สัญชาตญาณดิบ

กระทู้สนทนา


             “ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด”

             เสียงสำรากสกปรกกักขฬะของโชเฟอร์ขับรถแท็กซี่ เปิดเผยโฉมหน้าแท้จริงให้เห็นถึงความเลวทรามต่ำช้า บนทางเปลี่ยวในยามค่ำคืน พร้อมใบมีดคมวาวจี้บริเวณลำคอเป็นการบังคับ ฉันตัวสั่นด้วยความเสียใจและหวาดกลัว ผู้คนในสังคมเมืองไว้ใจไม่ได้อย่างที่แม่เคยบอกไว้
 

             ก่อนหน้านี้ไม่นาน
 
             ความผิดของฉันเอง  ทำไมฉันต้องเดินทางตัวคนเดียว เข้ามาในเมืองหลวง เพียงแต่เชื่อคำพูดของผู้ชายคนหนึ่ง ที่รู้จักกันไม่ถึงปี  ความรักบางทีก็วิ่งแซงหน้า คำว่า เหมาะสมถูกต้อง ฉันบากหน้ามาจากบ้านนอก เพียงเพราะเขาบอกว่า จะพาฉันไปพบครอบครัวของเขา มันก็เป็นความฝันธรรมดาของหญิงสาวแทบทุกคน ที่ไม่อยากสิงสู่อยู่กับคานทอง จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม เขาปิดโทรศัพท์ ติดต่อไม่ได้ จากเวลากลางวันเป็นกลางคืน ฉันผลุดลุกผลุดนั่ง ไม่รู้กี่รอบทื่บริษัทขนส่งจำกัด หมอชิต ผู้คนมากมายสับสนผ่านมาและผ่านไปในความรู้สึกหนักอึ้งหม่นมัว กำลังจะกลายเป็นความสิ้นหวัง 

             โชเฟอร์คนนี้ คงแอบสังเกตความเคลื่อนไหวของฉันอยู่นาน มันจึงได้โอกาสเข้ามาหาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มน่าเชื่อถือ ซักถามถึงปัญหา แน่นอนว่าฉันไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังอะไร เพราะรู้สึกว่าเข้าตาจนเสียแล้ว แฟนก็ไม่มารับ แล้วจะให้ฉันพึ่งพาใคร

             ตำรวจเหรอ ไม่...แม่บอกว่า ตำรวจก็ไม่น่าไว้ใจ 

             “ลุงรู้จักแถวนั้นดี ไปไหมล่ะ ผ่านทางกลับบ้านลุงพอดี ลดให้ครึ่งราคาเชียวนา”

             นั่นไง...คำชักจูงหว่านล้อมของปีศาจ ฉันเองก็ไม่ทันคิดหรอก รู้แต่ว่าคนที่กำลังลอยคอในทะเลเวิ้งว้าง มีอะไรพอยึดเหนี่ยวได้ ก็จำใจคว้าไว้ก่อน  ฉันจึงหอบกระเป๋า ขึ้นแท็กซี่นรกในที่สุด  ไม่ผิดกับเดินเข้าสู่ปากสกปรก ของปีศาจร้ายหิวกระหาย
 
 
             นี่เป็นครั้งสุดท้าย ที่ฉันจะไม่เชื่อใจ คำพูด ของสิ่งมีชีวิต ที่เรียกว่า ‘ผู้ชาย’  อีกต่อไป ประสบการณ์เลวร้ายสอนให้คิดแบบนี้อย่างช่วยไม่ได้ ไม่ได้ปฏิเสธหรอกว่า ยังมีผู้ชาย ดีๆ อีกมากมาย เพียงแต่ฉันไม่มีโอกาสพบ หรือรู้จักเท่านั้น  ดูอย่างผู้ชายที่ฉันมอบความรักและความจริงใจให้ ขนาดจะยอมแต่งงานด้วย ยังหักหลังอย่างร้ายกาจที่สุด แล้วจะให้เชื่อใจใครได้

             โชเฟอร์แท็กซี่ขับรถมาจนถึงทางเปลี่ยว สัญชาตญาณทำให้ฉันนึกรู้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้น จึงได้แต่ยกมือไหว้อ้อนวอนขอความเมตตา แต่ไร้ผล ความหื่นหระหายมีพลังเหนือความรู้สึกผิดชอบชั่วดี มันพกมีดติดตัวมาด้วย เหมือนเตรียมตัวหาจังหวะกระทำชั่วอยู่ก่อนแล้ว

             “ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด”  มันสำรากอีกครั้ง พร้อมกับกดคมมีดเข้ามายังบริเวณลำคอที่กำลังสะอึกสะอื้น

             ก็ได้...

             ฉันตัดสินใจถอดเสื้อผ้าออกทั้งตัว

             เสื้อผ้าที่เป็นผิวหนัง ฉันสลัดออกอย่างไม่ใยดี ขณะลำตัวดำมะเมื่อมปรากฏให้เห็นพร้อมกล้ามเนื้อแข็งแกร่ง ปากของฉันแสยะออกไปถึงใบหู ฟันคนกริบยาวเหยียดยิ่งกว่าใบมีดโกน ปีกปีศาจสะบัดไหวอยู่ด้านหลัง กลิ่นกำมะถันฟุ้งกระจายไปทั่วรถ

             ฉันจ้องมองเข้าไปในดวงตาเหลือกลานของมัน สัตว์เพศผู้ตัวนี้ก็รู้จักหวาดกลัวเหมือนกัน 

             กัดกินใบหน้าของมันเป็นอันดับแรก ละเมียดละไมไม่ตะกรุมตะกราม ละเลียดให้สาสมกับความหิวกระหายมาทั้งวัน เลือดเนื้ออัดแน่นด้วยความชั่วช่างอร่อยลิ้นเสียนี่กระไร ฉันเจาะลิ้นสองแฉก ทะลวงเข้าไปดูดกินมันสมองอย่างอิ่มเอมโอชารส อาการสั่นกระตุกเพราะความเจ็บปวดของเหยื่อ เพิ่มความหฤหรรษ์การดื่มกินให้มากขึ้นไปอีก สารพิเศษในน้ำลาย ทำให้แม้ว่าถูกกินเข้าไปเกินครึ่งตัว อาหารรอบดึกก็ยังไม่ขาดใจตาย

             เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นแฟนหนุ่มของฉันนั่นเอง ที่เพิ่งโทรเข้ามา

             ให้ตายสิ...ฉันสบถ ขณะแสยะยิ้ม เลียริมฝีปากไปมาด้วยความพึงพอใจ ได้โอกาสตอบแทนการผิดนัดแล้วนะพ่อหนุ่ม

             ราตรีนี้ยังยาวนาน และความหิวกระหายของฉัน ไม่มีที่สิ้นสุด พวกพ้องของฉันเองหลายคน ก็คงคิดแบบนี้เหมือนกัน
 
 


จบแล้วครับ

ขอบคุณทุกท่าน ที่แวะมาเยือนครับ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่