* แก้คำตกหล่นค่ะ
ชีวิตเราอยู่กับการทายาและกินยาตลอด...
บางครั้งเราก็ท้อ....
เวลามีมรสุมชีวิตและภูมิต้านทานความเจ็บปวดเราถูกเรื่องแย่ๆทำร้าย...
หลายครั้งเราจิตตก มักจะเอาเรื่องพวกนั้นมารวมกับปมด้อยนี้ เราอยากหายไป..
หมอบอกว่าโรคนี้ไม่มีทางรักษาหาย...
มันเป็นกรรมพันธ์ที่จะอยู่กับเราจนตาย..
ทำได้แค่เพียงรักษาตัวเองให้ดีที่สุดเพียงเท่านั้น...
เราพยายามมองโลกในแง่บวก...
และเราคิดว่าเราโชคดี.. กว่าใครหลายๆคน..
เรายังมองเห็น... มีแขนขาครบ...
ขอเล่าย้อนไปสมัยปี 1 เราถูกเลือกให้เป็นดาวคณะ...
แถมยังจะให้เราเป็นเชียร์หลีดเดอร์ของคณะอีก..
นั่นเป็นสิ่งที่เรากังวลมาก เราแต่งตัวโป๊ไม่ได้..
เราก็บอกรุ่นพี่ว่าหนูแต่งตัวโป๊ไม่ได้นะพี่..
หนูเป็นภูมิแพ้.. แต่ใครจะล่ะจะมองเราแง่ดี..
เราถูกหาว่าเรื่องมาก... เรื่องเยอะ...
สุดท้ายเราก็ไม่ได้เป็นหลีด..
เพราะเค้าบอกเราเรื่องเยอะ...
เราอยากอธิบายมาก...
รุ่นพี่ไม่ค่อยชอบเรา..เค้าบอกเราเรื่องมาก..
เวลาให้เดินขบวนงานอะไรที่ต้องใส่ชุดไทยเกาะอก เราจะปฏิเสธ..
เราอยากจะบอกว่าหนูใส่ชุดโป๊ไม่ได้จริงๆ..
เวลามีคนมาจีบเรา..
เราก็ไม่ค่อยกล้าคบกับคนที่เราชอบมากๆ
เรากลัวเค้ารังเกียจและรับเราไม่ได้แล้วจะหายไปจากชีวิตเรา..
เพราะนี่คือโลกความจริง ไม่ใช่นิยายเกาหลีที่พระเอก
รับนางเอกได้แม้เป็นโรคร้ายใกล้ตาย..
เรารู้สึกว่าเก็บคนที่เราชอบมากๆไว้ในชีวิตดีกว่า เป็นเพื่อน พี่น้อง ก็ยังดี..
"นี่โลกความจริง" โลกที่มีประชากรหญิงเยอะกว่าชาย มีคนสวย หุ่นดี
และเพรียบพร้อมกว่าเราให้เลือกอีกมาก...
แต่เราก็เคยมีแฟนนะ..
ถึงแม้ว่าเราจะพยายามกีดกันตัวเองออกจากความรักแค่ไหน..
แต่หัวใจก็แค่ก้อนเนื้อ...
"และสิ่งมีชีวิตรวมทั้งมนุษย์ทุกคนเกิดมาเพื่อมีคู่
เพื่อสืบพันธุ์ ดำรงเผ่าพันธุ์นั่นคือเรื่องจริง..."
เรามีความรู้สึก... เราห้ามใจไม่ได้..
ถึงแม้สมองจะสั่งห้ามแค่ไหน....
เรามีแฟนมาแล้ว 5 คน..
ฟังดูอาจเยอะและคิดว่าเราเป็นผู้หญิงไม่ดี...
ไม่ใช่นะ...
เวลาที่เรามีแฟน..
แฟนเราทุกคนถามว่าเราเป็นโรคอะไร..
เราจะตอบเค้าไปว่าเราเป็นภูมิแพ้...
ทุกคนรักเราและไม่รังเกียจเรา..
แต่ยิ่งเราคบกับเค้านานเท่าไร..
ความดีของทุกๆคนมันทำให้เรารู้สึกแย่..
ยิ่งเค้าดูแลเราเรายิ่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวถ่วง..
อยากให้เค้าไปเจอคนที่ดีกว่า...
เราเลือกเดินออกจากชีวิตทุกคน..
ไม่ใช่เพราะเราไม่รัก..
แต่จริงๆ อีกด้านนึงเราก็กลัวถูกทิ้งเองมากกว่า..
จึงเลือกเดินออกมาเวลาคบใครแล้วถึงจุดที่ขาดเค้าไม่ได้..
เราจึงเลือกเดินออกมาก่อน ก่อนจะถูกทิ้ง...
เป็นแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า....
ทุกวันนี้มีแฟนคนนึงซึ่งเป็นรักแรกของเรา....
เราเคยคบกันเมื่อ 6 ปีก่อน..
คนนี้เป็นคนที่เราฝังใจมาก..
เป็นคนที่เรารักที่สุดใช่ที่สุด..
เป็นคนที่เพรียบพร้อม..บ้านมีฐานะ..
หน้าตาดี... ขับบิ๊กไบค์เท่ๆ..
เล่นดนตรี.. มาจีบเราเพราะเราเป็นดาวคณะ..
ตอนนั้นเค้าคงคิดว่าเราเพียบพร้อม..
เหมาะกับเค้าล่ะมั้ง..
เค้าก็ยังแวะมาทักทาย มีบางครั้งที่กลับมาในชีวิต...
เราทำงานสายเดียวกัน สถานที่ทำงานใกล้กัน..
ตอนนี้เค้าเจอคนที่ดีกว่าแล้ว..
เค้าคบกันมาแล้ว 5 ปี... และคงแต่งงานกันในไม่ช้า..
เวลาที่เราเจอเค้าทุกครั้ง...
ความรู้สึกเราบรรยายไม่ถูก..
เรายิ้มเหมือนมีความสุขมากเวลาอยู่ใกล้เค้า...
ให้เหมือนว่าเราลืมได้ ไม่เป็นอะไร...
สบายและแข็งแรงดี..
แต่ทุกครั้งเรากลับมาร้องไห้ตลอด...
เราก็เห็นเค้ามีความสุขดีกับคนใหม่นะ..
เห็นเค้าอยู่ด้วยกันแล้วดูมีความสุขมากเลย..
มากกว่าตอนอยู่กับเรา...
คนใหม่สวย หน้าตาน่ารัก..
ไม่มีโรคอะไรแบบเรา...
และคงจะดูแลเค้าได้ดีกว่า..
พอเห็นแล้วมองย้อนกลับมาดูตัวเอง..
บางทีจิตใต้สำนึกมันก็น้อยใจ..
โชคชะตาชีวิตตัวเอง...
แล้วก็คิด ทำไมต้องมาเจออีกฟระ..
เหมือนโชคชะตาเล่นตลก..
เจ็บสุด ฝังใจสุด...
แล้วก็ยังต้องมาเจอกันอีก...
วันดีคืนดีก็เห็นเค้าเดินควงกัน..
ตลกชีวิตมาก....
เราเป็นคนที่ดูภายนอกเฉยๆ เชิ่ด ๆ ไม่ค่อยแคร์ใคร..
ใครเห็นก็คงคิดว่าเข้มแข็งสบายดี..
แต่นั่นก็เป็นแค่เกราะที่เราสร้างขึ้นเพื่อปิดบังความอ่อนแอของเราเอง..
เราไม่อยากให้ใครมาสงสาร...
เราแค่อยากเหมือนคนธรรมดาๆคนอื่นๆ...
ไม่อยากให้ใครมองว่า เฮ้ย มันเป็นโรค สงสารมัน..
ตอนนี้เราไม่ได้คบกับใคร...
บางที่สิ่งนี้มันทำให้เราไม่กล้ารักใคร... เรากลัว..
เราไม่รู้ว่าวันไหนถ้าเราไม่มีกำลัง(เงิน)ที่จะรักษา
กับค่ายาที่แสนแพง...
โรคของเรามันจะกำเริบออกมานอกร่มผ้าวันไหน..
ยิ่งช่วงนี้อากาศหนาวๆ อากาศแห้งๆ ผิวเราแสบไปหมด..
เป็นผื่นขึ้นมาโดยไม่ต้องถามหาเลย...
ทรมานนะเวลาแสบผิว...
ยิ่งตอนนี้มันลามมาที่เล็บแล้ว...
เราไปทำงานก็ต้องทาเล็บทับ..
เพราะเด็กๆถามว่าครูนิ้วเป็นไรๆๆ..
เราไม่อยากตอบ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในรูปซูมนิ้วจะเหี่ยวๆ ไม่น่าดูหน่อยนะคะ
พอทาเล็บ เราก็เลือกสีที่มันนู้ดที่สุดแล้วนะ...
ยังไม่วายโดนเขม่นจากเพื่อนร่วมงาน..
บางโรงเรียนผอ.ไม่ให้ทาสีเล็บนะ ผอ. ไม่ชอบ อะไรประมาณนี้..
"นี่แหล่ะโลกความจริง.... มันไม่ได้สวยงามอย่างที่มโนไว้"
เราน้อยใจในโชคชะตานะบางทีในใจลึกๆของเรา...
โลกมันมีหลายมาตรฐานเสมอ...
ไม่เค้าก็ตัวเราเอง ตั้งมารตฐานให้ตัวเอง..
ทุกวันนี้เราทำได้แค่ ถวายสังฆทานยา ทุกครั้งเมื่อมีโอกาส...
เวลาเราเห็นข่าวเด็กดักแด้หรือข่าวเด็กที่เป็นโรคผิวหนัง..
เราไม่รีรอที่จะช่วยเหลือแม้บางครั้งเป็นเงินน้อยนิด...
เราอยากหายจากโรคนี้นะ..
แต่เราก็คงได้แค่ฝัน...
เราตั้งกระทู้นี้เราแค่อยากระบาย.....
จริงๆ เราก็อยากให้คุณหมอเก่ง ๆ สักคนผ่านมาอ่าน...
แล้วช่วยบอกเราทีว่ามันรักษาได้แล้ว....
เราจะได้ไปลองใช้ชีวิตที่ไม่ต้องอยู่กับความกังวล..
ความกลัวบ้าง...
แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ.....
มันรักษาไม่ได้นี่นา........
เราเป็นโรคสะเก็ดเงิน!!
ชีวิตเราอยู่กับการทายาและกินยาตลอด...
บางครั้งเราก็ท้อ....
เวลามีมรสุมชีวิตและภูมิต้านทานความเจ็บปวดเราถูกเรื่องแย่ๆทำร้าย...
หลายครั้งเราจิตตก มักจะเอาเรื่องพวกนั้นมารวมกับปมด้อยนี้ เราอยากหายไป..
หมอบอกว่าโรคนี้ไม่มีทางรักษาหาย...
มันเป็นกรรมพันธ์ที่จะอยู่กับเราจนตาย..
ทำได้แค่เพียงรักษาตัวเองให้ดีที่สุดเพียงเท่านั้น...
เราพยายามมองโลกในแง่บวก...
และเราคิดว่าเราโชคดี.. กว่าใครหลายๆคน..
เรายังมองเห็น... มีแขนขาครบ...
ขอเล่าย้อนไปสมัยปี 1 เราถูกเลือกให้เป็นดาวคณะ...
แถมยังจะให้เราเป็นเชียร์หลีดเดอร์ของคณะอีก..
นั่นเป็นสิ่งที่เรากังวลมาก เราแต่งตัวโป๊ไม่ได้..
เราก็บอกรุ่นพี่ว่าหนูแต่งตัวโป๊ไม่ได้นะพี่..
หนูเป็นภูมิแพ้.. แต่ใครจะล่ะจะมองเราแง่ดี..
เราถูกหาว่าเรื่องมาก... เรื่องเยอะ...
สุดท้ายเราก็ไม่ได้เป็นหลีด..
เพราะเค้าบอกเราเรื่องเยอะ...
เราอยากอธิบายมาก...
รุ่นพี่ไม่ค่อยชอบเรา..เค้าบอกเราเรื่องมาก..
เวลาให้เดินขบวนงานอะไรที่ต้องใส่ชุดไทยเกาะอก เราจะปฏิเสธ..
เราอยากจะบอกว่าหนูใส่ชุดโป๊ไม่ได้จริงๆ..
เวลามีคนมาจีบเรา..
เราก็ไม่ค่อยกล้าคบกับคนที่เราชอบมากๆ
เรากลัวเค้ารังเกียจและรับเราไม่ได้แล้วจะหายไปจากชีวิตเรา..
เพราะนี่คือโลกความจริง ไม่ใช่นิยายเกาหลีที่พระเอก
รับนางเอกได้แม้เป็นโรคร้ายใกล้ตาย..
เรารู้สึกว่าเก็บคนที่เราชอบมากๆไว้ในชีวิตดีกว่า เป็นเพื่อน พี่น้อง ก็ยังดี..
"นี่โลกความจริง" โลกที่มีประชากรหญิงเยอะกว่าชาย มีคนสวย หุ่นดี
และเพรียบพร้อมกว่าเราให้เลือกอีกมาก...
แต่เราก็เคยมีแฟนนะ..
ถึงแม้ว่าเราจะพยายามกีดกันตัวเองออกจากความรักแค่ไหน..
แต่หัวใจก็แค่ก้อนเนื้อ...
"และสิ่งมีชีวิตรวมทั้งมนุษย์ทุกคนเกิดมาเพื่อมีคู่
เพื่อสืบพันธุ์ ดำรงเผ่าพันธุ์นั่นคือเรื่องจริง..."
เรามีความรู้สึก... เราห้ามใจไม่ได้..
ถึงแม้สมองจะสั่งห้ามแค่ไหน....
เรามีแฟนมาแล้ว 5 คน..
ฟังดูอาจเยอะและคิดว่าเราเป็นผู้หญิงไม่ดี...
ไม่ใช่นะ...
เวลาที่เรามีแฟน..
แฟนเราทุกคนถามว่าเราเป็นโรคอะไร..
เราจะตอบเค้าไปว่าเราเป็นภูมิแพ้...
ทุกคนรักเราและไม่รังเกียจเรา..
แต่ยิ่งเราคบกับเค้านานเท่าไร..
ความดีของทุกๆคนมันทำให้เรารู้สึกแย่..
ยิ่งเค้าดูแลเราเรายิ่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวถ่วง..
อยากให้เค้าไปเจอคนที่ดีกว่า...
เราเลือกเดินออกจากชีวิตทุกคน..
ไม่ใช่เพราะเราไม่รัก..
แต่จริงๆ อีกด้านนึงเราก็กลัวถูกทิ้งเองมากกว่า..
จึงเลือกเดินออกมาเวลาคบใครแล้วถึงจุดที่ขาดเค้าไม่ได้..
เราจึงเลือกเดินออกมาก่อน ก่อนจะถูกทิ้ง...
เป็นแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า....
ทุกวันนี้มีแฟนคนนึงซึ่งเป็นรักแรกของเรา....
เราเคยคบกันเมื่อ 6 ปีก่อน..
คนนี้เป็นคนที่เราฝังใจมาก..
เป็นคนที่เรารักที่สุดใช่ที่สุด..
เป็นคนที่เพรียบพร้อม..บ้านมีฐานะ..
หน้าตาดี... ขับบิ๊กไบค์เท่ๆ..
เล่นดนตรี.. มาจีบเราเพราะเราเป็นดาวคณะ..
ตอนนั้นเค้าคงคิดว่าเราเพียบพร้อม..
เหมาะกับเค้าล่ะมั้ง..
เค้าก็ยังแวะมาทักทาย มีบางครั้งที่กลับมาในชีวิต...
เราทำงานสายเดียวกัน สถานที่ทำงานใกล้กัน..
ตอนนี้เค้าเจอคนที่ดีกว่าแล้ว..
เค้าคบกันมาแล้ว 5 ปี... และคงแต่งงานกันในไม่ช้า..
เวลาที่เราเจอเค้าทุกครั้ง...
ความรู้สึกเราบรรยายไม่ถูก..
เรายิ้มเหมือนมีความสุขมากเวลาอยู่ใกล้เค้า...
ให้เหมือนว่าเราลืมได้ ไม่เป็นอะไร...
สบายและแข็งแรงดี..
แต่ทุกครั้งเรากลับมาร้องไห้ตลอด...
เราก็เห็นเค้ามีความสุขดีกับคนใหม่นะ..
เห็นเค้าอยู่ด้วยกันแล้วดูมีความสุขมากเลย..
มากกว่าตอนอยู่กับเรา...
คนใหม่สวย หน้าตาน่ารัก..
ไม่มีโรคอะไรแบบเรา...
และคงจะดูแลเค้าได้ดีกว่า..
พอเห็นแล้วมองย้อนกลับมาดูตัวเอง..
บางทีจิตใต้สำนึกมันก็น้อยใจ..
โชคชะตาชีวิตตัวเอง...
แล้วก็คิด ทำไมต้องมาเจออีกฟระ..
เหมือนโชคชะตาเล่นตลก..
เจ็บสุด ฝังใจสุด...
แล้วก็ยังต้องมาเจอกันอีก...
วันดีคืนดีก็เห็นเค้าเดินควงกัน..
ตลกชีวิตมาก....
เราเป็นคนที่ดูภายนอกเฉยๆ เชิ่ด ๆ ไม่ค่อยแคร์ใคร..
ใครเห็นก็คงคิดว่าเข้มแข็งสบายดี..
แต่นั่นก็เป็นแค่เกราะที่เราสร้างขึ้นเพื่อปิดบังความอ่อนแอของเราเอง..
เราไม่อยากให้ใครมาสงสาร...
เราแค่อยากเหมือนคนธรรมดาๆคนอื่นๆ...
ไม่อยากให้ใครมองว่า เฮ้ย มันเป็นโรค สงสารมัน..
ตอนนี้เราไม่ได้คบกับใคร...
บางที่สิ่งนี้มันทำให้เราไม่กล้ารักใคร... เรากลัว..
เราไม่รู้ว่าวันไหนถ้าเราไม่มีกำลัง(เงิน)ที่จะรักษา
กับค่ายาที่แสนแพง...
โรคของเรามันจะกำเริบออกมานอกร่มผ้าวันไหน..
ยิ่งช่วงนี้อากาศหนาวๆ อากาศแห้งๆ ผิวเราแสบไปหมด..
เป็นผื่นขึ้นมาโดยไม่ต้องถามหาเลย...
ทรมานนะเวลาแสบผิว...
ยิ่งตอนนี้มันลามมาที่เล็บแล้ว...
เราไปทำงานก็ต้องทาเล็บทับ..
เพราะเด็กๆถามว่าครูนิ้วเป็นไรๆๆ..
เราไม่อยากตอบ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอทาเล็บ เราก็เลือกสีที่มันนู้ดที่สุดแล้วนะ...
ยังไม่วายโดนเขม่นจากเพื่อนร่วมงาน..
บางโรงเรียนผอ.ไม่ให้ทาสีเล็บนะ ผอ. ไม่ชอบ อะไรประมาณนี้..
"นี่แหล่ะโลกความจริง.... มันไม่ได้สวยงามอย่างที่มโนไว้"
เราน้อยใจในโชคชะตานะบางทีในใจลึกๆของเรา...
โลกมันมีหลายมาตรฐานเสมอ...
ไม่เค้าก็ตัวเราเอง ตั้งมารตฐานให้ตัวเอง..
ทุกวันนี้เราทำได้แค่ ถวายสังฆทานยา ทุกครั้งเมื่อมีโอกาส...
เวลาเราเห็นข่าวเด็กดักแด้หรือข่าวเด็กที่เป็นโรคผิวหนัง..
เราไม่รีรอที่จะช่วยเหลือแม้บางครั้งเป็นเงินน้อยนิด...
เราอยากหายจากโรคนี้นะ..
แต่เราก็คงได้แค่ฝัน...
เราตั้งกระทู้นี้เราแค่อยากระบาย.....
จริงๆ เราก็อยากให้คุณหมอเก่ง ๆ สักคนผ่านมาอ่าน...
แล้วช่วยบอกเราทีว่ามันรักษาได้แล้ว....
เราจะได้ไปลองใช้ชีวิตที่ไม่ต้องอยู่กับความกังวล..
ความกลัวบ้าง...
แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ.....
มันรักษาไม่ได้นี่นา........