เล่าสู่กันฟัง และก็อยากจะระบายด้วยค่ะ
เรามีพี่สาว 1 คน จบปริญญาตรี food sience ราชมงคล ส่วนเราจบแค่มหาวิทยาลัยเอกชนธรรมดา ฐานะที่บ้านไม่รวย สมัยเรียน พ่อแม่ทำสวนปลูกผักเกือบทุกชนิด เราช่วยพ่อแม่ทำงานตั้งแต่ยังเล็กๆ ตอนเข้ามหาวิทยาลัยรู้ว่าพ่อแม่ทำงานหนัก เลยตั้งใจเรียน และขอทุนได้ทุนเรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ ในโครงการของสมเด็จย่าได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าเทอม จบมาก็เริ่มด้วยการทำงานเป็นพนักงานสาธิตสินค้าในห้าง ล่าสุดทำงานในบริษัทฯแห่งหนึ่งเงินเดือนถือว่าสูงเกือบแสน และไม่เคยหยุดส่งเงินให้ที่บ้าน ปัจจุบันเราย้ายไปอยู่อเมริกา
แต่ที่จะเล่านี่คือ พี่สาวที่เรียนจบมา (ตอนจบเราไม่ไปงานรับปริญญาเสียสละให้พี่สาวรับ เพราะมีค่าใช้จ่ายสูง) สาขาที่นางจบมาหากตั้งใจและอดทน ปัจจุบันคิดว่าน่าจะมีหน้าที่การงานที่ดี แต่นางเลือกที่จะทำงานรายวันกรอกน้ำยาสารเคมีไปวันๆ และไม่เคยทำงานเกิน2สองเดือนต้องออกซะก่อนตลอด จากนั้นนางก็มีสามี ไปอยู่กินกับสามีที่ทำงานเป็นลูกจ้างรายวันเหมือนกัน จนวันหนึ่งนางท้อง และ หย่ากับสามี ก็กลับมาอยู่กับแม่ที่บ้านต่างจังหวัด ช่วงแรกๆก็คิดในแง่ดีว่าเดี๋ยวนางคลอดลูกแล้วคงจะหางานและทำงานเป็นเรื่องเป็นราว เพราะทุกบาททุกสตางค์ที่อยู่กับแม่ นางใช้งานของแม่ตลอด (แม่เราขายของชำไม่ใหญ่โตแค่ห้องแถวเล็กๆ และขายน้ำแข็งใส ได้กำไรวันละร้อยสองร้อยบาท) เราเคยถามนางว่าไม่คิดจะทำงาน นางฉุนเฉียวบอกว่าลูกยังเล็ก จนปัจจุบันลูกนางอายุ 8 ปี ส่วนตัวนางอายุ 39 แม่อายุ 64 ทุกวันนี้นางยังใช้เงินแม่ และหลานอีกคน กลับกลายเป็นว่าแม่ต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นอีกโดยทำข้าวต้มมัดเพื่อที่จะหาเงินให้หลานได้ใช้
เราเห็นแล้วสงสัยเป็นเวรกรรมของแม่ ตอนเล็กๆ ทำงานหนักเลี้ยงลูก พอลูกโตเรียนจบ มีหลานกลับมาเลี้ยงดูเขาอีก คิดว่ามันน่าจะเป็นเวรกรรม นางคงคิดเองไม่ได้แล้วที่จะทำงานไม่เคยคิดถึงอนาคต วันนี้เรากลับมาบ้านซื้อรถให้ใช้ 1 คัน (มือสอง ยี่ห้อ และรุ่นไม่น่าเกลียด) และก็ไม่เคยหยุดให้เงินพ่อแม่
อ้อ นางไม่ใช่แค่ไม่ทำงานนะนิสัยนาง พูดจาขวานผ่าซาก ใช้คำพูดแรงๆแต่พ่อแม่ (และทุกคน ยกเว้นลูกตัวเอง) ชอบคุยเรื่องชาวบ้าน พูดจาเสียงดัง ขี่บ่น เรานี่ส่ายหน้า คงอยู่ร่วมบ้านกันไม่ได้แน่ถ้าเจอคนนิสัยแบบนี้
เรามองว่าเกิดมาเสียชาติเกิดไหม ไม่อายคนอื่นก็ควรอายตัวเองที่อยู่ให้คนเป็นแม่เลี้ยงจนแก่ สงสัยแค่แม่แก่ๆ อยากให้เขาได้หยุดพัก แต่ก็คงทำไม่ได้หากนางยังเกาะแม่กินอยู่อย่างนี้
คุณมีคนในครอบครัวนิสัยแบบนี้ไหม!!!!
เรามีพี่สาว 1 คน จบปริญญาตรี food sience ราชมงคล ส่วนเราจบแค่มหาวิทยาลัยเอกชนธรรมดา ฐานะที่บ้านไม่รวย สมัยเรียน พ่อแม่ทำสวนปลูกผักเกือบทุกชนิด เราช่วยพ่อแม่ทำงานตั้งแต่ยังเล็กๆ ตอนเข้ามหาวิทยาลัยรู้ว่าพ่อแม่ทำงานหนัก เลยตั้งใจเรียน และขอทุนได้ทุนเรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ ในโครงการของสมเด็จย่าได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าเทอม จบมาก็เริ่มด้วยการทำงานเป็นพนักงานสาธิตสินค้าในห้าง ล่าสุดทำงานในบริษัทฯแห่งหนึ่งเงินเดือนถือว่าสูงเกือบแสน และไม่เคยหยุดส่งเงินให้ที่บ้าน ปัจจุบันเราย้ายไปอยู่อเมริกา
แต่ที่จะเล่านี่คือ พี่สาวที่เรียนจบมา (ตอนจบเราไม่ไปงานรับปริญญาเสียสละให้พี่สาวรับ เพราะมีค่าใช้จ่ายสูง) สาขาที่นางจบมาหากตั้งใจและอดทน ปัจจุบันคิดว่าน่าจะมีหน้าที่การงานที่ดี แต่นางเลือกที่จะทำงานรายวันกรอกน้ำยาสารเคมีไปวันๆ และไม่เคยทำงานเกิน2สองเดือนต้องออกซะก่อนตลอด จากนั้นนางก็มีสามี ไปอยู่กินกับสามีที่ทำงานเป็นลูกจ้างรายวันเหมือนกัน จนวันหนึ่งนางท้อง และ หย่ากับสามี ก็กลับมาอยู่กับแม่ที่บ้านต่างจังหวัด ช่วงแรกๆก็คิดในแง่ดีว่าเดี๋ยวนางคลอดลูกแล้วคงจะหางานและทำงานเป็นเรื่องเป็นราว เพราะทุกบาททุกสตางค์ที่อยู่กับแม่ นางใช้งานของแม่ตลอด (แม่เราขายของชำไม่ใหญ่โตแค่ห้องแถวเล็กๆ และขายน้ำแข็งใส ได้กำไรวันละร้อยสองร้อยบาท) เราเคยถามนางว่าไม่คิดจะทำงาน นางฉุนเฉียวบอกว่าลูกยังเล็ก จนปัจจุบันลูกนางอายุ 8 ปี ส่วนตัวนางอายุ 39 แม่อายุ 64 ทุกวันนี้นางยังใช้เงินแม่ และหลานอีกคน กลับกลายเป็นว่าแม่ต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นอีกโดยทำข้าวต้มมัดเพื่อที่จะหาเงินให้หลานได้ใช้
เราเห็นแล้วสงสัยเป็นเวรกรรมของแม่ ตอนเล็กๆ ทำงานหนักเลี้ยงลูก พอลูกโตเรียนจบ มีหลานกลับมาเลี้ยงดูเขาอีก คิดว่ามันน่าจะเป็นเวรกรรม นางคงคิดเองไม่ได้แล้วที่จะทำงานไม่เคยคิดถึงอนาคต วันนี้เรากลับมาบ้านซื้อรถให้ใช้ 1 คัน (มือสอง ยี่ห้อ และรุ่นไม่น่าเกลียด) และก็ไม่เคยหยุดให้เงินพ่อแม่
อ้อ นางไม่ใช่แค่ไม่ทำงานนะนิสัยนาง พูดจาขวานผ่าซาก ใช้คำพูดแรงๆแต่พ่อแม่ (และทุกคน ยกเว้นลูกตัวเอง) ชอบคุยเรื่องชาวบ้าน พูดจาเสียงดัง ขี่บ่น เรานี่ส่ายหน้า คงอยู่ร่วมบ้านกันไม่ได้แน่ถ้าเจอคนนิสัยแบบนี้
เรามองว่าเกิดมาเสียชาติเกิดไหม ไม่อายคนอื่นก็ควรอายตัวเองที่อยู่ให้คนเป็นแม่เลี้ยงจนแก่ สงสัยแค่แม่แก่ๆ อยากให้เขาได้หยุดพัก แต่ก็คงทำไม่ได้หากนางยังเกาะแม่กินอยู่อย่างนี้