กระซิบรัก...ที่เมืองน่าน

ศุกร์(สุข) ที่ 2 มกราคม 2558(2015) สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับ สำหรับผมปีนี้2014s ฮ่าๆๆ เพราะว่าดูๆไปแล้วคงไม่ต่างไปจากปีก่อนเท่าไรหรอกครับ   
หอศิลป์ริมน่าน , วัดภูมินทร์ , ซุ้มลีลาวดี สามสถานที่ท่องเที่ยวสุดนิยมของเมืองน่านที่รักในช่วงเวลานี้...อะไรนะเมืองน่านที่รักเหรอ? ใช่ครับ เมืองน่านที่คุณรักและเมืองน่านที่ผมรัก(ว่าแต่ผมมาบอกรักใครดี)

เริ่มต้นการเดินทางที่หมู่บ้านเล็กๆในอำเภอเชียงกลางครับ เพื่อนสาวผมคนนึง(น่ารักมากครับเพื่อนคนนี้) รถมอเตอร์ไซค์ธรรมดาที่ดูไม่ธรรมดาคันนึงจอดนิ่งหน้าบ้านของเมล์ อาการเมาของเมล์ยังไม่หายดี หลังจากการสังสรรค์เมื่อคืนนี้ เฮ้ย!!! ตื่นยังวะ อ่อ...มันตื่นแล้วหละครับ แม่ของเมล์ออกมาต้อนรับชายแปลกหน้าอย่างผม พ่อสวัสดีครับ น้าสวัสดีครับ “เอาหยังกิ๋นงายกั๋นครับนี่” การทักทายง่ายๆของชาวบ้านอย่างเราๆ เมล์นอนอยู่ในที่นอนแน่ะไปเรียกมันสิ เสียงพ่อพูดมาแต่ไกลๆ ครับ!  อ้าวตื่นแล้วไม่ลุกจากที่นอนวะ วันนี้ต้องพากูไปเที่ยวเมืองน่านนะ เอ่อออ...รู้ อิเมล์ตอบรับอย่างเป็นมิตร



แม่!!! ย๊ะหยังกิ๋นนะ เมล์ตะโกนถามแม่ เช้านี้คั่วดอกกะหล่ำ น้ำพริกแมงดา แก๋งบ่ะหนุน(ขนุน) ที่เด็ดที่สุดนี่เลยครับ คนมาน่านต้องไม่พลาด “ไก” นั่นน่ะของโปรดผมเลยนะนั่น ***ไก ได้ชื่อว่าเป็นสาหร่ายน้ำจืด ในแม่น้ำน่านมีเยอะครับ***  ไปกินข้าวกับแม่กูป่ะ กูยังกินไม่ได้ ด้วยอาการเมาค้างของมันทำให้มันทานอะไรไม่ได้ เช้านี้เรานั่งล้อมวงทานข้าวกันสามคนครับ พ่อ แม่ และส่วนเกินของครอบครัวเขาอย่างผม ฮ่าๆๆ  ส่วนเมล์เหรอครับได้แต่นั่งมองกับข้าวด้วยสายตาที่หมดอาลัยฯ  หลังจากที่อิ่มหนำกับอาหารเช้า(เข้างาย) เป็นที่เรียบร้อย ผมก็มีโอกาสได้นั่งคุยกับแม่ของเมล์ จิปาถะแหละครับทีนี้
แม่คุยสนุกมาก ประทับใจครับ (แต่คุยกันเรื่องอะไรนั้นขอเก็บไว้เป็นความลับก็แล้วกันนะครับ)

สายๆแล้ว เวลาน่าจะประมาณสามโมงเช้าเห็นจะได้ ได้เวลาแม่ออกไปเก็บพริก ส่วนพ่อล่วงหน้าออกไปก่อนแล้ว   ครับแม่เชิญครับ! ตามมารยาทแหละครับ แฮ่ะๆๆ อันที่จริงอยากไปคุยต่อที่สวนพริกด้วยซ้ำ   อิเมล์!!! นี่ยังไม่ได้อาบน้ำตั้งแต่เมื่อคืนแล้วใช่ป่ะ   เอ่อออ!!!รอกูแป๊บนึงห้านาที กูหนาวอยู่ทำใจแป๊บนึง   อากาศตอนนั้นประมาณ 17 – 20 องศาฯ เห็นจะได้ ผมเองก็ยัง เย็นๆ หนาวๆ อยู่เหมือนกัน
พ่อกับแม่ออกไปสวนพริกกันหมดแล้ว เหลือผมที่นั่งรอเมล์ อาบน้ำแต่งตัว   ป๊ะ! กูเสร็จแล้ว นี่ดูกูเอาเสื้อแม่มาใส่(ผมนี่คิดในใจนี่ก็ติสส์ เหลือเกินน๊อ) ชุดที่เมล์ใส่วันนี้ เสื้อแขนสามส่วน คุณคงเคยเห็นกางเกงสามส่วนใช่ไหมล่ะ แต่นี่เสื้อสามส่วน เหมือนว่ามันทำมาไม่เสร็จครับ จะถึงข้อมือก็ไม่ถึงจะเกินศอกมาสักห้าหกนิ้วเห็นจะได้ เสื้อสีขาวดูๆคล้ายๆเสื้อขนสัตว์(คงอุ่นน่าดู) วันนี้เมล์ใส่กระโปรงแดงครับ...อุต๊ะ!!! เอางี้เลยเหรอ ...แบบว่าเปรี้ยวมากอ่ะ ไอ้ทีแรกเราก็นึกว่ามันจะใส่เสื้อยืดกางเกงผ้าร่มอะไรประมาณนี้ เพราะที่คุยกันไว้เราจะเอารถมอ’ไซค์ ขึ้นดอยภูคากัน คุยกันไปคุยกันมาสรุปได้ว่าไม่ขึ้นดอยเพราะนักท่องเที่ยวเยอะมาก รถก็คงเยอะและอันตราย



เอางี้! เมล์ขับรถพาไปเที่ยวเอง ผมรีบตอบตกลงเลย สบายดีเสียอีกมีคนขับรถพาเที่ยว ฮ่าๆๆ   
สี่โมงเช้าเห็นจะได้กว่าจะได้ออกจากบ้านอิเมล์ ด้วยความทุลักทุเล(เนื่องจากอิคุณเมล์ยิ้มเล่นเฟสฯ ผมนึกในใจ...แล้วกูจะได้ไปกี่โมงว่ะเนี่ย)



หอศิลป์ริมน่าน ถึงแล้วครับอิเมล์ขับรถพาผมมาจนถึงที่นี่ อาจารย์วินัย  ปราบริปู ผู้ก่อตั้งหอศิลป์แห่งนี้   ศิลปะนั้นยาว ชีวิตนั้นสั้น(ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี) คำๆนี้จริงแท้แน่นอน เดินอยู่ด้านนอกหอศิลป์สักพักก็มาตั้งหลักที่ร้านกาแฟ ฟรุ้งฟริ้ง ร้านนึงครับ   เมล์...กูต้องการคาเฟอีนเข้าร่างกายสักหน่อย อาการเมาแฮงค์ของมันออกอาการอีกแล้วหละ อ่ะ! จัดไป กาแฟที่นึง ส่วนผมก็ขอชาร้อนๆเช่นเคยครับ





อากาศตอนนั้นกำลังดีเลยครับเหมาะมากสำหรับการเที่ยวมากๆครับ เราสองคนนั่งเสวนากันสักพักก็แยกย้ายกันเดินเที่ยว



สิ่งที่ผมอยากชมและตั้งใจเดินทางมาถึงเมืองน่านก็คือ ผลงานของอาจารย์ถวัล  ดัชนี และผลงานที่เขียนไว้ด้านล่างขวาของภาพว่า “มอบให้เมืองน่านที่รัก”   ครับ...ผลงานของคนบ้านเดียวกัน อาจารย์เฉลิมชัย  โฆษิตพิพัฒน์   ผมเคยมาเมืองน่านเมื่อหกปีที่แล้วยังประทับใจจนถึงวันนี้ ครั้งนั้นผมปั่นจักรยานมาจากจังหวัดอุตรดิตถ์ ปลายทางอำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่านนี่แหละครับ ตอนนั้นมีเงินติดตัวมาแค่สองร้อยบาท จริงๆนะครับเดี๋ยวจะหาว่าคุยไป สนุกสุดๆ วัดใจกันไปเลยว่าจะถึงหรือเปล่า ถึงนะครับ!!! (เดี๋ยวเรื่องนี้ไว้ค่อยมาเล่าใหม่อีกทีละกัน) สมใจครับ!!! มาเสพงานอ้ายหวั๋น มาหันงานอ้ายเหลิม




   
เคยมีคนถามผมว่าอาจารย์ครับงานศิลปะนี่มันมีความพิเศษตรงไหน บางรูปผมยังดูไม่ออกเลย ผมเลยแกล้งบอกไปว่าภาพแต่ละภาพน่ะให้คุณลองมองที่มุมล่างของภาพครับ ลายเซ็นใครนั่นแหละความพิเศษของมัน ฮ่าๆๆ อันที่จริงลายเซ็นมันก็แค่ส่วนหนึ่งนะ แต่ความงดงามมันอยู่ตรงที่เราได้ปลดปล่อยและรู้สึกตามภาพนั้นๆครับ คุณเคยดูหมีพูไหม เดี๋ยวผมเอาให้ดู



เป็นไงล่ะครับ ผลงานศิลปะก็คือรักนั่นแหละครับ คำนิยามมีมากมาย แต่สุดท้ายใช้แค่ความรู้สึก ศิลปะไม่ต้องการความพิเศษหรือความสวยงามหรอก หากแต่เราเอาใจมองศิลป์ ความงดงามของผลงานจะออกมาให้คุณชมครับ   ผลงานที่โดดเด่นและทำให้ “หอศิลป์ริมน่าน” เป็นที่กล่าวขานและต้องห้ามพลาดเมื่อมาเยือนเมืองน่าน ก็คือการใช้เทคนิค สีอะคริลิก บนผืนผ้าใบ ของอาจารย์วินัย   ปราบริปู ศิลปินชาวน่านนั่นเองแหละครับ

หลังจากที่ผมอิ่มหนำสำราญกับการเสพศิลป์ ที่หอศิลป์ริมน่านแล้ว เราก็เดินทางมาที่อำเภอเมืองจังหวัดน่านครับ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดน่าน มีร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ อยู่ใกล้ๆกับท่ารถ มองจากร้านนี้ก็จะเห็นสถานีขนส่งฯได้ครับ คนแถวนี้เขาเรียกร้านนี้ว่าก๋วยเตี๋ยวเนื้อขนส่ง ความพิเศษของร้านนี้อยู่ตรงที่มีภาพเล็กๆใส่กรอบรูปแบบบ้านๆขนาดประมาณกระดาษเอสี่เห็นจะได้ เป็นภาพที่ผมนี่เป็นปลื้มมากๆครับ ในภาพนั้นมีสมเด็จพระเทพฯ เสด็จมา ทานก๋วยเตี๋ยวที่ร้านแห่งนี้ (ขอประทานพระอนุญาตใช้คำสามัญ)   อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆครับ   ร้านเล็กๆดูอบอุ่น มีหญิงวัยกลางคนเป็นคนรับออเดอร์และลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว เด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มนั่งดูการ์ตูนอยู่ห่างๆมีหญิงวัยชราท่านหนึ่งนั่งอยู่ใกล้กับเด็กน้อย (โอกาสหน้าไม่พลาดที่จะเก็บภาพมาฝากนะครับ)



อิ่มสิครับ! หนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน ไอ้ผมนี่นึกเห็นใจอิเมล์มากๆครับ ต้องขับรถพาไอ้บ้าคนนึงเทียวไปเทียวมา บวกกับอาการแฮงค์ของมัน แล้วเวลานี้ยิ่งทานมื้อเที่ยงมาอิ่มๆก็ยิ่งหนักเลยครับ เข้าใจมันนะแต่ไม่รู้จะพูดกับมันยังไง   เมล์...ขับไปนะกูจะนอน ฮ่าๆๆ นั่นแหละครับที่ผมพูดกับเมล์ (ก็บอกแล้วผมนี่สุภาพบุรุษสุดๆ)



เที่ยงกว่าๆ หาที่จอดรถกันจิครับ หายากม๊วกกกๆๆ รถติดครับ เรามาได้ที่จอดรดกันในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติน่านครับ   อะไรกันนี่!!! สวนลีลาวดี สวยสุดๆไปเลยครับ ไม่อยากจะเชื่อเลย (แนะนำเลยครับใครที่มีคู่รัก สถานที่นี้โรแมนติกสุดๆ ดอกจันไว้เลยว่าต้องห้ามพลาด...จริงๆนะ มาให้ได้เลย)





ใกล้ๆกันคือวัดน้อยครับ วัดน้อยมีความสำคัญกับเมืองน่านอย่างไร (ในgoogleครับ ฮ่าๆๆ) ***กระชิบนิดนึงครับ วัดน้อยเป็นวัดที่เล็กที่สุดในประเทศไทยครับ   เดินกันต่อไปจร้า ไฮไลท์ของจังหวัดน่านต้องนี่เลยครับ “วัดภูมินทร์”   วัดภูมินทร์มีความพิเศษตรงที่...ผมต้องถอดรองเท้าเข้าไป   ฮ่าๆๆ ไม่ผิดเป็นแน่ครับ ผมต้องถอดรองเท้า ต้องอธิบายอย่างนี้ครับ ผมขับมอเตอร์ไซค์ต้องใส่รองเท้าหนังหุ้มข้อ ซึ่งที่คุณๆรู้กันแหละครับ รองเท้าหนังกับอากาศร้อนๆตอนเที่ยง แถมยังเดินมาแล้วเกือบครึ่งวัน เหม็นสิครับ!!!   กูขอเวลาสามนาที เดี๋ยวกูตามเข้าไป (ทำใจสิครับ) คนเยอะมากครับเวลานั้น แล้วตีนกูล่ะ? คิดไม่ตกครับ   เอ้า!!!ไหนๆก็มาถึงละ เข้าก็เข้าว่ะ เดี๋ยวคนอื่นเหม็นทนไม่ไหวเขาก็ออกไปเอง ฮ่าๆๆ   อ่ะๆๆ โอเคครับ เอาทีเด็ดจริงๆละ ความพิเศษของวัดภูมินทร์ก็คือ มีพระประทานที่หันพระพักตร์ ไปทั้งสี่ทิศ  หรือใครจะบอกว่าพระประทานมีถึงสี่องค์ก็ไม่ผิดครับ



อีกหนึ่งเสน่ห์ของวัดภูมินทร์ก็คงหนีไม่พ้นจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม ซึ่งถ่ายทอดผลงานโดย ”หนานบัวผัน” ลองติดตามไปตามนี้นะครับ http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000158686
ภาพจิตรกรรมที่เด็ดจริงๆและถือว่าถ้ามาเมืองน่านและไม่ได้ถ่ายรูปกับผลงานชิ้นนี้ถือว่ายังมามาถึงเลยหล่ะครับ “ปู่ม่าน ย่าม่าน” เมื่อพูดอย่างนี้หลายท่านคงยังไม่ทราบ แต่ถ้าจะบอกว่าภาพ ”กระซิบรักบันลือโลก“ หลายหลายคนคงร้องอ๋อใช่ไหมล่ะครับ ไม่ว่าใครที่มาเยือนที่นี่ต้องมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันแทบทุกคน



ความสวยงามของเมืองน่านยังคงมีสภาพที่สมบูรณ์ เมืองแห่งความสงบ เมืองแห่งอารยะธรรม เมืองที่ยังเป็นตัวของตัวเองและมีอัตลักษณ์ที่โดดเด่น

   

รักน่าน นาน นาน นะ...คำๆนี้ใช้ได้กับหลากหลายผู้คนที่มาเยือนเมืองน่านรวมทั้งผมด้วย เมืองน่านเมืองที่คุณๆมาเยือนแล้วต้องตกหลุมรัก เมืองที่ตราตรึงใจนักท่องเที่ยวหลายๆท่าน ที่มาชมความสวยงามของธรรมชาติ โบราณสถาน และความเป็นเมืองน่าน.....ตลอดไป



อ๊ะๆๆ!!! ยังไม่จบครับ ทริปดีๆสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สุดท้ายก่อนกลับที่พักที่เมล์พาผมมาสักการะ คือ “เจ้าพ่อพญาไมย(สบก๋อน)” แห่งอำเภอเชียงกลางครับ ชึ่งได้ชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้ที่ใดๆครับ







แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง ขอบคุณทริปดีๆ สถานที่สวยๆ คนนำทางที่สุดแสนน่ารัก ขอบคุณเมืองน่านที่มอบความสุขให้กับผมและอีกหลายๆคน…ขอบคุณครับ
    
***เก็บตกนิดหน่อยจร้า


เดินทางมาจากอำเภอทองแสนขัน อุตรดิตถ์จร้า การจราจรคล่องตัวดี


อีกนิดเดียวจะถึงเมืองน่านที่รักล่ะ


น้องซีอยากพักละ หยุดพักให้น้องเค้าสักหน่อย


ปลายทางเมืองเชียงกลางครับ ตามหาที่พักก่อนนะ


ลูกสาวเมล์ทำหน้าที่ได้ดีมาก


ลาแล้วนะเมืองน่านที่รัก...เส้นทางดอยจี๋กับน้องซีของผม

    รักน่าน...นาน...นาน...นะ
             นายจ๊อบ
            มกราคม 2558
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่