การพิมพ์ดอลล่าร์ไม่ได้ผูกค่ากับทองคำ ตั้งแต่ปี1971 หรือปีที่นิกสันเป็นประธานาธิบดี เพราะฉะนั้นเประเทศไหนเอาเงินดอลล่าร์ไปเก็บ ก็จะเป็นประโยชน์กับอเมริกา  คืออเมริกาได้ทรัพยากร ประเทศที่เอาเงินได้เพียงกระดาษ
                    เมื่อไหร่ที่อเมริกาผลิตเงินมากเกินไปจนเพ้อ ผู้ที่เดือดร้อนไม่ใช่อเมริกา แต่เป็นประเทศที่เอาเงินดอลล่าร์ไปเก็บนั่นแหละ ที่จะต้องรักษาสถานะภาพของดอลล่าร์ให้มีค่าคงที่ ถ้าเงินดอลล่าร์อ่อนค่า เงินที่เก็บก็มีค่าน้อย ตัวเองก็ขาดทุน
                    นี่คือความเหนือชั้นของอเมริกา
                    เพราะฉะนั้น ประเทศที่นำเงินดอลลาร์ไปเป็นเงินสำรอง หรือเงินคงคลัง  ก็เหมือนตกเป็นทาสรับใช้อเมริกา  
                    อุปมาเหมือนเด็กเล่นขายของ คนหนึ่งขุดดิน แล้วใส่ในใบตอง เอาดอกไม้เล็กๆมาโรยหน้าแล้วห่อ สมมุติเป็นขนม   ส่วนอีกคนทำตัวเป็นผู้ซื้อ ไปรูดใบไม้มา แล้วเอาใบหนึ่งมาแลกกับขนมปลอม  คงรู้นะว่าใครได้เปรียบ ใครเสียเปรียบ  
                    อเมริกาทำตัวเหมือนคนรูดใบไม้มาซื้อ ประเทศอื่นๆต้องทำลายป่าไม้ ขุดแร่ธาตุ ผลิตอาหาร เกษตรกรรม กสิกรรม ประมง สินค้าอุตสาหกรรม ฯลฯ ส่งให้อเมริกาเพียงเพื่อแลกกับกระดาษที่ชื่อว่าดอลล่าร์เท่านั้น
                   อเมริกา เอาทรัพยากรจากแต่ละประเทศไปพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ มีเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดยักษ์ เป็นสิบๆลำ และเพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี ใช้เหล็กจำนวนมหาศาลจากประเทศต่างๆ มีสถาบันวิทยาศาสตร์ที่ค้นคว้าอาวุธสมัยใหม่ ทั้งสาขา ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา และอวกาศ สร้างความยิ่งใหญ่ให้กับตนเอง ประชาชนอยู่ดีกินดี บ้านเมืองใหญ่โต และเข้าไปแซกแซงการเมืองของแต่ละประเทศไห้สวามิภักดิ์กับตนได้อย่างสะบาย ด้วยกระดาษปึกหนาๆระบุตัวเลขตามแต่ต้องการ เงินเท่านั้นที่เป็นพื้นฐานของความสุข อำนาจ และเป็นเงินที่อเมริกาไม่ได้หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง แค่ปั๊มออกมาตามความพอใจ
                    พ.ต.ท.ทักษิณ มองเห็นการณ์ไกล คิดจะปลดแอกความเป็นทาสนี้ จึงผลักดันเอเชียบอนด์ให้เป็นรูปธรรม เพื่อที่ประเทศทั้งเอเชีย พ้นจากความเป็นทาสอเมริกา
                        พ.ต.ท.ทักษิณเคยกล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่กลุ่มประเทศเอเชียควรมีพันธบัตรสกุลเงินของตนเอง