ศึกชิง "ค้าปลีก" กรุงเทพตอนเหนือระอุ! กลุ่มเซ็นทรัลเตรียมเคลื่อนทัพครั้งใหญ่ทุ่มงบฯก้อนโตกว่า 1.5 หมื่นล้านปั้นอาณาจักร "เดอะ เอ็ม" 4.8 แสน ตร.ม.เขย่าศึกรังสิต พร้อมอวดโฉมปี 2559
หลังจากเฝ้ารอมานาน ยักษ์ใหญ่เซ็นทรัลจัดทัพลงทุนครั้งใหญ่กว่า 1.37 หมื่นล้านสำหรับบิ๊กโปรเจ็กต์บนที่ดินแปลงยักษ์โรงงานทอผ้าไทยเมล่อนเดิม ซึ่งพร้อมจะเปิดโฉมเขย่าตลาดค้าปลีกกรุงเทพตอนเหนือในปี 2559
จากที่ผ่านมา เซ็นทรัลสร้างการเติบโตต่อเนื่อง 15% ทุกปีควบคู่กับการเพิ่มพื้นที่ค้าปลีกใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศสำหรับเป้าหมาย 1.8 ล้าน ตร.ม. ภายในปี 2560 ผ่านโครงการยักษ์ที่ประกาศตัวไปแล้วกว่า 10 แห่ง อาทิ โคราช ระยอง นครศรีธรรมราช ภูเก็ต ฯลฯ ด้วยเม็ดเงินลงทุน 1.3-1.5 หมื่นล้านบาทต่อปี
ปั้น "The M" ท้าชน
แหล่งข่าวระดับสูงในแวดวงนักพัฒนาที่ดิน กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากกลุ่มจิราธิวัฒน์ ได้กวาดซื้อที่ดินไทยเมล่อนทั้ง 616 ไร่ และได้ให้ "เซ็นทรัลพัฒนา" เป็นทีมบริหารบิ๊กโปรเจ็กต์นี้ โดยได้ออกแบบโครงการขนาด 482,000 ตร.ม. ด้วยเม็ดเงินลงทุนเบื้องต้น 13,700 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าที่ดินประมาณ 4,200 ล้านบาทและมูลค่าก่อสร้างโครงการประมาณ 9,500 ล้านบาท
"ในเบื้องต้นทีมงานได้เรียกโครงการนี้ว่า โปรเจ็กต์ "เดอะ เอ็ม" สำหรับในการทำงาน ส่วนจะใช้ชื่อนี้ต่อไปหรือเปลี่ยนแปลงคงต้องมาว่ากันอีกที"
ผู้บริหารระดับสูงรายนี้ขยายความต่อว่า "เดอะ เอ็ม โปรเจ็กต์" เป็นโครงการที่กลุ่มเซ็นทรัลให้ความสำคัญและทุ่มเทอย่างมาก ไม่เพียงมูลค่าการลงทุนของโครงการที่มหาศาล แต่ทำเลของโครงการยังถือว่าเป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่กลุ่มเซ็นทรัลต้องการปักธง สาขาให้ครอบคลุมทั้ง 4 มุมเมือง คือ เซ็นทรัลบางนาที่ยกเครื่องรีโนเวตครั้งใหญ่พร้อมอวดโฉมต้นปี 2559, เซ็นทรัลปิ่นเกล้าที่เตรียมเปิดโฉมใหม่ปลายปีนี้, เซ็นทรัลเวสเกสต์กลางปีนี้ และเซ็นทรัล เดอะ เอ็ม ปี 2558
ทั้งนี้ ที่ดินแปลงใหญ่ไทยเมล่อน 616 ไร่นี้มีหน้ากว้างกว่า 1 กิโลเมตรขนานกับถนนพหลโยธิน และด้านหลังติดแนวรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงสอดคล้องกับการขยายตัวของโครงการ อสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่และการเติบโตของกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง
"ตอนนี้ผังเมืองรังสิต-ปทุมธานี อยู่ในช่วงต่ออายุผังเมืองครั้งที่ 1 จะหมดอายุในเดือนธันวาคม ปี 2558 และสามารถต่ออายุได้อีกหนึ่งครั้ง จากนั้นสามารถยื่นคำร้องขอเปลี่ยนแปลงผังเมืองได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจของกรมโยธาธิการและผังเมืองว่าจะอนุมัติหรือไม่ ซี่งหลังจากนี้จะยิ่งเห็นภาพการลงทุนและความเคลื่อนไหวของกลุ่มค้าปลีก ชัดเจนและร้อนแรงมากขึ้น"
"ฟิวเจอร์" เปิด พท.แสน ตร.ม.
ปัจจุบัน "ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต" เป็นศูนย์การค้าใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯตอนเหนือ ด้วยพื้นที่ 5 แสน ตร.ม. ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า กลุ่มฟิวเจอร์พาร์คได้ลงทุนครั้งใหม่เพื่อขยายพื้นที่โครงการศูนย์การค้าอีก 1 แสน ตร.ม. เพื่อรองรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันมีลูกค้าหมุนเวียน 1.5-1.6 แสนคนต่อวัน
อย่างไรก็ตาม การลงทุนของกลุ่มสยามฟิวเจอร์ฯและอิคาโน่ ในโปรเจ็กต์ "เมกา รังสิต" แม้จะยังไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดของโครงการนอกเหนือไปจากที่แจ้งในตลาด ว่าเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ด้วยการซื้อที่ดินกว่า 250 ไร่ด้วยเม็ดเงิน 700 ล้านบาทผ่านบริษัทร่วมทุนใหม่ "บริษัท นอร์ธ บางกอก ดีเวลอปเมนท์ จำกัด"
แต่เป็นที่รู้ในแวดวงนักพัฒนาที่ดินว่าความเคลื่อนไหวของการร่วมทุนรอบใหม่ระหว่างสยามฟิวเจอร์ฯและอิคาโน่ บนทำเลรังสิต-นครนายกไม่ได้หยุดแค่เพียงที่ดินจำนวน 250 ไร่เท่านั้น โดยได้มีการทยอยกว้านซื้อและไล่เก็บที่ดินทั้งบริเวณใกล้เคียงและฝั่งตรงข้ามแปลงมหึมากว่า 1,000 ไร่สำหรับการปั้นอาณาจักรค้าปลีกในเฟสแรกและจะมีการลงทุนในโครงการอีกหลาย รูปแบบทยอยเปิดตัวในแต่ละเฟส
ปัจจุบันค้าปลีกในโซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูงเป็นอันดับที่ 3 ของธุรกิจค้าปลีกในกรุงเทพฯ โดยอันดับ 1 โซนตะวันออก หรือโซนศรีนครินทร์ อันดับ 2 ตะวันตก หรือโซนราชพฤกษ์ บางใหญ่ ส่วนอันดับ 4 โซนใต้ หรือย่านพระราม 2
นางสาวพิมพ์ผกา หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท รังสิตพลาซ่า จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค ได้เผยถึงแผนการลงทุนรอบใหม่ก่อนหน้านี้ว่า ได้ใช้งบฯ 4,000 ล้านบาท สำหรับพัฒนาโครงการ "สเปล แอท ฟิวเจอร์ปาร์ค" พื้นที่กว่า 1 แสนตร.ม. สำหรับรองรับการแข่งขันของตลาดและเพื่อขยายลูกค้ากลุ่มระดับบนที่มีรายได้ ต่อหัวเฉลี่ยเดือนละ 85,000 บาท เน้นคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์และรูปแบบการใช้ชีวิตใจกลางเมืองสอดคล้องกับ พฤติกรรมของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในฟิวเจอร์พาร์ค ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มีความทันสมัยและความเป็นแฟชั่นมากขึ้น ซึ่งพร้อมที่จะเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคมนี้
ยักษ์ค้าปลีกกางแผนรบชิง"รังสิต" เซ็นทรัลทุ่ม1.3หมื่นล.จัดทัพใหญ่ปั้น"The M"เขย่า
หลังจากเฝ้ารอมานาน ยักษ์ใหญ่เซ็นทรัลจัดทัพลงทุนครั้งใหญ่กว่า 1.37 หมื่นล้านสำหรับบิ๊กโปรเจ็กต์บนที่ดินแปลงยักษ์โรงงานทอผ้าไทยเมล่อนเดิม ซึ่งพร้อมจะเปิดโฉมเขย่าตลาดค้าปลีกกรุงเทพตอนเหนือในปี 2559
จากที่ผ่านมา เซ็นทรัลสร้างการเติบโตต่อเนื่อง 15% ทุกปีควบคู่กับการเพิ่มพื้นที่ค้าปลีกใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศสำหรับเป้าหมาย 1.8 ล้าน ตร.ม. ภายในปี 2560 ผ่านโครงการยักษ์ที่ประกาศตัวไปแล้วกว่า 10 แห่ง อาทิ โคราช ระยอง นครศรีธรรมราช ภูเก็ต ฯลฯ ด้วยเม็ดเงินลงทุน 1.3-1.5 หมื่นล้านบาทต่อปี
ปั้น "The M" ท้าชน
แหล่งข่าวระดับสูงในแวดวงนักพัฒนาที่ดิน กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากกลุ่มจิราธิวัฒน์ ได้กวาดซื้อที่ดินไทยเมล่อนทั้ง 616 ไร่ และได้ให้ "เซ็นทรัลพัฒนา" เป็นทีมบริหารบิ๊กโปรเจ็กต์นี้ โดยได้ออกแบบโครงการขนาด 482,000 ตร.ม. ด้วยเม็ดเงินลงทุนเบื้องต้น 13,700 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าที่ดินประมาณ 4,200 ล้านบาทและมูลค่าก่อสร้างโครงการประมาณ 9,500 ล้านบาท
"ในเบื้องต้นทีมงานได้เรียกโครงการนี้ว่า โปรเจ็กต์ "เดอะ เอ็ม" สำหรับในการทำงาน ส่วนจะใช้ชื่อนี้ต่อไปหรือเปลี่ยนแปลงคงต้องมาว่ากันอีกที"
ผู้บริหารระดับสูงรายนี้ขยายความต่อว่า "เดอะ เอ็ม โปรเจ็กต์" เป็นโครงการที่กลุ่มเซ็นทรัลให้ความสำคัญและทุ่มเทอย่างมาก ไม่เพียงมูลค่าการลงทุนของโครงการที่มหาศาล แต่ทำเลของโครงการยังถือว่าเป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่กลุ่มเซ็นทรัลต้องการปักธง สาขาให้ครอบคลุมทั้ง 4 มุมเมือง คือ เซ็นทรัลบางนาที่ยกเครื่องรีโนเวตครั้งใหญ่พร้อมอวดโฉมต้นปี 2559, เซ็นทรัลปิ่นเกล้าที่เตรียมเปิดโฉมใหม่ปลายปีนี้, เซ็นทรัลเวสเกสต์กลางปีนี้ และเซ็นทรัล เดอะ เอ็ม ปี 2558
ทั้งนี้ ที่ดินแปลงใหญ่ไทยเมล่อน 616 ไร่นี้มีหน้ากว้างกว่า 1 กิโลเมตรขนานกับถนนพหลโยธิน และด้านหลังติดแนวรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงสอดคล้องกับการขยายตัวของโครงการ อสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่และการเติบโตของกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง
"ตอนนี้ผังเมืองรังสิต-ปทุมธานี อยู่ในช่วงต่ออายุผังเมืองครั้งที่ 1 จะหมดอายุในเดือนธันวาคม ปี 2558 และสามารถต่ออายุได้อีกหนึ่งครั้ง จากนั้นสามารถยื่นคำร้องขอเปลี่ยนแปลงผังเมืองได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจของกรมโยธาธิการและผังเมืองว่าจะอนุมัติหรือไม่ ซี่งหลังจากนี้จะยิ่งเห็นภาพการลงทุนและความเคลื่อนไหวของกลุ่มค้าปลีก ชัดเจนและร้อนแรงมากขึ้น"
"ฟิวเจอร์" เปิด พท.แสน ตร.ม.
ปัจจุบัน "ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต" เป็นศูนย์การค้าใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯตอนเหนือ ด้วยพื้นที่ 5 แสน ตร.ม. ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า กลุ่มฟิวเจอร์พาร์คได้ลงทุนครั้งใหม่เพื่อขยายพื้นที่โครงการศูนย์การค้าอีก 1 แสน ตร.ม. เพื่อรองรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันมีลูกค้าหมุนเวียน 1.5-1.6 แสนคนต่อวัน
อย่างไรก็ตาม การลงทุนของกลุ่มสยามฟิวเจอร์ฯและอิคาโน่ ในโปรเจ็กต์ "เมกา รังสิต" แม้จะยังไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดของโครงการนอกเหนือไปจากที่แจ้งในตลาด ว่าเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ด้วยการซื้อที่ดินกว่า 250 ไร่ด้วยเม็ดเงิน 700 ล้านบาทผ่านบริษัทร่วมทุนใหม่ "บริษัท นอร์ธ บางกอก ดีเวลอปเมนท์ จำกัด"
แต่เป็นที่รู้ในแวดวงนักพัฒนาที่ดินว่าความเคลื่อนไหวของการร่วมทุนรอบใหม่ระหว่างสยามฟิวเจอร์ฯและอิคาโน่ บนทำเลรังสิต-นครนายกไม่ได้หยุดแค่เพียงที่ดินจำนวน 250 ไร่เท่านั้น โดยได้มีการทยอยกว้านซื้อและไล่เก็บที่ดินทั้งบริเวณใกล้เคียงและฝั่งตรงข้ามแปลงมหึมากว่า 1,000 ไร่สำหรับการปั้นอาณาจักรค้าปลีกในเฟสแรกและจะมีการลงทุนในโครงการอีกหลาย รูปแบบทยอยเปิดตัวในแต่ละเฟส
ปัจจุบันค้าปลีกในโซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูงเป็นอันดับที่ 3 ของธุรกิจค้าปลีกในกรุงเทพฯ โดยอันดับ 1 โซนตะวันออก หรือโซนศรีนครินทร์ อันดับ 2 ตะวันตก หรือโซนราชพฤกษ์ บางใหญ่ ส่วนอันดับ 4 โซนใต้ หรือย่านพระราม 2
นางสาวพิมพ์ผกา หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท รังสิตพลาซ่า จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค ได้เผยถึงแผนการลงทุนรอบใหม่ก่อนหน้านี้ว่า ได้ใช้งบฯ 4,000 ล้านบาท สำหรับพัฒนาโครงการ "สเปล แอท ฟิวเจอร์ปาร์ค" พื้นที่กว่า 1 แสนตร.ม. สำหรับรองรับการแข่งขันของตลาดและเพื่อขยายลูกค้ากลุ่มระดับบนที่มีรายได้ ต่อหัวเฉลี่ยเดือนละ 85,000 บาท เน้นคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์และรูปแบบการใช้ชีวิตใจกลางเมืองสอดคล้องกับ พฤติกรรมของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในฟิวเจอร์พาร์ค ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มีความทันสมัยและความเป็นแฟชั่นมากขึ้น ซึ่งพร้อมที่จะเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคมนี้