...ทำไมการบินไทยถึงขาดทุน...ตอนที่1....

http://www.thairath.co.th/content/394248

สวัสดีปีใหม่ครับท่านผู้อ่านที่เคารพ ผมมารายงานตัวสายไปหน่อยครับ เพราะเพิ่งกลับจากอังกฤษ กลับจากอังกฤษเที่ยวนี้ ผมมีเรื่องราวของ “การบินไทย” มาเล่าสู่กันฟัง ทำไมการบินไทยจึงขาดทุนสาหัสไตรมาส 2 ขาดทุน 8,426 ล้านบาท ไตรมาส 3 ขาดทุนอีก 6,350 ล้านบาท รวม 14,776 ล้านบาท แต่สายการบินอื่นกำไรกันบานเบิก

เป็นเหตุการณ์ที่ผมเจอมากับตัวเอง

ผมไปอังกฤษกับลูก 4 คน ซื้อตั๋วชั้นธุรกิจการบินไทย 3 ใบ และใช้ตั๋วชั้นธุรกิจที่ คุณสรจักร เกษมสุวรรณ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย มอบให้เป็นค่าตอบแทนในฐานะ กรรมการพัฒนาคุณภาพและรสชาติอาหารบนเครื่องของการบินไทย เป็นบัตรโดยสารที่ คุณสรจักร มอบให้กับกรรมการทุกคน โดยระบุว่าใช้เดินทางไปที่ไหนก็ได้


ผมซื้อตั๋วและใช้ตั๋วตอบแทนจองที่นั่งล่วงหน้า 3 เดือนก่อนเดินทาง ได้รับการยืนยันที่นั่งทั้งขาไปและขากลับ พร้อมเลขที่นั่งล่วงหน้าทั้งขาไปและขากลับ


วันเดินทางไปก็เรียบร้อยดี แต่ขากลับนี่สิเมื่อไปเช็กอินที่ สนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน กลับเจอเรื่องที่เหลือเชื่อ เมื่อเจ้าหน้าที่เช็กอินบอกว่า กรุ๊ปผมต้องถูกเตะออกไป 1 คนเป็นเวทติ้งลิสต์ เพราะตั๋วที่ คุณสรจักร มอบให้กรรมการทุกคนนั้น เป็นตั๋วชั้นต่ำ และอ้างว่าวันนี้ที่นั่งโอเวอร์บุ๊ก ถ้าไปไม่ได้จะหาโรงแรมค้างคืนให้


เจอพฤติกรรมเช่นนี้เข้า ผมก็ไม่ยอม เพราะตั๋วทั้ง 4 ที่นั่งของผม ได้รับการยืนยันจากสำนักงานใหญ่การบินไทยเรียบร้อยแล้ว ทั้งขาไปขากลับ ใครจะมา “ปล้นที่นั่ง” ของผมไปไม่ได้ สักพักก็มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงเข้าใจว่าเป็นระดับหัวหน้ามาพูดคุยกับผมว่า ที่นั่งโอเวอร์บุ๊ก ตั๋วใบนี้ต้องไปเวทติ้งลิสต์ ผมก็อ้างสิทธิการจองทั้งหมด เพราะเครื่องบินทุกลำมีที่นั่งจำกัด จะขายตั๋วเกินที่นั่งไม่ได้ ผมเองก็ได้เลขที่นั่งมาเรียบร้อยแล้ว จะมาอ้างโอเวอร์บุ๊กปล้นที่นั่งผมไปดื้อๆไม่ได้ แต่เธอก็อ้างน้ำขุ่นๆว่า “นี่เป็นกฎของวันนี้” ผมก็เพิ่งรู้ว่า การบินไทยมีกฎเป็นรายวัน กำหนดเองตามชอบใจ โดยไม่ใช้กฎกติกาสากล ที่ทุกสายการบินต้องปฏิบัติ


ช่วงที่ถกเถียงกัน ก็มีเจ้าหน้าที่อีกคนเข้ามากระซิบเธอว่า มีคนอัพเกรดจากชั้นประหยัดขึ้นไปชั้นธุรกิจ 1 คน ก็ยิ่งชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่การบินไทยกำลัง “ปล้นที่นั่ง” ของผมไปให้คนอื่น เรื่องการ “ปล้นที่นั่งผู้โดยสาร” ของการบินไทย ขึ้นชื่อลือชาในแวดวงการบินอยู่แล้ว แต่ไม่นึกว่าจะเจอกับตัวเอง


ผมจึงพยายามติดต่อกับ ฝ่ายประชาสัมพันธ์การบินไทยที่กรุงเทพฯเพื่อขอให้ช่วยเคลียร์ ก็ต้องขอบคุณฝ่ายประชาสัมพันธ์การบินไทยที่รับสายและช่วยชี้แจง จนเธออนุญาตให้ผมเช็กอินได้ และได้ที่นั่งของผมกลับคืนมา


เมื่อขึ้นไปบนเครื่อง ที่นั่งด้านขวาแถว JK ว่างติดกัน 4ที่นั่ง แถวหน้าก็ว่าง 1 แถว หลังก็ว่างอีก 1 รวม 6 ที่นั่ง จนประตูเครื่องบินปิด ก็ไม่มีใครมานั่ง แสดงว่า เจ้าหน้าที่การบินไทยโกหกผมว่าโอเวอร์บุ๊กเพื่อปล้นเก้าอี้ไปให้คนอื่น อย่างไม่ถูกต้องตามกฎ


แต่หลังประตูเครื่องบินปิดไม่กี่นาที ก็ถึงบางอ้อ เมื่อมีผู้โดยสารจากด้านหลัง ซึ่งเป็นชั้นประหยัด ขนข้าวของมา 5–6 คน ขึ้นมานั่งเก้าอี้ชั้นธุรกิจที่ว่าง โดยเจ้าหน้าที่แอร์ก็เฉย แสดงว่ามีการสมคบเตี๊ยมกันมาเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้ว่าเที่ยวบินนี้ “มีเหยื่อถูกปล้นที่นั่งไปกี่คน” เพราะปกติการอัพเกรดบนเครื่องบินจะทำไม่ได้


ตั๋วชั้นธุรกิจใบละ 159,000 บาท 6 ที่นั่งก็เป็นเงิน 954,000 บาท จะมีการทุจริตคอร์รัปชันหรือไม่ เป็นเรื่องที่ คุณอำพน กิตติอำพน ประธานการบินไทย และ คุณโชคชัย ปัญญายงค์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ ที่กำลังถูกสหภาพการบินไทยขับไล่ทั้งคู่ ต้องไปสอบสวน แล้วแจ้งให้ทราบด้วย หากไม่ยอมสอบสวน ก็น่าเชื่อว่าพฤติกรรมเช่นนี้อาจมีการทำกันเป็นขบวนการ


การบินไทยบินไปกลับอังกฤษวันละ 4 เที่ยว ถ้าทำอย่างนี้ทุกเที่ยว รายได้ก็หายไปวันละ 4 ล้านบาท ปีหนึ่งก็หายไป 1,460 ล้านบาท เห็นหรือยังทำไมการบินไทยขาดทุน


พฤติกรรมเช่นนี้ ถ้าไม่กำจัดให้หมดไป การบินไทยจะขาดทุนหนักกว่านี้ แล้วพนักงานการบินไทยทุกคน ก็จะไม่มีโอกาสได้โบนัส ไม่ได้ขึ้นเงินเดือน เพราะเงินของคุณถูกคนกลุ่มหนึ่งปล้นเอาไปจนการบินไทยขาดทุน.



“ลม เปลี่ยนทิศ”

-------------------------

สรุป อาจจะมีการคอรัปชั่นในองค์กร ?