สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ในชีวิตเรา..ยังมีเรื่องราวอีกมากมายค่ะ ที่ต้องเรียนรู้ค่ะ
ทั้งสิ่งที่มาจากการตัดสินใจไม่ดี , การวางแผนไม่ดี , ความอ่อนด้อยประสบการณ์ , เรื่องไม่คาดฝัน ฯลฯ
สิ่งหนึ่งที่คุณน้อง จขกท. ต้องเข้าใจก่อน ก็คือ ทุกอย่างมันมีหลักการและเหตุผล
อย่างไฟแนนซ์ เค้าก็มีหลักการในการทำงานของเค้า
..มันไม่ใช่ว่า คุณทำใจไม่ได้ แล้วจะสามารถไปเปลี่ยนแปลงหลักการของเค้าได้นะคะ
สิ่งควรรู้คือ ไฟแนนซ์ คิดอัตราดอกเบี้ยแบบ flat rate หรือเรียกอีกอย่างว่า fix rate
สมมุติรถที่คุณเพิ่งไปถอยมา ในราคา 75,000 บ. อัตราดอกเบี้ย 1.36% ต่อเดือน
วิธีคิดค่างวด และดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย คือ เอายอดจัด x อัตราดอกเบี้ย ..จะได้ดอกเบี้ยต่อเดือน
คุณจะผ่อนกี่งวด ..ก็เอายอดจัด / จำนวนงวด
ค่างวดต่อเดือน ก็จะเท่ากับ เงินต้นที่หารจำนวนงวด + ดอกเบี้ยที่คิดไว้เมื่อกี้
เช่น 75,000 x 1.36% = 1,020
75,000 / 24 = 3,125
ค่างวดเท่ากับ 3,125 + 1,020 = 4,145 บาท ต่อเดือน
หากทำสัญญาแล้ว จะโปะปิดก่อน ..สมัยก่อนไม่ลดซักบาทด้วยซ้ำ
เดี๋ยวนี้ยังลดดอกเบี้ยลงให้ครึ่งหนึ่ง
พี่ก็เคยมีประสบการณ์โปะรถ .. คุณสามีพี่ไปถอย Fortuner ป้ายแดงมา ทำเรื่องผ่อน 48 งวด
เพิ่งผ่อนไปได้ 3 เดือน .. แต่พี่ได้เงินสดมาก้อนหนึ่งพอปิดรถได้ และพี่คำนวณแล้วว่าคุ้ม หากพี่จะปิดหนี้รถคันนี้ทันที
..ไฟแนนซ์เค้าก็ลดดอกเบี้ยให้ 50% เหมือนกับที่คุณจะได้นี่แหล่ะค่ะ
..อย่าไปเคาะตัวเลขเลยว่าแค่ 3 เดือน พี่เสียดอกเบี้ยฟรีๆ ไปเท่าไหร่ ... พี่มองว่า พี่ประหยัดดอกเบี้ยไปได้เท่าไหร่
และได้รถที่ปลอดภาระมาครอบครอง ..สบายใจกว่าค่ะ
ที่บอกไม่ได้จะมาอวดร่ำอวดรวยอะไร ..แต่ในเมื่อมันมีหลักการ หลักเกณฑ์แบบนี้
คุณก็ทำใจยอมรับซะเถอะค่ะ
โปรดระลึกไว้ด้วยว่า การผ่อนรถกับไฟแนนซ์ ไม่เหมือนการผ่อนกับร้านค้า เหมือนที่แถวต่างจังหวัดเค้าทำ
ที่พอไม่มีเงินจ่ายค่างวด ร้านก็มายึด หรือ เปลี่ยนใจไม่เอารถแล้ว ก็ขับรถไปคืน ฉีกสัญญาแล้วเป็นอันจบ
..เมื่อไม่จ่ายค่างวด จะเริ่มถือว่าผิดนัดชำระ ..ค่าปรับจ่ายล่าช้า , ค่าที่ต้องให้โทร.ทวง และดอกเบี้ยปรับจะตามมาติดๆ
..ลามไปถึงทวงถามจากผู้ค้ำประกัน ให้มารับผิดชอบ
ถ้าพากันเงียบทั้งผู้กู้ ผู้ค้ำ ..ก็เรียบร้อย ..ประวัติเสียไปโผล่ที่เครดิตบูโร ..และแสดงผลให้เห็นไปอีก 3 ปี ทั้งคู่
คราวนี้จะทำธุรกรรมทางการเงินอะไร ไม่ว่ากู้บ้าน ทำสินเชื่อบุคคล ทำบัตรเครดิต .. จะยากลำบาก และมีโอกาสไม่ผ่านการอนุมัติสูงมาก
..โบราณท่านถึงมีสำนวนที่ว่า "เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย"
คือคนประเภทที่คิดเล็กคิดน้อย เสียน้อยแค่นี้ ไม่ยอมจ่าย ดึงไป ยื้อมา สุดท้ายเสียหายมากกว่าเดิม
..แนะนำอีกอย่าง หากคุณไม่ใช่มือโปรในการหมุนเงิน ..การเอาเช็คเงินสดของเถ้าแก่ไปหมุนทำโน่นทำนี่
แล้วผ่อนรถคันนี้ต่อเอง ..
โอกาสที่เงินสดก้อนนี้จะละลาย แบบไม่รู้สาเหตุ จะมีสูงมาก
และคุณก็จะต้องผ่อนรถคันนี้ต่อไปอีก 2 ปี !
สรุปคือ
1. ควรทำใจได้ตั้งแต่แรกที่เอารถเก่าไปเทิร์น ว่ายังไงก็เท่ากับมีรถ 1 คันถ้วนเท่าเดิม
2. หากเถ้าแก่ไม่อยู่ๆ ใจดี เอาเงินก้อนมาให้ คุณก็ต้องผ่อนรถคันนี้ พร้อมเสียดอกเบี้ยรวม 24,480 บ. อยู่ดี
3. คิดเสียว่าคุณได้รถคันนี้ ในราคา 12,240 + มูลค่ารถเก่าที่เทิร์นได้
( ตกลงรถมอเตอร์ไซค์แฟนคุณ ราคาร่วมๆ แสนเลยเหรอคะ ? เพราะเทิร์นรถเก่าไปคันนึง ..ไม่รู้ได้ราคาเท่าไหร่ แต่ยังมียอดจัดอีก 75,000 ! )
4. เมื่อรถคันนี้ เท่ากับซื้อสด ..คุณก็ไม่มีภาระผ่อนรถ ซึ่งก็จะไม่มียอดผ่อนรถนี้ ไปดึงความสามารถในการชำระหนี้ ตอนที่ยื่นกู้คอนโด
( กรณีคุณกู้ร่วม ) หรือแม้แต่ในภาคปฏิบัติ ซึ่งไม่ว่าจะชื่อใครซื้อ ก็ต้องช่วยกันผ่อนอยู่ดี .. คุณก็คุ้ม
..คหสต. คุณน่าจะดีใจมากกว่าค่ะ
ทั้งสิ่งที่มาจากการตัดสินใจไม่ดี , การวางแผนไม่ดี , ความอ่อนด้อยประสบการณ์ , เรื่องไม่คาดฝัน ฯลฯ
สิ่งหนึ่งที่คุณน้อง จขกท. ต้องเข้าใจก่อน ก็คือ ทุกอย่างมันมีหลักการและเหตุผล
อย่างไฟแนนซ์ เค้าก็มีหลักการในการทำงานของเค้า
..มันไม่ใช่ว่า คุณทำใจไม่ได้ แล้วจะสามารถไปเปลี่ยนแปลงหลักการของเค้าได้นะคะ
สิ่งควรรู้คือ ไฟแนนซ์ คิดอัตราดอกเบี้ยแบบ flat rate หรือเรียกอีกอย่างว่า fix rate
สมมุติรถที่คุณเพิ่งไปถอยมา ในราคา 75,000 บ. อัตราดอกเบี้ย 1.36% ต่อเดือน
วิธีคิดค่างวด และดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย คือ เอายอดจัด x อัตราดอกเบี้ย ..จะได้ดอกเบี้ยต่อเดือน
คุณจะผ่อนกี่งวด ..ก็เอายอดจัด / จำนวนงวด
ค่างวดต่อเดือน ก็จะเท่ากับ เงินต้นที่หารจำนวนงวด + ดอกเบี้ยที่คิดไว้เมื่อกี้
เช่น 75,000 x 1.36% = 1,020
75,000 / 24 = 3,125
ค่างวดเท่ากับ 3,125 + 1,020 = 4,145 บาท ต่อเดือน
หากทำสัญญาแล้ว จะโปะปิดก่อน ..สมัยก่อนไม่ลดซักบาทด้วยซ้ำ
เดี๋ยวนี้ยังลดดอกเบี้ยลงให้ครึ่งหนึ่ง
พี่ก็เคยมีประสบการณ์โปะรถ .. คุณสามีพี่ไปถอย Fortuner ป้ายแดงมา ทำเรื่องผ่อน 48 งวด
เพิ่งผ่อนไปได้ 3 เดือน .. แต่พี่ได้เงินสดมาก้อนหนึ่งพอปิดรถได้ และพี่คำนวณแล้วว่าคุ้ม หากพี่จะปิดหนี้รถคันนี้ทันที
..ไฟแนนซ์เค้าก็ลดดอกเบี้ยให้ 50% เหมือนกับที่คุณจะได้นี่แหล่ะค่ะ
..อย่าไปเคาะตัวเลขเลยว่าแค่ 3 เดือน พี่เสียดอกเบี้ยฟรีๆ ไปเท่าไหร่ ... พี่มองว่า พี่ประหยัดดอกเบี้ยไปได้เท่าไหร่
และได้รถที่ปลอดภาระมาครอบครอง ..สบายใจกว่าค่ะ
ที่บอกไม่ได้จะมาอวดร่ำอวดรวยอะไร ..แต่ในเมื่อมันมีหลักการ หลักเกณฑ์แบบนี้
คุณก็ทำใจยอมรับซะเถอะค่ะ
โปรดระลึกไว้ด้วยว่า การผ่อนรถกับไฟแนนซ์ ไม่เหมือนการผ่อนกับร้านค้า เหมือนที่แถวต่างจังหวัดเค้าทำ
ที่พอไม่มีเงินจ่ายค่างวด ร้านก็มายึด หรือ เปลี่ยนใจไม่เอารถแล้ว ก็ขับรถไปคืน ฉีกสัญญาแล้วเป็นอันจบ
..เมื่อไม่จ่ายค่างวด จะเริ่มถือว่าผิดนัดชำระ ..ค่าปรับจ่ายล่าช้า , ค่าที่ต้องให้โทร.ทวง และดอกเบี้ยปรับจะตามมาติดๆ
..ลามไปถึงทวงถามจากผู้ค้ำประกัน ให้มารับผิดชอบ
ถ้าพากันเงียบทั้งผู้กู้ ผู้ค้ำ ..ก็เรียบร้อย ..ประวัติเสียไปโผล่ที่เครดิตบูโร ..และแสดงผลให้เห็นไปอีก 3 ปี ทั้งคู่
คราวนี้จะทำธุรกรรมทางการเงินอะไร ไม่ว่ากู้บ้าน ทำสินเชื่อบุคคล ทำบัตรเครดิต .. จะยากลำบาก และมีโอกาสไม่ผ่านการอนุมัติสูงมาก
..โบราณท่านถึงมีสำนวนที่ว่า "เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย"
คือคนประเภทที่คิดเล็กคิดน้อย เสียน้อยแค่นี้ ไม่ยอมจ่าย ดึงไป ยื้อมา สุดท้ายเสียหายมากกว่าเดิม
..แนะนำอีกอย่าง หากคุณไม่ใช่มือโปรในการหมุนเงิน ..การเอาเช็คเงินสดของเถ้าแก่ไปหมุนทำโน่นทำนี่
แล้วผ่อนรถคันนี้ต่อเอง ..
โอกาสที่เงินสดก้อนนี้จะละลาย แบบไม่รู้สาเหตุ จะมีสูงมาก
และคุณก็จะต้องผ่อนรถคันนี้ต่อไปอีก 2 ปี !
สรุปคือ
1. ควรทำใจได้ตั้งแต่แรกที่เอารถเก่าไปเทิร์น ว่ายังไงก็เท่ากับมีรถ 1 คันถ้วนเท่าเดิม
2. หากเถ้าแก่ไม่อยู่ๆ ใจดี เอาเงินก้อนมาให้ คุณก็ต้องผ่อนรถคันนี้ พร้อมเสียดอกเบี้ยรวม 24,480 บ. อยู่ดี
3. คิดเสียว่าคุณได้รถคันนี้ ในราคา 12,240 + มูลค่ารถเก่าที่เทิร์นได้
( ตกลงรถมอเตอร์ไซค์แฟนคุณ ราคาร่วมๆ แสนเลยเหรอคะ ? เพราะเทิร์นรถเก่าไปคันนึง ..ไม่รู้ได้ราคาเท่าไหร่ แต่ยังมียอดจัดอีก 75,000 ! )
4. เมื่อรถคันนี้ เท่ากับซื้อสด ..คุณก็ไม่มีภาระผ่อนรถ ซึ่งก็จะไม่มียอดผ่อนรถนี้ ไปดึงความสามารถในการชำระหนี้ ตอนที่ยื่นกู้คอนโด
( กรณีคุณกู้ร่วม ) หรือแม้แต่ในภาคปฏิบัติ ซึ่งไม่ว่าจะชื่อใครซื้อ ก็ต้องช่วยกันผ่อนอยู่ดี .. คุณก็คุ้ม
..คหสต. คุณน่าจะดีใจมากกว่าค่ะ
แสดงความคิดเห็น
คืนรถให้กับไฟแนนซ์ไปหรือว่ายอมจ่ายค่าดอกเบี้ยดีคะ
เรื่องมีอยู่ว่าแฟนได้เอารถคันเก่าไปเทิร์นแล้วออกมอเตอร์ไซค์คันใหม่ในราคาค่างวดที่ผ่อนจากไฟแนนซ์เดือนละ 4,145x24 งวด รวมค่าประกันและจิปาถะ จากราคาสด 75,000 บาท คิดเป็นดอกเบี้ย 24,480 บาท ทำสัญญากันเรียบร้อยโดยมีดิชั้นป็นผู้ค้ำประกัน ผ่านไปห้าวันเถ้าแก่ที่ทำงานของแฟนก็มาบอกว่าจะซื้อรถคันนี้ให้แล้วให้เช็คเงินสดมา75,000 บาท เรากับแฟนก็เลยไปคุยกับไฟแนนซ์ว่าจะโบ๊ะค่ารถทั้งหมดแต่ไฟแนนซ์บอกว่าจะลดค่าดอกให้. 50% พนักงานที่ขายรถให้ก็ดูจะไม่สนใจที่คุยกับไฟแนนซ์ให้ ไฟแนนซ์ก็ไม่ยอมให้ข้อมูลเพิ่มเติม คิดไปคิดมาเหมือนกับว่าเราต้องเสียรถไปหนึ่งคันแล้วยังต้องเสียเงินอีกหมื่นกว่าบาท ทำใจไม่ได้จริงๆค่ะ เราพอจะมีวิธีการต่อรองกับไฟแนนซ์ยังไงบ้างคะที่จะทำให้จ่ายได้น้อยที่สุด แล้วถ้าเราคืนรถให้ไฟแนนซ์ไป แล้วเราก็ไม่จ่ายค่างวด ซื้อรถคันใหม่ด้วยเงินที่เถ้าแกให้ แน่นอนว่าแฟนจะต้องติดเครดิตบูโรแน่ๆ แล้วคนค้ำอย่าง แล้วตัวดิชั้นจะโดนเบลคลิสไปด้วยรึเปล่าคะกังวลค่ะ เพราะปีหน้าต้องยื่นกู้ซื้อคอนโดที่ดาวน์ไว้
หรือมีทางออกยังไงบ้างคะ