกที่พรีเมียม จองให้เพื่อนด้วย รวม 4 ที่ ระบบขึ้นว่าราคารวม 480 บาท (440 บาท + ค่าจอง 40 บาท) (ตอนจอง ไม่ได้แคปรูปไว้ เลยรีบกลับมาแคปที่นั่งแถว C แถวเดียวกับที่จองเอาไว้ แต่เป็นที่นั่งถัดไปข้างๆ แต่อันนี้ไม่ได้กดจองนะ แค่กดมาดูราคารวม ซึ่งก็เป็น 480 จริงๆ)
ลองดูในแอปมือถือก็เป็นราคาเดียวกัน
จองเสร็จหมดแล้ว ยังไม่สบายใจ เพราะในเมลยืนยันไม่มีบอกราคา เลยโทรไปเช็กให้แน่ใจ พนักงาน SF ที่รับจองตั๋วทางโทรศัพท์แจ้งว่าเรื่องนี้ วันเสาร์ที่ 31 ทุกที่นั่ง 120 บาทจริง จะซื้อแล้วตัดเงินทางบัตรเครดิตเลยไหมคะ เราไม่มีบัตรเครดิตเลยบอกว่าไม่เป็นไร จะแค่จองทางเน็ตไว้ก่อน
วางสายไป ยังไม่แน่ใจอีก เลยแมสเสจไปที่เฟซบุ๊ก We Love SF แอดมินตอบค่อนข้างช้า แม้กระทั่งหลังจากรับเรื่องแล้ว ดังที่เห็นเวลาในรูปแคป เอาเป็นว่าอาจจะงานยุ่ง อะ ไม่ว่ากัน และแล้วระหว่างรอคำตอบ... เราลองรีเฟรชหน้าเว็บจอง อ้าว! ราคาเด้งกลับมาเป็นแพงเหมือนปกติแระ เปลี่ยนกลับแบบเงียบๆ ไม่มีชี้แจงอะไร ลับๆ ล่อๆ พิลึก เราเดาว่า ระบบโชว์ราคาผิดแน่ ราคาจริงต้องเป็นเรตปกติ
ณ จุดนี้เขาควรขอโทษเรา แจ้งว่าเขาผิดพลาดอย่างไร และขอร้องให้เราจ่าย 880 บาทตามที่ควรจะเป็น ปรากฏว่า เขามาตอบคล้ายที่เราคาดหวัง แต่แค่คล้าย... คือเขาบอกว่า เราต้องจ่าย 880 บาท "สำหรับราคาที่แจ้งลูกค้าไม่แน่นอนค่ะ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ" อ่านแล้วไม่เข้าใจความหมาย ทำไมไม่บอกเราว่าเกิดอะไรขึ้นแบบเคลียร์ๆ เราไม่ควรต้องมาเดาเอาเอง เราควรได้ฟังคำชี้แจงที่เคลียร์
พอไม่เคลียร์ เราก็ยังสับสน เลยเล่าให้เขาฟังไปว่าพนักงานที่โทรศัพท์แจ้งว่า 120 นะ ถ้าเขายืนยันชัดเจนว่า 120 น่ะมันผิดเพราะอะไรยังไง เราก็จะขอแคนเซิล เพื่อย้ายไปเลือกที่นั่งปกติที่ไม่ใช่พรีเมียม ปรากฎว่า... แอดมินตอบว่า "แอดมินตรวจสอบผิดพลาดค่ะ สำหรับรายการของลูกค้าราคารวมเป็น 480 (440+40) บาทค่ะ" เราถามย้ำอีกครั้งว่าราคานี้แน่ไหม แอดมินตอบว่าใช่ (ตอนนั้นในเว็บเป็นราคาเรตปกติแล้วด้วยแท้ๆ ย้อนแย้งมาก)
มาถึงวันฉาย เราได้ข้อสรุปว่า แอดมินคนนั้นใช้วิธีตอบมั่วๆ ให้จบๆ ไป (ไล่ๆ เราไปให้พ้นๆ ว่างั้น) เพื่อให้เรามาทะเลาะหน้าเคาน์เตอร์ต่อเอง โดยที่รู้ด้วยว่าเราไม่มีทางทะเลาะชนะ ถือเป็นการแก้ปัญหาที่มักง่ายและแล้งน้ำใจสุดๆ
เมื่อพนักงานใส่สูทที่ยืนคอยแนะนำคนที่ต่อคิวซื้อตั๋ว ได้รับทราบเคสของเรา เขาทำหน้าแปลกใจ พูดคำแรกว่า "เอ๊ะ ไม่มีนะครับ ราคาแบบนี้ ไม่ใช่แล้วล่ะครับ คุณจองของวันพุธมาครับ" (ไม่ใช่คำแบบนี้เป๊ะๆ แต่ความหมายแบบนี้) เขารีบพูดอย่างรวดเร็วและมั่นใจว่าเราเป็นฝ่ายผิด มันเป็นของวันพุธ (แต่เรามีรูปแคปที่เห็นชัดเจนว่าเป็นรอบวันเสาร์ ถ้าไม่มีก็จบตรงนี้เลยแน่ๆ)
เจรจากันยาว ในช่วงแรกๆ พนักงานมีน้ำเสียงแก้ตัวอย่างรุนแรง พยายามบอกเราว่าเป็นการทำงานคนละส่วน ไม่เกี่ยวข้องกัน ระหว่างแอดมินเฟซบุ๊ก ระบบจอง และตัวเขาที่อยู่ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ด้วยความไม่ชอบปะทะของเรา ทำให้เราเผลอพูดช่วยเขาไป (เพื่ออออ?) พอเราบอกว่า เข้าใจเขาที่โดนเหมารวม เราไม่ได้กำลังว่าเขา เราอยากให้เขาช่วยมากกว่า เขาก็พูดจาอ่อนลง และพูดถึงความลำบาก "ของเขา" ที่ต้องเจอปัญหานี้ ยิ่งคุยเรายิ่งรู้สึกไม่ดี เป็นแค่มโนของเรานะ รู้สึกว่าเขาไม่ใช่แค่ไม่ได้อยากช่วย แต่ไม่ได้เห็นใจเลยด้วย เหมือนเราเป็นปัญหา เป็นภาระของเขา
เราถามชื่อเขามาด้วย เขาก็ตอบ เพราะคิดว่าเราจะชมเขาที่ใจเย็น แถมยังยินดีให้เราโพสต์ Pantip เพราะเขาบอกว่าคนที่ผิดไม่ใช่เขา เรายอมรับว่าเขาใจเย็นจริง แต่เขาทำให้ลูกค้ารู้สึกดีไม่ได้อยู่ดี แต่เราจะไม่บอกชื่อเขาละกัน ไม่อยากต่อเวรต่อกรรม
เรื่องของฟีลลิงน่ะช่างมันเหอะ เอาเรื่องแฟกต์ๆ ดีกว่า เขาบอกว่า มีเคสแบบนี้เกิดขึ้นเป็นร้อยๆ ครั้งแล้ว (ขัดแย้งกับตอนแรกที่ทำหน้าแปลกใจเหมือนไม่เคยเห็น /อีกอย่างคือ ในเมื่อเกิดขึ้นบ่อยและเยอะขนาดนั้น ทำไมไม่มีนโยบายจะแก้ไข) เขาบอกว่า ในเคสแบบนี้ มีทางเดียวคือเรียกเงินตามจริง รวมถึงคนที่ซื้อล่วงหน้าโดยตัดเงินในบัตรเครดิตไปแล้ว ก็จะต้องจ่ายเต็มที่เคาน์เตอร์ แล้วค่อยไปขอรีฟันด์คืน ซึ่งยุ่งยากมาก ภาระตกเป็นของลูกค้าเต็มๆ... ตลก!
(รูป06 - รูปตั๋วที่ถ่าย)
ขออภัยคุณผู้อ่านที่เราเขียนเฮดไลน์เรียกแขกตรง "จองตั๋วหนัง 120 แต่โดนเรียกจ่ายจริง 220" เพราะประเด็นของเรา ไม่ใช่อยากจ่ายถูก แม้เราจะคิดมาตลอดว่าดูหนังทีเสีย 200 นี่แพงจริงๆ แต่ก็เลือกเองแล้วที่จะจ่าย ที่รู้สึกไม่ดีคือวิธีแก้ปัญหาของ SF ที่เห็นลูกค้าเป็นของตายที่ทิ้งๆ ขว้างๆ ได้มากกว่า ระบบจองออนไลน์ก็พังๆ ไม่สมประกอบมาตั้งนานแล้ว ก็ไม่ซ่อม แถมมีคนคอมเพลนเรื่องพนักงานให้ได้ยินกันมาหลายปีแล้ว ก็ไม่เห็นจะเปลี่ยนไป ปกติเรามองว่า SF ดีกว่า Major อยู่มาก แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกไม่ชอบพอๆ กันแล้ว ไม่อยากจะอุดหนุนอีกต่อไปแล้วล่ะ บายส์
จองตั๋วหนัง 120 แต่โดนเรียกจ่ายจริง 220 เสียความรู้สึกกับบริการสุดย่ำแย่ของ SF
ทุกทีเราจะเลือกที่ปกติ ซึ่งถูกกว่าที่นั่งพรีเมียม ตามประสาคนรักหนังเงินเดือนน้อย แต่นี่ราคาเท่ากันทุกที่นั่งไง ด้วยคอมมอนเซนส์ ก็เลือกที่พรีเมียม จองให้เพื่อนด้วย รวม 4 ที่ ระบบขึ้นว่าราคารวม 480 บาท (440 บาท + ค่าจอง 40 บาท) (ตอนจอง ไม่ได้แคปรูปไว้ เลยรีบกลับมาแคปที่นั่งแถว C แถวเดียวกับที่จองเอาไว้ แต่เป็นที่นั่งถัดไปข้างๆ แต่อันนี้ไม่ได้กดจองนะ แค่กดมาดูราคารวม ซึ่งก็เป็น 480 จริงๆ)
ลองดูในแอปมือถือก็เป็นราคาเดียวกัน
จองเสร็จหมดแล้ว ยังไม่สบายใจ เพราะในเมลยืนยันไม่มีบอกราคา เลยโทรไปเช็กให้แน่ใจ พนักงาน SF ที่รับจองตั๋วทางโทรศัพท์แจ้งว่าเรื่องนี้ วันเสาร์ที่ 31 ทุกที่นั่ง 120 บาทจริง จะซื้อแล้วตัดเงินทางบัตรเครดิตเลยไหมคะ เราไม่มีบัตรเครดิตเลยบอกว่าไม่เป็นไร จะแค่จองทางเน็ตไว้ก่อน
วางสายไป ยังไม่แน่ใจอีก เลยแมสเสจไปที่เฟซบุ๊ก We Love SF แอดมินตอบค่อนข้างช้า แม้กระทั่งหลังจากรับเรื่องแล้ว ดังที่เห็นเวลาในรูปแคป เอาเป็นว่าอาจจะงานยุ่ง อะ ไม่ว่ากัน และแล้วระหว่างรอคำตอบ... เราลองรีเฟรชหน้าเว็บจอง อ้าว! ราคาเด้งกลับมาเป็นแพงเหมือนปกติแระ เปลี่ยนกลับแบบเงียบๆ ไม่มีชี้แจงอะไร ลับๆ ล่อๆ พิลึก เราเดาว่า ระบบโชว์ราคาผิดแน่ ราคาจริงต้องเป็นเรตปกติ
ณ จุดนี้เขาควรขอโทษเรา แจ้งว่าเขาผิดพลาดอย่างไร และขอร้องให้เราจ่าย 880 บาทตามที่ควรจะเป็น ปรากฏว่า เขามาตอบคล้ายที่เราคาดหวัง แต่แค่คล้าย... คือเขาบอกว่า เราต้องจ่าย 880 บาท "สำหรับราคาที่แจ้งลูกค้าไม่แน่นอนค่ะ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ" อ่านแล้วไม่เข้าใจความหมาย ทำไมไม่บอกเราว่าเกิดอะไรขึ้นแบบเคลียร์ๆ เราไม่ควรต้องมาเดาเอาเอง เราควรได้ฟังคำชี้แจงที่เคลียร์
พอไม่เคลียร์ เราก็ยังสับสน เลยเล่าให้เขาฟังไปว่าพนักงานที่โทรศัพท์แจ้งว่า 120 นะ ถ้าเขายืนยันชัดเจนว่า 120 น่ะมันผิดเพราะอะไรยังไง เราก็จะขอแคนเซิล เพื่อย้ายไปเลือกที่นั่งปกติที่ไม่ใช่พรีเมียม ปรากฎว่า... แอดมินตอบว่า "แอดมินตรวจสอบผิดพลาดค่ะ สำหรับรายการของลูกค้าราคารวมเป็น 480 (440+40) บาทค่ะ" เราถามย้ำอีกครั้งว่าราคานี้แน่ไหม แอดมินตอบว่าใช่ (ตอนนั้นในเว็บเป็นราคาเรตปกติแล้วด้วยแท้ๆ ย้อนแย้งมาก)
มาถึงวันฉาย เราได้ข้อสรุปว่า แอดมินคนนั้นใช้วิธีตอบมั่วๆ ให้จบๆ ไป (ไล่ๆ เราไปให้พ้นๆ ว่างั้น) เพื่อให้เรามาทะเลาะหน้าเคาน์เตอร์ต่อเอง โดยที่รู้ด้วยว่าเราไม่มีทางทะเลาะชนะ ถือเป็นการแก้ปัญหาที่มักง่ายและแล้งน้ำใจสุดๆ
เมื่อพนักงานใส่สูทที่ยืนคอยแนะนำคนที่ต่อคิวซื้อตั๋ว ได้รับทราบเคสของเรา เขาทำหน้าแปลกใจ พูดคำแรกว่า "เอ๊ะ ไม่มีนะครับ ราคาแบบนี้ ไม่ใช่แล้วล่ะครับ คุณจองของวันพุธมาครับ" (ไม่ใช่คำแบบนี้เป๊ะๆ แต่ความหมายแบบนี้) เขารีบพูดอย่างรวดเร็วและมั่นใจว่าเราเป็นฝ่ายผิด มันเป็นของวันพุธ (แต่เรามีรูปแคปที่เห็นชัดเจนว่าเป็นรอบวันเสาร์ ถ้าไม่มีก็จบตรงนี้เลยแน่ๆ)
เจรจากันยาว ในช่วงแรกๆ พนักงานมีน้ำเสียงแก้ตัวอย่างรุนแรง พยายามบอกเราว่าเป็นการทำงานคนละส่วน ไม่เกี่ยวข้องกัน ระหว่างแอดมินเฟซบุ๊ก ระบบจอง และตัวเขาที่อยู่ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ด้วยความไม่ชอบปะทะของเรา ทำให้เราเผลอพูดช่วยเขาไป (เพื่ออออ?) พอเราบอกว่า เข้าใจเขาที่โดนเหมารวม เราไม่ได้กำลังว่าเขา เราอยากให้เขาช่วยมากกว่า เขาก็พูดจาอ่อนลง และพูดถึงความลำบาก "ของเขา" ที่ต้องเจอปัญหานี้ ยิ่งคุยเรายิ่งรู้สึกไม่ดี เป็นแค่มโนของเรานะ รู้สึกว่าเขาไม่ใช่แค่ไม่ได้อยากช่วย แต่ไม่ได้เห็นใจเลยด้วย เหมือนเราเป็นปัญหา เป็นภาระของเขา
เราถามชื่อเขามาด้วย เขาก็ตอบ เพราะคิดว่าเราจะชมเขาที่ใจเย็น แถมยังยินดีให้เราโพสต์ Pantip เพราะเขาบอกว่าคนที่ผิดไม่ใช่เขา เรายอมรับว่าเขาใจเย็นจริง แต่เขาทำให้ลูกค้ารู้สึกดีไม่ได้อยู่ดี แต่เราจะไม่บอกชื่อเขาละกัน ไม่อยากต่อเวรต่อกรรม
เรื่องของฟีลลิงน่ะช่างมันเหอะ เอาเรื่องแฟกต์ๆ ดีกว่า เขาบอกว่า มีเคสแบบนี้เกิดขึ้นเป็นร้อยๆ ครั้งแล้ว (ขัดแย้งกับตอนแรกที่ทำหน้าแปลกใจเหมือนไม่เคยเห็น /อีกอย่างคือ ในเมื่อเกิดขึ้นบ่อยและเยอะขนาดนั้น ทำไมไม่มีนโยบายจะแก้ไข) เขาบอกว่า ในเคสแบบนี้ มีทางเดียวคือเรียกเงินตามจริง รวมถึงคนที่ซื้อล่วงหน้าโดยตัดเงินในบัตรเครดิตไปแล้ว ก็จะต้องจ่ายเต็มที่เคาน์เตอร์ แล้วค่อยไปขอรีฟันด์คืน ซึ่งยุ่งยากมาก ภาระตกเป็นของลูกค้าเต็มๆ... ตลก!
(รูป06 - รูปตั๋วที่ถ่าย)
ขออภัยคุณผู้อ่านที่เราเขียนเฮดไลน์เรียกแขกตรง "จองตั๋วหนัง 120 แต่โดนเรียกจ่ายจริง 220" เพราะประเด็นของเรา ไม่ใช่อยากจ่ายถูก แม้เราจะคิดมาตลอดว่าดูหนังทีเสีย 200 นี่แพงจริงๆ แต่ก็เลือกเองแล้วที่จะจ่าย ที่รู้สึกไม่ดีคือวิธีแก้ปัญหาของ SF ที่เห็นลูกค้าเป็นของตายที่ทิ้งๆ ขว้างๆ ได้มากกว่า ระบบจองออนไลน์ก็พังๆ ไม่สมประกอบมาตั้งนานแล้ว ก็ไม่ซ่อม แถมมีคนคอมเพลนเรื่องพนักงานให้ได้ยินกันมาหลายปีแล้ว ก็ไม่เห็นจะเปลี่ยนไป ปกติเรามองว่า SF ดีกว่า Major อยู่มาก แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกไม่ชอบพอๆ กันแล้ว ไม่อยากจะอุดหนุนอีกต่อไปแล้วล่ะ บายส์