เรื่องมันมีอยู่ว่าก่อนจะขึ้นปีใหม่จะไปเที่ยวที่ใหนกันดี เนื่องจากเพื่อนๆเป็นคนต่างจังหวัดซะส่วนมาก(จขกท เป็นคนเชียงใหม่) ปีใหม่ก็จะกลับบ้านกันไปหมดเลยจัดทริปว่าไปเที่ยวที่ใหนดีก่อนที่จะหยุดยาวช่วงปีใหม่ และไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่มากนักเลยค้นหาในกูเกิ้ลดูเลยไปสะดุดเข้ากับคำว่า ภูชี้ฟ้าเชียงใหม่ !!!!!!!!!!
ระยะทางก็ไม่ไกลมากและผมซึ่งเป็นคนเชียงใหม่มาตั้งแต่เกิดก็เพิ่งจะเคยได้ยินชื่อ เอาวะไปที่นี่ก็ได้
โฉมหน้าผู้ร่วมทริป
การเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่มาประมาณ 2 ชั่วโมงชมวิวข้างทางมาแบบเพลินๆ จนกระทั่งผ่านหมู่บ้านและกำลังจะเข้าสู่จุดชมวิวม่อนเงาะ
ฝุ่นเย๊อะมากครับเนื่องจากเป็นทางลูกรัง
มีบางจุดที่ต้องลงเดินครับเนื่องจากรถที่นำมาขึ้นไม่ไหวครับเนื่องจากทางลาดชัด เลยมีภาพอย่างที่เห็น
การเดินก็เดินไปเรื่อยๆชมวิวข้างทางไปครับ เดินประมาณ 20 นาทีทางลาดชันเล็กน้อยครับ
เดินจนมาถึงหน้าทางเข้าจุดกางเตนท์ครับ
ที่ม่อนเงาะไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ที่ซุ้มนะครับแต่ขี่มอไซค์ตามตูดมาจากหมู่บ้านก่อนทางขึ้นม่อนเงาะ
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงทำให้พวกผมต้องตกใจอย่างแรงเมื่อเจ้าหน้าที่ชี้ไปที่ป้ายตรงแผงกันรถที่บอกค่าบริการ !!!!!!!
อึ้งไปซักพัก เอาวะใหนๆก็มาละเข้าก็เข้า
เมื่อเข้ามาถึงลานกางเตนท์ โอ้ว !!!!!!!! แปลกมากที่ไม่มีเตนท์หรือคนอื่นที่มาเที่ยวเลยนอกจากพวกผม ทำให้ใจชื้นเลยว่าที่เสียไปเตนท์ละ 150 ได้ความเป็นส่วนตัวที่เป็น ส่วนตัว มากกกกกกกกกก และห้องน้ำก็สะอาดน่าใช้มากครับแต่กลางคืนไม่มีไฟฟ้านะครับ
เมื่อตั้งเตนท์เสร็จเรียบร้อยก็เอาหละมาดอยมันต้องก่อกองไฟ แต่การก่อกองไฟนั้นเจ้าหน้าที่จะกำหนดสถานที่ก่อกองไฟให้เรานะครับ แต่ถ้าเราเอาเตาไปเองจะก่อที่ใหนก็ได้ครับขอแค่ไม่ก่อไฟกับพื้น คราบขี่เถ้าบนพื้นนั่นเจ้าหน้าที่บอกว่าคนที่มาก่อนหน้านี้แอบก่อไฟเองโดยพลการครับ
มาดอยแบบนี้สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ข้าวหลามและเนื้อย่างซึ่งพวกผมขนขึ้นไปทำกันเองซึ่งเจ้าหน้าที่มีถุงขยะแจกให้เราใช้ครับ
เมื่อจัดเตรียมอาหารเสร็จก็เย็นละครับถึงเวลาไปดูวิวพระอาทิตย์ตกกันซึ่งระยะทางจากลานกางเตนท์กับจุดชมวิวก็ไม่ไกลมากครับ
ทางเดินไปจุดชมวิวเดินได้เรื่อยๆไม่ชันมากครับ วิวข้างทางก็สวยงาม
เดินมาได้ซักพัก อาห์ถึงแล้วครับจุดชมวิวซึ่งบอกได้เลยว่าสวยมากๆครับ
เลยจุดชมวิวจะเป็นเหวลึกลงไปเลยครับซึ่งเห็นยอดดอยเย๊อะมาก
ผ่านแอพซักรูป
พอตกกลางคืนอากาศก็ไม่หนาวมากครับเย็น พออยู่ได้สบายๆแต่จะมีหมอกลงอยู่บ้าง
ตื่นเช้ามาอากาศไม่หนาวมากครับแต่เห็นทะเลหมอกได้ชัดเจนจากลานกางเตนท์
ผ่านไปหนึ่งคืนก็ถึงเวลากลับละครับ
ขากลับแวะถ่ายรูปจิบชาที่ไร่ชาลุงเดชครับ ซึ่งลุงแกบอกว่าลุงเป็นครอบครัวสุดท้ายจากทั้งหมด 50 ครอบครัวครับเพราะชาปลูกยากชาวบ้านเลยแห่กันไปปลูกเมี่ยงกันหมดครับ
จากนั้นก็กลับสู่เชียงใหม่ใช้เวลาในการเที่ยว 2 วัน 1 คืนครับ
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ตั้งกระทู้ท่องเที่ยวครั้งแรกครับมีอะใรผิดพลาดขออภัยด้วยครับ รูปทุกรูปถ่ายจาก iphone 5 ครับอาจจะไม่สวยขออภัยด้วยครับ
[CR] ทริป แอ่วม่อนเงาะ ภูชี้ฟ้าเชียงใหม่ (ม่อนที่เป็นส่วนตั๊ว ส่วนตัว)
ระยะทางก็ไม่ไกลมากและผมซึ่งเป็นคนเชียงใหม่มาตั้งแต่เกิดก็เพิ่งจะเคยได้ยินชื่อ เอาวะไปที่นี่ก็ได้
โฉมหน้าผู้ร่วมทริป
การเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่มาประมาณ 2 ชั่วโมงชมวิวข้างทางมาแบบเพลินๆ จนกระทั่งผ่านหมู่บ้านและกำลังจะเข้าสู่จุดชมวิวม่อนเงาะ
ฝุ่นเย๊อะมากครับเนื่องจากเป็นทางลูกรัง
มีบางจุดที่ต้องลงเดินครับเนื่องจากรถที่นำมาขึ้นไม่ไหวครับเนื่องจากทางลาดชัด เลยมีภาพอย่างที่เห็น
การเดินก็เดินไปเรื่อยๆชมวิวข้างทางไปครับ เดินประมาณ 20 นาทีทางลาดชันเล็กน้อยครับ
เดินจนมาถึงหน้าทางเข้าจุดกางเตนท์ครับ
ที่ม่อนเงาะไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ที่ซุ้มนะครับแต่ขี่มอไซค์ตามตูดมาจากหมู่บ้านก่อนทางขึ้นม่อนเงาะ
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงทำให้พวกผมต้องตกใจอย่างแรงเมื่อเจ้าหน้าที่ชี้ไปที่ป้ายตรงแผงกันรถที่บอกค่าบริการ !!!!!!!
อึ้งไปซักพัก เอาวะใหนๆก็มาละเข้าก็เข้า
เมื่อเข้ามาถึงลานกางเตนท์ โอ้ว !!!!!!!! แปลกมากที่ไม่มีเตนท์หรือคนอื่นที่มาเที่ยวเลยนอกจากพวกผม ทำให้ใจชื้นเลยว่าที่เสียไปเตนท์ละ 150 ได้ความเป็นส่วนตัวที่เป็น ส่วนตัว มากกกกกกกกกก และห้องน้ำก็สะอาดน่าใช้มากครับแต่กลางคืนไม่มีไฟฟ้านะครับ
เมื่อตั้งเตนท์เสร็จเรียบร้อยก็เอาหละมาดอยมันต้องก่อกองไฟ แต่การก่อกองไฟนั้นเจ้าหน้าที่จะกำหนดสถานที่ก่อกองไฟให้เรานะครับ แต่ถ้าเราเอาเตาไปเองจะก่อที่ใหนก็ได้ครับขอแค่ไม่ก่อไฟกับพื้น คราบขี่เถ้าบนพื้นนั่นเจ้าหน้าที่บอกว่าคนที่มาก่อนหน้านี้แอบก่อไฟเองโดยพลการครับ
มาดอยแบบนี้สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ข้าวหลามและเนื้อย่างซึ่งพวกผมขนขึ้นไปทำกันเองซึ่งเจ้าหน้าที่มีถุงขยะแจกให้เราใช้ครับ
เมื่อจัดเตรียมอาหารเสร็จก็เย็นละครับถึงเวลาไปดูวิวพระอาทิตย์ตกกันซึ่งระยะทางจากลานกางเตนท์กับจุดชมวิวก็ไม่ไกลมากครับ
ทางเดินไปจุดชมวิวเดินได้เรื่อยๆไม่ชันมากครับ วิวข้างทางก็สวยงาม
เดินมาได้ซักพัก อาห์ถึงแล้วครับจุดชมวิวซึ่งบอกได้เลยว่าสวยมากๆครับ
เลยจุดชมวิวจะเป็นเหวลึกลงไปเลยครับซึ่งเห็นยอดดอยเย๊อะมาก
ผ่านแอพซักรูป
พอตกกลางคืนอากาศก็ไม่หนาวมากครับเย็น พออยู่ได้สบายๆแต่จะมีหมอกลงอยู่บ้าง
ตื่นเช้ามาอากาศไม่หนาวมากครับแต่เห็นทะเลหมอกได้ชัดเจนจากลานกางเตนท์
ผ่านไปหนึ่งคืนก็ถึงเวลากลับละครับ
ขากลับแวะถ่ายรูปจิบชาที่ไร่ชาลุงเดชครับ ซึ่งลุงแกบอกว่าลุงเป็นครอบครัวสุดท้ายจากทั้งหมด 50 ครอบครัวครับเพราะชาปลูกยากชาวบ้านเลยแห่กันไปปลูกเมี่ยงกันหมดครับ
จากนั้นก็กลับสู่เชียงใหม่ใช้เวลาในการเที่ยว 2 วัน 1 คืนครับ
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ตั้งกระทู้ท่องเที่ยวครั้งแรกครับมีอะใรผิดพลาดขออภัยด้วยครับ รูปทุกรูปถ่ายจาก iphone 5 ครับอาจจะไม่สวยขออภัยด้วยครับ