แชร์ประสบการณ์ดูแล “ป้าข้างบ้าน” ที่กำลังต่อสู้กับมะเร็ง จากคนที่เกลียดที่สุดสู่คนที่…

ใครเคยสัมผัสป้าข้างบ้านที่ชอบบูลลี่บ้างมั้ยคะ เป็นป้าที่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นมากเลย แล้วแซวเก่ง หาเรื่องมาแซวได้ทุกอย่าง ตอนเด็กคือเกลียดมาก แบบมากๆ แล้วบ้านแกอยู่ถัดไปสองหลัง เป็นทางผ่านเวลาไปซื้อขนม บางทีเดินผ่านก็เอาน้ำจากสายยางมาฉีด
ป้าแก่ชื่อ “ยอม” ค่ะ ตอนนี้เราเรียกว่า ยายยอม แกเป็นคนที่แข็งแรงมาก ตอนเด็กแม่จะชอบพาไปกวาดคอกับแกด้วยเวลาที่ไม่สบาย ลักษณะมันจะเป็นเหมือนเอาผักหญ้ามาตำ แล้วบดๆ เอามาป้ายในคอ สรุปนี่ก็จะโอ้กทุกครั้ง แล้วแกก็จะชอบพูดว่า โอ้ยแค่นี้เอง มาทำน้ำตาไหล สำออย ยิ่งทำให้เราเกลียดเข้าไปใหญ่ ไม่เข้าใจว่าคนอะไรจะทำตัวได้น่ารังเกียจขนาดนี้ ตอนเด็กๆ ประถมเราด่าแกในใจประจำเลย แล้วก็แอบสมน้ำหน้าด้วยว่า เพราะเป็นแบบนี้แหละ ลูกหลานเลยทิ้งไปไม่มาหา (ย้อนมองกลับไปรู้สึกบาปกรรมมากเลย)
พอแกสูงอายุขึ้น เหมือนแกอาจจะเหนื่อยปาก แกก็เริ่มมีอารมณ์ขัน บูลลี่น้อยลง ทำตัวดีขึ้น แต่มีสิ่งนึงที่แกแย่กว่าเดิมคือ แกดื่มเบียร์หนักมาก เหมือนติดเลย เวลาหลานๆแกให้เงินมา เย็นๆก็จะเห็นแกเดินตัวเล็กๆ ออกไปซื้อเบียร์แล้ว เดินถือเข้ามาครั้งละ 2-3 ขวด แล้วบ้านไหนมีวงดื่ม แกก็จะเนียนไปแจมตลอด
จนมาถึงจุดเปลี่ยน…
วันนึงอยู่ๆ แกก็ขาบวม นอนซม ออกไปซื้อเบียร์ไม่ได้ คนข้างบ้านรวมถึงพ่อเราเข้าไปดูว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เพราะแกก็อายุน่าจะเกือบ 90 แล้ว แกดูมึนๆ พ่อเราเลยต้องช่วยกันอุ้มพากันไปส่งโรงบาล ปรากฏหมอบอกว่า ยายยอมเป็น “มะเร็งตับ”
ด้วยความที่แกไม่มีสมบัติอะไรมาก มีแค่บ้านหลังเล็กๆ ก็เลยไม่มีลูกหลานมาหา ที่เห็นน่าจะมีญาติผู้ชายแกคนนึงที่คอยเข้ามาดูแล กลายเป็นว่าเพื่อนบ้านต้องช่วยกันระดมเงิน ตามเรื่องสวัสดิการรักษาให้แกกันเอง แล้วคนแก่นะ ถ้าได้ลองล้มสักครั้งแล้ว นอนยาวเลยค่ะ
หลังจากนั้น ยายยอมก็ต้องไปนอนที่โรงบาล สภาพตอนนั้นเห็นแล้วสะท้อนใจมากค่ะ จากคนที่เราเคยเห็นเดินตัวปลิวๆ กอดขวดเบียร์เข้าบ้านทุกวัน วันนี้นอนซม ไม่มีแรง แค่ล้มครั้งเดียว ยายยอมดูแก่ลงไปอีกหลายปีเลย หรือเราไม่ได้สังเกตแต่แรกไม่รู้ ตอนเห็นแล้วก็รู้สึกสงสาร เห็นใจ เราปฏิญาณกับตัวเองไว้ตอนนั้นเลยว่า จะไม่ยอมให้พ่อหรือแม่ของเรามาอยู่ในสภาพนี้เด็ดขาด
ด้วยความที่ครอบครัวเราไม่ค่อยมีคนเป็นอะไรเกี่ยวกับมะเร็ง เราก็ต้องไปนั่งฟังหมออธิบายเรื่องการรักษาคร่าวๆ เรื่องคีโม ฉายแสง ยามุ่งเป้า ผ่าตัด บลาๆ ตอนนั้นเราก็ไม่ค่อยเข้าใจมากหรอก แต่ที่รู้ๆคือ ตอนนั้นร่างกายยายยอมเหมือนจะยังไม่พร้อมรักษา จำไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไร เหมือนค่าเลือดไม่ผ่าน หรืออะไรสักอย่าง
จนมาถึงวันนีงที่เป็นจุดเปลี่ยนความรู้สึกเรา คือ ญาติผู้ชายคนนั้นของแกมาเยี่ยม แล้วก็ยื่นเงินให้แก่ 300 บาท บอกแกว่า เอ้า เอาเก็บไว้นะ รีบๆหาย แล้วไปซื้อเบียร์มากินนะ ตอนนั้นเราก็น้ำตาคลอขึ้นมา สงสารยังไงก็ไม่รู้ ก็เข้าใจได้ว่า เราอยากให้เขากลับมาแข็งแรง ปากเก่ง ปากดีเหมือนแต่ก่อน ดีกว่ามาเห็นเขานอนทรมานอยู่แบบนี้ แล้วพอญาติแกเดินออกไป ยายยอมก็เอาเงิน 300 นั้นส่งให้เรา บอกว่าให้เราไปซื้อขนมกิน เท่านั้นแหละ วิ่งเข้าห้องน้ำไปร้องไห้เลย ไม่ไหวจริงๆ

รักษาตัวนอนซมอยู่เกือบเดือน แล้วไม่ค่อยกินข้าว แกกินอะไรไม่ลง ไปๆมาๆ ญาติแกก็พามาอยู่บ้าน เราเห็นแก่นอนอย่างเดียวไม่ลุก ขนาดว่าไม่ได้รักษา ไม่ได้คีโม ไม่ได้ผลกระทบจากการรักษาอะไรเลย สุดท้าย แกก็เสีย จริงๆก็แอบเสียดายนะ ยังไม่มีโอกาสได้ลองรักษาเลยเพราะร่างกายไม่พร้อม ทุกวันนี้ยังติดค้างในใจเราอยู่ว่า ยังไม่ทันได้ขอโทษแกเลย หวังว่าแก่จะมีความสุขไม่ต้องทรมานอีกแล้ว
ใครที่มีคนใกล้ตัวที่ทำไม่ดีด้วยอยู่ เราก็อยากเชียร์ให้ให้อภัยนะ จะได้ไม่รู้สึกติดค้างกันภายหลังเหมือนเรา ที่เราเอามาเล่าส่วนหนึ่งก็เพราะยังรู้สึกติดค้างอยู่ด้วยไม่หาย ไม่รู้เป็นไรเหมือนกัน หน่วงๆ
ดูแลกันและกันดีๆนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่