Review >เล็กๆน้อยๆจากทริปเกาหลีเมื่อปลายปีที่ผ่านมา+โมเม้นฟินๆเมื่อได้เจอ GOT7 !!

เริ่มเลยละกัน เราเพิ่งเขียนกระทู้รีวิวในพันทิปเป็นครั้งแรก นอกนั้นเป็นตั้งคำถามมากกว่า 55555
ทริปเกาหลีนี้เราไปกับพี่ชาย 2 คน ไปเองแบบไม่ง้อทัวร์ เพราะไอ่ที่ๆทัวร์ไป เราไม่อยากไป 55555
เราจะเล่าแบบข้ามๆ อาจะไม่ค่อยเรียงวันนะ บางอันก็ลืมว่าไปวันไหน 5555 คือเหมือนทริปติ่งนิดๆ เพราะเราก็ติ่ง พี่เราก็ติ่ง ก็มีฟินบ้างไรบ้าง

วางแผนไว้ว่าจะไปช่วง คริสต์มาส เพราะ ม.เราปิดช่วงนั้นพอดี
เริ่มจากจองตั๋วก่อน ช่วงประมาณกุมภาปีที่แล้วบ้านเรามีปัญหาเรื่องการเมืองเนอะ แล้วแอร์เอเชียก็ออกมาบอกว่า ที่จะเปิด ไทยแอร์เอเชียเอ็ก อาจจะต้องเลื่อนไปก่อนจนกว่าบ้านเมืองจะสงบประมาณนี้ ไอ่เราก็เห้ย ถ้าเกิดมันไม่สงบซํกทีทำไง แล้วอยู่ดีๆ แอร์เอเชียก็ออกโปรอีกโปรมาพอดี เราเลยจองเลยละกัน กลัวไม่ได้ไป ก็ได้ตั๋วมาในราคา 15000 ไป-กลับ เชียงใหม่-มาเลเซีย-โซล 17-27 ธันวาคม 2557
เราก็แบบเออถูกแฮะ พอจองตั๋วเสร็จ ช่วงเดือนพฤษภา แอร์เอเชียก็เปิดรูทบินตรง โหยย เหมือนโดนหักหลัง รู้สึกเจ็บใจนิดๆ แต่ก็นะ เราก็ซื้อมาแล้วนิหว่า ก็ต้องทำใจ 55555

ต่อไปก็เป็นการจองที่พัก เราจองที่พักผ่าน expedia อันนี้ให้พี่เป็นคนจอง ก็ได้ที่ Sinsa station แถวๆอัปกูจอง ชื่อว่า Chloe guesthouse พัก 8 คืน 12000 บาท ค่าที่พักตัดผ่านบัตรเครดิตเลยจ้า พอจองที่พักได้ก็อุ่นใจล่ะ

ต่อมาเป็นเสื้อผ้า คือช่วงที่ไปเป็นฤดูหนาวระหว่างรอไปเที่ยวก็หาซื้อเสื้อผ้าฤดูหนาวทีละนิด คือหนาวจนติดลบอ่ะ การแต่งตัวทุกวันคือไม่ต่ำกว่า 3 ชั้น ส่วนบนเราใส่ ฮีตเทค 1 ชั้น เสื้อยืดแขนยาว 1 ชั้น สเวทเตอร์ 1 ชั้น แล้วปิดท้ายด้วยโค้ท  แต่ถ้าอยู่ข้างนอกนานๆก็ยังหนาวอยู่ดี 5555 ส่วนรองเท้าเป็นบูทของ H&M และผ้าใบธรรมดา
แต่งประมาณนี้เลย ขอเซนเซอร์หน้านิดนึง อายๆ 5555


ใกล้บิน เราก็เริ่มหาไอเท็มต่างๆเพื่อจะไปฟินๆกับอากาศหนาว ก่อนไป 1 อาทิตย์เราก็มานั่งจัดกระเป๋า ทำใบเช็คลิสต์มา 1 ใบ อันนี้เอาใส่แล้วก็ติ๊กๆ ลืมไม่ได้คือหัวปลั๊กและปลั๊กพ่วง เพราะหัวปลั๊กเกาหลีจะกลมๆ เมื่อจัดกระเป๋าแล้ว ไฟล์ทบินเรา คือ ตอนบ่าย3 วันที่เดินทางก็ลุกมาจัดกระเป๋ารอบสุดท้ายแล้วลองชั่งดู (ขาไปเราซื้อนน.กระเป๋าแชร์กับพี่ 2 คน 25 กก.)ปรากฏ เกินจ้าา ร้องไห้ เอาไงล่ะทีนี้ เลยมีกระเป็นเล็กๆงอกมาอีก 1 ใบ ไว้ถือขึ้นเครื่อง พอไปชั่งอีกที ก็เกิน 7 กก.อีก เอาละไง เลยตัดสินใจเอาสเวทเตอร์สองไปสามตัว เบาขึ้นมาทันที (ก็คนมันกลัวหนาวนี่นาา) เมื่อจัดการเสร็จก็เดินทางไปสนามบินกันเลยย

เราไปถึงสนามบินเชียงใหม่ตอนบ่ายกว่าๆ แถวที่เคาเตอร์ก็ยาวละ ก็เลยไปต่อกับเค้ามั่ง พอถึงคิว เอากระเป๋าขึ้นชั่ง 25 กก. เป๊ะ 5555 รอดไป หลังจากได้บอร์ดดิ้งพาสมาแล้วพี่ชายเราหิว ก็เลยไปหาไรกิน ก็นั่งชิวๆ ไปซักแปป เห้ย final call แล้วจ้าาา วิ่งกันตาลีตาเหลือก คุณลุงตม.ก็ปั๊มให้ช้าอีก เกือบตกเครื่อง แต่ก็ทันหวุดหวิด ด้วยเพราะไฟล์ทที่เราไปมันจะไปต่อเครื่องที่มาเล ทำให้บนเครื่องมีแต่คนมาเลและคนจีน พอถึงบนเครื่องเราก็หลับเลยจ้า หลับยาวจนถึงมาเลตอน 1 ทุ่ม 5555 แล้วก็รอต่อเครื่องตอน4 ทุ่มเวลามาเล
พอลงเครื่องมาก็เดินๆๆ คือเดินไกลมากกก พอมาถึงตม. ก็ยืนงงๆกับพี่ว่า เอ๊ะ เข้าช่องไหนอะไรยังไง เลยเสี่ยงๆเดินเข้าไป ตม.ก็ถามอะไรซักอย่าง ก็งงๆกันซักแปป ก็ปั๊มผ่านแบบงงๆกันไป 5555 ระหว่างรอต่อเครื่องก็ไปหาไรกิน ไปเจอร้านอาหารญี่ปุ่นพี่เราอยากกินก็เลยกินรองท้องไปเผื่อหิว
เลยได้เมนูนี่มา พูดเลยว่าเลี่ยนมากกกก กินไม่หมด อมยิ้ม11



หลังจากกินเสร็จก็เอากระเป๋าไปโหลด เกินมา2 ขีด งงเลย 55 แต่จนท.ก็หยวนๆให้ แล้วก็ไปนั่งรอที่สตาร์บัคเพราะเหลืออีกตั้งชั่วโมงกว่าถงึจะเรียกขึ้นเครื่อง เราอยากกินชาเขียวเย็น เลยเดินไปสั่งพนักงาน  แต่ดันลืมบอกว่าเอาแบบเย็น เลยได้แบบร้อนมา 5555 พนักงานก็ถามชื่อแล้วเขียนลงไปบนแก้วพร้อมหน้ายิ้ม ยิ้ม น่ารักดี



ก็นั่งกินไปเรื่อยๆจนใกล้ๆเวลาเลยเดินไปเข้าตม. อยากจะบอกว่าตม.มาเล ชิวมากก 5555 แล้วก็เดินต่อไปยังเกทที่จะต้องขึ้น เดินไกลอีกละ ผ่านเครื่องสแกน2 ที่ ดูเยอะไปหมด 555 แล้วก็ได้เวลาขึ้นเครื่องไปเกาหลี เยยย้ ตื่นเต้นมากกๆ เราขึ้นเครื่องปุ๊ปซักแปปเราก็หลับ เพราะซัดยาแก้เมาไป 1 เม็ด แอร์เดินมาแจกใบตม.ก็สะลึมสะลือตื่นมาเอาแล้วหลับต่อ 5555 แล้วก็ไม่รู้เรื่องเลยจนถึงเกาหลีตอน 8 โมงเช้าเกาหลี(ที่ไทยก็ 6 โมงเช้า) ก็ลุกมาเขียนใบตม.กับใบอะไรอีกใบนี่หล่ะ เขียนเสร็จซักแปป เครื่องก็แลนดิ้ง เรานั่งติดหน้าต่างเลยเอามือไปแตะ โอโหห เย็นโค-ตร 5555 สะดุ้งเลย พอลงเครื่องมาได้ไอเย็นมานิดๆล่ะ เลยใส่โค้ทไว้ก่อน ขี้เกียจถือด้วย แล้วก็เดินไปขึ้นซับเวย์ไปยังตม. ไปถึงแถวก็ยาวอยุ่นิดนึง เพราะลงเครื่องพร้อม korean air ก็ใจเต้นเลย เพราะคำเล่าลือต่างๆนาๆ ใจนึงก็คิดว่าผ่านเพราะเป็นนักศึกษา อีกใจก็กลัว แล้วพอถึงคิวก็เดินไป ตม.ก็สั่งให้ถอดแว่น แล้วก็สแกนนิ้ว ปั๊มปึ้ง ! ผ่านเลยจ้า 555 ยังคิดแบบ เอ้านี่ผ่านแล้วหรอ ผ่านแบบงงๆ ง่ายเกินน  หลังจากนั้นก็ไปเอากระเป๋าและใส่ฮีทเทค พร้อมไปเผชิญลมหนาว

ก่อนออกสนามบินก็ไปเช่าwifi เราเช่าของ LG U+ เพราะไปหลายวันแล้วเค้าไม่คิดค่าเช่า แล้วก็ไปซื้อT-Money กับของกินนิดหน่อย เรากับพี่เลือกนั่ง ลีมูซีนบัสเข้าไปในโซลเพราะผ่านที่พักเราพอดี ก็ไปซื้อตั๋ว 15000 วอน ไปลง Sinsa Station แล้วก็เข็นรถออกไปรอข้างนอก พอประตูสนามบินเปิดปุ๊ อื้อหืออออ ลมหนาวตีเข้าหน้าแทบจะวิ่งกลับเข้าไปในสนามบินใหม่ คือหนาวมากกก เลยจกมือถือออกมาดูอุณหภูมิ -8 องศาจ้าา สั่นหงึกๆกันทั้งพี่ทั้งน้อง 55555 สักพักรถก็มา ก็รีบขึ้นกันแทบไม่ทันเพราะหนาวไม่ไหวละ นั่งเข้าไปในโซลประมาณ 1 ชม. ระหว่างนั้น เราก็มองวิวไปเรื่อยๆซึ่งวิวมีแต่ ต้นไม้แห้งๆที่ไร้ใบ 555 เลยไม่ค่อยมีอะไรน่าดู เราเลยหลับ จนได้ยินประกาศป้ายที่จะต้องลงเลยตื่นแล้วเตรียมตัวลง พอขาแตะพื้นเท่านั้นล่ะ เหมือนอยู่ในฝันเลย ประเทศที่ใฝ่ฝัน ไม่คิดว่าจะได้มาจริงๆ อยากเดินชิวๆชมเมืองมาก แต่พอได้กระเป๋ามาแล้วลากกันไม่คิดชีวิตเลย เพราะหนาวแบบมือเย็นไปหมด ต้องรีบเข้าเกสต์เฮ้าส์ ขอห้องก่อนเลย เพราะจะไปเปลี่ยนชุดให้อุ่นกว่าเดิม ก็ขอเช็คอินก่อน เขาเลยให้วางมัดจำ สตาฟฟที่นี่น่ารัก ทักเราทุกเช้าที่เจอกัน มีอนนี่สวยและอปป้าหล่อ 2 คน เค้าก็พาเราไปห้อง เรากับพี่ก็อยู่ในที่พักซักแปป ก็คุยกันว่าไปไหนดี คือทำเพลนมาแหละ แต่ไม่ตามเพลนกันซักวัน 5555
วันนี้วันแรกเลยกะจะไปเซอร์เวย์ก่อน เลยไป เมียงดง

ที่พักเราจะอยู่ซับเวย์สายสีส้ม ซึ่งจะต้องไปเปลี่ยนเป็นสายสีฟ้าที่ chungmuro แต่ด้วยความห้าวและกลัวเสียเงินค่าเปลี่ยนสายเพิ่ม(ซึ่งมารู้ทีหลังว่าถ้าใกล้ๆเขาไม่เก็บเพิ่ม- - ) เลยจะเดินจาก chungmuro ไปเมียงดง


ระหว่างทางก็คิดว่า เมื่อไหร่มันจะถึง เพราะหนาวมากยังไม่ชินกับอากาศ ก็รีบๆเดินกันจนมาถึงเมียงดง ก็เข้าไปตรงซอยหลักที่มี Nature republic ตั้งอยู่
ละตึกของ Nature เราก็ดูรีวิวมาว่ามีร้านขายซีดีอยุ่ข้างบนด้วยงี้ ด้วยความติ่ง ตาเราก็หันไปเห็นป้ายของGOT7 ติดไว้ข้างหน้าโปรโมท fanmeeting เราก็กรี๊ดๆอยู่ซักพัก แต่ก็ยังไม่ได้ขึ้นไป เพราะจะไปหาอะไรกินก่อน ตั้งแต่มาถึงยังไม่ได้กินอะไรที่เป็นมื้อเลย เราเห็นรีวิวร้านทัคคาลบี้ ไก่ผัด เราเลยเดินหา ก็ไปเจอ ชื่อร้าน ยูกาเน ก็เข้าไปสั่ง ทัคคาลบี้ธรรมดา เพิ่มชีส ข้าว และ แป้งต๊อกไส้ชีส คือ กะเอาอิ่ม แล้วสุดท้าย สองคนก็กินไม่หมด มื้อนี้หมดไป 20000 กว่าวอน เสร็จแล้วก็เดินออกมาชิวๆ

แต่วันนี้เมียงดงคนเยอะมากก ชนกันไปมา เราเลยหนีเข้าไปร้านขายซีดี ก็เดินขึ้นไปชั้น 3 ของตึก ระหว่างทางก็มีสแตนดี้ของ EXO ตั้งอยู่ เราก็เดินเลยขึ้นไปจนถึงร้าน โอโห นี่โลกของติ่งชัดๆ ซีดีทุกวงมีเต็มชั้น เราก็เลยเดินๆหาของSuper junior กับ GOT7 ได้ของเอสเจมา 1 บั้มล่ะ แล้วก็เลยไปมองหาของกัซ ก็เจอ Identify วางไว้ทั้ง 2 ver. เราเลยหยิบบั้มสีขาวไป พอตอนจะจ่ายเงิน พนักงานก็บอกว่า อยากลุ้นแฟนมีตมั้ย? เราก็ฟังไม่ทัน เลยทำหน้างง เค้าเลยชี้ไปที่ป้ายละบอกว่าถ้าซื้อ ปกดำ จะได้ลุ้นมีตนะ เราก็อ๋อ งั้นลุ้นก็ได้ มาทั้งที เผื่อฟลุค พนักงานเลยเอาไปเปลี่ยนให้ แล้วก็ให้คูปองมาเขียนชื่อลุ้นมีท ระหว่างรอจ่ายเงินก็เห็นเจ๊คนนึงมาซื้อเหมือนกัน แต่เจ๊วื้อเยอะมาก คือ 1 กรีะเป๋าเดินทางมีแต่อัลบั้ม เรานี่แบบ โห เค้าทุ่มมากๆ เราใบเดียวนี่ก็คงไม่ได้หรอก ก็ไม่ได้หวังอะไรมาก ซื้อเสร็จก็กลับที่พักเลยเพราะเพลีย อยากพักมากกว่า

พอไปถึงที่พักเราก็แกะบั้มมาดูว่าได้การ์ดใคร แท่นแท๊นน ได้ของแบมแบมจ้า หนีไม่พ้นคนชาติเดียวกัน 5555


แกะเสร็จเราก็เก็บไว้แบบเดิม ละก็ไปอาบน้ำดูทีวี อ้อ ลืมบอกไปก่อนกลับเราก็ซื้อสตรอเบอรี่มา 1 กล่อง อยากกินมานานแล้ว อยากรู้ว่าต่างจากบ้านเราแค่ไหน พอได้กินคือมันหวานอ่ะ ไอร่อยมากก ชอบบบ ลูกใหญ่ด้วย


กินเสร็จก็หลับ เพราะเดินทางมาทั้งวัน ตื่นมาอีกที ก็เกือบ11 โมง ก็คุยกันกับพี่ว่าไม่รุ้จะไปไหนงั้นไป ฮงแดละกัน ก็ไปเดินฮงแดเล่นกัน แล้วคือก็หิวอีกละ เลยหาร้านกิน ตอนแรกจะกินหมูย่าง แต่คือมันเช้าไป เลยหาอย่างอื่นกินก็ไม่เจอร้านนึง เห็นคนเยอะ เลยร้านนี้แหละ ละก็เข้าไปเลย เป็นร้านซี่โครงอบแล้วจิ้มชีส อะไรซักอย่างนี่แหละ อร่อยยยมาก 5555 ถ้าไปอีกรอบก็จะไปกิน


มื้อนี้ก็หมดไป 10000 กว่าวอน อิ่มมากกก อาหารที่เกาหลีนี่ส่วนมากจะ 10000 วอนขึ้นทั้งนั้นเลย ถือว่าแพงถ้าเทียบกับไทย 5555
กินเสร็จก็ไปเดินๆเล่นต่อ แล้วก็แว๊บเข้าไปซื้อไอติมกับ hotpack ในไดโซะ เพราะหนาวมาก แต่ไม่ชอบใส่ถุงมือ เลยซื้อ hotpack มาถือทุกวัน
วันละ 2 อัน นี่คือ hotpack ที่เรากับพี่ใช้ตอนอยุ่เกาหลี คือเยอะมากก


และนี่ก็ไอติม ถึงจะหนาวแต่ก็อยากลองเลยซื้อมา



แล้วก็เดินเล่นซักแปปก็กลับกัน ไม่อยากอยู่ข้างนอกนานเพราะหนาว 5555
วันต่อมา เรากับพี่ก็ตื่นกันเวลาเดิม วันนี้พี่นัดกับเพื่อนเกาหลีไว้ตอนเย็น ตอนเช้าเราก็เลยไป อินซาดงกับ พระราชวังชางด๊อก แล้วก็กลับมาที่พักก่อน ค่ำๆก็ออกไปฮงแด เพราะพี่นัดเพื่อนไว้ที่นั่น พอมาถึงเพื่อนพี่ก็ถามกินข้าวรึยัง พี่ก็บอกยัง เพื่อนเลยจะพาไปกินหมูย่างก็เดินๆไป เข้าซอยนั้น เลี้ยวนี้ งงไปหมด คนเกาหลีเดินกันเร็วมากก เราตามแทบไม่ทัน จนได้วิ่งตาม แล้วก็พาไปร้านหมูย่าง เดินเข้าไปนี่นึกว่าอยู่ในซีรี่ส์ มีแต่คนเกาหลีล้วนๆเลย มีแต่พี่เรากับเราที่เป็นคนต่างชาติ ก็เข้าไปนั่ง เพื่อนพี่ก็สั่งหมูแล้วก็โซจูมา แล้วป้าเจ้าของร้านก็เดินมาถามเราว่ากินได้หรอ อายุถึงหรอ? แต่เราฟังไม่รู้เรื่อง ป้าก็ถามย้ำอีก เพื่อนพี่เราก็เลยตอบให้ว่ากินได้ อายุถึงแล้ว ป้าก็ทำหน้าแบบไม่เชื่อแต่ก็เดินไปเอาแก้วมาให้ แต่สุดท้ายเราก็ไม่ได้กิน เพราะไม่ชอบกินเท่าไหร่ วันนั้นคือกินแต่หมู หมูชิ้นใหญ่มาก กินเยอะมาก อร่อยมากก


เดี๋ยวต่อในคอมเม้นน้าา เพราะมันจะเกิน 10000 ตัวอักษรแล้วว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่