สวัสดีค่ะ
นี่เป็นกระทู้แรกของดิฉัน ที่เขียนขึ้นมา เพื่ออยากรีวิวสนามวิ่งทั้งในไทยและต่างแดน เท่าที่มีโอกาสได้ไปวิ่งมา อยากให้กระทู้นี้เป็นข้อมูลสำหรับเหล่านักวิ่ง และเป็นข้อติชมกับติติงสำหรับผู้จัดงานวิ่งด้วยค่ะ
สนามที่ดิฉันจะรีวิวสนามแรก คือ ขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ ครั้งที่ 12 ปี 2558 หรือ Khon Kaen International Marathon 2015 (KKIM)
สนามนี้ถือว่าเป็นงานวิ่งระยะเต็มหรือฟลูมาราธอนงานหนึ่งของประเทศไทยเลยนะคะ เพราะงานนี้ได้รับการจัดลงในปฏิทินงานวิ่งประจำปีและรับรองผลการแข่งขันโดย Association of International Marathons and Distance Races (AIMS) ว่า จะมีการจัดขึ้นในเดือนมกราคมของทุกๆ ปี ซึ่งวัตถุประสงค์ของงานคือ เป็นหนึ่งในกิจกรรมของการครบรอบสถาปนามหาวิทยาลัยขอนแก่นค่ะ ซึ่งก็คือเจ้าภาพหลักของงาน
นอกจากนี้สิ่งที่บ่งบอกว่า ขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ เป็นงานวิ่งใหญ่ คือ นักวิ่งแนวหน้าสถิติโลกจากต่างประเทศอย่างที่เรารู้ๆ กันคือ พวกเคนย่าหรือเอธิโอเปียค่ะ
จาก Facebook Page - Khon Kaen Marathon โดยคุณ Kittisak IPui Chiawvanich
ขั้นตอนการสมัคร
งานนี้มีเว็บไซต์ที่มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
http://www.khonkaenmarathon.com/ ซึ่งขั้นตอนการสมัครแบบออนไลน์ไม่ยุ่งยากค่ะ กรอกข้อมูล ส่งไป แล้วพิมพ์ใบ pay-in ออกมาชำระที่เคาน์เตอร์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งจะระบุไว้ว่า ชำระเงินได้ถึงเมื่อไร หากใครมี SCB Easy ก็จ่ายผ่านทางนั้นได้ค่ะ ค่าธรรมเนียม 10 บาท
ดิฉันเห็นว่า ทางผู้จัดน่าจะมีการเพิ่มช่องทางการชำระเงินได้ในอนาคต เช่น ธนาคารอื่นๆ หรือบัตรเครดิต เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักวิ่งค่ะ
ปัจจุบันกระแสงานวิ่งมาแรงมากๆ ค่ะ ซึ่งบางงานจะเต็มเร็ว ควรสมัครล่วงหน้านะคะ อย่าหวังจากการสมัครหน้างานเลย เท่าที่สังเกตดู ทางผู้จัดจะเปิดรับสมัครประมาณเดือนธันวาคมค่ะ
ค่าสมัคร
ดิฉันขอเอามาเฉพาะอัตราคนไทยนะคะ
นานาจิตตังนะคะ ส่วนตัวดิฉันเห็นว่า ค่าสมัครจัดว่าโอเค สำหรับงานใหญ่ๆ แบบนี้ ถ้าเทียบกันราคา Early Bird ถือว่าถูกเลยทีเดียว ยังไงก็ต้องวัดกันดูว่า การจัดงานจะคุ้มค่าหรือไม่ค่ะ
การเดินทาง
ดิฉันเชื่อว่า หลายๆ คนคงทราบดีอยู่แล้ว แต่อยากจะเพิ่มเป็นข้อมูลค่ะ
หากจะมาจากกรุงเทพฯ ถือว่าสะดวกมากๆ ในปัจจุบัน เพราะสายการบิน low-cost อย่างไทยแอร์เอเชียหรือนกแอร์มีเส้นทางมาขอนแก่นทุกวันเลยค่ะ วันละ 3-4 เที่ยว นอกจากนี้ยังมีไทยสไมล์ของการบินไทยออกจากดอนเมืองด้วยค่ะ
ส่วนการเดินทางจากสนามบินมายังจุดปล่อยตัว หอประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น ระยะทางประมาณ 7-8 ก.ม. ก็สามารถใช้แท็กซี่จากสนามบินได้ค่ะ สนนราคาประมาณ 90-140 บาท ตามมิเตอร์ ขึ้นอยู่กับว่าจะคิดเพิ่ม 50 บาทหรือเปล่า กรณีที่มาจากสนามบินนะคะ
ที่พักบริเวณนั้นมีทั้งประเภทเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์บนเส้นถนนมะลิวัลย์และถนนข้างมหาวิทยาลัย เช่น D Place หรือบ้านพ.พาน (เต็มเร็วมากค่ะ) ดิฉันอยู่ Loft Living Hotel ห่างจากจุดปล่อยตัวประมาณ 300-400 เมตรค่ะ
ช่วงเวลารับ Running Rack
ทางผู้จัดกำหนดให้รับได้ 2 วันก่อนวันแข่งขัน เวลา 10:00-19:00 น. ซึ่งดิฉันไปรับก่อนวันแข่งขัน 1 วัน เวลา 11 โมงเช้า ที่ใต้หอประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษกเลยค่ะ
ขั้นตอนการรับ Pack ไม่วุ่นวายหรือรอคิวนานเลยค่ะ (หากท่านใดเจออุปสรรคในช่วงเวลาอื่น รบกวนแชร์ด้วยนะคะ) หากมารับเอง ก็บอกเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน ให้เจ้าหน้าที่จะคีย์ ซึ่งจะให้ตรวจสอบข้อมูลเพื่อยืนยันความถูกต้อง ส่วนคนที่มารับแทน ก็บอกเลขที่บัตรประจำตัวประชาชนของผู้สมัคร ตรวจสอบข้อมูล และเจ้าหน้าที่จะขอเบอร์โทรศัพท์คนรับแทนเก็บไว้ค่ะ
ต้องขอชื่นชมวิธีการจัดการของผู้จัดงานเลยค่ะ ไม่ว่าจะลงระยะไหน ไม่มีรอคิว รับ Pack เสร็จก็เอา Timing Chip ไปสแกนดูความถูกต้องอีกครั้ง เป็นอันเสร็จสิ้นค่ะ
นี่คือ Running Rack ที่ได้ค่ะ อาจจะดูน้อยไปหน่อยสำหรับค่าสมัครราคานี้นะคะ แต่ของพื้นฐานครบ เสื้อ เบอร์ ชิป ดิฉันได้เสื้อตรงไซส์ที่ระบุมานะคะ
วันนั้นมี Mizuno และ Speedo มาลดราคาด้วยค่ะ 30-60% ส่วนใครที่คาดหวังว่าจะเจอตลาดนัดขายของวิ่งทั่วไป ต้องเดินไกลหน่อยนะคะ อยู่ถนนเส้นทางออกประตูสีฐานเลยค่ะ
วันแข่งขัน
ดิฉันจะรีวิวเฉพาะระยะทางวิ่งมาราธอนนะคะ ผู้จัดปล่อยตัวเวลา 4:15 น. ตรงเวลาค่ะ และต้อง Check-in ด้วยการสแกน Chip และใช้เมจิกขีดที่เบอร์วิ่งด้วยค่ะ ซึ่งก่อนปล่อยตัวจะประกาศจัดระเบียบว่า ให้นักวิ่งที่จะวิ่งภายใน 2:30, 3 และ 4 ชั่วโมง หรือเรียกง่ายๆ ว่า พวกแนวหน้า เช็คอินก่อนค่ะ ส่วนแนวหลังๆ ก็ค่อยๆ ทยอยเข้ามาทีหลัง ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า เป็นการจัดการที่ดีนะคะ
เวลาคัทออฟมาราธอนให้ 7 ชั่วโมง ฮาล์ฟมาราธอนให้ 3:30 ชั่วโมง และมินิมาราธอนให้ 1:45 ชั่วโมงค่ะ
ดิฉันทราบมาจากข่าวว่า มีนักวิ่งรวมทุกระยะราวๆ 30,000 คน ส่วนระยะมาราธอนราวๆ 800-900 คน ถือได้ว่าไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ ถ้าเป็นตัวเลขจริงถือว่าเท่ากับสนามใหญ่ที่สุดของประเทศอย่าง Standard Chartered Bangkok Marathon (BKK Marathon) หรือกรุงเทพมาราธอน
เสียงแตรดังนักวิ่งออกสู่ถนนมะลิวัลย์ เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนมิตรภาพ ต้องของชื่นชมผู้จัดงาน สภ.เมืองขอนแก่น และปภ.ขอนแก่นค่ะ เพราะปิดถนนฝั่งเดียว 100% เลยค่ะ กั้นกรวยตามทางแยกยาวๆ เลย ให้นักวิ่งได้ไปก่อน ดิฉันเห็นรถบางคันพยายามขอเข้ามา แต่พี่ตำรวจจราจรก็ไม่ให้เข้าค่ะ
ช่วงถนนมิตรภาพ ผู้จัดติดป้ายแค่ว่า มีงานวิ่งมาราธอน แต่ไม่ได้ระบุว่า ให้เลี่ยงเส้นทางหรือปิดถนนอาจจะทำให้ประชาชนไม่ทราบก็เป็นไปได้ค่ะ
ระยะทางวิ่งมาราธอนไม่โหดมากนัก จะต้องขึ้นทางข้ามวงแหวนรอบนอกที่ชันเล็กน้อย แต่ไม่น่าจะเป็นอุปสรรคสำหรับนักวิ่งค่ะ
พอเข้าเลี้ยวซ้ายวิ่งเส้นถนนกลางเมือง จะมีเริ่มมีกองเชียร์ค่ะ ซึ่งร้องหมอลำกันสนุกสนาน ช่วงนี้พี่ตำรวจจราจรยังคอยระวังปิดถนนขาเข้าให้ 100% เหมือนเดิม แต่อาจจะมีอุปสรรคบ้างในช่วง ก.ม.ที่ 12 เป็นต้นไป ที่อาจจะไม่สามารถปิดถนนได้ เพราะต้องวิ่งผ่านตัวเมืองค่ะ แต่พี่ตำรวจจราจรจะคอยดูรถให้ทุกแยกเหมือนเดิม ช่วงนี้ ผู้จัดจะติดป้ายตามทางขอความร่วมมือประชาชนไม่ให้จอดรถถึง 9:30 น. รวมทั้งมีป้ายบอกนักวิ่งว่า อีก 100 เมตร อีก 50 เมตร จะถึงห้องน้ำตามปั้มปตท. ค่ะ
ในตัวเมืองจะมีกองเชียร์จากเหล่าโรงเรียนประถมมัธยมมาเชียร์ด้วยค่ะ คอยแตะมือ คอยให้น้ำ ส่วนจุดให้น้ำค่อนข้างตรงตามแผนที่เลยค่ะ บางจุดมีหน่วยพยาบาลด้วยค่ะ คลอบคลุมมากค่ะเพื่อดูแลนักวิ่ง
จากเว็บไซต์หลัก Khon Kaen Marathon
ส่วนใครที่คาดหวังเรื่องผลไม้ จะมีช่วงที่ใกล้ออกถนนวงแหวนรอบนอกอีกครั้ง ประมาณก.ม.ที่ 24 เป็นต้นไปค่ะ ซึ่งจะมี 2-3 จุดตลอดช่วงถนนนี้ รวมทั้งฟองน้ำ แม้ว่าฤดูนี้ อากาศไม่ร้อนจัด เพราะอยู่ในช่วงฤดูหนาว แต่จะมีจุดให้ฟองน้ำ 2 จุดค่ะ คือ ก.ม.ที่ 31 และ 35 มีกองเชียร์จากชาวบ้านด้วยนะคะ
ช่วงถนนวงแหวนนี่เองที่จะไม่มีห้องน้ำตามปั้มเลยตลอดระยะทาง 7 ก.ม. แต่ผู้จัดได้ทำห้องน้ำแบบสังกะสีมุมหลังคาไว้ให้ตามจุดให้น้ำ ซึ่งดิฉันไม่ได้เข้านะคะ เพราะเข้ามาตอนอยู่ในเมืองแล้ว แต่มันพอแก้ขัดได้สำหรับนักวิ่งผู้หญิงค่ะ
ช่วงที่จะเข้าถนนมิตรภาพอีกครั้ง เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น จะเป็นเส้นทางวิ่งของระยะฮาล์ฟและมินิมาราธอน ซึ่งปริมาณน้ำก็ยังมีอยู่ แต่อาจจะน้อยมาก น่าเป็นห่วงคนที่วิ่งมาราธอนแนวหลัง (รบกวนผู้ที่วิ่งมาราธอนตั้งแต่ 5:30 ชั่วโมงเป็นต้นไป ช่วยเพิ่มเติมความเห็นด้วยนะคะ)
พอเข้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาลัยก็ปิดถนนให้ค่ะ แม้ว่าจะไม่ 100% เพราะบางแยกยังมีรถสัญจรบ้าง แต่พี่จราจรก็จะให้นักวิ่งไปก่อนค่ะ น้ำจุดนี้ยังมีมากพอ แม้ว่าจะใกล้ถึงเส้นชัยแล้วก็ตาม มีนักศึกษามาตั้งโต๊ะแจกน้ำแจกขนม ร้องเพลงเป็นกองเชียร์ด้วยค่ะ
พอเข้าเส้นชัย ตามธรรมเนียมเลยค่ะ เสื้อ Finisher และเหรียญ
ทางผู้จัดมีบริการนวดกายภาพ จากอาสาสมัครนักศึกษาและประชาชน มีอ่างแช่น้ำเย็น อาหารมีการแบ่งด้วยค่ะว่า ของนักวิ่งประเภทไหนบ้าง ได้ยินผู้จัดประกาศด้วยค่ะว่า ขอความร่วมมือให้รับอาหารเพียงแค่คนละ 1 ชุดเท่านั้น แต่ดิฉันไม่ได้เข้ารับอาหารหลังจากวิ่งของงาน เพราะกลับไปกินโรงแรมและอาบน้ำ เลยบอกไม่ได้ว่า เป็นยังไงนะคะ ใครได้ทานอาหารของที่นั่น จะช่วยแชร์ความเห็นได้ค่ะ
สิ่งที่น่าชมเชย
1.การปิดจราจร 100% ในถนนใหญ่
2.จุดให้น้ำครบถ้วน น้ำเย็น เกลือแร่มีคุณภาพ ใช้สปอนเซอร์ (บางงานวิ่งเอาเกลือแร่สำหรับคนท้องเสียมาให้ เพราะราคาถูก) มีจุดให้ผลไม้ ฟองน้ำ
3.การรับ Running Pack รวดเร็ว ไม่วุ่นวาย และไม่เสียเวลา
4.มีจุดบริการห้องน้ำตลอดทาง ทั้งในปั้มและชั่วคราว
5.มีการจัดการที่เป็นระบบ ตั้งแต่การสมัครจนจบการแข่งขัน
6.ประชาชน คนท้องถิ่น และนักศึกษาได้มามีส่วนร่วมในการจัดงาน ถือว่าเป็นสีสัน
7.มีบริการการท่องเที่ยวในตัวจังหวัดขอนแก่นฟรี (อันนี้ไม่ได้ใช้บริการนะคะ ไม่รู้ว่าจะเป็นประโยชน์กับชาวต่างชาติมากน้อยแค่ไหน)
8.มีบริการรถรับส่งจากสนามบิน และรถรับส่งจากบริเวณอื่นๆ มาที่จุดปล่อยตัว
สิ่งที่อยากให้ปรับปรุงและพัฒนา
1.ดูแลการจราจรและการจอดรถในช่วงตัวเมือง เพราะยังมีรถมาจอดขวางบ้าง นอกจากติดป้ายเตือนล่วงหน้า อาจจะต้องเข้มงวดมากกว่านี้ค่ะ
2.ดูแลจุดให้น้ำช่วงที่ฮาล์ฟกับมาราธอนวิ่งเส้นเดียวกัน เพราะเสี่ยงที่น้ำจะหมดเร็วมาก
3.ห้องน้ำชั่วคราวข้างทาง ถือเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่มันยังไม่ถูกสุขลักษณะ อยากให้เป็นสุขาเคลื่อนที่ที่มีมาตรฐานค่ะ ถ้าสามารถจัดเป็นห้องน้ำตู้ จะดีมากๆ ค่ะ
4.เสื้อ Finisher น่าจะทำเป็นเสื้อวิ่งมากกว่าจะเป็นเสื้อโปโลนะคะ จะให้ดูดีหน่อย เป็นเสื้อวิ่งแขนสั้นหรือแขนยาวก็ได้ค่ะ เมื่อตอนที่นักวิ่งระบุไซส์เสื้อแล้ว ควรจะมีเสื้อ Finisher ให้ตรงไซส์นะคะ ดิฉันได้เลือกเสื้อวิ่งไซส์ S แต่เสื้อ Finisher ได้ M มาค่ะ
5.ผลจาก Timing Chip มีการอัพเดตค่อนข้างช้าค่ะ และไม่มีขึ้นที่หน้าเว็บไซต์หลัก เช็คได้ที่
http://timetrack.kku.ac.th/kkim/AllResult
ผู้จัดขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ อยากเป็น Asean Major Race ซึ่งด้วยคุณภาพการจัดงานที่ผ่านมา ถือว่า สามารถพัฒนาต่อได้อีกเยอะเลยค่ะ ถึงดิฉันยังไม่เคยไปสนามดีๆ อย่าง Standard Chartered Marathon Singapore ที่ได้ระดับ Gold Road Races จาก International Association of Athletics Federations (IAAF) แต่ถ้าขอนแก่นมาราธอนนานาชาติจะเป็น Asean Major Race ให้ได้ ก็น่าจะพัฒนาตัวเองให้ได้รับการรับรองจาก IAAF นะคะ เพราะปัจจุบันยังไม่มีสนามไหนของไทย ได้ระดับ Gold, Silver หรือ Bronze เลยค่ะ
ถ้าการจัดงานที่ดีขึ้น ต้องขึ้นราคาค่าสมัครบ้าง ดิฉันก็เห็นสมควรค่ะ ความจริงนักวิ่งก็ยินดีจ่าย ถ้ามันจะทำให้พวกเขาได้รับการดูแลอย่างดีตลอดการแข่งขันค่ะ
สำหรับดิฉัน ให้คะแนนขอนแก่นมาราธอนนานาชาติครั้งที่ 12 = 7/10 คะแนน ทำให้ดีต่อไปอีกนะคะ ปีต่อๆ ไปดิฉันก็อยากไปซ้ำที่สนามนี้ค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบค่ะ
[CR] รีวิว สนาม "ขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ ครั้งที่ 12" Khon Kaen International Marathon 2015
นี่เป็นกระทู้แรกของดิฉัน ที่เขียนขึ้นมา เพื่ออยากรีวิวสนามวิ่งทั้งในไทยและต่างแดน เท่าที่มีโอกาสได้ไปวิ่งมา อยากให้กระทู้นี้เป็นข้อมูลสำหรับเหล่านักวิ่ง และเป็นข้อติชมกับติติงสำหรับผู้จัดงานวิ่งด้วยค่ะ
สนามที่ดิฉันจะรีวิวสนามแรก คือ ขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ ครั้งที่ 12 ปี 2558 หรือ Khon Kaen International Marathon 2015 (KKIM)
สนามนี้ถือว่าเป็นงานวิ่งระยะเต็มหรือฟลูมาราธอนงานหนึ่งของประเทศไทยเลยนะคะ เพราะงานนี้ได้รับการจัดลงในปฏิทินงานวิ่งประจำปีและรับรองผลการแข่งขันโดย Association of International Marathons and Distance Races (AIMS) ว่า จะมีการจัดขึ้นในเดือนมกราคมของทุกๆ ปี ซึ่งวัตถุประสงค์ของงานคือ เป็นหนึ่งในกิจกรรมของการครบรอบสถาปนามหาวิทยาลัยขอนแก่นค่ะ ซึ่งก็คือเจ้าภาพหลักของงาน
นอกจากนี้สิ่งที่บ่งบอกว่า ขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ เป็นงานวิ่งใหญ่ คือ นักวิ่งแนวหน้าสถิติโลกจากต่างประเทศอย่างที่เรารู้ๆ กันคือ พวกเคนย่าหรือเอธิโอเปียค่ะ
จาก Facebook Page - Khon Kaen Marathon โดยคุณ Kittisak IPui Chiawvanich
ขั้นตอนการสมัคร
งานนี้มีเว็บไซต์ที่มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ http://www.khonkaenmarathon.com/ ซึ่งขั้นตอนการสมัครแบบออนไลน์ไม่ยุ่งยากค่ะ กรอกข้อมูล ส่งไป แล้วพิมพ์ใบ pay-in ออกมาชำระที่เคาน์เตอร์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งจะระบุไว้ว่า ชำระเงินได้ถึงเมื่อไร หากใครมี SCB Easy ก็จ่ายผ่านทางนั้นได้ค่ะ ค่าธรรมเนียม 10 บาท
ดิฉันเห็นว่า ทางผู้จัดน่าจะมีการเพิ่มช่องทางการชำระเงินได้ในอนาคต เช่น ธนาคารอื่นๆ หรือบัตรเครดิต เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักวิ่งค่ะ
ปัจจุบันกระแสงานวิ่งมาแรงมากๆ ค่ะ ซึ่งบางงานจะเต็มเร็ว ควรสมัครล่วงหน้านะคะ อย่าหวังจากการสมัครหน้างานเลย เท่าที่สังเกตดู ทางผู้จัดจะเปิดรับสมัครประมาณเดือนธันวาคมค่ะ
ค่าสมัคร
ดิฉันขอเอามาเฉพาะอัตราคนไทยนะคะ
นานาจิตตังนะคะ ส่วนตัวดิฉันเห็นว่า ค่าสมัครจัดว่าโอเค สำหรับงานใหญ่ๆ แบบนี้ ถ้าเทียบกันราคา Early Bird ถือว่าถูกเลยทีเดียว ยังไงก็ต้องวัดกันดูว่า การจัดงานจะคุ้มค่าหรือไม่ค่ะ
การเดินทาง
ดิฉันเชื่อว่า หลายๆ คนคงทราบดีอยู่แล้ว แต่อยากจะเพิ่มเป็นข้อมูลค่ะ
หากจะมาจากกรุงเทพฯ ถือว่าสะดวกมากๆ ในปัจจุบัน เพราะสายการบิน low-cost อย่างไทยแอร์เอเชียหรือนกแอร์มีเส้นทางมาขอนแก่นทุกวันเลยค่ะ วันละ 3-4 เที่ยว นอกจากนี้ยังมีไทยสไมล์ของการบินไทยออกจากดอนเมืองด้วยค่ะ
ส่วนการเดินทางจากสนามบินมายังจุดปล่อยตัว หอประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น ระยะทางประมาณ 7-8 ก.ม. ก็สามารถใช้แท็กซี่จากสนามบินได้ค่ะ สนนราคาประมาณ 90-140 บาท ตามมิเตอร์ ขึ้นอยู่กับว่าจะคิดเพิ่ม 50 บาทหรือเปล่า กรณีที่มาจากสนามบินนะคะ
ที่พักบริเวณนั้นมีทั้งประเภทเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์บนเส้นถนนมะลิวัลย์และถนนข้างมหาวิทยาลัย เช่น D Place หรือบ้านพ.พาน (เต็มเร็วมากค่ะ) ดิฉันอยู่ Loft Living Hotel ห่างจากจุดปล่อยตัวประมาณ 300-400 เมตรค่ะ
ช่วงเวลารับ Running Rack
ทางผู้จัดกำหนดให้รับได้ 2 วันก่อนวันแข่งขัน เวลา 10:00-19:00 น. ซึ่งดิฉันไปรับก่อนวันแข่งขัน 1 วัน เวลา 11 โมงเช้า ที่ใต้หอประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษกเลยค่ะ
ขั้นตอนการรับ Pack ไม่วุ่นวายหรือรอคิวนานเลยค่ะ (หากท่านใดเจออุปสรรคในช่วงเวลาอื่น รบกวนแชร์ด้วยนะคะ) หากมารับเอง ก็บอกเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน ให้เจ้าหน้าที่จะคีย์ ซึ่งจะให้ตรวจสอบข้อมูลเพื่อยืนยันความถูกต้อง ส่วนคนที่มารับแทน ก็บอกเลขที่บัตรประจำตัวประชาชนของผู้สมัคร ตรวจสอบข้อมูล และเจ้าหน้าที่จะขอเบอร์โทรศัพท์คนรับแทนเก็บไว้ค่ะ
ต้องขอชื่นชมวิธีการจัดการของผู้จัดงานเลยค่ะ ไม่ว่าจะลงระยะไหน ไม่มีรอคิว รับ Pack เสร็จก็เอา Timing Chip ไปสแกนดูความถูกต้องอีกครั้ง เป็นอันเสร็จสิ้นค่ะ
นี่คือ Running Rack ที่ได้ค่ะ อาจจะดูน้อยไปหน่อยสำหรับค่าสมัครราคานี้นะคะ แต่ของพื้นฐานครบ เสื้อ เบอร์ ชิป ดิฉันได้เสื้อตรงไซส์ที่ระบุมานะคะ
วันนั้นมี Mizuno และ Speedo มาลดราคาด้วยค่ะ 30-60% ส่วนใครที่คาดหวังว่าจะเจอตลาดนัดขายของวิ่งทั่วไป ต้องเดินไกลหน่อยนะคะ อยู่ถนนเส้นทางออกประตูสีฐานเลยค่ะ
วันแข่งขัน
ดิฉันจะรีวิวเฉพาะระยะทางวิ่งมาราธอนนะคะ ผู้จัดปล่อยตัวเวลา 4:15 น. ตรงเวลาค่ะ และต้อง Check-in ด้วยการสแกน Chip และใช้เมจิกขีดที่เบอร์วิ่งด้วยค่ะ ซึ่งก่อนปล่อยตัวจะประกาศจัดระเบียบว่า ให้นักวิ่งที่จะวิ่งภายใน 2:30, 3 และ 4 ชั่วโมง หรือเรียกง่ายๆ ว่า พวกแนวหน้า เช็คอินก่อนค่ะ ส่วนแนวหลังๆ ก็ค่อยๆ ทยอยเข้ามาทีหลัง ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า เป็นการจัดการที่ดีนะคะ
เวลาคัทออฟมาราธอนให้ 7 ชั่วโมง ฮาล์ฟมาราธอนให้ 3:30 ชั่วโมง และมินิมาราธอนให้ 1:45 ชั่วโมงค่ะ
ดิฉันทราบมาจากข่าวว่า มีนักวิ่งรวมทุกระยะราวๆ 30,000 คน ส่วนระยะมาราธอนราวๆ 800-900 คน ถือได้ว่าไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ ถ้าเป็นตัวเลขจริงถือว่าเท่ากับสนามใหญ่ที่สุดของประเทศอย่าง Standard Chartered Bangkok Marathon (BKK Marathon) หรือกรุงเทพมาราธอน
เสียงแตรดังนักวิ่งออกสู่ถนนมะลิวัลย์ เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนมิตรภาพ ต้องของชื่นชมผู้จัดงาน สภ.เมืองขอนแก่น และปภ.ขอนแก่นค่ะ เพราะปิดถนนฝั่งเดียว 100% เลยค่ะ กั้นกรวยตามทางแยกยาวๆ เลย ให้นักวิ่งได้ไปก่อน ดิฉันเห็นรถบางคันพยายามขอเข้ามา แต่พี่ตำรวจจราจรก็ไม่ให้เข้าค่ะ
ช่วงถนนมิตรภาพ ผู้จัดติดป้ายแค่ว่า มีงานวิ่งมาราธอน แต่ไม่ได้ระบุว่า ให้เลี่ยงเส้นทางหรือปิดถนนอาจจะทำให้ประชาชนไม่ทราบก็เป็นไปได้ค่ะ
ระยะทางวิ่งมาราธอนไม่โหดมากนัก จะต้องขึ้นทางข้ามวงแหวนรอบนอกที่ชันเล็กน้อย แต่ไม่น่าจะเป็นอุปสรรคสำหรับนักวิ่งค่ะ
พอเข้าเลี้ยวซ้ายวิ่งเส้นถนนกลางเมือง จะมีเริ่มมีกองเชียร์ค่ะ ซึ่งร้องหมอลำกันสนุกสนาน ช่วงนี้พี่ตำรวจจราจรยังคอยระวังปิดถนนขาเข้าให้ 100% เหมือนเดิม แต่อาจจะมีอุปสรรคบ้างในช่วง ก.ม.ที่ 12 เป็นต้นไป ที่อาจจะไม่สามารถปิดถนนได้ เพราะต้องวิ่งผ่านตัวเมืองค่ะ แต่พี่ตำรวจจราจรจะคอยดูรถให้ทุกแยกเหมือนเดิม ช่วงนี้ ผู้จัดจะติดป้ายตามทางขอความร่วมมือประชาชนไม่ให้จอดรถถึง 9:30 น. รวมทั้งมีป้ายบอกนักวิ่งว่า อีก 100 เมตร อีก 50 เมตร จะถึงห้องน้ำตามปั้มปตท. ค่ะ
ในตัวเมืองจะมีกองเชียร์จากเหล่าโรงเรียนประถมมัธยมมาเชียร์ด้วยค่ะ คอยแตะมือ คอยให้น้ำ ส่วนจุดให้น้ำค่อนข้างตรงตามแผนที่เลยค่ะ บางจุดมีหน่วยพยาบาลด้วยค่ะ คลอบคลุมมากค่ะเพื่อดูแลนักวิ่ง
จากเว็บไซต์หลัก Khon Kaen Marathon
ส่วนใครที่คาดหวังเรื่องผลไม้ จะมีช่วงที่ใกล้ออกถนนวงแหวนรอบนอกอีกครั้ง ประมาณก.ม.ที่ 24 เป็นต้นไปค่ะ ซึ่งจะมี 2-3 จุดตลอดช่วงถนนนี้ รวมทั้งฟองน้ำ แม้ว่าฤดูนี้ อากาศไม่ร้อนจัด เพราะอยู่ในช่วงฤดูหนาว แต่จะมีจุดให้ฟองน้ำ 2 จุดค่ะ คือ ก.ม.ที่ 31 และ 35 มีกองเชียร์จากชาวบ้านด้วยนะคะ
ช่วงถนนวงแหวนนี่เองที่จะไม่มีห้องน้ำตามปั้มเลยตลอดระยะทาง 7 ก.ม. แต่ผู้จัดได้ทำห้องน้ำแบบสังกะสีมุมหลังคาไว้ให้ตามจุดให้น้ำ ซึ่งดิฉันไม่ได้เข้านะคะ เพราะเข้ามาตอนอยู่ในเมืองแล้ว แต่มันพอแก้ขัดได้สำหรับนักวิ่งผู้หญิงค่ะ
ช่วงที่จะเข้าถนนมิตรภาพอีกครั้ง เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น จะเป็นเส้นทางวิ่งของระยะฮาล์ฟและมินิมาราธอน ซึ่งปริมาณน้ำก็ยังมีอยู่ แต่อาจจะน้อยมาก น่าเป็นห่วงคนที่วิ่งมาราธอนแนวหลัง (รบกวนผู้ที่วิ่งมาราธอนตั้งแต่ 5:30 ชั่วโมงเป็นต้นไป ช่วยเพิ่มเติมความเห็นด้วยนะคะ)
พอเข้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาลัยก็ปิดถนนให้ค่ะ แม้ว่าจะไม่ 100% เพราะบางแยกยังมีรถสัญจรบ้าง แต่พี่จราจรก็จะให้นักวิ่งไปก่อนค่ะ น้ำจุดนี้ยังมีมากพอ แม้ว่าจะใกล้ถึงเส้นชัยแล้วก็ตาม มีนักศึกษามาตั้งโต๊ะแจกน้ำแจกขนม ร้องเพลงเป็นกองเชียร์ด้วยค่ะ
พอเข้าเส้นชัย ตามธรรมเนียมเลยค่ะ เสื้อ Finisher และเหรียญ
ทางผู้จัดมีบริการนวดกายภาพ จากอาสาสมัครนักศึกษาและประชาชน มีอ่างแช่น้ำเย็น อาหารมีการแบ่งด้วยค่ะว่า ของนักวิ่งประเภทไหนบ้าง ได้ยินผู้จัดประกาศด้วยค่ะว่า ขอความร่วมมือให้รับอาหารเพียงแค่คนละ 1 ชุดเท่านั้น แต่ดิฉันไม่ได้เข้ารับอาหารหลังจากวิ่งของงาน เพราะกลับไปกินโรงแรมและอาบน้ำ เลยบอกไม่ได้ว่า เป็นยังไงนะคะ ใครได้ทานอาหารของที่นั่น จะช่วยแชร์ความเห็นได้ค่ะ
สิ่งที่น่าชมเชย
1.การปิดจราจร 100% ในถนนใหญ่
2.จุดให้น้ำครบถ้วน น้ำเย็น เกลือแร่มีคุณภาพ ใช้สปอนเซอร์ (บางงานวิ่งเอาเกลือแร่สำหรับคนท้องเสียมาให้ เพราะราคาถูก) มีจุดให้ผลไม้ ฟองน้ำ
3.การรับ Running Pack รวดเร็ว ไม่วุ่นวาย และไม่เสียเวลา
4.มีจุดบริการห้องน้ำตลอดทาง ทั้งในปั้มและชั่วคราว
5.มีการจัดการที่เป็นระบบ ตั้งแต่การสมัครจนจบการแข่งขัน
6.ประชาชน คนท้องถิ่น และนักศึกษาได้มามีส่วนร่วมในการจัดงาน ถือว่าเป็นสีสัน
7.มีบริการการท่องเที่ยวในตัวจังหวัดขอนแก่นฟรี (อันนี้ไม่ได้ใช้บริการนะคะ ไม่รู้ว่าจะเป็นประโยชน์กับชาวต่างชาติมากน้อยแค่ไหน)
8.มีบริการรถรับส่งจากสนามบิน และรถรับส่งจากบริเวณอื่นๆ มาที่จุดปล่อยตัว
สิ่งที่อยากให้ปรับปรุงและพัฒนา
1.ดูแลการจราจรและการจอดรถในช่วงตัวเมือง เพราะยังมีรถมาจอดขวางบ้าง นอกจากติดป้ายเตือนล่วงหน้า อาจจะต้องเข้มงวดมากกว่านี้ค่ะ
2.ดูแลจุดให้น้ำช่วงที่ฮาล์ฟกับมาราธอนวิ่งเส้นเดียวกัน เพราะเสี่ยงที่น้ำจะหมดเร็วมาก
3.ห้องน้ำชั่วคราวข้างทาง ถือเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่มันยังไม่ถูกสุขลักษณะ อยากให้เป็นสุขาเคลื่อนที่ที่มีมาตรฐานค่ะ ถ้าสามารถจัดเป็นห้องน้ำตู้ จะดีมากๆ ค่ะ
4.เสื้อ Finisher น่าจะทำเป็นเสื้อวิ่งมากกว่าจะเป็นเสื้อโปโลนะคะ จะให้ดูดีหน่อย เป็นเสื้อวิ่งแขนสั้นหรือแขนยาวก็ได้ค่ะ เมื่อตอนที่นักวิ่งระบุไซส์เสื้อแล้ว ควรจะมีเสื้อ Finisher ให้ตรงไซส์นะคะ ดิฉันได้เลือกเสื้อวิ่งไซส์ S แต่เสื้อ Finisher ได้ M มาค่ะ
5.ผลจาก Timing Chip มีการอัพเดตค่อนข้างช้าค่ะ และไม่มีขึ้นที่หน้าเว็บไซต์หลัก เช็คได้ที่ http://timetrack.kku.ac.th/kkim/AllResult
ผู้จัดขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ อยากเป็น Asean Major Race ซึ่งด้วยคุณภาพการจัดงานที่ผ่านมา ถือว่า สามารถพัฒนาต่อได้อีกเยอะเลยค่ะ ถึงดิฉันยังไม่เคยไปสนามดีๆ อย่าง Standard Chartered Marathon Singapore ที่ได้ระดับ Gold Road Races จาก International Association of Athletics Federations (IAAF) แต่ถ้าขอนแก่นมาราธอนนานาชาติจะเป็น Asean Major Race ให้ได้ ก็น่าจะพัฒนาตัวเองให้ได้รับการรับรองจาก IAAF นะคะ เพราะปัจจุบันยังไม่มีสนามไหนของไทย ได้ระดับ Gold, Silver หรือ Bronze เลยค่ะ
ถ้าการจัดงานที่ดีขึ้น ต้องขึ้นราคาค่าสมัครบ้าง ดิฉันก็เห็นสมควรค่ะ ความจริงนักวิ่งก็ยินดีจ่าย ถ้ามันจะทำให้พวกเขาได้รับการดูแลอย่างดีตลอดการแข่งขันค่ะ
สำหรับดิฉัน ให้คะแนนขอนแก่นมาราธอนนานาชาติครั้งที่ 12 = 7/10 คะแนน ทำให้ดีต่อไปอีกนะคะ ปีต่อๆ ไปดิฉันก็อยากไปซ้ำที่สนามนี้ค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น