สวัสดีค่ะ เราคือติ่งตัวน้อยๆที่มีความใฝ่ฝันอยากจะไปเหยียบแดนกิมจิถิ่นของโอป้าซักครั้ง และในที่สุด..ความฝันก็เป็นจริงㅠㅠㅠㅠ
เกริ่นนิดนึง.. ทริปนี้เกิดจากการทำตามฝันของติ่งที่เก็บเงินมานาน และเป็นการเที่ยวที่ไม่ขอเงินพ่อแม่ซักบาท เดือนธันวาคมที่แล้วก็เกิดเจอโค้ดลดราคาตั๋วเครื่องบิน เลยชวนเพื่อนร่วมทริปได้ 1 คน หาวันเวลาจนลงตัว(ขาดเรียนไป 1 สัปดาห์เต็ม) คือ 05/03/2016-12/03/2016 เราเรียนมหาลัยปี 1 สาขาการท่องเที่ยว(เลยอยากหาประสบการณ์ด้วย) อายุ 19 ทั้งคู่ ขาดเรียนถ้าไม่มีงานสำคัญก็ตามเก็บได้ไม่มีปัญหาอะไร และสรุปได้ตั๋วหางแดงไป-กลับราคา 7,192 บาท/คน ไม่รวมค่าโหลดกระเป๋า ตื่นเต้นมาก ค้นข้อมูล หาที่พัก อ่านๆๆๆๆกระทู้คนอื่น และที่กลัวที่สุดคือ ตม. ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหด เพราะพาสปอร์ตหน้าขาวทั้ง2 และไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศเลย
หลังจากที่ได้อ่านกระทู้ของคนอื่นมาแบบนับไม่ถ้วน คราวนี้ก็ถึงคิวตัวเองที่จะมาแชร์หลายๆอย่าง การเดินทาง กิน เที่ยว ติ่ง ช็อปปิ้ง ค่าใช้จ่าย(ไม่รวมค่าช็อปที่หอบทุกอย่าง เป็นพวกบ้าซื้ิอหนักมาก) เป็นกระทู้รีวิวการท่องเที่ยวครั้งแรกของเรา ถ้าหากผิดพลาดประการใด หรือใช้คำไม่ถูกต้อง ขอโทษขออภัยไว้ ณ ที่นี้เลยนะคะ
มาเริ่มกันเลยยยยย.. เราเดินทาง วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2559 กลับ วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม 2559 รวม 8 วัน 7 คืน โดยสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็ก
ที่พัก
หาข้อมูลทั้งในหนังสือ ในเว็บไซต์บลาๆๆๆ มีให้เลือกเยอะมากกก ทางเว็บ www.agoda.com และ www.booking.com มีให้เทียบราคาและมีแผนที่ให้ดูว่าตั้งอยู่ตรงไหน
เราเลือกที่พัก Kimchee Sinshon Guesthouse อยู่ใกล้ฮงแด 6 Bed Female Dormitory เป็นห้องพักผู้หญิง 6 เตียง(เตียง2ชั้น) ถือว่าราคาถูกมาก 7คืน 76000won/คน (ประมาณ 2,300 บาท) ทริปนี้เน้นประหยัด เน้นเที่ยว เพราะปกติไม่ค่อยอยู่ห้อง ไม่เน้นสบาย ห้องน้ำรวม ส่วนตัวเราว่าโอเคมากกับราคา มีคนทำความสะอาดทุกเช้า มีไดฟ์เป่าผม ล็อคเกอร์(ต้องซือกุญแจไปล็อคเอง) ห้องอาบน้ำแยกชายหญิงคนละชั้น เดินจาก Subway ฮงแดประมาณ 500 เมตร จองผ่าน booking.com จ่ายเงินวันเข้าพัก มีพนักงานทั้งคนเกาหลีและชาวต่างชาติ ไม่ต้องกังวลเรื่องการสื่อสาร ขอซิมโทรศัพท์ฟรีจากที่พักได้ด้วยค่ะ
DAY 1
วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2559 : ไปรอขึ้นเครื่องตั้งแต่คืนวันศุกร์ เช็คอิน โหลดกระเป๋า แถวยาวมากกกกกก (ค่าโหลดกระเป๋าแชร์กันกับเพื่อน ไม่ต้องโหลดแยกจะประหยัดมากกว่า ขาไป 20kg. 805 บาท ขากลับ 30kg. ประมาณ 1,400 บาท) กรอกใบผู้โดยสารขาออก แล้วก็ไปรอที่เกท คนเยอะมากกกก ในกำหนดคือเครื่องขึ้น 2:20น. แต่กว่าจะจัดการหลายๆอย่างเสร็จก็เกือบตี 3
ขึ้นไปก็นอนๆๆๆๆ และนอน ถึงเวลาเสิร์ฟอาหาร สายประหยัด กินมาตั้งแต่ก่อนขึ้น 55555
ประหยัดไปหลายร้อย บนเครื่องพนักงานจะแจกใบให้กรอก
ARRIVAL CARD กรอกตามความจริง
ช่องลายเซ็นเขียนให้ตรงกับที่เซ็นในพาสปอร์ต ภาษาอังกฤษล้วน(มีจีนด้วย)ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหา ช่องที่พักให้ใส่ที่อยู่ที่พักที่เราจอง เตรียมเอกสารการจองไว้ด้วยเผื่อตม.ขอดู ใบนี้ตม.จะเป็นคนเก็บ
CUSTOMS DECLARATION ขีดช่อง No ทุกอัน ใส่ชื่อที่อยู่ที่พักให้เรียบร้อย
ตึ๊งง.. ในที่สุด.....เราก็มาถึงดินแดนของโอป้าที่เรารักยิ่ง เดินตามคนอื่นไปเรื่อยๆ ไปจนถึงจุดตรวจคนเข้าเมือง ยืนต่อแถวแบบใจสั่นรัว เตรียมตอบคำถามตม.ไว้ทุกข้อ เตรียมเอกสารไว้แสดงทุกสิ่งทุกอย่าง จนถึงคิวเรา.. เดินเข้าไปหน้าง่วงๆศพๆเพราะนอนเพิ่งตื่น ตม.เปิดพาสปอร์ตโล่งๆที่แสนจะสะอาดของเราหลายรอบ มองหน้า ยิ้มให้ ประทับตราบนพาสปอร์ต แล้วก็ให้มองกล้อง แสกนนิ้ว โดยไม่ถงไม่ถามซักคำ อินี่กรีดร้องในใจ
ไปยืนรอเพื่อนที่โดนถามประมาณ2คำถาม แล้วก็ไปเอากระเป๋า
บัตร
T-Money ซึ่งจำเป็นอย่างมากตลอดทั้งทริป ซื้อได้ที่ Book Store ในสนามบิน ค่าบัตร 3000won เติมเงินในบัตร 20,000won เติมตรงที่ซื้อได้เลย (บัตร T-Money ใช้ได้ทั้งในร้านสะดวกซื้อ ขึ้น Subway รถเมล์ต่างๆ)
จากนั้นก็เดินหาที่ขึ้น Airport Railroad (공항철도)เข้าโซล เดินออกมาตรงด้านหน้าจะมีที่ขึ้นรถเมล์(มีรถเมล์เข้าโซลด้วยนะ) เดินไปจนถึงอีกอาคารหลังหนึ่งก็จะเป็นที่ขึ้นรถไฟเข้าโซล
ด้วยความที่ภาษาอังกฤษกากๆ ภาษาเกาหลีพอได้ก็ตามป้ายไปเรื่อยๆจนเจอ (ไม่ต้องกลัวหลง มีโอป้าตำรวจสุดหล่อยืนอยู่ทุกที่ ถามทางแล้วส่งหัวใจให้ได้)
จากนั้นก็ใช้บัตร T-Money วางตรงทางเข้าได้เลย จะมีเลขบอกว่าค่าโดยสารเท่าไหร่ เงินในบัตรเหลือเท่าไหร่ เราขึ้นสายที่จอดทุกป้าย (All stop train) ลงที่สถานี Hongik Univ (홍대입구) ค่าโดยสาร 4,050won ใช้เวลาเกือบ 1 ชม.
รถไฟด่วนพิเศษ (Express train) สายนี้จะไม่จอดสถานีอื่น ขึ้นที่สนามบินอินชอนและจอดที่สถานีโซลที่เดียว (สายนี้ไม่เคยขึ้น)
สาย All stop train จากอินชอน-สถานีโซล จอดทุกป้าย มีประกาศบอกสถานีก่อนจอด แต่ต้องตั้งใจฟังดีๆเพราะเสียงไม่ค่อยดัง ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ ดูตามป้ายแบบนี้จะมีบอกว่าตอนนี้ถึงสถานีไหนจะง่ายกว่า (อ่านเกาหลีออกมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะส่วนมากจะเขียนเกาหลีไว้ตัวใหญ่ๆและภาษาอังกฤษตัวเล็กๆด้านข้าง อ่านลำบากจริงจัง)
พอถึงสถานีฮงแดเราก็ลง แปะบัตร T-Money อีกครั้ง ทางออกจะมีเยอะมากกก จนบางทีคนเกาหลีก็มาถามทางออกเรา ㅠㅠ แต่มีป้ายบอกชัดเจน ดูดีๆ และจำว่าเราต้องออกทางออกไหน
เรื่องทางออกศึกษาไปก่อนง่ายที่สุด จะได้ไม่ต้องงง มีแผนที่บอก ซึ่งดูแล้วก็งงๆ ถ้ารู้ทางออกก็เดินๆๆๆไปตามป้ายชี้บอกทางเลย ต้องดูป้ายตลอด ทั้งขึ้นบันได ขึ้นแล้วขึ้นอีก เลี้ยวๆๆๆ ต้องสังเกตดีๆ
ลากกระเป๋ามาจนถึงที่พัก เข้าไปเช็คอินประมาณบ่ายโมง ค่ามัดจำกุญแจ 5,000won มีผ้าเช็ดตัวให้เช่า5,000won แต่เราพกมาเอง วันนั้นฝนก็ดันตก
ไม่หนาวมาก แต่เปียก5555 ลากกระเป๋าขึ้นไปเก็บและออกมาหาของกิน ที่พักมีร่มให้ยืมหยิบออกมาได้เลย
อาหารมื้อแรก เดินหาร้านกินอยู่นานและเลือกร้านที่ลูกชายเจ้าของร้านหล่อที่สุด หล่อออ หล่อมาก อังกฤษก็เป๊ะ หล่อจนต้องร้องขอชีวิต สั่งต็อกโบกิราคา 2500won สั่งมา 2 ร้านก็ใส่รวมกันสภาพล้นๆแบบนี้ ลูกชิ้นโอเด้งไม้ละ 500won แค่นี้ก็อิ่มจนจุก
ฝนตกแต่ก็ต้องเที่ยว วันแรกไปช็อปก่อนเลย
-ตลาดเมียงดง Myungdong Market 명동
วิธีเดินทาง : ขึ้น Subway ที่ฮงแดสาย Airport railroad ไปลงที่สถานีโซล (서울역) จะมีป้ายชี้บอกตลอดว่าต่อสายนี้ไปทางไหน ไปเมียงดงต่อสาย 4 สีฟ้าลงที่สถานีเมียงดง (명동) ทางออก 6
ตรง Subway จะมีร้านขายเสื้อผ้าเยอะพอประมาณ ร้านขายแท่งไฟ อัลบั้มเกาหลี ของที่ระลึกที่ติ่งย่างกรายเข้าไปแทบกั้นใจตาย แหล่งละลายเงินติ่งชั้นดีที่สุดฟาดไป 60,000won มีประมาณ 2-3 ร้าน
เดินขึ้นทางออก 6 ก็โผล่เส้นเมียงดงเลย ฝนตกแต่คนก็ยังเยอะ ร้ายเครื่องสำอางค์เรียงกันทั้ง 2 ข้างทางจนเลือกเข้าไม่ถูก จะมีพนักงานมายืนหน้าร้านยื่นเทสเตอร์ให้ และยัดตะกร้าใส่มือให้เข้าไปซื้อของ แต่เราวินโดว์ช็อปปิ้งได้ ไม่ต้องซื้อ เดินดูนิดหน่อยๆ วางตะกร้าหยิบแต่เทสออกมา
แต่เป็นพวกยับยั้งชั่งใจไม่อยู่ ซื้อทุกร้านที่เข้า อย่างละชิ้น2ชิ้น
อันนี้เป็นไส้กรอกสลับกับไส้กรอกที่สอดไส้แป้งต็อก จำชื่อไม่ได้ ที่เมียงดง ราคา 3,000won ไม้เดียวอิ่มมาก มีน้ำจิ้มให้ราดเอง คนเกาหลียืนกินกันเยอะมาก
เวลาฝนตก ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายของทุกร้าน ห้างฯ ช็อปเครื่องสำอางค์ต่างๆ จะมีที่ให้วางร่ม หรือวางที่มีถุงยาวๆสอดร่มเข้าไปและดึงออก เป็นถุงให้ใส่ร่มเดินถือเข้าไปได้
เดินเมียงดง ช็อปเครื่องสำอางค์เล็กๆน้อยจนพอใจก็ไปเดินที่ Lotte Young Plaza ต่อ มีช็อป Stylenanda ที่เจอแต่คนไทยเยอะมากๆ มี Line Friend Cafe' & Store ขายสินค้า official ของไลน์ คนเยอะและเบียดมาก ตั้งใจจะไปซื้อแต่ก็ออกมามือเปล่าเพราะทนแรงเบียดไม่ไหว
เดินจนเหนื่อยก็ตั้งใจจะกลับ ดันมาเจอร้านถุงเท้าราคา 1,000won ที่ซับเวย์เมียงดง
น่ารักมากกกกกก (ก.ไก่18ล้านตัว) มีทั้งยาวสั้นหนาบาง เยอะจนเลือกไม่ถูก เหมาะแก่การฝากเพื่อน ถูกและเบาและน่ารักก็ไปเหมามา5คู่
จากที่ละลายเงินกันมาเยอะพอสมควร กินอิ่ม ก็กลับมาที่พัก ห้องที่เราพัก 6 คน มีคนเกาหลี 1 คน คนจีนที่มาเรียนเกาหลี 1 คน และเจอพี่คนไทย 1 คน การพักห้องรวมก็ไม่ได้แย่นะ ส่วนตัวเราชอบ ได้คุยได้แลกเปลี่ยนหลายๆอย่างกัน สนุกมาก วันแรกของติ่งในโซลก็ผ่านไป..
ยาวจัง.. เดี๋ยวมาต่อ
แก้ไขคำผิดบางที่นะคะ
เที่ยวโซล, เกาหลี 8 วัน 7 คืน งบ 20,000 นิดๆ รวมค่าเครื่องและที่พัก เที่ยว+ติ่ง+ช็อป
เกริ่นนิดนึง.. ทริปนี้เกิดจากการทำตามฝันของติ่งที่เก็บเงินมานาน และเป็นการเที่ยวที่ไม่ขอเงินพ่อแม่ซักบาท เดือนธันวาคมที่แล้วก็เกิดเจอโค้ดลดราคาตั๋วเครื่องบิน เลยชวนเพื่อนร่วมทริปได้ 1 คน หาวันเวลาจนลงตัว(ขาดเรียนไป 1 สัปดาห์เต็ม) คือ 05/03/2016-12/03/2016 เราเรียนมหาลัยปี 1 สาขาการท่องเที่ยว(เลยอยากหาประสบการณ์ด้วย) อายุ 19 ทั้งคู่ ขาดเรียนถ้าไม่มีงานสำคัญก็ตามเก็บได้ไม่มีปัญหาอะไร และสรุปได้ตั๋วหางแดงไป-กลับราคา 7,192 บาท/คน ไม่รวมค่าโหลดกระเป๋า ตื่นเต้นมาก ค้นข้อมูล หาที่พัก อ่านๆๆๆๆกระทู้คนอื่น และที่กลัวที่สุดคือ ตม. ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหด เพราะพาสปอร์ตหน้าขาวทั้ง2 และไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศเลย
หลังจากที่ได้อ่านกระทู้ของคนอื่นมาแบบนับไม่ถ้วน คราวนี้ก็ถึงคิวตัวเองที่จะมาแชร์หลายๆอย่าง การเดินทาง กิน เที่ยว ติ่ง ช็อปปิ้ง ค่าใช้จ่าย(ไม่รวมค่าช็อปที่หอบทุกอย่าง เป็นพวกบ้าซื้ิอหนักมาก) เป็นกระทู้รีวิวการท่องเที่ยวครั้งแรกของเรา ถ้าหากผิดพลาดประการใด หรือใช้คำไม่ถูกต้อง ขอโทษขออภัยไว้ ณ ที่นี้เลยนะคะ
มาเริ่มกันเลยยยยย.. เราเดินทาง วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2559 กลับ วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม 2559 รวม 8 วัน 7 คืน โดยสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็ก
ที่พัก
หาข้อมูลทั้งในหนังสือ ในเว็บไซต์บลาๆๆๆ มีให้เลือกเยอะมากกก ทางเว็บ www.agoda.com และ www.booking.com มีให้เทียบราคาและมีแผนที่ให้ดูว่าตั้งอยู่ตรงไหน
เราเลือกที่พัก Kimchee Sinshon Guesthouse อยู่ใกล้ฮงแด 6 Bed Female Dormitory เป็นห้องพักผู้หญิง 6 เตียง(เตียง2ชั้น) ถือว่าราคาถูกมาก 7คืน 76000won/คน (ประมาณ 2,300 บาท) ทริปนี้เน้นประหยัด เน้นเที่ยว เพราะปกติไม่ค่อยอยู่ห้อง ไม่เน้นสบาย ห้องน้ำรวม ส่วนตัวเราว่าโอเคมากกับราคา มีคนทำความสะอาดทุกเช้า มีไดฟ์เป่าผม ล็อคเกอร์(ต้องซือกุญแจไปล็อคเอง) ห้องอาบน้ำแยกชายหญิงคนละชั้น เดินจาก Subway ฮงแดประมาณ 500 เมตร จองผ่าน booking.com จ่ายเงินวันเข้าพัก มีพนักงานทั้งคนเกาหลีและชาวต่างชาติ ไม่ต้องกังวลเรื่องการสื่อสาร ขอซิมโทรศัพท์ฟรีจากที่พักได้ด้วยค่ะ
DAY 1 วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2559 : ไปรอขึ้นเครื่องตั้งแต่คืนวันศุกร์ เช็คอิน โหลดกระเป๋า แถวยาวมากกกกกก (ค่าโหลดกระเป๋าแชร์กันกับเพื่อน ไม่ต้องโหลดแยกจะประหยัดมากกว่า ขาไป 20kg. 805 บาท ขากลับ 30kg. ประมาณ 1,400 บาท) กรอกใบผู้โดยสารขาออก แล้วก็ไปรอที่เกท คนเยอะมากกกก ในกำหนดคือเครื่องขึ้น 2:20น. แต่กว่าจะจัดการหลายๆอย่างเสร็จก็เกือบตี 3
ขึ้นไปก็นอนๆๆๆๆ และนอน ถึงเวลาเสิร์ฟอาหาร สายประหยัด กินมาตั้งแต่ก่อนขึ้น 55555 ประหยัดไปหลายร้อย บนเครื่องพนักงานจะแจกใบให้กรอก
ARRIVAL CARD กรอกตามความจริง ช่องลายเซ็นเขียนให้ตรงกับที่เซ็นในพาสปอร์ต ภาษาอังกฤษล้วน(มีจีนด้วย)ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหา ช่องที่พักให้ใส่ที่อยู่ที่พักที่เราจอง เตรียมเอกสารการจองไว้ด้วยเผื่อตม.ขอดู ใบนี้ตม.จะเป็นคนเก็บ
CUSTOMS DECLARATION ขีดช่อง No ทุกอัน ใส่ชื่อที่อยู่ที่พักให้เรียบร้อย
ตึ๊งง.. ในที่สุด.....เราก็มาถึงดินแดนของโอป้าที่เรารักยิ่ง เดินตามคนอื่นไปเรื่อยๆ ไปจนถึงจุดตรวจคนเข้าเมือง ยืนต่อแถวแบบใจสั่นรัว เตรียมตอบคำถามตม.ไว้ทุกข้อ เตรียมเอกสารไว้แสดงทุกสิ่งทุกอย่าง จนถึงคิวเรา.. เดินเข้าไปหน้าง่วงๆศพๆเพราะนอนเพิ่งตื่น ตม.เปิดพาสปอร์ตโล่งๆที่แสนจะสะอาดของเราหลายรอบ มองหน้า ยิ้มให้ ประทับตราบนพาสปอร์ต แล้วก็ให้มองกล้อง แสกนนิ้ว โดยไม่ถงไม่ถามซักคำ อินี่กรีดร้องในใจ ไปยืนรอเพื่อนที่โดนถามประมาณ2คำถาม แล้วก็ไปเอากระเป๋า
บัตร T-Money ซึ่งจำเป็นอย่างมากตลอดทั้งทริป ซื้อได้ที่ Book Store ในสนามบิน ค่าบัตร 3000won เติมเงินในบัตร 20,000won เติมตรงที่ซื้อได้เลย (บัตร T-Money ใช้ได้ทั้งในร้านสะดวกซื้อ ขึ้น Subway รถเมล์ต่างๆ)
จากนั้นก็เดินหาที่ขึ้น Airport Railroad (공항철도)เข้าโซล เดินออกมาตรงด้านหน้าจะมีที่ขึ้นรถเมล์(มีรถเมล์เข้าโซลด้วยนะ) เดินไปจนถึงอีกอาคารหลังหนึ่งก็จะเป็นที่ขึ้นรถไฟเข้าโซล
ด้วยความที่ภาษาอังกฤษกากๆ ภาษาเกาหลีพอได้ก็ตามป้ายไปเรื่อยๆจนเจอ (ไม่ต้องกลัวหลง มีโอป้าตำรวจสุดหล่อยืนอยู่ทุกที่ ถามทางแล้วส่งหัวใจให้ได้)
จากนั้นก็ใช้บัตร T-Money วางตรงทางเข้าได้เลย จะมีเลขบอกว่าค่าโดยสารเท่าไหร่ เงินในบัตรเหลือเท่าไหร่ เราขึ้นสายที่จอดทุกป้าย (All stop train) ลงที่สถานี Hongik Univ (홍대입구) ค่าโดยสาร 4,050won ใช้เวลาเกือบ 1 ชม.
รถไฟด่วนพิเศษ (Express train) สายนี้จะไม่จอดสถานีอื่น ขึ้นที่สนามบินอินชอนและจอดที่สถานีโซลที่เดียว (สายนี้ไม่เคยขึ้น)
สาย All stop train จากอินชอน-สถานีโซล จอดทุกป้าย มีประกาศบอกสถานีก่อนจอด แต่ต้องตั้งใจฟังดีๆเพราะเสียงไม่ค่อยดัง ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ ดูตามป้ายแบบนี้จะมีบอกว่าตอนนี้ถึงสถานีไหนจะง่ายกว่า (อ่านเกาหลีออกมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะส่วนมากจะเขียนเกาหลีไว้ตัวใหญ่ๆและภาษาอังกฤษตัวเล็กๆด้านข้าง อ่านลำบากจริงจัง)
พอถึงสถานีฮงแดเราก็ลง แปะบัตร T-Money อีกครั้ง ทางออกจะมีเยอะมากกก จนบางทีคนเกาหลีก็มาถามทางออกเรา ㅠㅠ แต่มีป้ายบอกชัดเจน ดูดีๆ และจำว่าเราต้องออกทางออกไหน เรื่องทางออกศึกษาไปก่อนง่ายที่สุด จะได้ไม่ต้องงง มีแผนที่บอก ซึ่งดูแล้วก็งงๆ ถ้ารู้ทางออกก็เดินๆๆๆไปตามป้ายชี้บอกทางเลย ต้องดูป้ายตลอด ทั้งขึ้นบันได ขึ้นแล้วขึ้นอีก เลี้ยวๆๆๆ ต้องสังเกตดีๆ
ลากกระเป๋ามาจนถึงที่พัก เข้าไปเช็คอินประมาณบ่ายโมง ค่ามัดจำกุญแจ 5,000won มีผ้าเช็ดตัวให้เช่า5,000won แต่เราพกมาเอง วันนั้นฝนก็ดันตก ไม่หนาวมาก แต่เปียก5555 ลากกระเป๋าขึ้นไปเก็บและออกมาหาของกิน ที่พักมีร่มให้ยืมหยิบออกมาได้เลย
อาหารมื้อแรก เดินหาร้านกินอยู่นานและเลือกร้านที่ลูกชายเจ้าของร้านหล่อที่สุด หล่อออ หล่อมาก อังกฤษก็เป๊ะ หล่อจนต้องร้องขอชีวิต สั่งต็อกโบกิราคา 2500won สั่งมา 2 ร้านก็ใส่รวมกันสภาพล้นๆแบบนี้ ลูกชิ้นโอเด้งไม้ละ 500won แค่นี้ก็อิ่มจนจุก
ฝนตกแต่ก็ต้องเที่ยว วันแรกไปช็อปก่อนเลย
-ตลาดเมียงดง Myungdong Market 명동
วิธีเดินทาง : ขึ้น Subway ที่ฮงแดสาย Airport railroad ไปลงที่สถานีโซล (서울역) จะมีป้ายชี้บอกตลอดว่าต่อสายนี้ไปทางไหน ไปเมียงดงต่อสาย 4 สีฟ้าลงที่สถานีเมียงดง (명동) ทางออก 6
ตรง Subway จะมีร้านขายเสื้อผ้าเยอะพอประมาณ ร้านขายแท่งไฟ อัลบั้มเกาหลี ของที่ระลึกที่ติ่งย่างกรายเข้าไปแทบกั้นใจตาย แหล่งละลายเงินติ่งชั้นดีที่สุดฟาดไป 60,000won มีประมาณ 2-3 ร้าน
เดินขึ้นทางออก 6 ก็โผล่เส้นเมียงดงเลย ฝนตกแต่คนก็ยังเยอะ ร้ายเครื่องสำอางค์เรียงกันทั้ง 2 ข้างทางจนเลือกเข้าไม่ถูก จะมีพนักงานมายืนหน้าร้านยื่นเทสเตอร์ให้ และยัดตะกร้าใส่มือให้เข้าไปซื้อของ แต่เราวินโดว์ช็อปปิ้งได้ ไม่ต้องซื้อ เดินดูนิดหน่อยๆ วางตะกร้าหยิบแต่เทสออกมา แต่เป็นพวกยับยั้งชั่งใจไม่อยู่ ซื้อทุกร้านที่เข้า อย่างละชิ้น2ชิ้น
อันนี้เป็นไส้กรอกสลับกับไส้กรอกที่สอดไส้แป้งต็อก จำชื่อไม่ได้ ที่เมียงดง ราคา 3,000won ไม้เดียวอิ่มมาก มีน้ำจิ้มให้ราดเอง คนเกาหลียืนกินกันเยอะมาก
เวลาฝนตก ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายของทุกร้าน ห้างฯ ช็อปเครื่องสำอางค์ต่างๆ จะมีที่ให้วางร่ม หรือวางที่มีถุงยาวๆสอดร่มเข้าไปและดึงออก เป็นถุงให้ใส่ร่มเดินถือเข้าไปได้
เดินเมียงดง ช็อปเครื่องสำอางค์เล็กๆน้อยจนพอใจก็ไปเดินที่ Lotte Young Plaza ต่อ มีช็อป Stylenanda ที่เจอแต่คนไทยเยอะมากๆ มี Line Friend Cafe' & Store ขายสินค้า official ของไลน์ คนเยอะและเบียดมาก ตั้งใจจะไปซื้อแต่ก็ออกมามือเปล่าเพราะทนแรงเบียดไม่ไหว
เดินจนเหนื่อยก็ตั้งใจจะกลับ ดันมาเจอร้านถุงเท้าราคา 1,000won ที่ซับเวย์เมียงดง
น่ารักมากกกกกก (ก.ไก่18ล้านตัว) มีทั้งยาวสั้นหนาบาง เยอะจนเลือกไม่ถูก เหมาะแก่การฝากเพื่อน ถูกและเบาและน่ารักก็ไปเหมามา5คู่
จากที่ละลายเงินกันมาเยอะพอสมควร กินอิ่ม ก็กลับมาที่พัก ห้องที่เราพัก 6 คน มีคนเกาหลี 1 คน คนจีนที่มาเรียนเกาหลี 1 คน และเจอพี่คนไทย 1 คน การพักห้องรวมก็ไม่ได้แย่นะ ส่วนตัวเราชอบ ได้คุยได้แลกเปลี่ยนหลายๆอย่างกัน สนุกมาก วันแรกของติ่งในโซลก็ผ่านไป..
ยาวจัง.. เดี๋ยวมาต่อ
แก้ไขคำผิดบางที่นะคะ