เหตุเพิ่งเกิดเมื่อ 1 ชั่วโมง ที่แล้วค่ะ แผลสดใหม่ อารมณ์ครุกรุ่นมากๆๆๆ
คือวันนี้ก็ไปซื้อของที่โลตัส สาขานครนายกค่ะ ซื้อไม่กี่ชิ้นค่ะ มาหาญาติ ซื้อของใช้ส่วนตัวที่ขาดตกบกพร่องเล็กน้อย
ก็เดินเลือกซื้อของตามปกติ ตอนหยิบซื้อก็ดูราคา และอ่านป้ายตามปกติของผู้บริโภคทั่วไป
มาที่สินค้าต้นเรื่องค่ะ สบู่ 1 แพค dettol โอ้ววววว จากราคา 59 ลดเหลือ 35 บาท จะไม่เอาได้อย่างไร ถึงจะไม่อยู่ใน list ก็เถอะ
(คิดในใจ)ห้างนี้ชอบติดป้ายผิด หรือ ราคาไม่ตรงกับของที่วาง หรือ ของที่วางไม่ตรงราคา
เคยโดนแบบนี้มาแล้ว กับห้างดอกบัวนี้ 3 ครั้ง ทุกครั้งก็เอาไปเคลมที่จุดบริการลูกค้า เค้าก็ให้ซื้อในราคาที่เราเห็นในชั้นและตัดสินใจซื้อ ก็โอน่ะ
ส่วนครั้งไหนขี้เกียจเช็คราคา บางทีมันซื้อเยอะอะน่ะ ก็ปล่อยผ่านไป ถือว่าคืนกำไรให้ผู้ขาย
เห็นราคา sale 35 บาท ก็ตัดสินใจ เอาแน่ค่ะ แต่จากประสบการณ์ที่เคยผ่านมา เดี๋ยวก่อนน่ะ ขอดูก่อนว่าลดราคาทุกรสชาติ
เอ้ยยยยยย ทุกสี ทุกกลิ่นรึเปล่า ก็กวาดสายตาดูทันที ปรากฏว่า ของในบริเวณนั้น ประมาณ 2 ชั้น เป็นยี่ห้อนี้ ขนาดเท่ากัน ไม่มีอันไหนมาปลอมปน
ลดราคาจาก 59 เหลือ 35 ทุกอันค่ะ เมื่อมั่นใจในราคาเต็มที่แล้ว ก็ปฏิบัติการดมค่ะ ดมๆๆๆๆ ก็ได้มาค่ะ กลิ่นที่ชอบ 1 แพค
ไปจ่ายเงินค่ะ ระหว่างจ่ายเงิน สายตาก็มองนู่นนี่นั่นไปเรื่อย แล้วก็ไปสะดุดเจอป้ายโฆษณาตัวโต แขวนอยู่ สูงเหนือหัวไม่มากนัก
บอกว่า "คืนเงิน 10 เท่า ของราคาส่วนต่าง จากในชั้นวางสินค้า กับราคาที่คิดเงิน" ติดหลายป้ายเลยน่ะค่ะ
(คิดในใจ) ดีจัง คงมีลูกค้าหลายคนบ่นใน case นี้บ่อยๆ ทางห้างจึงอยากแสดงความจริงใจ บริสุทธิ์ใจ สร้างความเชื่อมั่น และมาตรฐานให้ลูกค้า
น่าชื่นชมจัง กล้ามากด้วยน่ะ เยี่ยมๆๆๆๆๆ
คิดเงินเสร็จ วันนี้ซื้อของไม่มาก ระหว่างเดินลงบันไดเลื่อน ตรวจสอบราคาสักหน่อย
นั่นไง จนได้ ผิดอีกแล้วน่ะจ๊ะ ไม่ใช่ 35 นี่หว่า 59 เต็มๆตา ดูในบิลไม่ต่ำกว่า 3 รอบ กลัวตาลาย ตามนั้นค่ะ คิด 59 บาท
อารมณ์พุ่งพล่าน อยากลงให้ถึงชั้น 1 เร็วๆ แล้วขึ้นไปใหม่
10 เท่าของชั้น 59-35 =24 คูณ 10 = 240 คิดคำนวณได้อย่างรวดเร็ว
แล้วก็ขึ้นไปที่จุดบริการลูกค้า
จขกท: คือว่า สบู่นี่ค่ะ ติดที่ชั้นว่าลดจาก 59 เหลือ 35 แต่ทำไมยังคิดเงิน 59 ค่ะ
พนง: ค่ะ ลูกค้า รอสักครู่น่ะค่ะ
แล้วพนักงานก็เอาบิลไป เอาสบู่ไปยิงบาร์โค๊ด จิ้มๆๆๆ ที่เครื่องคิดเงิน ยิงบาร์โค๊ด จิ้มๆๆๆๆ ยิงบาร์โค๊ด
โดยที่ไม่ได้ให้ใครไปเช็คที่ชั้นเลยน่ะค่ะ ว่าเราโกหก หรือเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง
พนง: รบกวนลูกค้าเขียน ชื่อ ที่อยู่ ด้วยค่ะ
เราก็เขียนๆๆๆ นึกในใจ กำลังจะได้เงิน 240 หรือนี่
กำลังจะเขียนจบ พนง: เรียบร้อยค่ะลูกค้า (พร้อมกับยื่นเงินมา 24 บาท)
จขกท: (นึกในใจ)ห๊ะ อะไรน่ะ ไอ้โครงการคืน 10 เท่า มันหมดเขต หรือภาพลวงตาค่ะ คุณขา
: ตัดสินใจถาม เอ่อ คือว่า (มือชี้ไปที่ป้าย) ไม่คืนเงิน 10 เท่าเหรอค่ะ
พนง: อ่อ รายการส่งเสริมการขายนี้ หมดไปแล้วเมื่อวานค่ะ
จขกท: ปรี๊ดค่ะ ปรี๊ด แล้วทำไมไม่เอาออกละค่ะ อย่างนี้มันไม่ถูกต้องน่ะ
มี พนง. อีกคนมากระซิบ จับใจความว่าพี่ไปเช็คที่ชั้นแล้วเหรอ ได้รับคำตอบว่า อืม มันหมดอายุ แล้ว แต่ยังไม่ได้เอาออก
พนง: ต้องขอโทษด้วยน่ะค่ะ นี่ค่ะส่วนต่างลูกค้า 24 บาท คือมันเป็นช่วงเทศกาล พนักงานเราไม่พอค่ะ เปลี่ยนป้ายไม่ทัน
จขกท: ค่ะ (พร้อมกับเขียนที่อยู่ให้เสร็จ และเพิ่มเบอร์โทรไว้ให้ด้วย เผื่ออยากติดต่อมา) ขอบคุณค่ะ
เดินออกมาแบบว่ารู้สึกถูกทำร้ายจิดใจ แบบไม่มีเหตุผล ไม่รับผิดชอบเลย
1. แล้วลูกค้าคนอื่นที่เค้าตัดสินใจซื้อที่ราคา 35 แล้วไม่ได้ตรวจสอบราคาที่บิลหละ....ห้างได้ประโยชน์ ลูกค้าเสียเปรียบโดยไม่รู้ตัวน่ะค่ะ
2. การติดป้าย คืนเงิน 10 เท่า แต่เหตุผลที่คุณอ้างคือ เราพนักงานไม่พอ ช่วงปีใหม่ ทำให้เอาป้ายออกไม่ทัน...ลูกค้าจะต้องมารับผิดชอบ กับเรื่องนี้ด้วยเหรอค่ะ ความยุติธรรมกับผู้บริโภคคือ???
แนะนำน่ะค่ะ ทางห้างควร * ตัวเล็กๆๆๆๆด้วยว่า คืนเงิน 10 เท่า โดยสิทธิ์ในการคืนเงินอยู่ในดุลยพินิจของทางห้างเท่านั้น
คือถ้าเรื่องนี้ทางห้างไม่ติดป้ายว่าคืน 10 เท่า เราคงไม่เสียใจ เพราะแต่เดิมทางห้างก็คืนส่วนต่างอยู่แล้ว (ประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคทราบด้วยก็ดีน่ะ)
บ่น ระบาย อยากพูดให้ฟัง จบแล้วค่ะ
ขอบคุณค่ะ...ยังไงก็ยังเป็นลูกค้าดอกบัวอยู่ดีค่ะ
โลตัส คืนส่วนต่าง 10 เท่า ถ้าราคาในชั้นวางของต่างจากราคาในใบเสร็จ ไม่เห็นจะจริง!?!
คือวันนี้ก็ไปซื้อของที่โลตัส สาขานครนายกค่ะ ซื้อไม่กี่ชิ้นค่ะ มาหาญาติ ซื้อของใช้ส่วนตัวที่ขาดตกบกพร่องเล็กน้อย
ก็เดินเลือกซื้อของตามปกติ ตอนหยิบซื้อก็ดูราคา และอ่านป้ายตามปกติของผู้บริโภคทั่วไป
มาที่สินค้าต้นเรื่องค่ะ สบู่ 1 แพค dettol โอ้ววววว จากราคา 59 ลดเหลือ 35 บาท จะไม่เอาได้อย่างไร ถึงจะไม่อยู่ใน list ก็เถอะ
(คิดในใจ)ห้างนี้ชอบติดป้ายผิด หรือ ราคาไม่ตรงกับของที่วาง หรือ ของที่วางไม่ตรงราคา
เคยโดนแบบนี้มาแล้ว กับห้างดอกบัวนี้ 3 ครั้ง ทุกครั้งก็เอาไปเคลมที่จุดบริการลูกค้า เค้าก็ให้ซื้อในราคาที่เราเห็นในชั้นและตัดสินใจซื้อ ก็โอน่ะ
ส่วนครั้งไหนขี้เกียจเช็คราคา บางทีมันซื้อเยอะอะน่ะ ก็ปล่อยผ่านไป ถือว่าคืนกำไรให้ผู้ขาย
เห็นราคา sale 35 บาท ก็ตัดสินใจ เอาแน่ค่ะ แต่จากประสบการณ์ที่เคยผ่านมา เดี๋ยวก่อนน่ะ ขอดูก่อนว่าลดราคาทุกรสชาติ
เอ้ยยยยยย ทุกสี ทุกกลิ่นรึเปล่า ก็กวาดสายตาดูทันที ปรากฏว่า ของในบริเวณนั้น ประมาณ 2 ชั้น เป็นยี่ห้อนี้ ขนาดเท่ากัน ไม่มีอันไหนมาปลอมปน
ลดราคาจาก 59 เหลือ 35 ทุกอันค่ะ เมื่อมั่นใจในราคาเต็มที่แล้ว ก็ปฏิบัติการดมค่ะ ดมๆๆๆๆ ก็ได้มาค่ะ กลิ่นที่ชอบ 1 แพค
ไปจ่ายเงินค่ะ ระหว่างจ่ายเงิน สายตาก็มองนู่นนี่นั่นไปเรื่อย แล้วก็ไปสะดุดเจอป้ายโฆษณาตัวโต แขวนอยู่ สูงเหนือหัวไม่มากนัก
บอกว่า "คืนเงิน 10 เท่า ของราคาส่วนต่าง จากในชั้นวางสินค้า กับราคาที่คิดเงิน" ติดหลายป้ายเลยน่ะค่ะ
(คิดในใจ) ดีจัง คงมีลูกค้าหลายคนบ่นใน case นี้บ่อยๆ ทางห้างจึงอยากแสดงความจริงใจ บริสุทธิ์ใจ สร้างความเชื่อมั่น และมาตรฐานให้ลูกค้า
น่าชื่นชมจัง กล้ามากด้วยน่ะ เยี่ยมๆๆๆๆๆ
คิดเงินเสร็จ วันนี้ซื้อของไม่มาก ระหว่างเดินลงบันไดเลื่อน ตรวจสอบราคาสักหน่อย
นั่นไง จนได้ ผิดอีกแล้วน่ะจ๊ะ ไม่ใช่ 35 นี่หว่า 59 เต็มๆตา ดูในบิลไม่ต่ำกว่า 3 รอบ กลัวตาลาย ตามนั้นค่ะ คิด 59 บาท
อารมณ์พุ่งพล่าน อยากลงให้ถึงชั้น 1 เร็วๆ แล้วขึ้นไปใหม่
10 เท่าของชั้น 59-35 =24 คูณ 10 = 240 คิดคำนวณได้อย่างรวดเร็ว
แล้วก็ขึ้นไปที่จุดบริการลูกค้า
จขกท: คือว่า สบู่นี่ค่ะ ติดที่ชั้นว่าลดจาก 59 เหลือ 35 แต่ทำไมยังคิดเงิน 59 ค่ะ
พนง: ค่ะ ลูกค้า รอสักครู่น่ะค่ะ
แล้วพนักงานก็เอาบิลไป เอาสบู่ไปยิงบาร์โค๊ด จิ้มๆๆๆ ที่เครื่องคิดเงิน ยิงบาร์โค๊ด จิ้มๆๆๆๆ ยิงบาร์โค๊ด
โดยที่ไม่ได้ให้ใครไปเช็คที่ชั้นเลยน่ะค่ะ ว่าเราโกหก หรือเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง
พนง: รบกวนลูกค้าเขียน ชื่อ ที่อยู่ ด้วยค่ะ
เราก็เขียนๆๆๆ นึกในใจ กำลังจะได้เงิน 240 หรือนี่
กำลังจะเขียนจบ พนง: เรียบร้อยค่ะลูกค้า (พร้อมกับยื่นเงินมา 24 บาท)
จขกท: (นึกในใจ)ห๊ะ อะไรน่ะ ไอ้โครงการคืน 10 เท่า มันหมดเขต หรือภาพลวงตาค่ะ คุณขา
: ตัดสินใจถาม เอ่อ คือว่า (มือชี้ไปที่ป้าย) ไม่คืนเงิน 10 เท่าเหรอค่ะ
พนง: อ่อ รายการส่งเสริมการขายนี้ หมดไปแล้วเมื่อวานค่ะ
จขกท: ปรี๊ดค่ะ ปรี๊ด แล้วทำไมไม่เอาออกละค่ะ อย่างนี้มันไม่ถูกต้องน่ะ
มี พนง. อีกคนมากระซิบ จับใจความว่าพี่ไปเช็คที่ชั้นแล้วเหรอ ได้รับคำตอบว่า อืม มันหมดอายุ แล้ว แต่ยังไม่ได้เอาออก
พนง: ต้องขอโทษด้วยน่ะค่ะ นี่ค่ะส่วนต่างลูกค้า 24 บาท คือมันเป็นช่วงเทศกาล พนักงานเราไม่พอค่ะ เปลี่ยนป้ายไม่ทัน
จขกท: ค่ะ (พร้อมกับเขียนที่อยู่ให้เสร็จ และเพิ่มเบอร์โทรไว้ให้ด้วย เผื่ออยากติดต่อมา) ขอบคุณค่ะ
เดินออกมาแบบว่ารู้สึกถูกทำร้ายจิดใจ แบบไม่มีเหตุผล ไม่รับผิดชอบเลย
1. แล้วลูกค้าคนอื่นที่เค้าตัดสินใจซื้อที่ราคา 35 แล้วไม่ได้ตรวจสอบราคาที่บิลหละ....ห้างได้ประโยชน์ ลูกค้าเสียเปรียบโดยไม่รู้ตัวน่ะค่ะ
2. การติดป้าย คืนเงิน 10 เท่า แต่เหตุผลที่คุณอ้างคือ เราพนักงานไม่พอ ช่วงปีใหม่ ทำให้เอาป้ายออกไม่ทัน...ลูกค้าจะต้องมารับผิดชอบ กับเรื่องนี้ด้วยเหรอค่ะ ความยุติธรรมกับผู้บริโภคคือ???
แนะนำน่ะค่ะ ทางห้างควร * ตัวเล็กๆๆๆๆด้วยว่า คืนเงิน 10 เท่า โดยสิทธิ์ในการคืนเงินอยู่ในดุลยพินิจของทางห้างเท่านั้น
คือถ้าเรื่องนี้ทางห้างไม่ติดป้ายว่าคืน 10 เท่า เราคงไม่เสียใจ เพราะแต่เดิมทางห้างก็คืนส่วนต่างอยู่แล้ว (ประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคทราบด้วยก็ดีน่ะ)
บ่น ระบาย อยากพูดให้ฟัง จบแล้วค่ะ
ขอบคุณค่ะ...ยังไงก็ยังเป็นลูกค้าดอกบัวอยู่ดีค่ะ