สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิพย์ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา เราเสียความรู้สึกมาก จึงจำเป็นต้องเขียนให้เพื่อนๆได้อ่านกัน
เมื่อวันที่ 2 มกราคม 58 ที่ผ่าน ซึ่งเป็นช่วงปีใหม่ เราได้มีการรวมญาติๆไปเที่ยวเชียงคานกัน ญาติมาจาก ขอนแก่น ชัยภูมิ และนนทบุรี
ซึ่งเราได้จองที่พักแบบเหมาหลัง ที่ "บ้านแว่นทิพย์ เชียงคาน" ได้โทรไปติดต่อจองกับคุณป้าเจ้าของบ้านตั้งแต่เดือน พย 57 ( ก่อนหน้านี้ได้โทรไปถามบ้านหลังอื่น ซึ่งส่วนใหญ่จะเต็มเนื่องจากเป็นช่วงปีใหม่ ) และได้โอนค่ามัดจำที่พัก 2,000 บาท เมื่อวันที่ 3 ธค 57 คุณป้าได้ถามว่ามากันกี่คน ตอนนั้นเราไม่สามารถบอกแกได้ เพราะยังไม่รู้จำนวนที่แน่นอน บอกแกว่าประมาณ 10 กว่าคน เอาแบบเหมาหลัง แกก็โอเคว่า "ว่าง" บอกว่าบ้านแกอยู่ได้เป็น 20 คนเลย โดนคิด 3,500 ต่อ 10 คน ส่วนเกินคิดเพิ่มคนละ 200 เราก็โอเคตามนั้น
เมื่อถึงวัน ญาติทั้งหมดรวม 19 คน ช่วงเย็นวันที่ 2 มค 58 พอถึง "บ้านแว่นทิพย์ เชียงคาน" ปรากฏว่ามีคนอื่นเข้าไปพักเต็มแล้วชั้นบน (บ้านแว่นทิพย์เป้นบ้าน 2 ชั้น) ทางเรา งงมาก??????? ทั้งๆที่เช่าเหมาหลัง เข้าไปถึงได้เจอกับลูกสาวและลูกชายคุณป้า เมื่อสอบถามกลับไม่รู้ไม่เห็น บอกต้องถามกับคุณป้าว่าตกลงกันว่ายังไง
ผู้ใหญ่ทางเราเริ่มอารมณ์ไม่ดี เนื่องจากไม่เป็นไปตามที่จอง ทางลูกทั้ง 2 โทรไปถามแม่เขาว่าคุยตกลงกันว่ายังไง (โทรหาคุณป้า) จากนั้นลูกก็ขอโทษทางเรา แล้วบอกว่าจะรีบจัดห้องที่เหลือให้ทันที (เหลือห้องชั้นล่าง 3 ห้อง) ถ้านอนอัดๆกันก็น่าจะได้ พวกเราก็โอเคตามนั้นก็ได้ เพราะตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะไปพักที่ไหนแล้ว ตั้งใจมาเที่ยวเชียงคาน
ในระหว่างเจรจา คุณป้าได้เดินมาที่บ้าน พร้อมทั้งโวยวายเสียงดังเข้ามาในบ้าน จากคุณป้า กลายเป็น "มนุษย์ป้า" ขึ้นมาทันทีพร้อมกับด่าพวกเราหลายคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเป็น 10 คน:ซึ่งมีทั้งพ่อแม่ พี่ป้าน้าอาเรา ว่าพวกเราเป็นคน "ตลบตะแลง" ไหนว่ามา 11 คน ป้ามีหลักฐานว่าโอนมา 1,500
ป้าบอกว่าแกจองเหมาชั้นล่างให้เรา พอเห็นคนเยอะ บอกอีกว่าจะเก็บเพิ่มอีกคนละ 300
ทางเราทุกคนเริ่มอารมณ์ไม่ดีอีกครั้ง (ซึ่งตอนแรกโอเคไปแล้ว) มนุษย์ป้าท่านนี้มั่วสุดๆๆๆๆๆๆ เราโชว์หลักฐานว่าเรามัดจำ 2,000 เราบอกว่าทุกครั้งที่คุยกัน ว่าเราเหมาทั้งหลัง ไม่เคยพูดว่า เหมาทั้งชั้น และไม่เคยพูดว่ามา 11 คน เราพยายามอธิบาย แต่มนุษย์ป้าก็ไม่เว้นสักนาทีที่จะฟังเรา ลูกทั้ง 2 ก็พยายามห้ามและบอกแม่ของตัวเองว่า ให้หยุดฟังเราอธิบาย แต่แกก็ยังไม่มีที่ท่าว่าจะหยุด
ญาติทางนนทบุรี จึงเดินมาบอกเราว่า เขาไม่พักแล้ว เขาจะกลับนนทบุรีตอนนี้ เรารู้สึกแย่มากที่พาพวกเขามาเที่ยวเชียงคานครั้งแรก แล้วเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ซึ่งญาติอุตส่าห์ขับรถจากนนทบุรี มา ขอนแก่น เป็นเวลา 12 ชั่วโมง แล้วก็เสียเวลาเดินทางต่อมาที่เชียงคานอีก แต่กลับมีปัญหา
ดังนั้นเมื่อเจ้าของบ้านเป็นแบบนี้ พูดไม่ตรง แถมยังมาต่อว่าลูกค้าอีก พวกเราจึงสรุปว่า งั้นไม่พักแล้ว ขอค่ามัดจำคืน แกเปิดสมุดบัญชี มีเงินเราโอนไป 2000 จิงเมื่อวันที่ 3 ธค 57 (ไม่ใช่ 1,500 ที่แกบอก ) แกจึงยอมคืนให้ แต่กระนั้นก็ยังไม่หยุดโวยวาย พวกเราเดินออกจากบ้านแก แต่แกก็เดินตามไปหน้าบ้านพร้อมโวยวายให้ข้างบ้านฟังต่อ
เราจึงต้องหาที่พักใหม่ ซึ่งยากมากที่จะมีที่พักว่างในเชียงคานช่วงเทศกาลปีใหม่ สรุปแล้ว เราได้ขอไปพักบ้านเพื่อนพ่อเราที่อยู่ในตัวเมืองเลย ส่วนญาติที่มาจากนนทบุรี ตีรถกลับ นนทบุรีคืนนั้นทันที เรารู้สึกแย่ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดเรา เราอุตส่าห์ชวนเขามาเที่ยวตั้งไกล ขับรถมาหลายชั่วโมง เราคิดว่ามนุษย์ป้า คงจะอยากได้เงิน กอบโกย ในช่วงเทศกาลให้ได้มากที่สุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการไม่มีจรรยาบรรณ ทั้งๆที่เราโทรมา คอนเฟิร์มล่วงหน้าแกก่อนเดินทางไว้แล้วด้วย
เราจึงอยากให้เรื่องนี้เป้นอุทธาหรณ์ประสบการณ์แก่นักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวเชียงคาน และผู้ประกอบธุรกิจ ว่าควรมีจรรยาบรรณ และการใช้คำพูดที่ดีต่อลูกค้าที่มาใช้บริการ ถ้าพูดดีขอโทษพวกเราไม่มีปัญหาอยู่แล้วดังลูกทั้ง 2 คนตอนต้น เราก็ให้อภัยเพราะอาจจะมีผิดพลาดช่วงเทศกาลก็โอเครับได้
แต่มนุษย์ป้ากลับมา พูดไม่ตรงกับที่ตกลงกันไว้ บอกจะเก็บเงินเพิ่มอีก และมาต่อว่าโดยใช้คำพูดไม่ดี ว่าพวกเรา "ตลบตะแลง" อันนี้รับไม่ได้จริงๆ ค่ะ
สุดท้ายเราอยากฝากว่า ผู้ที่ทำธุรกิจบริการ ควรจะมีการบริหารจัดการที่แน่นอน ตรงไปตรงมา และใช้คำพูดที่ดีและสุภาพกับลูกค้า จึงจะทำให้ธุรกิจนั้นเป็นเชื่อถือ และอยากจะกลับมาใช้บริการอีกครั้ง
[CR] เสียความรู้สึกกับ มนุษย์ป้าเจ้าของ บ้านแว่นทิพย์ เชียงคาน อยากแชร์ให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้ทำธุรกิจที่พัก ได้ทราบ
เมื่อวันที่ 2 มกราคม 58 ที่ผ่าน ซึ่งเป็นช่วงปีใหม่ เราได้มีการรวมญาติๆไปเที่ยวเชียงคานกัน ญาติมาจาก ขอนแก่น ชัยภูมิ และนนทบุรี
ซึ่งเราได้จองที่พักแบบเหมาหลัง ที่ "บ้านแว่นทิพย์ เชียงคาน" ได้โทรไปติดต่อจองกับคุณป้าเจ้าของบ้านตั้งแต่เดือน พย 57 ( ก่อนหน้านี้ได้โทรไปถามบ้านหลังอื่น ซึ่งส่วนใหญ่จะเต็มเนื่องจากเป็นช่วงปีใหม่ ) และได้โอนค่ามัดจำที่พัก 2,000 บาท เมื่อวันที่ 3 ธค 57 คุณป้าได้ถามว่ามากันกี่คน ตอนนั้นเราไม่สามารถบอกแกได้ เพราะยังไม่รู้จำนวนที่แน่นอน บอกแกว่าประมาณ 10 กว่าคน เอาแบบเหมาหลัง แกก็โอเคว่า "ว่าง" บอกว่าบ้านแกอยู่ได้เป็น 20 คนเลย โดนคิด 3,500 ต่อ 10 คน ส่วนเกินคิดเพิ่มคนละ 200 เราก็โอเคตามนั้น
เมื่อถึงวัน ญาติทั้งหมดรวม 19 คน ช่วงเย็นวันที่ 2 มค 58 พอถึง "บ้านแว่นทิพย์ เชียงคาน" ปรากฏว่ามีคนอื่นเข้าไปพักเต็มแล้วชั้นบน (บ้านแว่นทิพย์เป้นบ้าน 2 ชั้น) ทางเรา งงมาก??????? ทั้งๆที่เช่าเหมาหลัง เข้าไปถึงได้เจอกับลูกสาวและลูกชายคุณป้า เมื่อสอบถามกลับไม่รู้ไม่เห็น บอกต้องถามกับคุณป้าว่าตกลงกันว่ายังไง
ผู้ใหญ่ทางเราเริ่มอารมณ์ไม่ดี เนื่องจากไม่เป็นไปตามที่จอง ทางลูกทั้ง 2 โทรไปถามแม่เขาว่าคุยตกลงกันว่ายังไง (โทรหาคุณป้า) จากนั้นลูกก็ขอโทษทางเรา แล้วบอกว่าจะรีบจัดห้องที่เหลือให้ทันที (เหลือห้องชั้นล่าง 3 ห้อง) ถ้านอนอัดๆกันก็น่าจะได้ พวกเราก็โอเคตามนั้นก็ได้ เพราะตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะไปพักที่ไหนแล้ว ตั้งใจมาเที่ยวเชียงคาน
ในระหว่างเจรจา คุณป้าได้เดินมาที่บ้าน พร้อมทั้งโวยวายเสียงดังเข้ามาในบ้าน จากคุณป้า กลายเป็น "มนุษย์ป้า" ขึ้นมาทันทีพร้อมกับด่าพวกเราหลายคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเป็น 10 คน:ซึ่งมีทั้งพ่อแม่ พี่ป้าน้าอาเรา ว่าพวกเราเป็นคน "ตลบตะแลง" ไหนว่ามา 11 คน ป้ามีหลักฐานว่าโอนมา 1,500
ป้าบอกว่าแกจองเหมาชั้นล่างให้เรา พอเห็นคนเยอะ บอกอีกว่าจะเก็บเพิ่มอีกคนละ 300
ทางเราทุกคนเริ่มอารมณ์ไม่ดีอีกครั้ง (ซึ่งตอนแรกโอเคไปแล้ว) มนุษย์ป้าท่านนี้มั่วสุดๆๆๆๆๆๆ เราโชว์หลักฐานว่าเรามัดจำ 2,000 เราบอกว่าทุกครั้งที่คุยกัน ว่าเราเหมาทั้งหลัง ไม่เคยพูดว่า เหมาทั้งชั้น และไม่เคยพูดว่ามา 11 คน เราพยายามอธิบาย แต่มนุษย์ป้าก็ไม่เว้นสักนาทีที่จะฟังเรา ลูกทั้ง 2 ก็พยายามห้ามและบอกแม่ของตัวเองว่า ให้หยุดฟังเราอธิบาย แต่แกก็ยังไม่มีที่ท่าว่าจะหยุด
ญาติทางนนทบุรี จึงเดินมาบอกเราว่า เขาไม่พักแล้ว เขาจะกลับนนทบุรีตอนนี้ เรารู้สึกแย่มากที่พาพวกเขามาเที่ยวเชียงคานครั้งแรก แล้วเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ซึ่งญาติอุตส่าห์ขับรถจากนนทบุรี มา ขอนแก่น เป็นเวลา 12 ชั่วโมง แล้วก็เสียเวลาเดินทางต่อมาที่เชียงคานอีก แต่กลับมีปัญหา
ดังนั้นเมื่อเจ้าของบ้านเป็นแบบนี้ พูดไม่ตรง แถมยังมาต่อว่าลูกค้าอีก พวกเราจึงสรุปว่า งั้นไม่พักแล้ว ขอค่ามัดจำคืน แกเปิดสมุดบัญชี มีเงินเราโอนไป 2000 จิงเมื่อวันที่ 3 ธค 57 (ไม่ใช่ 1,500 ที่แกบอก ) แกจึงยอมคืนให้ แต่กระนั้นก็ยังไม่หยุดโวยวาย พวกเราเดินออกจากบ้านแก แต่แกก็เดินตามไปหน้าบ้านพร้อมโวยวายให้ข้างบ้านฟังต่อ
เราจึงต้องหาที่พักใหม่ ซึ่งยากมากที่จะมีที่พักว่างในเชียงคานช่วงเทศกาลปีใหม่ สรุปแล้ว เราได้ขอไปพักบ้านเพื่อนพ่อเราที่อยู่ในตัวเมืองเลย ส่วนญาติที่มาจากนนทบุรี ตีรถกลับ นนทบุรีคืนนั้นทันที เรารู้สึกแย่ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดเรา เราอุตส่าห์ชวนเขามาเที่ยวตั้งไกล ขับรถมาหลายชั่วโมง เราคิดว่ามนุษย์ป้า คงจะอยากได้เงิน กอบโกย ในช่วงเทศกาลให้ได้มากที่สุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการไม่มีจรรยาบรรณ ทั้งๆที่เราโทรมา คอนเฟิร์มล่วงหน้าแกก่อนเดินทางไว้แล้วด้วย
เราจึงอยากให้เรื่องนี้เป้นอุทธาหรณ์ประสบการณ์แก่นักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวเชียงคาน และผู้ประกอบธุรกิจ ว่าควรมีจรรยาบรรณ และการใช้คำพูดที่ดีต่อลูกค้าที่มาใช้บริการ ถ้าพูดดีขอโทษพวกเราไม่มีปัญหาอยู่แล้วดังลูกทั้ง 2 คนตอนต้น เราก็ให้อภัยเพราะอาจจะมีผิดพลาดช่วงเทศกาลก็โอเครับได้
แต่มนุษย์ป้ากลับมา พูดไม่ตรงกับที่ตกลงกันไว้ บอกจะเก็บเงินเพิ่มอีก และมาต่อว่าโดยใช้คำพูดไม่ดี ว่าพวกเรา "ตลบตะแลง" อันนี้รับไม่ได้จริงๆ ค่ะ
สุดท้ายเราอยากฝากว่า ผู้ที่ทำธุรกิจบริการ ควรจะมีการบริหารจัดการที่แน่นอน ตรงไปตรงมา และใช้คำพูดที่ดีและสุภาพกับลูกค้า จึงจะทำให้ธุรกิจนั้นเป็นเชื่อถือ และอยากจะกลับมาใช้บริการอีกครั้ง
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น