คุณเคยสงสัยไหมครับว่าทำไมทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน เก็บออมทุกครั้ง แต่กว่าจะได้เงินเก็บแต่ละล้านมันยากลำบากเหลือเกิน ไหนจะต้องมีภาระค่าใช้จ่ายที่เข้ามาตลอดเวลา เช่น ซื้อรถ ผ่อนบ้าน แต่งงาน ท่องเที่ยวต่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งถึงแม้เงินเดือนเราจะมีการปรับขึ้นเรื่อยๆ แต่ยิ่งนานวันภาระความรับผิดชอบเราก็มากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่ที่เราจะมีอิสรภาพทางการเงินกันเสียที ?
สิ่งที่ยังทำให้คนส่วนใหญ่ มีรายรับอยู่เพียงทางเดียว เป็นเพราะยังขาดความรู้ในเรื่อง
“การลงทุน” ซึ่งสามารถแบ่งได้ 2 แนวทางหลักๆคือ
• ลงทุนทำธุรกิจ เช่น ขายของ, ขายสินค้า Online
• ลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์, หุ้น, กองทุนรวมตราสารหนี้, ทอง เป็นต้น
การลงทุนนี่แหละครับจะทำให้คุณมีรายรับเข้ามามากขึ้น โดยทั้ง 2 แนวทางนั้นเป็นการใช้เงินทำงานและเราทำงานเพื่อเงิน (แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน) แต่หลายๆครั้งผมมักได้ยินเหตุผลที่พูดว่า ไม่มีเวลา/ไม่กล้า/กลัวการขาดทุน แต่สิ่งที่ผมพบเจอมาและเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ
“ได้แต่พูด แต่ไม่ลงมือทำ” สิ่งนี้เองที่เป็นการสร้างฝัน แต่ไม่สามารถจับต้องได้
หากวันนี้คุณกำลังมองหาช่องทางการเพิ่มรายได้ด้วยวิธี “การลงทุน” จากประสบการณ์ของผม ขอแนะนำวิธีดังนี้นะครับ
1. หมั่นศึกษาหาความรู้ในสิ่งที่ทำ
ยิ่งคุณมีความรู้ความชำนาญในงานของคุณมากขึ้นเท่าไหร่ ความเสี่ยงในการทำก็จะน้อยลงมากเท่านั้น เช่น ปัจจุบันนี้หลายๆคนมองว่าอสังหามีความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในขณะที่ผมกลับมองว่าในทุกความเสี่ยง ก็ยังมีโอกาสและผมก็สามารถทำ
“กำไร” จากมันได้
2. เริ่มลงมือทำให้เร็วที่สุด
หากคุณไม่เริ่มลงมือทำ แล้วเมื่อไรคุณจะประสบความสำเร็จในชีวิตเสียที สำหรับผมแล้วไม่จำเป็นต้องรอทุกอย่างให้พร้อมถึงค่อยลงมือทำ เพราะยิ่งเริ่มช้าเท่าไร เป้าหมายที่คุณตั้งก็ยิ่งไกลออกไปเท่านั้น เพราะจริงๆแล้ววิธีที่ดีที่สุดคือ เรียนรู้จากประสบการณ์จริงและการพบเจอปัญหา เพราะนั้นถือว่าเป็นครูชั้นดีมากกว่าที่คุณเรียนรู้จากตำราเพียงอย่างเดียว
ข้อแนะนำ ยิ่งเริ่มต้นตอนอายุน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะนั้นหมายความว่าคุณยังมีเวลาเรียนรู้จากความผิดพลาดได้อีกเยอะ เพราะหากคุณล้มตอนที่มีภาระอยู่มาก เช่น ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เลี้ยงดูพ่อแม่ ค่าเทอมลูก ฯลฯ โอกาสในการกลับมายืนได้ใหม่ก็จะยากขึ้นมากเท่านั้น
3. อย่ากลัวที่จะ “ขาดทุน”
ข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญมากๆ เพราะคนส่วนใหญ่มักติด Mind set ข้อนี้ จึงไม่กล้าลงมือทำอะไรเลย
ซึ่งการทำธุรกิจหรือการลงทำทุน มีความเสี่ยงเสมอครับ แต่หากคุณตั้งใจทุ่มเทความพยายามทั้งหมดที่มี คิดหรอครับว่าคุณจะทำ
“กำไร” จากมันไม่ได้ (หลายๆธุรกิจสามารถทำรายได้มากถึง 3-4 เท่าของเงินที่ลงทุนไปอีกนะครับ) โดยตอนแรกอาจจะเริ่มลงทุนหลักพันหรือหลักหมื่นเพื่อป้องกันความเสี่ยง แล้วหากเริ่มไปได้ดีค่อยเพิ่มหรือขยายการลงทุนให้มากยิ่งขึ้นไปครับ
4. มีเป้าหมายที่ชัดเจนและแน่วแน่ในการทำ
สำหรับข้อนี้ ผมมีคำถามบางอย่างอยากถามเพื่อนๆกันครับ
• ทุกวันนี้คุณมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจนแล้วหรือยัง ?
• ถ้ามีคิดว่าจะสำเร็จเมือไหร่ ? ช้าไปหรือไม่ ?
• แล้วตอนนี้คุณได้ลงมือทำไปถึงไหน ?
• ทำไมถึงคิดว่าจะสำเร็จ มีความเชี่ยวชาญเพียงพอแล้วหรือยัง ?
หากว่าคุณสามารถตอบได้ชัดเจนหมดทุกข้อ ผมเชื่อว่าคนๆนั้นจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจไว้แน่นอนครับ
สุดท้ายนี้ผมข้อคิดดีๆ ให้กับเพื่อนๆทุกคนนะครับ
“เงิน” ไม่สามารถสร้าง “ความคิดที่ดี”
แต่ “ความคิดที่ดี” สามารถสร้าง “เงิน”ได้
อ่านต่อตอนที่ 2 :
http://ppantip.com/topic/33096793
ติดตามเรื่องราวแนวคิดและการลงทุนได้ที่
Thinkvestment Fanpage :
https://www.facebook.com/thinkvestment
การออมเงิน...ทำให้รวยได้จริงหรือ? (ตอนที่ 1)
คุณเคยสงสัยไหมครับว่าทำไมทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน เก็บออมทุกครั้ง แต่กว่าจะได้เงินเก็บแต่ละล้านมันยากลำบากเหลือเกิน ไหนจะต้องมีภาระค่าใช้จ่ายที่เข้ามาตลอดเวลา เช่น ซื้อรถ ผ่อนบ้าน แต่งงาน ท่องเที่ยวต่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งถึงแม้เงินเดือนเราจะมีการปรับขึ้นเรื่อยๆ แต่ยิ่งนานวันภาระความรับผิดชอบเราก็มากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่ที่เราจะมีอิสรภาพทางการเงินกันเสียที ?
สิ่งที่ยังทำให้คนส่วนใหญ่ มีรายรับอยู่เพียงทางเดียว เป็นเพราะยังขาดความรู้ในเรื่อง “การลงทุน” ซึ่งสามารถแบ่งได้ 2 แนวทางหลักๆคือ
• ลงทุนทำธุรกิจ เช่น ขายของ, ขายสินค้า Online
• ลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์, หุ้น, กองทุนรวมตราสารหนี้, ทอง เป็นต้น
การลงทุนนี่แหละครับจะทำให้คุณมีรายรับเข้ามามากขึ้น โดยทั้ง 2 แนวทางนั้นเป็นการใช้เงินทำงานและเราทำงานเพื่อเงิน (แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน) แต่หลายๆครั้งผมมักได้ยินเหตุผลที่พูดว่า ไม่มีเวลา/ไม่กล้า/กลัวการขาดทุน แต่สิ่งที่ผมพบเจอมาและเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ “ได้แต่พูด แต่ไม่ลงมือทำ” สิ่งนี้เองที่เป็นการสร้างฝัน แต่ไม่สามารถจับต้องได้
หากวันนี้คุณกำลังมองหาช่องทางการเพิ่มรายได้ด้วยวิธี “การลงทุน” จากประสบการณ์ของผม ขอแนะนำวิธีดังนี้นะครับ
1. หมั่นศึกษาหาความรู้ในสิ่งที่ทำ
ยิ่งคุณมีความรู้ความชำนาญในงานของคุณมากขึ้นเท่าไหร่ ความเสี่ยงในการทำก็จะน้อยลงมากเท่านั้น เช่น ปัจจุบันนี้หลายๆคนมองว่าอสังหามีความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในขณะที่ผมกลับมองว่าในทุกความเสี่ยง ก็ยังมีโอกาสและผมก็สามารถทำ “กำไร” จากมันได้
2. เริ่มลงมือทำให้เร็วที่สุด
หากคุณไม่เริ่มลงมือทำ แล้วเมื่อไรคุณจะประสบความสำเร็จในชีวิตเสียที สำหรับผมแล้วไม่จำเป็นต้องรอทุกอย่างให้พร้อมถึงค่อยลงมือทำ เพราะยิ่งเริ่มช้าเท่าไร เป้าหมายที่คุณตั้งก็ยิ่งไกลออกไปเท่านั้น เพราะจริงๆแล้ววิธีที่ดีที่สุดคือ เรียนรู้จากประสบการณ์จริงและการพบเจอปัญหา เพราะนั้นถือว่าเป็นครูชั้นดีมากกว่าที่คุณเรียนรู้จากตำราเพียงอย่างเดียว
ข้อแนะนำ ยิ่งเริ่มต้นตอนอายุน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะนั้นหมายความว่าคุณยังมีเวลาเรียนรู้จากความผิดพลาดได้อีกเยอะ เพราะหากคุณล้มตอนที่มีภาระอยู่มาก เช่น ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เลี้ยงดูพ่อแม่ ค่าเทอมลูก ฯลฯ โอกาสในการกลับมายืนได้ใหม่ก็จะยากขึ้นมากเท่านั้น
3. อย่ากลัวที่จะ “ขาดทุน”
ข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญมากๆ เพราะคนส่วนใหญ่มักติด Mind set ข้อนี้ จึงไม่กล้าลงมือทำอะไรเลย
ซึ่งการทำธุรกิจหรือการลงทำทุน มีความเสี่ยงเสมอครับ แต่หากคุณตั้งใจทุ่มเทความพยายามทั้งหมดที่มี คิดหรอครับว่าคุณจะทำ “กำไร” จากมันไม่ได้ (หลายๆธุรกิจสามารถทำรายได้มากถึง 3-4 เท่าของเงินที่ลงทุนไปอีกนะครับ) โดยตอนแรกอาจจะเริ่มลงทุนหลักพันหรือหลักหมื่นเพื่อป้องกันความเสี่ยง แล้วหากเริ่มไปได้ดีค่อยเพิ่มหรือขยายการลงทุนให้มากยิ่งขึ้นไปครับ
4. มีเป้าหมายที่ชัดเจนและแน่วแน่ในการทำ
สำหรับข้อนี้ ผมมีคำถามบางอย่างอยากถามเพื่อนๆกันครับ
• ทุกวันนี้คุณมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจนแล้วหรือยัง ?
• ถ้ามีคิดว่าจะสำเร็จเมือไหร่ ? ช้าไปหรือไม่ ?
• แล้วตอนนี้คุณได้ลงมือทำไปถึงไหน ?
• ทำไมถึงคิดว่าจะสำเร็จ มีความเชี่ยวชาญเพียงพอแล้วหรือยัง ?
หากว่าคุณสามารถตอบได้ชัดเจนหมดทุกข้อ ผมเชื่อว่าคนๆนั้นจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจไว้แน่นอนครับ
สุดท้ายนี้ผมข้อคิดดีๆ ให้กับเพื่อนๆทุกคนนะครับ
“เงิน” ไม่สามารถสร้าง “ความคิดที่ดี”
แต่ “ความคิดที่ดี” สามารถสร้าง “เงิน”ได้
อ่านต่อตอนที่ 2 : http://ppantip.com/topic/33096793
ติดตามเรื่องราวแนวคิดและการลงทุนได้ที่
Thinkvestment Fanpage : https://www.facebook.com/thinkvestment