ฉันท้อกับชีวิตนี้มาก จนแม้แต่คำว่า ต้องลุก ก็ฟังดูเจ็บปวด ลุกมาทำไม ไม่เห็นจะมีอะไรดีเลย ชีวิตนี้มันแย่เหลือเกิน ไม่อยากจะอยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว เมื่อทำสิ่งๆหนึ่งจบลง ฉันจะไปฆ่าตัวตาย ส่วนเรื่องที่ฉันคิดก็คือ แม่ของฉันมีญาติพี่น้องน้อยมาก ถ้าฉันตายตอนนี้ท่านคงจะตายอย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครมางาน ฉันคิดว่าหลังจากแม่ฉันตาย ฉันจะจัดงานให้ท่านจนจบ และจะไปเดินในทะเลให้หายไปจากโลกนี้ตามท่านไป ชีวิตฉันไม่เหลือใครอีกแล้ว เรื่องมันจะได้จบๆซักที แต่ลองคิดต่อไป หลังจากฉันตาย คนที่ร้องไห้ให้กับฉันอะมีแน่ๆ แต่รอยแสยะยิ้ม และเสียงหัวเราะเยาะ ปนกร่นด่าพร้อมคำนินทา กับสิ่งที่ฉันทำ มันเป็นหนังที่จบไม่สวยเลย เพราะเรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว มันจบลงแค่ตรงนั้น อยู่ดีๆ ก็นึกหน้าคนกลุ่มนึงได้ คนที่พร้อมจะหัวเราะเยาะกับการกระทำของเรา คนที่พร้อมจะนินทากับสิ่งที่เรากระทำลงไป ต่อให้มโนภาพสภาวะจิตใจของเราจะเหมือนนักรบที่พ่ายแพ้ต่อสงคราม เลือดตกยางออก ร่างกายบอบช้ำสาหัส ไม่มีแรงแม้แต่จะลุก ฉันก็อยากจะลุกขึ้นมา ให้พวกเขาเห็นว่า ฉันยังลุกได้ ต่อให้ล้มลงอีกสัก100ครั้ง ชั้นก็จะลุกขึ้นให้ได้ แค่ไหนก็แค่นั้น แต่ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกเกี่ยวกับตัวฉันอีกต่อไปแล้ว ต่อไปนี้ฉันจะลืมให้หมด และเริ่มต้นชีวิตใหม่ มันอาจจะเริ่มจากติดลบ แต่ชั้นจะค่อยๆตะเกียดตะกายขึ้นไปให้ได้ และทำให้ทุกคนเห็นว่า ต่อให้ฉันล้มอีกสัก 1000 ครั้ง ฉันจะไม่ตาย ยังไงฉันจะลุกขึ้นมาเพื่อดูรอยแสยะยิ้มนั่น
ทุกคนมีทัศนคติไม่เหมือนกัน มีความคิดที่แตกต่าง และมีวิธีการเอาตัวรอดในสังคมไม่เหมือนกัน เพราะปัญหาของแต่ละคนแตกต่างกัน ไม่มีอะไรผิดหรือถูก แต่สิ่งที่อยากให้ยึดถือไว้คืออย่ายอมแพ้ ถ้าเราจะแพ้ก็ให้สังขารเป็นตัวกำหนดชีวิตเราเอง แต่ถ้ายังมีแรงหายใจอยู่ ขอให้ลุกขึ้นมาสู้กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นรอบๆตัวเรา เราเกิดเป็นคน เรามีสัญชาตญาณนักสู้อยู่ในตัวอยู่แล้ว อาจท้อแท้บ้าง อาจอ่อนแอบ้าง แต่เราจะต้องกลับมาเข้มแข็งให้ได้นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดเพื่อที่จะอยู่ต่อไป เราไม่ได้เจ็บปวดอย่างโดดเดี่ยว ยังมีคนอีกจำนวนมากที่เจ็บปวดเป็นเพื่อนเรา อาจจะเจ็บมากกว่าด้วยซ้ำ แต่เขาก็ยังสู้กับมัน และผ่านมันมาได้ ตัวเราเองก็จะผ่านมันไปได้เหมือนกัน นี่คือการแสดงความจริงใจเท่าที่ฉันพอจะทำได้
ทัศนคติด้านลบที่ช่วยฉันไว้ เผื่อช่วยอะไรคุณได้ไม่มากก็น้อย
ทุกคนมีทัศนคติไม่เหมือนกัน มีความคิดที่แตกต่าง และมีวิธีการเอาตัวรอดในสังคมไม่เหมือนกัน เพราะปัญหาของแต่ละคนแตกต่างกัน ไม่มีอะไรผิดหรือถูก แต่สิ่งที่อยากให้ยึดถือไว้คืออย่ายอมแพ้ ถ้าเราจะแพ้ก็ให้สังขารเป็นตัวกำหนดชีวิตเราเอง แต่ถ้ายังมีแรงหายใจอยู่ ขอให้ลุกขึ้นมาสู้กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นรอบๆตัวเรา เราเกิดเป็นคน เรามีสัญชาตญาณนักสู้อยู่ในตัวอยู่แล้ว อาจท้อแท้บ้าง อาจอ่อนแอบ้าง แต่เราจะต้องกลับมาเข้มแข็งให้ได้นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดเพื่อที่จะอยู่ต่อไป เราไม่ได้เจ็บปวดอย่างโดดเดี่ยว ยังมีคนอีกจำนวนมากที่เจ็บปวดเป็นเพื่อนเรา อาจจะเจ็บมากกว่าด้วยซ้ำ แต่เขาก็ยังสู้กับมัน และผ่านมันมาได้ ตัวเราเองก็จะผ่านมันไปได้เหมือนกัน นี่คือการแสดงความจริงใจเท่าที่ฉันพอจะทำได้