“ชาวนาจำนำชีวิต-ประเทศจำนำหนี้”
“นี่คือความเศร้าสลดใจของชาวนาไทย มีหลายรายไม่อาจทนรอเงินจากรัฐบาล จึงได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายเพื่อลาโลกนี้ไป ถือเป็นความเศร้าสลดใจอันสุดแสนทนทานได้ของพี่น้องร่วมชาติ แม้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจและจ่ายเงินให้ชาวนาแล้ว แต่ความทุกข์ของพวกเขาก็ยังไม่จบ ผลของโครงการรับจำนำข้าว ยังติดตามเหมือนภาพมายาหลอกหลอนชาวนาต่อไป เพราะข้าวที่รับจำนำ ยังอยู่ในโกดัง 17 ล้านตัน จึงเป็นภาระของรัฐบาลปัจจุบัน ที่ต้องกระ
กระสนระบายข้าวทั้งหมดนำมาใช้ภาระขาดทุน ที่ต้องใช้เวลาหลายปี และส่งผลกระทบกดดันราคาข้าวในฤดูกาลผลิตต่อไป และทำให้ราคาข้าวต่ำอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ความทุกข์ยากของชาวนาแสนสาหัสขนาดนี้ ยังไม่มีผู้ใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ รวมทั้งผู้ถูกกล่าวหา ยังไม่ขออภัยชาวนาแต่อย่างใด คงกล่าวแต่เพียงว่าโครงการนี้เป็นที่ชื่นชอบของชาวนา กระผมจึงอาจกล่าวได้ว่า โครงการรับจำนำข้าว สรุปเป็นคำสั้นๆ ว่า รัฐบาลผู้ถูกกล่าวหาจำนำข้าว ชาวนาจำนำชีวิต และประเทศจำนำหนี้” นายวิชากล่าว
นายวิชากล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ขอยืนยันข้อเท็จจริงดังกล่าว ผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบตลอดมาว่า โครงการทุกขั้นตอนได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากมาย จนกระทบต่อระบบการเงิน การคลังของประเทศ และชีวิตของชาวนาอย่างกว้างขวาง แสดงให้เห็นว่าหากดำเนินโครงการต่อไปจะส่งผลร้ายยิ่งขึ้นกับประเทศ ตาม พ.ร.บ. บริหารราชการแผ่นดิน ปี 2534 มาตรา 11 ที่ต้องให้บริหารเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและบ้านเมือง ตนขอถามทุกท่านโดยเฉพาะ สนช. ว่าโครงการนี้คุ้มค่าและมีประสิทธิ์ภาพตรงไหน หลังมีการแจ้งเตือนในหลายโอกาสดังที่กล่าวมา แต่ท่านเป็นนายกฯ ที่ต้องยับยั้งความเสียหายได้ แต่ผู้ถูกกล่าวหากลับยืนยันดำเนินโครงการต่อไป จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศอย่างใหญ่หลวงเพิ่มขึ้นๆ ทุกขณะ ป.ป.ช. จึงเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหามีมูลความผิด ฐานจงใจละเว้นไม่ใช้อำนาจหน้าที่ ในฐานะนายกฯ ผู้มีอำนาจสูงสุดในการบริหารราชการแผ่นดิน
“เมื่อความปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำความผิดทั้งต่อตำแหน่งหน้าที่ ต่อการเงินการคลังของประเทศ และชีวิตชาวนาที่ต้องตายไป ซึ่งเป็นหลักการที่เราต้องดำเนินจารึกไว้ในแผ่นดินนี้ เรื่องของคุณธรรม จริยธรรมเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการบริหารราชการแผ่นดิน มีคำกล่าวว่า “บุคคลที่ขาดสติปัญญาหรือไม่มีสติปัญญา แต่หากเขามีคุณธรรมและจริยธรรมที่พอจะชดเชยและเยียวยา ทำให้เห็นว่าเป็นคนดี พอที่จะอยู่และทำประโยชน์ให้แก่แผ่นดินนี้ได้ แต่สำหรับบุคคลที่มีสติปัญญาและความเฉลียวฉลาด มีความรอบรู้ แต่ขาดคุณธรรม จริยธรรม นั้นก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดความเสื่อมทรามในการปกครองบ้านเมือง อย่างไม่อาจเห็นได้ทั้งชาตินี้และชาติหน้า จึงไม่อาจปล่อยไว้ได้” นายวิชากล่าว
นายวิชากล่าวปิดท้ายว่า กระบวนการถอดถอนเป็นจุดเริ่มต้นที่ปักธงให้เห็นว่าผู้ใดก็ตามที่จะมารับผิดชอบ ในฐานะผู้นำสูงสุดของแผ่นดิน โดยเฉพาะตำแหน่งนายกฯ ที่จะต้องมีคุณธรรมและจริยธรรมสูงสุดยิ่งกว่าบุคคลอื่นทั้งหมด เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้ผู้อื่นประพฤติปฏิบัติตาม เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูกหลานของเราเพื่อให้ดำรงตนอยู่ในจริยธรรมและคุณธรรมต่อไป แต่อย่างไรก็ดี การจะให้ใครเป็นคนดีได้นั้น เป็นเรื่องที่น่าคิดว่าเราไม่อาจให้ทุกคนเป็นคนดีได้
“ดังที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ให้พระบรมราโชวาทตรัสว่า ในบ้านเมืองนั้นมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุข เรียบร้อยจึงมิใช้การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมความดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ กระผมขอคารวะทุกท่านที่อยู่เบื้องหน้าของกระผมว่าจะร่วมกันทำประวัติศาสตร์ในการถอดถอนครั้งนี้ให้ปรากฏผลเป็นจริง”
นายวิชา มหาคุณ ปลุกสำนึก สนช. ตามรอยพระบรมราโชวาท
“นี่คือความเศร้าสลดใจของชาวนาไทย มีหลายรายไม่อาจทนรอเงินจากรัฐบาล จึงได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายเพื่อลาโลกนี้ไป ถือเป็นความเศร้าสลดใจอันสุดแสนทนทานได้ของพี่น้องร่วมชาติ แม้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจและจ่ายเงินให้ชาวนาแล้ว แต่ความทุกข์ของพวกเขาก็ยังไม่จบ ผลของโครงการรับจำนำข้าว ยังติดตามเหมือนภาพมายาหลอกหลอนชาวนาต่อไป เพราะข้าวที่รับจำนำ ยังอยู่ในโกดัง 17 ล้านตัน จึงเป็นภาระของรัฐบาลปัจจุบัน ที่ต้องกระกระสนระบายข้าวทั้งหมดนำมาใช้ภาระขาดทุน ที่ต้องใช้เวลาหลายปี และส่งผลกระทบกดดันราคาข้าวในฤดูกาลผลิตต่อไป และทำให้ราคาข้าวต่ำอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ความทุกข์ยากของชาวนาแสนสาหัสขนาดนี้ ยังไม่มีผู้ใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ รวมทั้งผู้ถูกกล่าวหา ยังไม่ขออภัยชาวนาแต่อย่างใด คงกล่าวแต่เพียงว่าโครงการนี้เป็นที่ชื่นชอบของชาวนา กระผมจึงอาจกล่าวได้ว่า โครงการรับจำนำข้าว สรุปเป็นคำสั้นๆ ว่า รัฐบาลผู้ถูกกล่าวหาจำนำข้าว ชาวนาจำนำชีวิต และประเทศจำนำหนี้” นายวิชากล่าว
นายวิชากล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ขอยืนยันข้อเท็จจริงดังกล่าว ผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบตลอดมาว่า โครงการทุกขั้นตอนได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากมาย จนกระทบต่อระบบการเงิน การคลังของประเทศ และชีวิตของชาวนาอย่างกว้างขวาง แสดงให้เห็นว่าหากดำเนินโครงการต่อไปจะส่งผลร้ายยิ่งขึ้นกับประเทศ ตาม พ.ร.บ. บริหารราชการแผ่นดิน ปี 2534 มาตรา 11 ที่ต้องให้บริหารเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและบ้านเมือง ตนขอถามทุกท่านโดยเฉพาะ สนช. ว่าโครงการนี้คุ้มค่าและมีประสิทธิ์ภาพตรงไหน หลังมีการแจ้งเตือนในหลายโอกาสดังที่กล่าวมา แต่ท่านเป็นนายกฯ ที่ต้องยับยั้งความเสียหายได้ แต่ผู้ถูกกล่าวหากลับยืนยันดำเนินโครงการต่อไป จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศอย่างใหญ่หลวงเพิ่มขึ้นๆ ทุกขณะ ป.ป.ช. จึงเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหามีมูลความผิด ฐานจงใจละเว้นไม่ใช้อำนาจหน้าที่ ในฐานะนายกฯ ผู้มีอำนาจสูงสุดในการบริหารราชการแผ่นดิน
“เมื่อความปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำความผิดทั้งต่อตำแหน่งหน้าที่ ต่อการเงินการคลังของประเทศ และชีวิตชาวนาที่ต้องตายไป ซึ่งเป็นหลักการที่เราต้องดำเนินจารึกไว้ในแผ่นดินนี้ เรื่องของคุณธรรม จริยธรรมเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการบริหารราชการแผ่นดิน มีคำกล่าวว่า “บุคคลที่ขาดสติปัญญาหรือไม่มีสติปัญญา แต่หากเขามีคุณธรรมและจริยธรรมที่พอจะชดเชยและเยียวยา ทำให้เห็นว่าเป็นคนดี พอที่จะอยู่และทำประโยชน์ให้แก่แผ่นดินนี้ได้ แต่สำหรับบุคคลที่มีสติปัญญาและความเฉลียวฉลาด มีความรอบรู้ แต่ขาดคุณธรรม จริยธรรม นั้นก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดความเสื่อมทรามในการปกครองบ้านเมือง อย่างไม่อาจเห็นได้ทั้งชาตินี้และชาติหน้า จึงไม่อาจปล่อยไว้ได้” นายวิชากล่าว
นายวิชากล่าวปิดท้ายว่า กระบวนการถอดถอนเป็นจุดเริ่มต้นที่ปักธงให้เห็นว่าผู้ใดก็ตามที่จะมารับผิดชอบ ในฐานะผู้นำสูงสุดของแผ่นดิน โดยเฉพาะตำแหน่งนายกฯ ที่จะต้องมีคุณธรรมและจริยธรรมสูงสุดยิ่งกว่าบุคคลอื่นทั้งหมด เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้ผู้อื่นประพฤติปฏิบัติตาม เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูกหลานของเราเพื่อให้ดำรงตนอยู่ในจริยธรรมและคุณธรรมต่อไป แต่อย่างไรก็ดี การจะให้ใครเป็นคนดีได้นั้น เป็นเรื่องที่น่าคิดว่าเราไม่อาจให้ทุกคนเป็นคนดีได้
“ดังที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ให้พระบรมราโชวาทตรัสว่า ในบ้านเมืองนั้นมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุข เรียบร้อยจึงมิใช้การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมความดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ กระผมขอคารวะทุกท่านที่อยู่เบื้องหน้าของกระผมว่าจะร่วมกันทำประวัติศาสตร์ในการถอดถอนครั้งนี้ให้ปรากฏผลเป็นจริง”