เรื่องคือผมกับแฟนเมื่อก่อนทำงานประจำกันอยู่ตามปกติ
วันนึงแฟนบอกอยากได้รถไว้ขับกลับตจวไปหาแม่แฟนแต่ตัวผมไม่อยากได้เพราะคิดว่ามันจะเปนภาระในวันข้างหน้า
แฟนก้มาขยั้นขยอผมบอกว่าค่างวด,ดาวน์และอะไรหลายๆอย่างแฟนจะเปนคนออกเองทั้งหมด
ขอเพียงแต่ใช้ชื่อผมเปนคนออกรถเพราะชื่อแฟนติดแบคลิสบัตรเคดิตอยู่ประกอบกับเงินเดือนผมเยอะกว่าแฟนจึงน่าจะทำให้ออกได้ง่ายกว่า
(แต่ก่อนออกผมคิดไว้แล้วว่ายังไงก้ต้องรบกวนเงินผมอยู่ดี)
ปล.ผมกับแฟนจะไม่ค่อยยุ่งเรื่องเงินเดือนกัน
ประมานว่าเงินใครเงินมันแต่ก้มีบ้างที่ต่างคนจะรบกวนกันบ้างในแต่ละเดือน
ในช่วงเวลาที่แฟนเกบเงินเพื่อจะดาวน์รถผมรู้สึกได้เลยว่าเวลาไปไหนผมจะเปนคนออกเองเกือบทั้งหมด
ต่างจากเมื่อก่อนที่บางครั้งแฟนจะช่วยออกบ้าง
แต่ผมก้ไม่คิดอะไรมากมองในแง่ดีก้คือแฟนมีความตั้งใจที่จะเกบเงินจิงๆ
ในช่วงระยะเกบเงินคือปะมาน5เดือน
เงินเดือนแฟนต่ำๆที่ได้แน่ๆคือ15,000คูน5เดือน75,000(ซึ่งไม่รวมค่าคอมแต่ละเดือนที่ได้ขั้นต่ำคือ3,000คูน5=15,000+75,000=90,000ก้จะได้เปนค่าดาวพอดี
(ซึ่งจิงๆแล้วระยะเวลาเกบเงินคือ8เดือนแต่เซลบอกว่ารถได้เรวผมก้เลยตอบตกลงเพราะคำนวนการเกบเงินของแฟนแล้วคิดว่าได้พอดี
ประกอบกับเปนช่วงที่ผมกับแฟนมีปันหาที่ทำงานกัเลยตัดสินใจเอารถตอนนั้นเลย)
แต่ปันหาคือแฟนบอกว่าเงินไม่พอยังขาดอยู่เกือบ3หมื่น
จนสุดท้ายก้ต้องมารบกวนเงินผม+กับพี่ชายผม+พี่สาวแฟนทั้งที่ๆผมคำนวนดูแล้วมันน่าจะไม่ต้องไปยืมใคร
ผมเลยถามแฟนเทอบอกว่ามีแอบเอาไปใช้บ้าง
ผมโกดแต่ไม่อยากพูดอะไรมากไม่อยากทะเลาะ
แต่แอบเสียดายเพราะกะว่าจะเอาเงินเดือนสุดท้ายมาใช้เปนทุนในการขายของ(ลืมยอกไปว่าพอได้รถผมก้ออกจากงานพอดีเพื่อจะมาขายของ)
ในช่วงของการขายของผมกับแฟนคุยกันว่าจะให้แฟนเปนคนบริหารผมจะไม่ยุ่ง(คือให้เกียรติแฟนเพราะคิดว่าเทอจะเกบเงินได้เก่งกว่า)
แต่ก้มีบางช่วงที่ผมจะบอกให้เทอไปหางานเพื่อจะเอาเงินตรงนั้นมาจ่ายค่างวดส่วนผมจะขายของไปคนเดียว(แต่จิงๆผมก้ไม่ได้บอกเทอตงๆหรอกคับว่าไหนบอกค่างวดเทอจะเปนคนรับผิดชอบแค่บอกตามปกติว่าไปหางานทำเถอะ)
สุดท้ายเงินค่างวดก้ต้องใช้เงินขายของได้มาหมุนแต่ก้หมุนได้4-5เดือน
กำไรแต่ละเดือนไม่เหลือเลยไหนจะกิน,ใข้จิปาถะอีก
ทุกวันนี้แฟนได้งานทำแล้วซึ่งผมพอใจเพราะคิดว่าจะเอาเงินเดือนมาจ่ายค่างวดไม่ต้องมาลำบากเงินขายของ...
แต่ปันหาคือผมไปบอกแฟนแล้วแฟนบอกมาว่าจะไม่ให้ไปยุ่งกับเงินเดือนเทอ!!
แถมเทอยังบอกให้ผมไปทำงานกัยเทอด้วยเพื่อจะได้เกบเงินไปพร้อมกันแล้วพอเกบได้พอสมควรก้ค่อยออกงานพร้อมกันมาขายของเหมือนเดิม...
ผมก้ไม่กล้าที่จะบอกเทอตรงๆหรอกคับว่าเทอลืมไปแล้วหรอว่าเทอต้องทำงานเพื่อจะได้ทีต่างวด
ส่วนผมก้ขายของและค่อยๆเกบออมไปทีละนิดๆหน่อยๆ
เพราะผมคิดว่าผมขายของได้แต่ละเดือนก้พอๆกับที่ผมไปทำงาน
ผมอยากรู้ว่าผมกับแฟนใครเหนแก่ตัวมากกว่ากัน??
ผมเหนแก่ตัวหรือเปล่าที่ปล่อยให้ทำงานคนเดียววันละ9ชม
หรือผมสบายแค่ขายของวัน5-6ชมและต้องไปรับส่งเทอที่ทำงานอีก??
ผมหรือเทอที่เหนแก่ตัว??
วันนึงแฟนบอกอยากได้รถไว้ขับกลับตจวไปหาแม่แฟนแต่ตัวผมไม่อยากได้เพราะคิดว่ามันจะเปนภาระในวันข้างหน้า
แฟนก้มาขยั้นขยอผมบอกว่าค่างวด,ดาวน์และอะไรหลายๆอย่างแฟนจะเปนคนออกเองทั้งหมด
ขอเพียงแต่ใช้ชื่อผมเปนคนออกรถเพราะชื่อแฟนติดแบคลิสบัตรเคดิตอยู่ประกอบกับเงินเดือนผมเยอะกว่าแฟนจึงน่าจะทำให้ออกได้ง่ายกว่า
(แต่ก่อนออกผมคิดไว้แล้วว่ายังไงก้ต้องรบกวนเงินผมอยู่ดี)
ปล.ผมกับแฟนจะไม่ค่อยยุ่งเรื่องเงินเดือนกัน
ประมานว่าเงินใครเงินมันแต่ก้มีบ้างที่ต่างคนจะรบกวนกันบ้างในแต่ละเดือน
ในช่วงเวลาที่แฟนเกบเงินเพื่อจะดาวน์รถผมรู้สึกได้เลยว่าเวลาไปไหนผมจะเปนคนออกเองเกือบทั้งหมด
ต่างจากเมื่อก่อนที่บางครั้งแฟนจะช่วยออกบ้าง
แต่ผมก้ไม่คิดอะไรมากมองในแง่ดีก้คือแฟนมีความตั้งใจที่จะเกบเงินจิงๆ
ในช่วงระยะเกบเงินคือปะมาน5เดือน
เงินเดือนแฟนต่ำๆที่ได้แน่ๆคือ15,000คูน5เดือน75,000(ซึ่งไม่รวมค่าคอมแต่ละเดือนที่ได้ขั้นต่ำคือ3,000คูน5=15,000+75,000=90,000ก้จะได้เปนค่าดาวพอดี
(ซึ่งจิงๆแล้วระยะเวลาเกบเงินคือ8เดือนแต่เซลบอกว่ารถได้เรวผมก้เลยตอบตกลงเพราะคำนวนการเกบเงินของแฟนแล้วคิดว่าได้พอดี
ประกอบกับเปนช่วงที่ผมกับแฟนมีปันหาที่ทำงานกัเลยตัดสินใจเอารถตอนนั้นเลย)
แต่ปันหาคือแฟนบอกว่าเงินไม่พอยังขาดอยู่เกือบ3หมื่น
จนสุดท้ายก้ต้องมารบกวนเงินผม+กับพี่ชายผม+พี่สาวแฟนทั้งที่ๆผมคำนวนดูแล้วมันน่าจะไม่ต้องไปยืมใคร
ผมเลยถามแฟนเทอบอกว่ามีแอบเอาไปใช้บ้าง
ผมโกดแต่ไม่อยากพูดอะไรมากไม่อยากทะเลาะ
แต่แอบเสียดายเพราะกะว่าจะเอาเงินเดือนสุดท้ายมาใช้เปนทุนในการขายของ(ลืมยอกไปว่าพอได้รถผมก้ออกจากงานพอดีเพื่อจะมาขายของ)
ในช่วงของการขายของผมกับแฟนคุยกันว่าจะให้แฟนเปนคนบริหารผมจะไม่ยุ่ง(คือให้เกียรติแฟนเพราะคิดว่าเทอจะเกบเงินได้เก่งกว่า)
แต่ก้มีบางช่วงที่ผมจะบอกให้เทอไปหางานเพื่อจะเอาเงินตรงนั้นมาจ่ายค่างวดส่วนผมจะขายของไปคนเดียว(แต่จิงๆผมก้ไม่ได้บอกเทอตงๆหรอกคับว่าไหนบอกค่างวดเทอจะเปนคนรับผิดชอบแค่บอกตามปกติว่าไปหางานทำเถอะ)
สุดท้ายเงินค่างวดก้ต้องใช้เงินขายของได้มาหมุนแต่ก้หมุนได้4-5เดือน
กำไรแต่ละเดือนไม่เหลือเลยไหนจะกิน,ใข้จิปาถะอีก
ทุกวันนี้แฟนได้งานทำแล้วซึ่งผมพอใจเพราะคิดว่าจะเอาเงินเดือนมาจ่ายค่างวดไม่ต้องมาลำบากเงินขายของ...
แต่ปันหาคือผมไปบอกแฟนแล้วแฟนบอกมาว่าจะไม่ให้ไปยุ่งกับเงินเดือนเทอ!!
แถมเทอยังบอกให้ผมไปทำงานกัยเทอด้วยเพื่อจะได้เกบเงินไปพร้อมกันแล้วพอเกบได้พอสมควรก้ค่อยออกงานพร้อมกันมาขายของเหมือนเดิม...
ผมก้ไม่กล้าที่จะบอกเทอตรงๆหรอกคับว่าเทอลืมไปแล้วหรอว่าเทอต้องทำงานเพื่อจะได้ทีต่างวด
ส่วนผมก้ขายของและค่อยๆเกบออมไปทีละนิดๆหน่อยๆ
เพราะผมคิดว่าผมขายของได้แต่ละเดือนก้พอๆกับที่ผมไปทำงาน
ผมอยากรู้ว่าผมกับแฟนใครเหนแก่ตัวมากกว่ากัน??
ผมเหนแก่ตัวหรือเปล่าที่ปล่อยให้ทำงานคนเดียววันละ9ชม
หรือผมสบายแค่ขายของวัน5-6ชมและต้องไปรับส่งเทอที่ทำงานอีก??