2 ตุลาคม 2557
นายกล้าณรงค์ จันทิก สนช.57 (อดีต ป.ป.ช.) ในฐานะประธานกรรมาธิการสรรหา ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิ
ได้เสนอชื่อนายเมธี ครองแก้ว (อดีต ป.ป.ช.) ต่อที่ประชุม สนช. เพื่อคัดเลือกเป็น ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิ
นายเมธี ครองแก้ว ได้รับเลือกจากที่ประชุม สนช. ให้เป็นกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ
28 ตุลาคม 2557
นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา มีหนังสือถึง นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
ระบุว่า ได้รับหนังสือจากทนายความ 18 คน มีเนื้อหาคัดค้านการเป็นกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิของนายเมธี ครองแก้ว
ว่า นายเมธีถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีหลายคดี จึงมีคุณสมบัติอันเป็นลักษณะต้องห้าม หรืออาจไม่เหมาะสมทางจริยธรรม
หรืออาจไม่เหมาะสมเกียรติศักดิ์แห่งสถาบันตุลาการแก่การดำรงตำแหน่งกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ
นายเมธี ครองแก้ว ออกมาชี้แจงทันควันว่า คดีที่ถูกฟ้องนั้น เป็นการฟ้องคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะ
อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ชี้มูลความผิด แล้วผู้ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ได้ยื่นฟ้อง ป.ป.ช.กลับ
ซึ่งคดีเหล่านั้นยังไม่มีคดีใดที่ศาลตัดสินว่ากระทำความผิด และไม่มีคดีที่ตนถูกฟ้องอันเนื่องมาจากเรื่องส่วนตัว
นายกล้าณรงค์ จันทิก ได้ออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้ปกปิดข้อมูลที่นายเมธีถูกฟ้องต่อที่ประชุม สนช.
นายพรเพชร วิชิตชลชัย บอกว่าจะนำเรื่องนายเมธีเข้าที่ประชุม สนช. เพื่อพิจารณาในวันที่ 3-4 พ.ย. 57
แล้วเรื่องก็เงียบหายไปจนถึงบัดนี้
ก็แปลว่า นายเมธีเป็น ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิอย่างสบาย
ว่าไงครับ สนช. ?
อย่าให้ชาวบ้านเขาว่านักเลยครับ
ผ่านกฎหมายก็ลงมติกันไปแบบไม่รู้เรื่อง เช่น พ.ร.บ.ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ. ...
ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการกำหนดขอบเขตความรับผิดชอบของผู้ค้ำประกัน
เล่นเอาธนาคารสะดุ้งเฮือก เพราะหากลูกหนี้เบี้ยว เจ้าหนี้ตามเคลมกับผู้ค้ำประกันยาก
การเลือกคนเป็น ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิ ก็เลือกแบบไม่ดูตาแมวตาม้าตาอีเห็น จนประธานศาลฎีกาต้องทักท้วง
เหมือนมองแค่หน้า ว่าพวกเดียวกัน ก็เลือกเลย
ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงครับ ที่คนมีคดีติดตัว ไม่ว่าจะคดีจากอะไร
ที่จะมาเป็นกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม
กระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กร
มีผลประโยชน์ทับซ้อน มีส่วนได้ส่วนเสียกับคดี แม้ไม่โดยตรงก็โดยอ้อม
สนช. อาจไม่รู้ข้อมูลว่านายเมธี ครองแก้ว โดนฟ้องหลายคดี
แต่นายกล้าณรงค์ จันทิก รู้แน่ ๆ (แต่ไม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้ให้ใครรู้ ปกปิดไหม ? )
สนช. จะปล่อยเลยตามเลย หรือจะแก้ไขยังไงครับ
หรือคนดีทำอะไร มีคดีอะไรก็ไม่ผิด ไม่เป็นไร
ที่ปวดตับกว่านั้น ไม่ว่าเรื่องครูหยุยทำท่าเชือด
ไม่ว่าเรื่องนายเมธีมีคดีติดตัวหลายคดี
มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับจริยธรรม แต่มันหายไปแล้วกับรัฐธรรมนูญ 50
ก็คงมีคนอาศัยช่องโหว่ตรงนี้แหละ อ้างว่าไม่มีกฎหมายบังคับ
เหมือน ป.ป.ช. อ้างว่า ตรวจสอบคุณสมบัติพวกตัวเองไม่ได้
เพราะไม่มีกฎหมายระบุไว้ กรณีนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. ขาดคุณสมบัติเป็น ป.ป.ช.
สนุกนะครับ
เวลาจะเล่นคนอื่น หากกฎหมายไม่มี ก็อ้างคุณธรรม จริยธรรม จนถึงพจนานุกรม
แต่พอพวกตัวเอง อ้างกฎหมายไม่มี และถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับจริธรรม ก็อ้างกฎหมายไม่มีอีก
ทั้งที่หากมีจริยธรรมจริง ไม่ต้องอ้างตัวบทกฎหมายหรอกครับ
อย่างครูหยุย บอกมาได้ไง ทำท่าเชือดเพราะแปลกใจในผลการลงคะแนนถอดถอนที่เยอะถึง 190
(โธ่ สมรู้ร่วมคิดกันมาขนาดนี้ ยังมีอะไรให้แปลกใจฟร่ะ)
แปลกใจดาวอังคารบ้านเอ็งดิ แปลกใจแล้วทำท่าเชือด
ด้านชะมัด
สนช. ครับ เรื่องนายเมธี ครองแก้ว จะว่ายังไงครับ จะพากันนั่งทับไม่รู้ร้อนรู้หนาวกันอยู่อย่างนี้เหรอครับ
นายกล้าณรงค์ จันทิก สนช.57 (อดีต ป.ป.ช.) ในฐานะประธานกรรมาธิการสรรหา ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิ
ได้เสนอชื่อนายเมธี ครองแก้ว (อดีต ป.ป.ช.) ต่อที่ประชุม สนช. เพื่อคัดเลือกเป็น ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิ
นายเมธี ครองแก้ว ได้รับเลือกจากที่ประชุม สนช. ให้เป็นกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ
28 ตุลาคม 2557
นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา มีหนังสือถึง นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
ระบุว่า ได้รับหนังสือจากทนายความ 18 คน มีเนื้อหาคัดค้านการเป็นกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิของนายเมธี ครองแก้ว
ว่า นายเมธีถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีหลายคดี จึงมีคุณสมบัติอันเป็นลักษณะต้องห้าม หรืออาจไม่เหมาะสมทางจริยธรรม
หรืออาจไม่เหมาะสมเกียรติศักดิ์แห่งสถาบันตุลาการแก่การดำรงตำแหน่งกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ
นายเมธี ครองแก้ว ออกมาชี้แจงทันควันว่า คดีที่ถูกฟ้องนั้น เป็นการฟ้องคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะ
อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ชี้มูลความผิด แล้วผู้ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ได้ยื่นฟ้อง ป.ป.ช.กลับ
ซึ่งคดีเหล่านั้นยังไม่มีคดีใดที่ศาลตัดสินว่ากระทำความผิด และไม่มีคดีที่ตนถูกฟ้องอันเนื่องมาจากเรื่องส่วนตัว
นายกล้าณรงค์ จันทิก ได้ออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้ปกปิดข้อมูลที่นายเมธีถูกฟ้องต่อที่ประชุม สนช.
นายพรเพชร วิชิตชลชัย บอกว่าจะนำเรื่องนายเมธีเข้าที่ประชุม สนช. เพื่อพิจารณาในวันที่ 3-4 พ.ย. 57
แล้วเรื่องก็เงียบหายไปจนถึงบัดนี้
ก็แปลว่า นายเมธีเป็น ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิอย่างสบาย
ว่าไงครับ สนช. ?
อย่าให้ชาวบ้านเขาว่านักเลยครับ
ผ่านกฎหมายก็ลงมติกันไปแบบไม่รู้เรื่อง เช่น พ.ร.บ.ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ. ...
ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการกำหนดขอบเขตความรับผิดชอบของผู้ค้ำประกัน
เล่นเอาธนาคารสะดุ้งเฮือก เพราะหากลูกหนี้เบี้ยว เจ้าหนี้ตามเคลมกับผู้ค้ำประกันยาก
การเลือกคนเป็น ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิ ก็เลือกแบบไม่ดูตาแมวตาม้าตาอีเห็น จนประธานศาลฎีกาต้องทักท้วง
เหมือนมองแค่หน้า ว่าพวกเดียวกัน ก็เลือกเลย
ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงครับ ที่คนมีคดีติดตัว ไม่ว่าจะคดีจากอะไร
ที่จะมาเป็นกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม
กระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กร
มีผลประโยชน์ทับซ้อน มีส่วนได้ส่วนเสียกับคดี แม้ไม่โดยตรงก็โดยอ้อม
สนช. อาจไม่รู้ข้อมูลว่านายเมธี ครองแก้ว โดนฟ้องหลายคดี
แต่นายกล้าณรงค์ จันทิก รู้แน่ ๆ (แต่ไม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้ให้ใครรู้ ปกปิดไหม ? )
สนช. จะปล่อยเลยตามเลย หรือจะแก้ไขยังไงครับ
หรือคนดีทำอะไร มีคดีอะไรก็ไม่ผิด ไม่เป็นไร
ที่ปวดตับกว่านั้น ไม่ว่าเรื่องครูหยุยทำท่าเชือด
ไม่ว่าเรื่องนายเมธีมีคดีติดตัวหลายคดี
มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับจริยธรรม แต่มันหายไปแล้วกับรัฐธรรมนูญ 50
ก็คงมีคนอาศัยช่องโหว่ตรงนี้แหละ อ้างว่าไม่มีกฎหมายบังคับ
เหมือน ป.ป.ช. อ้างว่า ตรวจสอบคุณสมบัติพวกตัวเองไม่ได้
เพราะไม่มีกฎหมายระบุไว้ กรณีนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. ขาดคุณสมบัติเป็น ป.ป.ช.
สนุกนะครับ
เวลาจะเล่นคนอื่น หากกฎหมายไม่มี ก็อ้างคุณธรรม จริยธรรม จนถึงพจนานุกรม
แต่พอพวกตัวเอง อ้างกฎหมายไม่มี และถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับจริธรรม ก็อ้างกฎหมายไม่มีอีก
ทั้งที่หากมีจริยธรรมจริง ไม่ต้องอ้างตัวบทกฎหมายหรอกครับ
อย่างครูหยุย บอกมาได้ไง ทำท่าเชือดเพราะแปลกใจในผลการลงคะแนนถอดถอนที่เยอะถึง 190
(โธ่ สมรู้ร่วมคิดกันมาขนาดนี้ ยังมีอะไรให้แปลกใจฟร่ะ)
แปลกใจดาวอังคารบ้านเอ็งดิ แปลกใจแล้วทำท่าเชือด
ด้านชะมัด